ลูกคัดจมูกตอนกลางคืน หายใจไม่ออก ร้องไห้งอแงกลางคืน ลูกนอนไม่ได้ ไม่ยอมกินนม อาจจะเป็นภูมิแพ้อากาศได้ มาดูวิธีแก้กันค่ะ

ขอเล่าแบบละเอียดตั้งแต่ต้นจนจบ และยาวหน่อยนะคะ เผื่อคุณพ่อคุณแม่ท่านใด สงสัยอาการของลูกและคิดว่าลูกมีอาการคล้ายๆแบบนี้จะทำยังไง
เทมคลอดน้องเองแบบธรรมชาติ นน3640 ที่พระมงกุฎ น้องปกติแข็งแรงดี ขณะที่อยู่โรงพยาบาลน้องจะมักจะมีไข้เวลาที่ห่อผ้าหนาๆ ไม่เปิดแอร์ เปิดแค่พัดลม ที่ห่อหนาๆเพราะคุณย่ากลัวหลานหนาว จัดเต็มถุงมือถุงเท้า หมวก สรุปมีไข้ จนพยาบาลบอกว่าถ้ามีไข้ไม่ได้กลับบ้านนะคะ เลยต้องห่อแบบปกติ ผ้าผืนเดียว เปิดแอร์ให้ ถึงได้กลับบ้าน
พอกลับบ้านหมอนัดอีก1 สัปดาห์ น้องจึงนอนที่อพาร์ตเมนต์ของแม่ 3 วัน เปิดแอร์ให้ตลอด  นอนหลับปุ๋ยเพราะเย็นสบาย พอไปF/U ตามนัดน้องก็ปกติ จึงเดินทางกลับต่างจังหวัด ที่ร้อยเอ็ดเลย ขณะที่อยู่ต่างจังหวัด บอกเลยอากาศดีมาก ดีจนไม่รู้ว่าจะปรับตัวไปทางไหน เดี๋ยวร้อน ฝนตก ลมหนาว 3 ฤดูใน1วัน555+ ลูกสาวกินนมแม่ปกติดี เวลานอนเปิดพัดลมให้ตลอด อากาศร้อนๆ ตอนกลางวันเปิด2 ตัวเลยค่า ของลูก 1 ตัว ของแม่อีก1 ตัว (มีห้องแอร์ค่า ของย่า แต่ไม่ยอมให้นอนเพราะคิดว่ายังเล็กไป)
ผ่านไปหนึ่งเดือนครึ่ง ในวันหนึ่ง ขณะที่อากาศร้อนมากในช่วงหัวค่ำเราเลยใส่เสื้อผ้าบางๆให้ลูก ประกอบกับเปิดพัดลม 2 ตัวเช่นเคย แต่พอตกดึก ฝนตกหนักมาก เราก็เผลอหลับเพราะเพลีย พอตื่นมาเห็นลูกนอนไม่ห่มผ้า เราเลยห่มผ้าให้และตื่นเช้ามาลูกมีน้ำมูกไหล นั้นละคะคือจุดเปลี่ยน ของภูมิแพ้อากาศของลูก

ในตอนเช้าลูกมีน้ำมูกเราก็ตกใจนิดหน่อย และคิดว่าคงหายเอง อาจจะเป็นหวัดได้ ไปซื้อน้ำเกลือ(Nss) มาหยดจมูกให้ลูก 3- 4 วัน ไม่หาย ลูกเริ่มมีเสียงครืดคราดๆในลำคอ อาการหลักๆคือ คัดจมูก มีน้ำมูกไหล จามตอนเช้า ไม่มีไข้ ลูกเริ่มงอแง ไม่ยอมกินนม ร้องไห้ไม่หยุด   เรารู้ทันทีว่าต้องมีเสมหะติดที่ลำคอลูก จากการฟังเสียง และการไม่ยอมดูดนม เราจึงตัดสินใจพาลูกไปพ่นยา(พ่นน้ำเกลือ Nss) ที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน พอพ่นยาได้สักพักลูกร้องไห้ แทบขาดใจ เสร็จแล้วอ้วกออกมา เสมหะเหนียวมาก เยอะด้วย ลูกร้องไห้เพราะเพลีย จนหลับคาที่พ่นยา แม่ย่าทนดูไม่ไหว ออกไปรออยู่นอกห้องฉุกเฉิน
พ่นยาเสร็จ กลับบ้านลูกไม่รู้ว่าเพลียหรือสบายตัว ยิ้มอารมณ์ดี และก็หลับยาวเลย (สาเหตุที่เสมหะติดลำคอเนื่องจาก เราหยดน้ำเกลือแล้วเสมะละลายลูกกลื่นยังไม่เป็น จึงไหลที่รวมกันที่คอ แทนที่จะลงไปที่ท้อง จริงๆเราใช้ลูกสูบยางแดงดูดค่ะ แต่ไม่ออก เลยคิดว่าน่าจะไม่เป็นไร แต่สุดท้ายก็เป็นตามที่เล่าให้ฟังนั้นแหละค่า)

เราคิดว่าอาการคงหายดีไม่น่ามีไร แต่ด้วยที่ต่างจังหวัดช่วงนั้นอากาศเปลี่ยนบ่อยมาก ลูกมีอาการแบบเดิมอีก คราวนี้หนักขึ้น คัดจมูกตอนกลางคืน เหมือนหายใจไม่ออก ดิ้นไปมา ร้องไห้ งอแง ปกติน้องจะนอนเบาะกับแม่ แต่คราวนี้ต้องไกวเปลมอญ(ผ้าขาวม้าผูก) เอาวิคมาทาให้ลูกด้วย รู้ว่าไม่ดี แต่ทำไงได้ลูกนอนไม่ได้เลย สงสารมาก เลยทาวิคให้ พอทาให้เขาก็หลับได้ค่ะ เรานี้สงสารลูกมาก ดูแล้วลูกทรมานเหลือเกิน ได้ยินเสียงดังครือคราดที่ปอดแรงมาก อาการเหมือนเดิม ไม่มีไข้ เราตัดสินใจพาไปหาหมอเด็ก แม่ย่าบอกว่าหมอคนนี้เก่งมาก เราก็ไป ตอนแรกที่เจอหมอเราพยายามอธิบายว่า ลูกน่าจะเป็นภูมิแพ้ไหมคะ หมอบอกว่าอาการแบบนี้เป็นได้ 3 อย่าง แต่ให้สงสัยติดเซื้อไว้ก่อนถ้าไม่หายค่อยมาดูอาการที่ 2 3 ตามลำดับ หมอฟังปอด แล้วบอกว่ามีเสียงWheezing จัดยาฆ่าเชื้อมาให้กิน ยาละลายเสมหะ แก้ไอ และแก้หอบ 4 ตัว เรามาพิจารณาดูแล้ว ในเซนของแม่ เราว่าไม่จำเป็นต้องกินยาพวกนี้ทั้งหมดหรอกลูกเรายังเล็กมาก เราชั่งใจ50/50 จากการที่มีเสียงWheezingเป็นไปได้ที่จะติดเซื้อ เราเลยตัดสินใจให้ลูกกินยาฆ่าเชื้อ และยาละลายเสมหะ แค่2 ตัวพอ กินตามอาการ 4 วัน ไปหาหมออีก  หมอบอกเสียงWheezing หายไปแล้ว เดี๋ยวก็ดีขึ้น เราก็เบาใจ ลูกจะได้หายสักที

ผ่านไป 1 สัปดาห์ เป็นอีก อาการเดิม กลับไปหาหมออีก ได้ยาชุดเดิมมาอีก คราวนี้ให้กิน 7 วันค่า ในขณะที่กินยาได้ 5 วันเราก็ต้องกลับมาทำงานที่กรุงเทพ ลูกอยู่กับคุณย่า เราถามอาการกับคุณย่าว่าลูกเป็นยังไง ย่าบอกไม่ดีขึ้น อาการยังมีเหมือนเดิม หนักกว่าเดิม
ลูกจะมีการช่วง 23.00-03.00น. คือช่วงนี้ลูกกนอนไม่ได้ ตื่นมาร้องไห้ งอแง ดิ้นไปดิ้นมา เอามือปัดจมูกตลอด  มือเท้านี้เย็นเจียบค่า เราคิดว่าไม่ได้การละ เป็นแบบนี้ลูกเราต้องทรมานมาก ทั้งย่าและลูกไม่มีใครได้นอน คร่าวนี้ถึงต้องใช้นำมันยูคาลิปตัสตรานกแก้วช่วยรู้ว่าไม่ควรแต่ก็อย่างที่บอกค่า คือลูกนอนไม่ได้ พอทาแล้วเขานอนได้เราก็เลยต้องทา

และแล้วเราก็ต้องตัดสินใจลางานกลับไปหาลูกอีก คราวนี้พาลูกไปหาหมอที่อุบลค่ะ ไปหาหมอเฉพาะทางโรคภูมิแพ้ในเด็ก เราเคยทำงานกับอาจารย์มาก่อนเลยหวังพึ่งอาจารย์เต็มที่ พอไปถึงแม่ย่าเล่าอาการให้หมอฟัง แค่ว่าพูดว่า ตอนกลางคืนน้องนอนไม่ได้ งอแงช่วงดึก ไม่ยอมกินนม แค่นั้น...หมอพูดมาเลยว่าภูมิแพ้อากาศ.. หมอระบุเวลาด้วยว่า ช่วง 23.00-03.00 ใช่ไหม เราก็ใช่ค่ะ หมอไม่พูดมาก ฉีดยา 1เข็ม จัดยาให้ 1 ชุด และก็พ่นยาให้ เราก็สบายใจรู้ว่าลูกเป็นอะไรจะได้ดูแลได้ถูก เราอยุ่กับลูก 3 วันลูกดีขึ้นเยอะ นอนเบาะกับแม่ถึงเช้า ไม่งอแง ไม่ร้องกวน เราก็สบายใจขึ้น กลับมาทำงานต่อ

ผ่านไป2 วันแม่ย่าบอกว่าลูกเป็นอีกแล้ว โฮ้ยชีวิต ทำไหมไม่ดีขึ้น ในใจเรารู้แหละว่าลูกเป็นภูมิแพ้เราเครียดมาก ทั้งค่ารถ ค่ายา ลางาน ตอนนี้ไม่ไหวแล้วนะ เราก็บอกแฟนว่าเราจะเอาลูกมาให้ยายเลี้ยงเอง มีไรให้ยายพาไปหาหมอ เพราะเราไม่ไหวแล้ว แต่ในใจก็ห่วงลูกมากก็กะว่าจะลางานอีก พาลูกไปหาหมอที่อุบลอีก และจะถามหมอซื้อเครื่องพ่นยาได้ไหม ให้หมอสั่งยาให้ เราจะพ่นยาเอง เพราะทุกครั้งที่พ่นยา(ตามความเข้าใจของเรา) ลูกจะดีขึ้นทุกครั้ง เราเลยตัดสินใจแล้วว่าต้องซื้อเครื่องพ่นยา ในระหว่างที่รอวันกลับไปหาลูก เราก็พยายามหาข้อมูลเครื่องพ่นยาอยู่ และแล้วสวรรค์ก็มาโปรด

คือเราตัดสินใจโทรหาหมออีกท่านหนึ่งที่ทำงานด้วยกันแต่อาจารย์ท่านเกษียนนานแล้ว เล่าอาการทั้งหมดให้หมอฟัง แล้วหมอก็อธิบายให้ฟังดังนี้
****ถ้าเป็นภูมิแพ้อากาศก็แก้ที่อากาศ
ลูกหายใจไม่ออกตอนกลางคืน เกิดจาก
1.จมูกบวมเพราะอากาศเย็น
2.มีฝุ่นหรือสิ่งแปลกปลอมเข้าไปที่จมูก จมุกผลิตน้ำมุกมาจับฝุ่น เลยเกิดการอุดกั้นทางเดินหายใจทำให้เด็กหายใจไม่ออก
3.เกิดจากจมูกแห้งแล้วร่างกายผลิตมูกมาล่อเลี้ยง ทำให้มีน้ำมูกมาอุดกั้นทางเดินหายใจ ทำให้เด็กหายใจไม่ออก(เราสันนิษฐาน)
4.ในห้องควรมีเฟอร์นิเจอให้น้อยที่สึด ลดฝุ่นละออง
เมื่อเขาหายใจไม่ออกเขาก็จะลำคาญ ปัดจมูก สีหูสีตาบ้าง เป็นอาการของเขา
***หมออธิบายดีมาก เหมือนหลักการการเกิดฝน ยิ่งอากาศร้อนยิ่งมีความชื่นในอากาศมาก จนทำให้ฝนตกได้
แต่ถ้าเมื่อไหร่อากาศยิ่งเย็น ความชื่นในอากาศยิ่งน้อยลง****

ทางแก้ไม่ยาก แค่เอากะละมังใส่น้ำ มาวางไว้ในห้องให้มีความซื่นในห้อง หรือเอาผ้าชุปน้ำมาวางใกล้ๆตัวเด็ก ให้เกิดความชุ่มชื่น ในขณะที่เขาหายใจ แค่นี้ก็พอ ไม่ต้องไปหาหมอเสียเงินให้มันยาก ให้มันเปลื่อง ทำแต่พอดี ถ้าชื่นมากลูกก็ปอดบวมได้

ถ้ามีน้ำมูกก็ล้างน้ำเกลือ ล้างแล้วก็ดูดออก (ใช้ที่ดูดแบบใช้แรงดูดจากปากแม่ มีขายราคาถูกด้วย ใช้ง่าย)
หรือเพิ่มเติมต้มใส่หัวหอมก็ได้(เราเพิ่มเอง)

น้ำมันหอมระเหยให้งดใช้เลย มันกดระบประสาท อย่าใช้ (เราใช้วิคทา และน้ำมันยูคาลิปตัส ตรานกแก้ว) ตอนนี้ไม่ใช้แล้ว

ทำยังไงก็ได้ให้จมุกเขามีความชื่นจะได้ไม่บวม อีกอันก็ลองใช้ กลีเซอรีนบอแรกซ์ดู เอาไม้พันสำลีป้ายยาแล้วไปป้ายบริเวณปายจมูกน้อง จะให้ความชุ่มชื่นได้นาน 6 ชม ถ้าน้ำเกลือก็ได้แต่จะชุ่มชื่นแค่ 1-2 ชม

ถ้าจำเป็นต้องพ่น ก็พ่นน้ำเกลือ เพราะน้ำเกลือจะทำให้มีความชุ่มชื่นได้  หมอคิดว่า ที่คลินิกคงพ่นย้ำเกลือ คงไม่พ่นยาหรอกเพราะยามันแรง
ส่วนที่ตื่นมาจามตอนเช้า ก็เพราะกลางคืนเด็กจะง่วง ไม่สนใจปฏิกิริยาตอบกลับ แต่พอตอนเช้าเขาเริ่มมีปฏิกิริยา เลยต่อต้านด้วยการจาม

หลังจากที่คุยกับหมอเสร็จเรารู้สึกมีความหวัง และสบายใจ เหมือนยกภูเขาออกจากอกเลย ขอบคุณคุณหมอมากๆที่ชี้ทางสว่างให้ ซึ่งไม่มีหมอคนไหนอธิบายให้เราฟังแบบนี้เลย มีแต่จัดยา ฉีดยา พ่นยา และรับเงิน

หลังจากนั้นเราก็โทรหาแม่ย่าและให้ย่าทำตามที่หมอบอก ผ่านไป3วันแล้ว ทุกอย่างดีขึ้นเขานอนได้ดีขึ้น นอนยาว2 ช่วงค่ะ 20.00-23.00, 23.00-04.00 ตื่นมากินนม อันนี้นอนเปลผ้านะคะ ดีขึ้นเยอะมากจากเมื่อก่อน แม่ย่าใช้วิธีเอาผ้าชุบน้ำวางใต้เปลน้องค่า
ถือว่าเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านที่ได้ผล ประหยัด ปลอดภัยดูแลง่าย สบายเลยค่า ทุกคนhappyมาก ขอบคุณคุณหมอมากๆ

ใครที่มีอาการเหมือนน้องลองนำไปใช้ดูนะคะ คิดว่าแล้วแต่บุคคลว่าจะได้ผลมากน้อยต่างกัน แต่ที่ดีแน่ๆคือ ปลอดภัยต่อลูก เข้าใจพฤติกรรมลูกมากขึ้น มีงอแงบ้างร้องไห้บ้าง แต่ไม่มาก ตามอาการของเด็กค่ะ
พอโตขึ้นเขาก็จะดีขึ้นเอง เป็นกำลังใจให้แม่ๆทุกท่านนะคะ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่