♀️~มาลาริน~ดิฉันคิดว่าใครบางคนคงจะสนใจ คนทั่วไปก็ควรทราบ....ร่างพ.ร.บ.คู่ชีวิต


ร่างพ.ร.บ.คู่ชีวิต จ่อเข้าครม.เดือนนี้



กรมคุ้มครองสิทธิฯ เปิดเวปไซต์รับฟังความเห็น "ร่างพ.ร.บ.คู่ชีวิต" พร้อมเปิดเวทีรับฟังทั่วภูมิภาค ก่อนชงเข้าครม.ภายในพ.ย.นี้ ย้ำให้สิทธิอยู่ร่วม-จัดการมรดก สถานภาพยังไม่ใช่ "คู่สมรส"

เมื่อวันที่ 5 พ.ย.61 นายเกิดโชค เกษมวงศ์จิตร รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เปิดเผยความคืบหน้าการยกร่างพ.ร.บ. คู่ชีวิต เพื่อจดทะเบียนให้กับกลุ่มคนหลากหลายทางเพศ ว่า ขณะนี้กรมฯได้เปิดเวปไซต์เพื่อรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในเรื่องดังกล่าว และในวันที่ 12-16 พ.ย.นี้ จะเปิดเวทีวิพากษ์เพื่อรับฟังความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ โดยจะเปิดเวทีที่โรงแรมมิราเคิล ส่วนในต่างจังหวัดก็จะมีการเปิดเวทีรับฟังความเห็นที่ จ.เชียงใหม่และจ.พระนครศรีอยุธยา และในพื้นที่ภาคใต้ที่ อ .หาดใหญ่ จ.สงขลา ก่อนจะสรุปเนื้อหาเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาภายในเดือนพ.ย.นี้

โดยเนื้อหาร่างพ.ร.บ.คู่ชีวิตฉบับล่าสุดจะมีทั้งสิ้น 70 มาตรา ซึ่งกระทรวงยุติธรรมได้ร่วมกับภาคประชาสังคมเสนอแนวคิดพร้อมแก้ไขปรับปรุง โดยสาระสำคัญของร่างฯยังเน้นการแก้ปัญหาให้กลุ่มที่มีความหลากหลายทางเพศที่ต้องการสร้างครอบครัว และใช้สิทธิในการอยู่ร่วมกัน รวมทั้งการระบุถึงทรัพย์สินที่ทั้ง 2 ฝ่ายสร้างมาด้วยหลังจากใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน และการจัดการมรดกหากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเสียชีวิต ซึ่งการแก้ไขร่างพ.ร.บ.คู่ชีวิต ส่วนใหญ่เป็นการแก้ไขในประเด็นที่กลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศยังไม่ได้รับได้สิทธิที่ควรจะเป็น

รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิฯ กล่าวอีกว่า สำหรับการจดทะเบียนคู่ชีวิตยังคงใช้คำว่าคู่ชีวิตเหมือนเดิม เนื่องจากสถานภาพยังไม่ใช่คู่สมรส แต่จากการรับฟังความคิดเห็นของนักวิชาการและผู้เกี่ยวข้อง ส่วนใหญ่ยืนยันร่างพ.ร.บ.คู่ชีวิตฉบับล่าสุดให้สิทธิกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศถึง 90 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งใกล้เคียงสถานภาพของผู้จดทะเบียนสมรสแล้ว ซึ่งการแก้ไขร่างกฎหมายฉบับนี้ได้นำสาระสำคัญต่างๆเทียบเคียงกับของต่างประเทศ โดยบางประเทศได้ให้สิทธิกลุ่มคนหลากหลายทางเพศจดทะเบียนเป็นคู่สมรส ขณะที่บางประเทศจดทะเบียนเป็นคู่ชีวิตแต่ก็ยังมีการแยกย่อยลงไปอีกว่าเป็นคู่ชีวิตประเภทไหน หรือบางประเทศก็ให้สิทธิชาย-หญิง ที่ไม่ต้องการจดทะเบียนสมรสมาใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันได้ ซึ่งในประเด็นนี้ คณะกรรมการยกร่างฯกม.ก็ได้มีการหารือกัน แต่ในที่สุดได้ลงมติว่ายังไม่สามารถเข้าถึงความเดือดร้อนหรือสิทธิความต้องการอย่างแท้จริงของคนกลุ่มนี้ได้จึงไม่นำประเด็นนี้เข้ามาบรรจุในร่างกฎหมาย

"ส่วนนายทะเบียนผู้ทำหน้าที่จดทะเบียนคู่ชีวิตนั้น ในร่างกฎหมายระบุชัดเจนว่า ให้กรมการปกครองเป็นผู้ดำเนินการเพราะถือว่าเป็นการจดทะเบียนครอบครัว ซึ่งมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด 4 กระทรวง คือ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ แต่ยังไม่ทราบว่าหากกฎหมายถูกเสนอเข้าไปยังครม.แล้วจะมีกระทรวงใดถูกตัดออกไปบ้าง ดังนั้นในร่างกฎหมายจึงกำหนดให้เป็นหน้าที่รับผิดชอบของกรมการปกครองไว้ก่อน ซึ่งหากกลุ่มคนหลากหลายทางเพศต้องการจดทะเบียนฯก็สามารถเดินทางมาแจ้งความประสงค์ที่ได้ทุกอำเภอ เช่นเดียวกับการจดทะเบียนสมรส" นายเกิดโชคกล่าว

http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/817646


เปิดร่างก.ม.จดทะเบียนคู่ชีวิต คนรักเพศเดียวกัน ได้สิทธิ์อะไร? ทั้งยามรัก-เลิก





ถือเป็นอีกความหวังกลุ่มคนหลากหลายทางเพศในไทย หรือคนรักเพศเดียวกัน จะมีกฎหมายรับรองสิทธิ์ชีวิตคู่ จากการผลักดันร่าง พ.ร.บ.การจดทะเบียนคู่ชีวิต ของกระทรวงยุติธรรม คาดหากไม่ติดปัญหาใดๆ จะมีผลบังคับใช้ในปี 62 เป็นประเทศแรกในเอเชีย

เพราะล่าสุดทางกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ได้นำร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวขึ้นเว็บไซต์เพื่อรับฟังความคิดเห็นของประชาชน เป็นเวลา 15 วัน ควบคู่เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นในต่างจังหวัดที่ จ.ขอนแก่น จ.เชียงใหม่ จ.สงขลา จ.พระนครศรีอยุธยา และ กทม. ช่วง 12-16 พ.ย.นี้ ก่อนสรุปเนื้อหานำเสนอที่ประชุม ครม.พิจารณาในเดือน พ.ย.

สำหรับเนื้อหาร่าง พ.ร.บ.การจดทะเบียนคู่ชีวิต มีทั้งสิ้น 70 มาตรา โดยระบุหลักการเหตุผลว่า ปัจจุบันกลุ่มบุคคลที่มีอัตลักษณ์ทางเพศ เพศสภาพ หรือมีการแสดงออกที่แตกต่างจากเพศโดยกำเนิด ถือได้ว่าเป็นบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ ได้ใช้ชีวิตร่วมกันดั่งครอบครัวทั่วไป แต่ไม่มีกฎหมายรองรับ สิทธิ์และหน้าที่ในการเป็นคู่ชีวิตเช่นเดียวกับคู่สมรส ซึ่งถือเป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรม และขัดต่อหลักการที่รับรองไว้ในรัฐธรรมนูญ ตลอดจนหลักการสิทธิมนุษยชนสากลตามพันธกรณีระหว่างประเทศที่ประเทศไทยเข้าเป็นภาคี

ทั้งนี้ ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว ยังคงใช้คำว่าคู่ชีวิต เนื่องจากสถานภาพยังไม่ใช่คู่สมรส แต่ใกล้เคียงสถานภาพผู้จดทะเบียนสมรส โดยที่ผ่านมากระทรวงยุติธรรมได้ร่วมกับภาคประชาสังคมเสนอแนวคิด เทียบเคียงกับต่างประเทศ พร้อมแก้ไขปรับปรุง โดยสาระสำคัญยังเน้นการแก้ปัญหาให้กลุ่มที่มีความหลากหลายทางเพศที่ต้องการสร้างครอบครัว และใช้สิทธิ์ในการอยู่ร่วมกันที่ควรจะเป็นในการช่วยเหลืออุปการะเลี้ยงดูกันตามความสามารถและฐานะ รวมทั้งการระบุถึงทรัพย์สินที่ทั้ง 2 ฝ่ายสร้างมา หลังใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน และการจัดการมรดก หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเสียชีวิตลงไป

ส่วนผู้ทำหน้าที่นายทะเบียนจดทะเบียนคู่ชีวิต ให้กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ดำเนินการ เนื่องจากเป็นการจดทะเบียนครอบครัว หากกลุ่มคนหลากหลายทางเพศต้องการจดทะเบียนซึ่งทั้งสองต้องบรรลุนิติภาวะตามกฎหมาย สามารถเดินทางมาแจ้งความประสงค์ได้ทุกอำเภอทั่วประเทศ ทุกเขตใน กทม. หนือกรณีอยู่ต่างประเทศสามารถทำไ้ด้โดยให้พนักงานทูต หรือกงสุลไทย เป็นนายทะเบียน เช่นเดียวกับการจดทะเบียนสมรสของคู่ชาย-หญิง ยกเว้นมีคู่สมรส หรือได้จดทะเบียนคู่ชีวิตอยู่ก่อนแล้ว รวมถึงบุคคลทั้งสองฝ่ายมีความสัมพันธ์เป็นผู้รับบุตรบุญธรรมและบุตรบุญธรรม

ที่น่าสนใจกรณีคู่ชีวิตไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้โดยปกติสุข หรืออีกฝ่ายมีชู้ อาจร้องต่อศาลให้มีคำสั่งอนุญาตให้ต่างฝ่ายต่างอยู่ มีการกำหนดจำนวนค่าอุปการะเลี้ยงดูตามควร หรือแล้วแต่กรณี ซึ่งการจดทะเบียนคู่ชีวิตจะเป็นโมฆะ ต้องร้องขอให้ศาลพิพากษาเท่านั้น โดยทรัพย์สินที่ทำมาร่วมกันให้แบ่งคนละครึ่ง นอกจากนี้กรณีสมัครใจเลิกกันจากการเป็นคู่ชีวิตจะสมบูรณ์ต้องทำหนังสือ และมีพยานลงชื่ออย่างน้อยสองคนต่อหน้านายทะเบียน เป็นต้น


https://www.thairath.co.th/content/1412753


รัฐบาลลุงตู่เปิดประตูให้ความเท่าเทียมกัน  ในเรื่องของสิทธิทางเพศ

รัฐบาลทหารคิดอะไรที่ไม่ปิดกั้นสิทธิประชาชน

คนที่ชอบว่ารัฐบาลลุงตู่จะสำนึกไหมนะ

วันๆเอาแต่ว่าแต่ป่วนคนเชียร์ลุงตู่

เห็นร่าง พ.ร.บ.นี้คงจะลดความพลุ่งพล่านไปได้บ้างนะคะ

ขอยินดีล่วงหน้าด้วยค่ะ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่