อยากใช้หนี้แทนแม่ แต่ใช้เงินกระเป๋าเดียวกับแฟน?

สวัสดีค่ะ เราจะมาปรึกษาทุกคนว่าเรื่องนี้ ทุกคนมีความคิดเห็นกันยังไง แล้วเราควรจะทำยังไงดีถึงจะเหมาะสม
เกริ่นก่อนเลยนะคะ เรามีแฟนอยู่คนนึง คบกันมาตั้งแต่สมัยม.ปลาย จนตอนนี้เราอยู่ ปี 2 ตอนช่วงม.ปลาย เรา2 คนก็คิดว่าจะหาอะไรทำตอนปิดเทอม ในช่วงนั้นเป็นช่วงที่เสื้อฮาวายฮิตมากๆ เราอยากขาย ก็เลยปรึกษาแฟน แฟนเราก็โอเค รับของมาก็ขาย เราก็เป็นคนไลฟ์สด ขายในไอจี ก็พอมีเงินเก็บอยู่ส่วนนึง เงินที่ขายของมาก็เอาไปเก็บในบัญชีแฟนเรา เพราะบัญชีเราตอนนั้นบัตรหาย เพื่อความสะดวกเราเลยไว้ในบัญชีแฟน ตอนนั้นคือเหมือนใช้เงินกระเป๋าตังเดียวกันแล้ว แล้วเงินก็ยังคาอยู่แบบนั้นไม่ไปไหน แต่เราก็ไม่ได้คิดอะไร ต่อมาเราก็ต้องหยุดขาย เพราะติดเรียนกำลังจะเข้ามหาลัย ก็หยุดพักไปนานมาก จนเรามาขึ้นปี1 แฟนเราก็คิดจะขายเสื้อผ้าอย่างอื่นต่อ เริ่มจากไปขายตลาดนัด ถ่ายรูปลงไอจี เพราะแฟนเราไม่กล้าไลฟ์ ปกติเราจะเป็นคนไลฟ์ แต่เราไลฟ์แล้วได้บ้างไม่ได้บ้าง ช่วงหลังๆเหมือนขายไม่ค่อยดี เราเลยท้อไม่ไลฟ์ขายต่อ แฟนเราก็เลยลองไลฟ์เอง สรุปผลออกมาคือดีมาก ทำให้ขายของมาได้จนทุกวันนี้ ทุกวันนี้คือเราจะเป็นแอดมินคอยจดว่าลูกค้าคนไหนสั่งตัวไหนราคาเท่าไหร่และก็แพคของคอยตอบลูกค้าในแชทด้วย ถามว่าเหนื่อยไหมเราก็เหนื่อยไม่แพ้กันนะ แต่เราชอบคิดมาก ว่าแฟนเราเป็นคนหาเงินได ้เพราะแฟนเราเป็นคนพูด คนขายเลยได้เงินมา จนทำให้เราไม่กล้าไลฟ์สดอีก จากการขายของเราสองคนก็มีเงินเก็บพอสมควร ก็เริ่มไม่ขอเงินพ่อกับแม่ รับผิดชอบตัวเองทุกอย่าง ใช้เงินกระเป๋าเดียวกัน ใครอยากได้อะไรก็บอกกัน พอเริ่มมีเงินเก็บบ้างแล้วเรากับแฟนก็คิดว่าจะออกรถ แต่ต้องเป็นชื่อแฟน เพราะเรายังไม่บรรลุนิติภาวะ เราก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะถ้ามีปัญหามายังไงก็ต้องเคลียกันได้อยู่แล้ว เรื่องนี้ก็จบไปไม่มีปัญหาอะไร ผ่านไปประมาณ 1 ปี ทางบ้านแฟน เขาเป็นครอบครัวใหญ่ เขาอยากซื้อที่ เขาก็คิดกันว่าแก่ตัวไปจะได้มีบ้านใกล้ๆกัน เหมือนหมู่บ้านนึงมีแต่มีแค่ครอบครัวประมาณนี้ แม่แฟนเลยมาถามเราว่า ซื้อที่ตรงนี้ไหม ถูกดีแถมได้อยู่ใกล้กันด้วย แฟนเราก็อยากได้ แต่เราเป็นลูกคนเดียวแล้วอีกอย่างเรากับแฟนก็ยังไม่ได้แต่งงานกัน เราก็ไม่ค่อยแน่ใจ ไม่อยากได้ที่ตรงนั้นเท่าไหร่ เราก็เลยถามแฟนไปว่า ไม่เอาเงินไปลงทุนหรือต่อยอดอะไรก่อนไหม เป็นการบ่ายเบี่ยง เราก็ไม่ได้ตอบตรงๆว่าไม่อยากได้ คือเราเป็นคนง่ายๆด้วยแหละ แฟนเราตอบว่าไม่ ซื้อๆไปเถอะ ไม่เสียหาย ไม่ว่าเราจะบ่ายเบี่ยงไปทางไหนก็ไม่ฟัง ยีงยืนยันที่จะซื้อเหมือนเดิม พอแฟนยืนยันที่จะซื้อ เราก็เลยตกลง และเราก็ถามว่า ถ้าซื้อแล้ว ที่เป็นชื่อใคร แฟนเราก็พูดลังเลรวนๆว่า ชื่อพี่หรือชื่อเราก็ได้ แต่ชื่อพี่ดีกว่า เราก็งง เราก็ถาม แล้วชื่อร่วมได้ไหม แฟนเราก็ตอบว่า ต้องถามแม่ก่อน ว่าได้ไหม เราเลยโทรหากรมที่ดินว่าใช้ชื่อร่วมได้ไหมสรุปคือได้ ถ้ายังไม่บรรลุนิติก็ให้ผู้ปกครองเซ็นรับ แค่นั้น แล้วต่อมาแฟนเราก็คิดไปคิดมาว่าจะไม่ซื้อที่ตรงนั้น เพราะไปดูคลิปสร้างแรงบันดาลใจ ไอเราก็คิดในใจ ยิ้มที่กูบอกที่กูพูดไป ไม่เคยคิด ไปดูคลิปในยูทูปไม่ถึง ชม ก็คิดได้ เราก็แอบดีใจที่แฟนเราไม่ซื้อที่ตรงนั้น นี้ก็จบไปอีกเรื่อง ต่อมาาา เรื่องนี้แหละที่โครตตตตเครียดด คือเรามารู้ว่าแม่เราติดหนี้ ประมาณ 4 แสนกว่าบาท คือหนี้นานแล้วนะคะแต่แม่เราไม่เคยบอกใคร เพราะไม่อยากให้คนในบ้านต้องมาเครียด ตอนนั้นพอเรารู้เราก็ได้แต่โกรธแม่ว่าแม่ต่างๆนาๆว่าทำไมต้องไปติดหนี้ แต่มาคิดดูอีกที ที่เขาติดหนี้ก็อาจเป็นเพราะเราด้วยเขาอาจจะไปกู้เงินนอกระบบมาส่งเราเรียนต่างๆนาๆ(ก่อนหน้านี้เราเรียนรร.เอกชน) เราก็เลยอยากหาทางช่วยแม่ ที่บ้านเราก็ไม่ได้รวยอะไรมาก แค่พอมีพอกิน แต่ไม่มีทรัพสมบัติที่พอขายได้เลย ทุกวันนี้แม่เราก็จ่ายแต่ดอก ต้นไม่เคยลดลงเลย เราก็เลยคิดว่าถ้าจ่ายแบบนี้มันก็ไม่หมดสักที เราก็กลับมาคิดคนเดียวยังไม่ได้บอกแฟนเรื่องที่แม่ติดหนี้นะคะ เราก็หาทางช่วย เราจะบอกว่ามีหลายๆอย่างที่แฟนเราเหมือนเบี่ยงไปให้ทางบ้านแฟนเรามากกว่า แต่เราไม่ซีเรียส เพราะยังไงก็คือบ้านแฟน ยังไงเราก็รัก เราให้ได้หมด เพราะเขาก็เหมือนครอบครัวเรา แล้วเราเองก็รักเขาเหมือนครอบครัว วันนึงเราทะเลาะกับแม่หนักเรื่องหนี้ 4 แสน จนแฟนเราได้ยินแฟนก็ถามว่าเป็นอะไร เราก็เล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิด แฟนเราก็บอก ไม่เป็นไรเดี๋ยวพ่อแม่ก็หาทางได้เอง แต่ในใจเรา เราอยากจะช่วยเขา เราเห็นแม่เราทุกวันไม่มีความสุขเลย เราเลยอยากจะเอาเงินเก็บที่ขายของกับแฟนมาช่วยแม่ แต่ก็ยังไม่ได้คุยกับแฟนนะแค่คิดเพราะเงินก็เงินของ 2 คน เราเลยต้องปรึกษากัน ถ้าเป็นเงินเราคนเดียวนะ เราให้แม่หมดหน้าตัก เหนื่อยมาแค่ไหนก็ยอม มีตอนนึงเราก็ปรึกษาแฟนไปว่า จะช่วยแม่ยังไงดี แฟนเราก็ทำท่าทีเหมือนไม่อยากจะช่วยเหมือนประมาณว่าทำไมต้องมาเดือดร้อนกู แบบนี้ เราเลยตัดประเด็นเปลี่ยนเรื่องแล้วกลับมาคิดก่อน แล้ววันนี้แม่แฟนเรานั่งรถไปทำบุญที่วัดกับเรา แม่แฟนเราก็พูดขึ้นมาว่า ถ้าแม่เก็บตังได้ 5 แสนแม่จะว่าจะสร้างบ้าน แฟนเราตอบเสนอไปอย่างไม่ลังเลว่า สร้างสิ เดี๋ยวให้ยืมเงิน ไม่ต้องเสียดอกเลย เราก็สะอึกสิ กับแม่เราทำท่าทีเหมือนไม่อยากจะให้เลยสักนิด ทั้งๆที่เงินก็เป็นเงินที่ทำกันมาด้วยกัน แล้ววันต่อมา แฟนเราก็มาบอกเราว่า อยากจะส่งน้องตัวเองเรียน (แฟนเรามีน้องกำลังจะเข้ารร) ในใจเราไม่ได้คิดอะไรกับที่จะส่งน้องเรียน เพราะเรากับน้องแฟนเราก็สนิทกัน แต่เหมือนแฟนเราไม่มองมาทางบ้านเราเลย ทุกคนอาจจะมองว่าเราไร้สาระ แต่ลองมายืนในจุดนี่ดูแล้วจะรู้สึก แฟนเราก็บอกอีกว่า อยากจะช่วยแม่แบ่งเบาภาระ เราก็บอกไปว่า เราก็อยากช่วยแม่เหมือนกัน สงสารแม่ แฟนเราก็บอก จะให้ช่วยยังไงอะก็ช่วยอยู่ทุกวันนี้แล้วไง ค่าน้ำค่าไฟก็ให้(ตอนนี้แฟนเราอยู่บ้านเราขายของ+ไลฟ์สด+แพคของ บ้านเรา แฟนเลยจ่ายให้) เราเลยบอกไปว่า ทุกวันนี้แม่เราก็ส่งแต่ดอกเงินต้นไม่ได้ส่ง เลยอยากจะช่วยแม่ แฟนเราก็บอก แล้วถ้าจะเอาเงินไปลงทุนขายของละจะทำไง เขาก็บ่ายเบี่ยงแหละค่ะ เหตุผลมาเต็ม เราก็คิดในใจแบบว่าเสียความรู้สึกมากๆ ตัดภาพมาที่แม่เขา กลับไปเสนอว่าจะให้ยืมแบบง่ายๆ แต่กับแม่เรานี่หลายขั้นตอนมาก เขาบอกกับเราว่ามันไม่ใช่เรื่องที่เขาจะต้องมาเดือดร้อน หรือซวย และเขาก็บอกว่า ให้พ่อเรา ขายบ้าน ไม่ก็ขายรถ มาจ่ายหนี้ ตอนนั้นโครตเสียความรู้สึก พูดเหมือนเป็นเงินของแฟนเราคนเดียวทำมาคนเดียว เราก็ถามไปว่าไม่มีทางเลือกอื่นแล้วหรอ เขาบอกว่าถ้าให้หมด งั้นขอถามแม่ คุยกับแม่ก่อน เราก็บอก ทำไมต้องถามแม่ ในเมื่อเงินมันก็เงินของเราสองคน เขาบอก อ้าวแล้วที่ให้ยืมอะมันใช่เรื่องของเขาไหม เราก็บอก แต่เค้าเป็นลูกเค้าก็อยากช่วยแม่ แฟนเราก็บอก เค้าก็เป็นลูกก็อยากบอกแม่ตัวเอง เราเลยตอบไปว่า แล้วจะไปให้เขารับรู้ทำไม เรื่องนี้เราแก้เองได้ และเขาบอกว่า ถ้าไม่ให้บอกแม่เขา เขาก็จะไม่ให้แม่เรายืมเงิน เราก็ถามไปว่า ทำไมทีแม่ตัวเองขอยืมยังไปเสนอเขาว่าให้ยืม ทีแม่เรานี่หลายขั้นตอนมาก แล้วตอนนั้นเราโมโหและก็เสียใจ เลยตอบไปอีกว่า ไม่เอาแล้ว เดี๋ยวคิดเอง จนสุดท้าย เราก็หาทางออกไม่ได้เพราะเงินเราก็มีอยู่ในบัญชีร่วมเท่านั้น เราก็ไปคุยกับเขาใหม่ว่าสรุปยังไง เขาบอกเราว่า จริงๆพี่ไม่ควรมาซวยเลยแต่ที่มาเจอเพราะเป็นแม่ของเรา เขาเป็นห่วงเรา เราก็เสียใจ ที่เขาพุดแบบน ี้แฟนเราบอกจะให้แม่เรายืม ครึ่งนึง แล้วแฟนเราก็คิดหนักอีกว่า แล้วถ้าแม่เราไม่คืนเพราะมัวแต่ไปคืน ที่เหลือที่ไม่ได้ให้ยืมอยู่จะทำยังไง เราก็บอก ก็เห็นหน้ากันอยู่ทุกวันอยู่บ้านเดียวกันยังไงเขาก็คืน แฟนเราก็บอกว่า งั้นพี่ต้องไปบอกแม่นะว่าแม่เธอจะยืม เขาก็ยังยืนยันจะบอก เราก็บอก เงินก็คือเงิน 2 คนเวลาจะทำอะไรทำไมต้องให้แม่เธอตัดสินตลอด แฟนเราเลยบอกให้เราไปคิด ว่าจะเอายังไง เขาบอกเขาไม่เคยเอาเปรียบเราอยู่แล้ว แต่การกระทำหลายๆอย่างมันคงทำให้เราคิด...
เราจะมาขอความคิดเห็นทุกคนว่าคิดยังไงกับที่เราเล่ามา? แล้วเราควรจะทำยังไงต่อ? จะช่วยแม่ยังไงดี?แฟนเราจำเป็นต้องบอกแม่แฟนเขาไหม?

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่