ขอรับบุตรบุญธรรมเคสยกให้กันเองทำได้มั้ย?

-- ค่อนข้างยาวสักหน่อยนะคะ +กับมือใหม่ในการตั้งกระทู้ด้วย --

     เรื่องมีอยู่ว่าแฟนเราทำงานกับชาวต่างชาติมานาน(ตั้งแต่อายุ 14 จนถึงอายุ 22) แล้วแฟนเราค่อนข้างสนิทกันมาก บวกกับครอบครัวแฟนเราค่อนข้างยากจนอาจเพราะความสงสาร จนอยากรับแฟนเราเป็นลูก แต่ด้วยเค้าไม่รู้กฏหมายการรับบุตรในเมืองไทยจริงไม่ได้ทำเรื่องขอรับแฟนเราเป็นบุตรบุญธรรม
เราและแฟนมีลูกด้วยกัน แต่แยกกันอยู่ตั้งแต่คลอดจนลูกอายุได้1ปีครึ่ง แฟนรับลูกไปเลี้ยงจนลูกอายุถึง 3ปีครึ่งแฟนเราก็เสียชีวิต จากนั้นพ่อบุญธรรมในนามของแฟนเรา(ชาวต่างชาติ) ได้เลี้ยงดูลูกของเราต่อในฐานะลูกของเค้า โดยเราและเค้าตกลงกันว่าจะช่วยกันดูแล วันจันทร์-วันศุกร์จะอยู่ที่บ้านของเค้าซึ่งเป็นบ้านเดิมของแฟนเราที่เสียชีวิต และเป็นบ้านที่ลูกเราอยู่มาตั้งแต่เด็ก เย็นวันศุกร์ - วันอาทิตย์และช่วงปิดเทอม ลูกจะมานอนที่บ้านเรา ช่วงปิดเทอมใหญ่เราจะไปเที่ยวกันที่บ้านของชาวต่างชาติท่านนี้โดยเค้าเป็นคนออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด จนปัจจุบันลูกเราอายุ 16 ปี  ชาวต่างชาติท่านนี้มีความประสงค์อยากรับลูกเราเป็นบุตรบุญธรรมตามกฏหมาย เราได้ไปติดต่อทางมูลนิธิเพื่อขอทำเรื่องขอรับบุตรบุญธรรมแล้ว ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิแจ้งว่าในกรณียกบุตรให้กันเองกับชาวต่างชาติเค้าไม่อนุญาต เพราะทางมูลนิธิจะส่งเสริมให้เด็กอยู่กับครอบครัวเดิมมากกว่า และอยากให้ชาวต่างชาติที่อยากมีบุตรจริงๆรับเด็กที่กำพร้าจริงๆไปเลี้ยงดูมากกว่า ความประสงค์ของชาวต่างชาติท่านนี้คือเนื่องจากปัจจุบันเค้าอายุ 62 ปีแล้ว และเค้าไม่มีครอบครัวหรือบุตรเลย และเค้าต้องการยกหุ้นในบริษัทของเค้าที่ต่างประเทศให้ลูกของเรา ซึ่งจะทำได้ก็ต่อเมื่อลูกของเราเป็นบุตรบุญธรรมตามกฏหมายแล้วเท่านั้น หากเค้าทำพินัยกรรมลูกเราสามารถรับได้แค่ทรัพย์สินที่เค้าระบุว่าอันไหนยกให้ใครได้เท่านั้นแต่ไม่สามารถรับหุ้นในบริษัทของเค้าได้ แต่ตามกฏหมายในเมืองไทยเด็กจะสามารถเลือกรับผู้ปกครองด้วยตนเองได้ก็ต่อเมื่ออายุ 20 ปี แต่ตามกฏหมายของประเทศของเค้านั้นเด็กจะบรรลุนิติภาวะก็ต่อเมื่ออายุ 18 ปี ซึ่งช้าเกินไป
     เราจึงอยากถามผู้รู้หรือผู้มีประสบการณ์ การรับบุตรบุญธรรม ว่าในเคสแบบนี้เราสามารถทำอะไรได้บ้างมั้ย และต้องติดต่อช่องทางไหนก่อนรึยังไง รวมถึงการจ้างทนายที่มีความเชี่ยวชาญหรือประสบการณ์ทางด้านนี้ ถ้าแนะนำทนายให้ด้วยในกรณีที่ต้องมีทนายจะกราบขอบพระคุณมากค่ะ
     ปล. เราและชาวต่างชาติไม่ได้มีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวแต่อย่างใด เค้าดูแลเราเหมือนเราเป็นลูกของเค้าอีก 1 คน ตลอดระยะเวลา 15 ปีที่ผ่านมา เค้าซื้อบ้าน ซื้อรถ อำนวยความสะดวกให้เรากับลูกทุกอย่าง แม้กระทั่งการเดินทางไปต่างประเทศเรากับลูกได้ไปชั้น Business แถบจะทุกครั้ง เราไม่ได้เห็นแก่ได้หรือทรัพย์สมบัติที่เค้าให้มา แต่เราเห็นถึงความรักและบริสุทธิ์ใจและอยากมอบสิ่งดีๆที่เค้าอยากให้ลูกของเราจริงๆ เราเป็นแม่ถ้าลูกมีโอกาสที่ดีเราก็อยากให้เค้าได้รับ
      (ชาวต่างชาติท่านนี้อาศัยอยู่ในเมืองไทยมา 25 ปี + โดยมีธุรกิจอยู่ในเมืองไทย และมอบทุนให้กับนักเรียนนักกีฬาและมูลนิธิต่างๆ รวมถึงการมอบอุปกรณ์การศึกษาแก่โรงเรียนตามต่างจังหวัดอยู่บ่อยๆค่ะ)
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่