'นักวิชาการ'อัดไทยนิยมไม่ยั่งยืน เหตุยึดติดระบบราชการชี้นำ แนะเพิ่มการมีส่วนร่วมปชช.
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_1220010
เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน นาย
ตระกูล มีชัย อาจารย์คณะรัฐศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงโครงการไทยนิยม ยั่งยืน ของรัฐบาลว่า โครงการดังกล่าวเป็นเหมือนโครงการของรัฐบาลที่ผ่านๆ มาที่หว่านงบไปในพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศโดยผ่านระบบราชการที่มีกรอบความคิดการทำงานแบบราชการ กึ่งชี้กึ่งแนะนำภายไปยังประชาชนในพื้นที่ต่างๆ สุดท้ายโครงการที่ดำเนินการอยู่ จะเงียบหายไปเหมือนโครงการของรัฐบาลก่อนๆ และจะไม่เกิดความยั่งยืนเหมือนที่รัฐบาลตั้งใจ เพราะการดำเนินโครงแบบระบบราชการที่ทำกันอยู่ ข้าราชการจะลงไปเสนอโครงการต่อประชาชนแล้วดำเนินการ ที่อ้างว่ามีการรับฟังความคิดเห็นก็เป็นการรับฟังตามแบบเดิมๆ ที่ข้าราชการลงไปรับฟังให้ได้ความคิดเห็นตามกรอบที่วางกันไว้แล้ว มีชุดความคิดที่ต้องการให้ประชาชนทำอยู่แล้ว ความคิดเห็นที่มาจากประชาชนก็เป็นความคิดเห็นจากประชาชนที่เป็นกลุ่มของแกนนำชุมชนหรือผู้ใหญ่บ้าน ที่จะดำเนินการตามแนวทางที่ทางราชการวางไว้ให้ เพราะรูปแบบการปกครองท้องที่ของไทยยังยึดการปกครองแบบเดิมๆ ที่อำนาจการตัดสินใจยังอยู่ที่กลุ่มผู้นำ อีกทั้งจุดอ่อนของโครงการนี้คือ ช่วงระยะเวลาการรับฟังความคิดเห็นสั้นทำให้มีการเร่งรีบดำเนินการจนเกินไป
“ถ้าอยากได้ความยั่งยืนที่แท้จริงต้องให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการคิดโครงการแบบอิสระ ต้องใช้ประชาธิปไตยทางตรงในระดับหมู่บ้านที่ทุกคนมีสิทธิแสดงความคิดเห็นเท่าเทียมกัน หากโครงการมาจากประชาชนก็จะเกิดความยั้งยืน แต่ที่ทำกันอยู่นี้ที่ระบบราชการเป็นผู้ชี้แนะแนวทาง ความยั่งยืนจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้จริงสุดท้ายเมื่อรัฐบาลชุดนี้ออกไปโครงการต่างๆก็จะหายเงียบไป”นาย
ตระกูล กล่าว
JJNY : 'นักวิชาการ'อัดไทยนิยมไม่ยั่งยืนฯ/หมอจุฬาฯจวกยับ!! หลังกรมทรัพย์สินฯ ให้ต่างชาติยื่นขอจดสิทธิบัตรสาร 'กัญชา'ฯ
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_1220010
เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน นายตระกูล มีชัย อาจารย์คณะรัฐศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงโครงการไทยนิยม ยั่งยืน ของรัฐบาลว่า โครงการดังกล่าวเป็นเหมือนโครงการของรัฐบาลที่ผ่านๆ มาที่หว่านงบไปในพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศโดยผ่านระบบราชการที่มีกรอบความคิดการทำงานแบบราชการ กึ่งชี้กึ่งแนะนำภายไปยังประชาชนในพื้นที่ต่างๆ สุดท้ายโครงการที่ดำเนินการอยู่ จะเงียบหายไปเหมือนโครงการของรัฐบาลก่อนๆ และจะไม่เกิดความยั่งยืนเหมือนที่รัฐบาลตั้งใจ เพราะการดำเนินโครงแบบระบบราชการที่ทำกันอยู่ ข้าราชการจะลงไปเสนอโครงการต่อประชาชนแล้วดำเนินการ ที่อ้างว่ามีการรับฟังความคิดเห็นก็เป็นการรับฟังตามแบบเดิมๆ ที่ข้าราชการลงไปรับฟังให้ได้ความคิดเห็นตามกรอบที่วางกันไว้แล้ว มีชุดความคิดที่ต้องการให้ประชาชนทำอยู่แล้ว ความคิดเห็นที่มาจากประชาชนก็เป็นความคิดเห็นจากประชาชนที่เป็นกลุ่มของแกนนำชุมชนหรือผู้ใหญ่บ้าน ที่จะดำเนินการตามแนวทางที่ทางราชการวางไว้ให้ เพราะรูปแบบการปกครองท้องที่ของไทยยังยึดการปกครองแบบเดิมๆ ที่อำนาจการตัดสินใจยังอยู่ที่กลุ่มผู้นำ อีกทั้งจุดอ่อนของโครงการนี้คือ ช่วงระยะเวลาการรับฟังความคิดเห็นสั้นทำให้มีการเร่งรีบดำเนินการจนเกินไป
“ถ้าอยากได้ความยั่งยืนที่แท้จริงต้องให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการคิดโครงการแบบอิสระ ต้องใช้ประชาธิปไตยทางตรงในระดับหมู่บ้านที่ทุกคนมีสิทธิแสดงความคิดเห็นเท่าเทียมกัน หากโครงการมาจากประชาชนก็จะเกิดความยั้งยืน แต่ที่ทำกันอยู่นี้ที่ระบบราชการเป็นผู้ชี้แนะแนวทาง ความยั่งยืนจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้จริงสุดท้ายเมื่อรัฐบาลชุดนี้ออกไปโครงการต่างๆก็จะหายเงียบไป”นายตระกูล กล่าว