[CR] เรือ Costa Fortuna ที่เข้าประเทศไทยช่วงปลายเดือนตุลาคม 2561


ครั้งแรกกับการเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับการเดินทาง ถ้าหากผิดพลาดตรงไหน ขออภัยด้วยนะคะ


เราได้มีโอกาสได้ขึ้นเรือสำราญ Costa Fortuna ครั้งแรก จากที่ผ่านๆมา ก็จะเป็นของค่าย Costa บ้าง Star Cruise บ้าง เรือล่องแม่น้ำบ้างแล้วแต่โอกาส
ครั้งนี้ เราขึ้นเรือ Costa Fortuna ที่ประเทศไทย

อื้อ ลืมบอกไปว่า เราซื้อทัวร์จากบริษัทแห่งหนึ่ง มีบริการรถรับส่ง แต่เราไม่ได้ใช้รถหรอก เราเดินทางไปที่ท่าเรือเอง

ไปถึงท่าเรือ A 1 ก็รับซองเอกสาร แท็คกระเป๋า แล้วก็ไปรอเช็คอินขึ้นเรือ ช่วงตรงนี้ ก็จะชุลมุนๆหน่อย แต่ก็ไม่ได้เป็นอะไร
เพราะทำใจมาล่วงหน้านิดนึงแล้ว ด้วยอะไรหลายๆอย่าง


จากนั้นก็มารอเช็คอินที่ชั้น 2

ด้วยความที่ประเทศไทยไม่มีท่าเรือท่องเที่ยว เลยทำให้การรองรับตรงนี้ อาจจะช้าๆไปบ้าง
เค้าเตอร์เปิดให้เช็คอินขึ้นเรือได้ ในเวลา 12.00 น. เรารอคิวค่อนข้างจะนาน
หลังจากเช็คอินเส็จ ก็เป็นกระบวนการของ ตม. ก็เดินเข้าคิวผ่าน ตม.กันไป


กระบวนการทุกอย่างใช้เวลา ทั้งรอทุกๆจุด ก็ประมาณ 3 ชม.ได้
บางคนอาจใช้มากกว่าเรา อาจจะด้วยครอบครัวใหญ่ คือเราไปกับเพื่อน ไม่กี่คน
เอ้อ การเช็คอิน รอบนี้ เค้าให้เช็คเป็นห้องนะ อาจจะเพื่อความง่ายต่อการหาเอกสารมั้ง

หลังจากนั้นก็ผ่านจุดสแกนต่างๆ ของเรือ ถ่ายรูป เก็บพาสปอร์ตอะไรเส็จสรรพ
ก็ถึงเวลาขึ้นห้องพักแล้วววว เราพักชั้น 10 ช่วงกลางเรือ



ภายในห้องพักเปิดประตูเข้ามาตอนแรก พบว่า..... กระเป๋ามาถึงห้องแล้ว ฮี่ๆ (ตื่นเต้นกะเรามั้ย)
แล้วก็จะเจอบัตร Cruise Card และบัตรห้องอาหาร วางอยู่ที่เตียง ห้องพักก็สวยงามตามคอนเซ็ปของเรือ ห้องบนเรือส่วนใหญ่
ก็ไม่ได้กว้างขวางไรมาก แต่ก็ไม่ได้คับแคบจนอึดอัด


หลังจากเข้าห้อง เก็บของนิดหน่อย ก็เอาบัตรทานอาหาร  บัตร Cruise Card ออกมา
จังหวะนั้น หิวมากเราเลยเดินจั้มอ้าวไปที่ห้องอาหาร วันนั้นเราขึ้นเรือเกือบๆ 5 โมงเย็นเวลาเรือออกแล้ว
นักท่องเที่ยวท่านอื่นๆ อาจจะยังงงๆ ว่าตัวเองต้องทำอะไร ใช้ชีวิตยังไงบนเรือ เลยทำให้ตอนที่เราเข้าไปทานอาหาร
ที่ห้องเซ็ทเมนู ค่อนข้างจะโล่ง  


ถ้าจำไม่ผิด นี่น่าจะเป็นเมนูของอาหารวันแรก เดี๋ยวเราลงให้รวมๆละกัน
ข้อดีของการที่เรือขึ้นลงที่ประเทศไทยก็คือ เมนูอาหาร เอกสาร Today มันจะมีภาษาไทยด้วย
เหมาะแก่คนที่ภาษาอังกฤษเป๊ะอย่างเรา (ตกเป๊ะๆเลย)555555




จำไม่ได้ว่า วันไหนเป็นของวันไหน ดูรวมๆเลยแล้วกันนะ

สำหรับอาหารมื้อเย็นของเรือลำนี้ ก็ ถ้าเต็ม 10 คิดว่า ให้ 8
เมนูที่เป็น Main Dishes ก็มีให้เลือกหลายอย่างดี
สลัดปลาหมึกอะไรสักอย่าง อร่อยมาก ชอบบบบบ
เราชอบเมนูเนื้อ ของ Main Dishes เห็นเมื่อไร จำต้องสั่งทุกที
แล้วก็อร่อยทุกที 555 เราลิ้นจระเข้รึป่าว ไม่แน่ใจนะ


เมนูนี้ แซลม่อนอะไรสักอย่าง อร่อยอ่ะ ชอบบบบบบบบบบบบบบบบ


ส่วนอันนี้ก็เนื้อ อะรูก็ไม่ไร้ 555555



ซุปสั่นมาก สงสัยตอนนั้นหิวจัด

ส่วนอันนี้ เมนูของเด็ก ส่วนตัวแล้ว เราก็ถือว่า ใช้ได้เลย

เดี๋ยวมาต่อนะคะ
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>><<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<
ความความที่รอบนี้ การเดินทางตรงกับวัน halloween พอดี
ทำให้วันนี้ ก็มีการจัดกิจกรรมแต่งตัวผีกัน
เราก็ไม่ได้เตรียมตัวอะไรมาก กลัวเอาไปแล้วจะเก้อเขิน
เพราะเห็นว่าส่วนใหญ่เป็นคนไทย กลัวว่า คนอื่นๆจะไม่แต่งกัน

พอคืนวันงาน โอ้โหหหหหห เรานี่ เบาไปเลยค่ะ
แต่ละคนแต่งเต็มกันมาก เราเก็บบรรยากาศมาให้ดูพอหอมปากหอมคอนะคะ



อันนี้เป็นเจ้าหน้าที่ของเรือค่ะ แต่งได้เต็มดีมาก เดินผ่านมานี่ ฮือฮาสุดๆ
ในงานก็มีอีกหลายผีนะคะ ผีแม่นาค อุ้มลูกมา ยังมีเลยค่ะ
ก็ผ่านไปด้วยความสนุกสนานค่ะ มีดนตรีฟัง นักร้องผู้หญิงที่เป็นคนไทย ร้องเพลงเพราะมาก ชอบๆ

ในแต่ละมื้อ ห้องอาหารของเรือ จะเปิดห้องอาหารที่เป็นห้องฟรี อยู่ 2 ห้องค่ะ
เรือลำนี้ก็เช่นกันค่ะ ก็แล้วแต่ว่าเราจะเลือกทานที่ไหน

มื้อเช้า เราไปทานกันที่ห้องบุฟเฟต์ ชั้น 9 ค่ะ
ก็.....ด้วยความรู้สึกส่วนตัว เราว่าไม่ค่อยโอเท่าไร
อาหารมันดูไม่เป็นชิ้นเป็นอัน อารมณ์แบบ app pitaiser เยอะแยะ
จนไม่มีอะไรที่เป็นเมนหลัก โปรตีนหลัก ก็คือ จำพวกไข่ทั้งหลาย
ในไลน์ของไข่ ไม่มีแม้กระทั่งซอสมะเขือเทศ เราก็แอบสงสัยเล็กน้อยว่า ฝรั่งเขาไม่ทานซอสกันหรอ ฮ่าาาาา
แต่ก็มีผู้โดยสารท่านอื่น ไปถามนะคะ แล้วหลังจากนั้น ไลน์ไข่ก็มีซอสให้ทานตลอดทุกวัน
ในส่วนของมื้อเช้า เราไม่ได้ถ่ายรูปมาเลยนะคะ เพราะรู้สึกว่า ไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่

มื้อเที่ยง เป็นห้องบุฟเฟต์ค่ะ ในเรือมื้อเช้าและเที่ยง ส่วนใหญ่จะเป็นห้องบุฟเฟต์นะคะ
ด้วยความที่เราทานมื้อเช้าที่ชั้น 9 เราเลยอยากไปลอง ชั้น 3 กันบ้าง
แต่กดลิฟท์ลงมาชั้น 3 ทีไร คือคนต่อคิวเข้าห้องชั้น 3 หลนหลามมาก
มีวันที่ 2 ของการเดินทาง วันนั้นเรือจอดที่ฟูก๊วก เวียดนาม เราลงไปเที่ยวกันนิดหน่อย แล้วก็กลับมาค่อนข้างเร็ว
เราก็ไปทานมื้อเที่ยง ที่ห้องอาหารชั้น 3 รู้สึกว่า ว้าววววมาก คือหมายถึงรู้สึกดีขึ้น
ห้องชั้น 3 อาหารค่อนข้างเป็นชิ้นเป็นอัน มีเซลม่อนเป็นชิ้น มีเนื้ออะไรสักอย่าง ของหวาน ผลไม้ คือแบบเออออ คิดในใจ ถึงว่าสิ
จะมาห้องนี้ทีไรเต็มทุกที มันดีงี้นี่เอง

และขออภัยทุกท่าน มื้อเที่ยงเรา.......ก็ไม่มีภาพง่ะ

ส่วนอันนี้เป็นห้องเซ็ทเมนู มื้อเย็น ของวันที่ออกจาก สีหนุวิวล์
อันนี้ appetizers หมายเลข 1 อร่อยยยยยยยย
และวันนี้เราก็ไม่พลาดที่จะสั่งเนื้อมาอีกแล้ว อร่อยเหมือนเดิมมมมม




บนเรือ มีปาร์ตี้ทุกคืน มีกิจกรรมตลอดทั้งวัน ของเด็กก็มี ของผู้ใหญ่ก็มี
กิจกรรมส่วนใหญ่ที่เราเลือกไปก็เป็นกิจกรรมฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
คืนสุดท้ายมีปาร์ตี้หน้ากาก ทางเรือก็มีหน้ากากแจกด้วย
เจ้าถั่วนี่ ฟรี อร่อยยยยย มันหอมๆเนยๆชีสๆ น่าจะฟรีสำหรับท่านที่สั่งพวกเครื่องดื่ม
พอดีเราไปดื่มกับเพื่อนนิดหน่อย ในคืนสุดท้าย แล้วบังเอิญเป็นช่วง แฮบปี้ อาวร์
5 แถม 1 ประมาณ 15 เหรียญ


มาดูกันบ้างดีกว่า ว่าเวลาลงเรือเราลงด้วยเรืออะไร
ในแต่ละท่าเรือก็จะแตกต่างกันออกไป อย่างที่ สีหนุวิลล์ เป็นท่าเทียบเรือ แต่เป็นท่าเรือพาณิชย์
เหมือนที่แหลมฉบังบ้านเรา ทำให้เวลาลงเรือที่นี่ ก็ไม่ต้องเสียว่าลามาต่อคิวลงเรือ ก็คือต่อคิวเพื่อลงแหละ
แต่มันใช้เวลาน้อยกว่าการต่อคิวเพื่อลงเรือ


เพราะเนื่องจากว่า ท่าไหนที่ไม่ได้มีท่าเทียบเรือ อย่างเช่นที่ฟูก๊วก หรือที่สมุย เรือจะจอดกลางทะเล
แล้วเราต้องนั่งเรือเทนเดอร์โบ๊ท เพื่อเข้าฝั่ง การรอเรือจึงต้องใช้เวลาประมาณนึง เพราะ เรือสามารถจอดรับส่งผู้โดยสารได้ครั้งละ 4 ลำ
เค้าก็จะมีบัดคิว เรียกตามลำดับ บัตรคิวก็ฟังประกาศ หรือว่าอ่านจากใบ To Day เค้าจะบอกว่าต้องไปรับที่ห้องไหนๆ เวลาเท่าไร
ถ้าใครที่ซื้อทัวร์เสริมกับเรือ ก็ไม่ต้องไปรับบัตรคิวเพื่อลงเรือ ส่วนเรานั้นนนนน ไม่ได้ซื้อค่ะ 555

อ้อ การลงเรือ ต้องใช้บัตร Cruise Card ด้วยนะคะ เพื่อเค้าจะได้เช็คได้ว่า ผู้โดยสารของเค้าครบหรือเปล่า
บางที่อย่างสีหนุวิลล์ ต้องใช้สำเนาพาสสปอร์ตตอนลง
ที่ฟูก๊วก ใช้ใบ ตม.ที่แนบมาในซองเอกสาร ในการลง
ตม.แต่ละประเทศเค้าก็จะมาปั้มใบของเรา

ขั้นตอนลงก็ไม่ยากค่ะ ในใบ To Day มีบอก ในประกาศของเรือ ก็บอก
เราก็เดินๆ ตามคนอื่นๆ เค้ามาค่ะ
ส่วนวันที่ลงที่สมุยก็ใช้แค่Cruise Card อย่างเดียว
ก็เช่นเดิม เราไม่ซื้อทัวร์เสริม เรือเล็กมาจอดที่ ท่าเรือหน้าทอน เราเหมารับจ้างที่เค้ามายืนหาลูกค้าอยู่แล้วอ่ะ
ไปที่หาดเฉวง ตอนนั้น คิดถึงส้มตำมาก ก็เลยเช่าเสื่อ นั่งทานไรกินประมาณ ชั่วโมง 2 ชั่วโมง
ค่ารถเหมา มีคนขับ แล้วคนขับก็รอเรากลับ เราได้ ราคา 1,500 บาท ค่ะ

คืนสุดท้าย ทางเรือจะแจกแท๊กกระเป๋า แบ่งตามสี และจะบอกว่า สีไหนลงเรือกี่โมง
พาสปอร์ตจะมาวางไว้ให้ที่ห้อง แล้วก็ต้องเคลียค่าใช้จ่ายก่อนลงเรือ
เราเอง ผูกกับบัตรเครดิต สะดวก ไม่ต้องไปต่อคิว เอาเงินสดไปเคลีย เพราะคิวยาววววววเป็นหางว่าวเลย

อันนี้เสริมนิดนึง เราว่าพนักงานเรืออ่ะ งานดีนะ 5555555


ถ้าหากใครอยากลองเที่ยวเรือสำราญ ถ้ายังไม่เคย แนะนำให้ซื้อเป็นแบบ Full Board ไปเลย
เพราะแบบนั้น จะรวมทั้งพวกตั๋วเครื่องบิน(เส้นทางที่ขึ้นลงที่ต่างประเทศ) มีหัวหน้าทัวร์เดินทางด้วย มีรถ-รับส่ง

ก่อนจะซื้อ เช็คให้ดี ว่ารวมอะไรบ้าง ไม่รวมอะไรบ้าง อย่างของเราที่จองมา ก็รู้อยู่แล้วว่าเป็นการขายเฉพาะห้องพักเรือ
เพราะเราเห็นคนอื่นไปโวยว่า ไม่มีใครดูแล ซึ่งรอบนี้ดีหน่อย เค้ามีการส่ง จนท.มาตั้งโต๊ะ ให้ลูกค้าไทยได้สอบถาม หรือมีปัญหาอะไร
เค้าก็จะช่วยแก้ปัญหาให้ ซึ่งปกติ การเที่ยวเรือ ไม่มี จนท.ขึ้นมาดูแลอยู่แล้ว อันนี้ในกรณีที่ไม่มีหัวหน้าทัวร์นะคะ
Today ควรอ่าน เพราะเราก็เห็นคนอื่นไปโวยเช่นกันว่า คน 100 คนจะอ่านเข้าใจกี่คน

รอบเวลามาไทยก็ดีหน่อย เค้าแปลเป็นไทยให้หมดแล้ว อ่านเถอะ มันไม่ได้เข้าใจยากขนาดนั้น

เรือลำนี้รวมๆแล้วก็ถือว่าไม่ได้แย่มาก ถ้าเทียบกับบางลำ เช่น star cruise ที่ห้องอาหารต้องติ๊ดบัตร ไม่ให้เราเข้าทานเกิน 1 ครั้ง ต่อมื้อ
ปัญหามีบ้าง แต่ก็ได้รับการแก้ไขอย่างรวดเร็ว
พนักงานบนเรือ ยิ้มแย้มแจ่มใส น่ารักทุกท่าน
และขอบคุณพนักงานคนไทยที่ตั้งโต๊ะบริการบนเรือด้วยนะคะ ถ้าไม่ได้พวกเขา เราก็คงแย่เหมือนกันยิ้ม
ชื่อสินค้า:   Costa Fortuna,Cruise,Thailand
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่