มีคำถามที่ค้างคาในใจแต่เล่าให้ใครฟังไม่ได้จริงๆ รบกวนเพื่อนๆช่วยหาทางออกให้กับชีวิตผมหน่อย

2เรื่องมีอยู่ว่า ผมเคยตกงานเมื่อ 7-8 ปีก่อนแล้วไม่เหลือตังค์สักบาทสักแดงเดียว ผมกับแม่เลยหายืมเงินคนนั้นที คนนี้อทีนี้พอผมได้งานเริ่มกลับมาจ่ายหนี้ตัวเองหมดเริ่มมีเงินเก็บ จากเงินเดือน 80% จนสามารถซื้อรถมอเตอร์ไซค์มือสอง เป็นเงินสดเกือบ 50,+++แล้วก็มีเงินเก็บเกือบๆ 23+,+++ บาท จากการทำงาน 2 ปี เต็มๆ (ได้แค่นั้นเพราะมีช่วงที่โดนหักค่าบัตรเดรดิตที่เค้าฟ้องศาลแล้วส่งให้ทางแผนก HR เราริบเงินเดือนไป) ประเด็นมันอยู่ที่ช่วงเวลาที่ผมโดนหักบัตรเครดิต เงินเหลือใช้ไม่เยอะจากเงินเดือนที่เราได้รับแต่ก็พยายามเก็บเงินให้เท่ากับหรือน่อยกว่าตอนที่ยังไม่ต้องจ่ายบัตรเครดิตไม่เยอะ เพราะผมต้องการให้แม่ไม่คิดมาก เพราะเมื่อก่อนไม่เคยเก็บเงินได้ มีเยอะใช้เยอะ แทบไม่เหลือเดือนชนเดือน ด้วยความที่ว่าทั้งเราทั้งคุณแม่ก็อายุเยอะอย่างน้อยๆถ้ามีเงินเก็บสักก้อนก็คงดี แต่ทีนี้ประเด็นมันอยุ่ดูที่ว่าในเมื่อรายรับและรายจ่ายของเราไม่สัมพันธ์กัน จึงได้หยิบยืมคนในบริษัท รวมถึงกูเนเงินไฟแนนซ์รถมอเตอร์ไซค์ และติดการพนัน กับมียาเสพติดเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย แต่ก็เพื่อการเล่นสล็อต และติดสิ่งเสพติดจากการดื่มเหล้าเมากับเพื่อนตอนเลี้ยงส่งรุ่นพี่ ด้วยเพราะความกลัวว่าจะตื่นไปทำงานไม่ทัน จนหลวมตัวเข้าไปพัวพันกับเพื่อนที่ค้ายาเสพติด คือไม่ได้ตั้งใจเข้าไปแต่เหมือนชีวิตตอนนั้นมันเหมือนกับว่าเรามีเพื่อนแค่คนกลุ่มนี้เท่านั้นที่จะเข้าใจเรา ทีนี้เราที่เบื่องานเบื่อหัวหน้าแผนกเราอยู่แล้วแต่ก็ทนทำได้ 2 ปี ก็เลยออกจากงานแบบกระทันหัน ด้วยในใจคิดว่ายังงัยเรายังมีเงินเก็บเหลืออยุ่ เกือบ 300,000 ท้าวความถึงตอนที่ลาออกมาแล้ว สรุปหลวมตัวติดกับเพื่อนที่เสพยาและขายยาอย่างไม่ทันตั้งตัว แต่ตัวผมนั้นไม่เคยขายและตั้งปณิธานไว้ว่าจะไม่ขายไม่ชักชวนบุคคลอื่น เพื่อน พี่ ป้า น้า อา  แล้วมีประเด็นที่ต้องให้เอารถไปจำนำแบบไม่มีเล่มทะเบียนกับทางเพื่อนของเพื่อน เพราะทะเบียนยังอยุ่กับไฟแนนซ์ที่ผ่อนรถ แต่พอถามแม่ถึงเงินที่เคยฝากไว้เมื่อตอนทำงาน แม่กับตอบว่าได้นำไปใช้ในการโอนที่กลับคืนมาจาก ธ.ก.ส. ซึ่งเป็นการนำเงินไปใช้ให้น้องสาวแม่ซึ่งได้เอาที่ๆ แม่ควรจะได้ไปเข้าธกสเมื่อนานมาแล้วแต่ไม่มีตังไปเอาออกมา ซึ่งผมเคยเตือนแล้วว่าอย่าไปยุ่งวุ่นวายกับญาติพี่น้อง เวลามีเหมือนพระเจ้าแต่เวลาไม่มี ผมกับแม่แทบจะเป็นขอทาน แต่แกก็ยังไม่ฟัง ไม่ฟังไม่พอกว่าจะมาเฉลยทุกอย่างเอาตอนที่เงินแทบจะไม่เหลืออยู่แล้ว ผมก็ตั้งตัวไม่ทันทำอะไรไม่ถูกเพราะคิดว่าเงินเรายังคงมีอยู่ ไหนจะรถมอเตอร์ไซค์ที่เพื่อนมี่ค้ายาเสพติดไผฝากรับจำนำกับใครก็ไม่รู้ เราที่เดือดร้อนเรื่องป้ายทะเบียนรถ ยังเป็นชื่อของเราอยู่ ก็ต้องหาทางนำเงินไปไถ่คืนมา ซึ่งก็ไม่มีวี่แววว่าจะได้เงินก้อนนี้น เพื่อนสนิท ใคร สหาย ก็พากันหันหลังให้จากการที่เราไปนัดจ่ายเค้าแล้วไม่สามารถจ่ายได้ตามนัด จากการที่แม่ของเรานำเงินไปใช้โดยไม่บอก จะไปหางานทำก็พะวงเรื่องรถที่ยังอยู่กับใครก็ไม่รู้ จะมาตั้งหลักตั้งตัวใหม่ก็มาทะเลาะกับแม่ทุกวันด้วยเหตุผลที่แกมองว่าไม่ยอมไปทำงาน แล้วใช้เงินทุกๆวัน แต่ผมก็สงสัยตรงที่ว่าแล้วเราควรจะคิดกับเรื่องนี้ยังงัย 1.จะตัดสินใจไม่เอารถแล้วปล่อยให้โดนเตะยึดไป ก็ยังกลัวว่า เค้าจะเอาทะเบียนเราไผใช้ในทางที่ไม่ดีอีก 2. ถ้าจะหางานทำแล้วเริ่มต้นใหม่ก็ใช้เวลานานใหนจะสายตาคนรอบข้างที่มองว่สเราเอารถไปแลกยา เลยอยากจะทำให้เค้าหายสงสัยและมองเราเปลี่ยนไป ปล.การที่สังคมหรือคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งพยายามตีตัวออกห่างหรือ ดูถูกเหยียดหยามคนที่เสพยาเสพติดนี่รังแต่จะทำให้จิตใจยิ่งฟุ้งซ่าน เราพยายามเลิกพยายามไม่ยุ่งเกี่ยวแต่ บางทีมันก็ปวดใจกับเรื่องที่เราต้องเพชิญ บางทีไม่มีใครรู้ว่าเราต้องเจออะไรรูปแบบไหน แต่คนภายนอกจะมองแต่ว่าเราคือคนไม่ดี บางทีเรายังคิดว่า ก็เพราะเป็นซะอย่างนี้งัยเพื่อนกลุ่มนี้นเลยมีความหมายสำหรับเรา เพราะสังคมส่วนใหญ่ตีตราและทำตัวแปลกแยกไปแล้ว เราจะเหลือที่ยืนในสังคมมั้ย เรามีปัญหาอะไรตรงไหนไม่มีใครรู้.

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่