ถ้าเจอเหตุการณ์โดนแอบถ่ายแบบนี้และคนแบบนี้ควรทำอย่างไรคะ

เรามีเรื่องหนึ่งที่อยากจะแชร์ให้เพื่อนๆฟัง เป็นเรื่องที่เหมือนเราและเพื่อนโดนคุกคามแต่ไม่ได้รับความยุติธรรม เลยอยากจะรู้ว่าถ้าเป็นคนอื่นๆจะทำอย่างไร    
       เรื่องมันมีอยู่ว่า วันนั้นเราเลิกเรียนและกำลังจะกลับหออยู่ๆเราเห็นเพื่อนคนหนึ่งกำลังโดนผู้ชายแอบถ่ายจากทางด้านหลัง(ขอแทนคนนี้ว่า “พี” )  ตอนนั้นเราไม่มั่นใจว่าผู้ชายกำลังกระโปรงพีจริงๆรึเปล่า  ตอนนั้นเราแค่สะกิดเพื่อนข้างๆและบอกให้ช่วยดูว่าผู้ชายคนนั้นกำลังแอบถ่ายพีอยู่หรือเปล่า พอหันกลับมาผู้ชายคนนั้นเหมือนรู้ตัวเก็บกล้องและค่อยๆเดินเข้ามาอย่างเนียนๆเราก็ไม่รู้ว่าเขามีเจตนาอะไรไม่ดีหรือเปล่า เราจึงแค่เตือนพีและเพื่อนๆคนอื่นๆที่อยู่บริเวณนั้น
    พอหลังจากนั้นพวกเราก็แยกย้ายกันกลับ ระหว่างทางกลับเราเล่าเรื่องนี้ให้เพื่อนสนิทในกลุ่มฟัง พอเล่าเสร็จ อยู่ๆก็มีเพื่อนสนิทในกลุ่มคนหนึ่ง(ขอแทนว่า “เจ” ) เล่าสถานการณ์ที่คล้ายกันให้ฟัง ซึ่งมันเป็นเหตุการณ์ที่เจเจอด้วยตัวเอง เจก็สงสัยว่าผู้ชายแอบถ่ายเจหรือเปล่า แต่ตอนนั้นเจคิดว่าผู้ชายคนนี้คงไม่กล้าทำหรอกจึงไม่ได้ถามไปเลยตรงๆ ณ ตอนนั้น และปล่อยผ่านไป จนกระทั่งวันที่เราเห็นที่พีโดน เจและเราก็เริ่มคิดว่ามันต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลแน่ๆ ต้องช่วยกันสังเกตและระวังตัวกันมากขึ้น  จนกระทั่ง…
    2 อาทิตย์ต่อมา เจก็เจอเข้ากับสถานการณ์แบบนั้นอีก โดยครั้งนี้ มีเพื่อนๆเห็นและเป็นพยานได้ว่าผู้ชายตั้งใจแอบถ่ายกระโปรงจริงๆ ยิ่งไปกว่านั้นคือขยายกล้องโทรศัพท์ไปที่กระโปรงของเจจากทางด้านหลังอีกด้วย แต่ตอนนั้นเจไม่รู้ตัว จึงไม่ทันได้ระวังตัวว่าโดนแอบถ่ายจริงๆเมื่อเพื่อนๆเห็นอย่างนั้นแล้ว เพื่อนจึงรีบมาดักรอผู้ชายเพื่อคุยและสั่งให้ลบรูปของเจทันที หลังจากนั้นเพื่อนๆก็รีบบอกเจและแจ้งอาจารย์ให้รับทราบถึงการกระทำของผู้ชายคนนี้และทำการสอบสวนต่อไป
    หลังจากที่เจรู้เรื่องจากพยานจริงๆแล้ว จึงรีบแจ้งผู้ปกครองและอาจารย์ให้มีการสอบสวน ตรวจหาความจริงและลงโทษไปตามระเบียบ
สองวันต่อมาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เจและเพื่อน (เอส)เรียกผู้ชายมาคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้เพื่อฟังเหตุผลที่ผู้ชายทำไปเพราะอะไร ในตอนแรกผู้ชายไม่ยอมรับและอ้างด้วยเหตุผลนู่นนี่ จนกระทั่งเจถามถึงทุกสถานการณ์และมีพยานเห็นกับตา ผู้ชายจึงยอมรับในภายหลังว่า ตั้งใจแอบถ่ายจริงๆ ที่ทำลงไปเช่นนั้นเพราะแอบชอบอีกฝ่าย แต่อีกฝ่ายไม่ยอมรับเฟสบุ๊คหรืออินสตราแกรมของผู้ชายเลยสักคน ทำให้ผู้ชายจึงต้องถ่ายรูป10-20รูป เก็บไว้แต่การกระทำนี้ไม่ได้ทำแค่กับเจคนเดียว ยังแอบถ่ายเรา พีและเพื่อนคณะอื่นๆอีกด้วยนอกจากนั้นผู้ชายก็ยังอ้างว่าลบรูปทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับเลื่อนโทรศัพท์ให้เจและเอสดูสุดท้ายวันนั้นก็ได้เหตุผลแบบนั้นกลับมาและถ้าใครเป็นเจ้าทุกข์ก็คงคิดแบบเราว่ามันไม่น่าใช่ความจริงแต่เจก็บันทึกเสียงทั้งหมดตั้งแต่เริ่มคุยจนกระทั่งจบไว้ให้กับอาจารย์
หลังจากเหตุการณ์วันนั้นผ่านไปหนึ่งอาทิตย์ อาจารย์เชิญผู้ปกครองของฝ่ายผู้กระทำผู้กระทำและเจเข้าพบ แต่อาจารย์ไม่แจ้งผู้ปกครองของเจล่วงหน้าแม้กระทั่งเราและพีที่เป็นผู้เสียหายหรือแม้แต่พยานที่เห็นเหตุการณ์ อาจารย์ก็ไม่เชิญ ดังนั้นในตอนแรกฝ่ายผู้เสียหายจึงมีแค่เจที่เข้าไปพูดคุยจนกระทั่งเจคุยเสร็จผู้ปกครองของฝ่ายผู้กระทำจึงเป็นฝ่ายเชิญเราและพีเข้าไปพูดคุยไม่ใช่อาจารย์!
    เราขอข้ามมาสรุปเลยนะคะ สรุปคือผู้ชายก็ยังคงให้เหตุผลแบบเดิมต่อหน้าอาจารย์ ส่วนผู้ปกครองก็ออกรับแทนว่า“เหตุเกิดจากตัวเขาเองมีเวลาให้และเลี้ยงดูมาไม่ดีพอ ทำให้เขาเข้าสังคมไม่เป็นไม่รู้วิธีการเข้าหาคนอื่น หรือเข้าหาคนที่ตัวเองชอบอย่างไรให้เหมาะสม จึงทำไปเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เขารับรองว่าลูกเขาไม่ได้มีเจตนาไม่ดี ลูกเขาเป็นเด็กดีมาโดยตลอด พูดอย่างไรคิดอย่างนั้น ถ้าเขาสารภาพว่าแค่ชอบก็คือชอบไม่ได้มีเจตนาไม่ดีกับใครจริง ดังนั้นมันจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีกไม่ว่ากับใคร”สุดท้ายฝ่ายผู้กระทำจึงขอโทษ อาจารย์ทำการตักเตือนและผู้ปกครองจะกลับไปจัดการลูกเขาเอง จึงไม่มีการลงโทษใดๆทั้งสิ้น
    มาถึงตรงนี้แล้วเราก็อยากจะถามเพื่อนๆ ผู้ใหญ่ท่านอื่นๆ ว่า “มีความคิดเห็นอย่างไรต่อการกระทำของผู้ชายคนนี้”“ผู้ชายคนนี้ควรได้รับแค่การตักเตือนถูกต้องใช่หรือไม่” และ “คนแบบนี้สมควรที่จะได้รับโอกาสเรียนจนจบ เพื่อออกไปสู่สังคมภายนอกใช่หรือไม่ อย่างไร”
ขอบคุณสำหรับคำตอบล่วงหน้านะคะจริงๆมันมีรายละเอียดอีกมากที่อยากจะบอกถึงการกระทำของพวกเขา เรารู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรมกับเราและเพื่อนเป็นอย่างมาก เราจึงอยากให้สังคมช่วยตัดสิน แม้ว่าตอนนี้เราจะไม่สามารถเอาผิดอะไรได้แล้วเราก็หวังอยู่บ้างว่าจะมีใครเห็นใจพวกเรา ขอบคุณอีกครั้งที่อ่านจนถึงตรงนี้นะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่