“จริงๆ คุณยายอยู่ที่ Joburg มาหลายปีแล้ว แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมาหม่าม้ามักบ่ายเบี่ยงที่จะไปเยี่ยมท่านเสมอ
เพราะคิดเอาเองว่า South Africa เป็นเมืองคนดำ ดิบๆ เถื่อนๆ ไม่ศิวิไลซ์เหมือนโซนยุโรป”
<< ความเดิมตอนที่แล้ว :
https://pantip.com/topic/38205358
.....................
แต่เมื่อมาถึง…บางความคิดคงอยู่แต่หลายมุมมองเปลี่ยนไป…60 % ของเมืองหนาแน่นด้วยคนดำโดยเฉพาะย่านตัวเมือง Joburg และเมืองหลวงอย่างกรุงพริทอเรียมีทั้งดำท้องถิ่นและดำอพยพ
...........................................................

เพื่อนของคุณยายชื่อว่าคุณยายนิมมาร่าขับรถพาหม่าม้าเข้าไปทัศนศึกษาแบบเจาะลึกในตัวเมือง Johannesburg ทั้ง 4 ทิศ (เหนือ ใต้ ออก และตก) พร้อมเล่าถึงข้อจำกัดในการใช้ชีวิตท่ามกลางปัญหาการแบ่งแยกสีผิว กระทบหลายมิติของชีวิตพวกเขา เด็กๆ ไม่สามารถเรียนร่วมกันได้ จึงต้องมี Private school ต้องมี Private hospital หรือ Private transportation ที่รถไฟมีไว้บริการเฉพาะคนผิวสีเท่านั้น คุณยายนิมมาร่ามีเชื้อสายอินเดียแต่ถือสัญชาติ South African เพราะเกิดและโตที่นี่จึงเข้าใจประเทศนี้เป็นอย่างดี
.................................................
ภาพความเสื่อมโทรมขออาคารสำนักงานรวมถึงสถาปัตยกรรมสไตล์ British Passion ย่าน Town และ Carlton Centre ทำให้หม่าม้ารู้สึกเสียดายอนาคตที่เคยสดใสในฐานะ “ศูนย์กลางธุระกิจหลักของประเทศ” เสียดายงบลงทุนและความเอาใจใส่ของคนขาวผู้สร้างเมือง การเปลี่ยนถ่ายขั้วอำนาจส่งผลให้คนขาวต้องย้ายถิ่นฐานแบบไม่เต็มใจ อาคารบ้านเรือนถูกขายต่อให้กับคนดำในราคาถูก หม่าม้าคิดเอาเองนะที่อาคารบ้านเรือนย่านนี้ดูเก่าไร้ซึ่งชีวิตชีวา อาจเป็นเพราะว่าพวกเขาได้มันมาง่ายเกินไป จึงไม่เห็นคุณค่าหรือคิดจะดูแลรักษามัน
<<สัญญาณไฟจราจรในเมืองนี้เยอะมาก ทุกครั้งที่จอดติดไฟแดงคุณยายนิมมาร่าสั่งให้หม่าม้าสังเกตุพฤติกรรมผู้คนข้างทาง พร้อมกับเตือนให้เก็บกระเป๋าถือและกล้องไว้ใต้เบาะเสมอ>>
..............................................
Sandton City
จาก Business area สู่ Dark zone จนเจ้าของ Carlton Hotel ต้องประกาศขายโรงแรมหรูในราคาเพียง 1 แรนด์ (ถ้าไม่รวยจริงประชดชีวิตแบบนี้ไม่ได้นะคะเด็กๆ) อาจจริงอย่างที่คนขาวกล่าวไว้ “คนดำถนัด Burn มากกว่า Build” ผลงานเด่นๆ จำพวกเผาป้ายรถเมล์ เผาสถานีรถไฟ หรือบ้านเรือน มีให้เห็นตามข้างทาง
หมายเหตุ : เนื้อหาด้านบนเรียบเรียงจากเรื่องเล่าของคนในพื้นที่บวกกับการตีความของหม่าม้าเท่าที่ตาเห็น พวกหนูอย่าเพิ่งเชื่อทั้งหมดนะ เมื่อโตขึ้นจงไปสัมผัสและตัดสิน Joburg ด้วยตัวเอง
...................................................
ธุรกิจและความเจริญเริ่มขยับออกห่างเมืองไปสู่ย่าน Sandton ซึ่งมีแหล่งเช็คอินสำคัญอย่าง
Nelson Mandela Square พอขับรถเข้าเขต Sandton หม่าม้ารู้สึกผ่อนคลายขึ้น เหมือนได้เปลี่ยนผ่านจากยุคทีวีขาวดำสู่ทีวีดิจิทัล เมืองใหม่แห่งนี้ดูเจริญและมีสีสันไม่น่ากลัวเหมือนหนทางที่ผ่านมา
(เรามาถึงจุดนี้กันตอนค่ำ อากาศหนาวมาก พี่ใสใสกอดหม่าม้าแน่น)
...................................................................
Jacaranda tree ที่รัก
สำหรับ Joburg โซน Northern , Eastern and Western เป็นย่านคนขาวบ้านหลังโตๆ พร้อมรั้วไฟฟ้า โซนเหล่านี้แหล่ะที่ทำให้ความคิดเชิงลบที่มีต่อ South Africa เปลี่ยนเป็น positive thinking ตึกสูงๆ บ้านสวยๆ แทรกตัวอยู่กับ jacaranda trees อย่างลงตัว ถนนกว้างและสะอาด บรรยากาศคล้ายฝั่งยุโรปผสมกับอเมริกา “ไม่ธรรมดาจริงๆ”
จุดชมวิวมุมสูงห่างจากที่พักคุณยายไม่ถึง 10 นาที…สวยและปลอดภัย
......................................................
3 Locations ถ่ายรูปสวยๆ แนวๆ ประวัติน่าสนใจ Johannesburg & Soweto
•
Constitution Hill : พิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับเส้นทางสู่ประชาธิปไตยของแอฟริกาใต้ ถ้าใครใช้บริการ Johannesburg City Sightseeing Bus สถานที่นี้คือจุดเชื่อมระหว่างเส้นทาง Green Tour และ Red City Tour
...................................................................
•
Carlton Centre โซนช้อปปิ้งและจุดชมเมืองมุมสูง (Top of Africa in Johannesburg) ที่ The Carlton Centre 50th Floor. ค่าตั๋ว 20 แรนด์ พวกหนูต้องกดลิฟท์ขึ้นไปชั้น 50 นะคะ
...........................................
•
Apartheid Museum พิพิธภัณฑ์แห่งนี้บรรจุเรื่องราวเศร้าๆ จากการแบ่งแยกสีผิวไว้มากมาย โดยมีเนลสัน แมนเดลา เป็นจุดเชื่อมต่อข้อเท็จจริงต่างๆ
....................................
•
Nelson Mandela House (ไม่รวมอยู่ในรูท Sightseeing Bus นะคะต้องขับรถไปเองหรือซื้อทัวร์แยก ตอนนั้นคุณยายนิมมาร่าอาสาขับรถพาพวกเราไปเที่ยว เสียดายจันทร์ฉัตรหลับเลยไม่ได้อยู่ในเฟรมกับพี่ใสใส)
...............................................
ค่าตั๋ว Johannesburg City Sightseeing Bus หากซื้อกับคนขับรถโดยตรงที่จุด main departure point (Rosebank) ราคาอยู่ที่ 220 แรนด์/คน (รับชำระทั้ง Debit และ Credit Card) แต่ถ้าอยากได้ส่วนลดต้องซื้อผ่านเว็บไซต์ www.citysightseeing.co.za นะคะ
หม่าม้าเคยพลาดรถเที่ยวสุดท้ายของ City Sightseeing Bus ตรงจุด Carlton Centre (16.10) เพราะมัวแต่เลือกซื้อรองเท้าให้พี่ใสใส เมื่อรู้ว่าตัวเองพลาดหม่าม้าตื่นเต้นมาก เพราะจะโทรหาคุณยายก็กลัวโดนบ่น อินเทอร์เน็ตก็หมด โชคดีได้รับความช่วยเหลือจากเด็กหนุ่มผิวสีที่ลักษณะภายนอกดูไม่น่าไว้ใจ แต่ภายในกับตรงกันข้าม พี่เขาพาพวกหม่าม้าไปส่งขึ้นรถแท็กซี่โดยไม่หวังผลตอบแทนใดๆ สิ่งเหล่านั้นยิ่งทำให้หม่าม้ารู้สึกผิดที่ตอนแรกเลือกเดินหนีและเมินเฉยกับคำเตือนของเขา…เพียงเพราะสีผิวและปากที่คาบบุหรี่
<<ค่าแท็กซี่จาก Carlton Centre ไป Constitution Hill อยู่ที่ราคา 80 แรนด์ ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที>>
..............................................
วันต่อมาคุณยายพาเราไปเที่ยวเมือง Pretoria , Union Buildings, Lion Park
การมาเยือน Union Buildings ในฤดูร้อนตอนเที่ยงวัน ไม่ต่างอะไรกับการทำทารุณกรรมผิว แดดที่นี่ร้อนแรงเหลือหลาย ถ้าเลี่ยงได้โปรดเลี่ยงช่วงเวลาอันตรายนี้นะคะ (แก้ม 2 สาวแดงเป็นลูกตำลึง)
........................
หม่าม้าเดาว่า
Lion Park คือ แหล่งท่องเที่ยวที่พวกหนูชอบที่สุด เพราะว่ามีกิจกรรมให้ทำเยอะ ทั้งขับรถดูสัตว์ที่ถูกคัดมาโชว์ตัวตามจุดต่างๆ มีสนามเด็กเล่นใกล้ห้องอาหารท่ามกลางฟ้าสีครามและทุ่งกว้างๆ

..
อัตราค่าเข้ามีหลายแบบ คุณยายเลือกแบบ 199 แรนด์ให้เรา (สามารถขับรถเข้าไปส่องสัตว์ได้เฉพาะโซนเปิด เข้าโซนป่าปิดไม่ได้ คุณยายเล่าให้ฟังว่า “ก่อนหน้านี้มีชาวจีนใจกล้าฝ่ากฎเหล็กของ park ลงจากรถไปถ่ายเซลฟี่กับสิงโต ผลคือโดนขย้ำจนตาย” กฎเขามีไว้ให้ปฎิบัติตามนะคะเด็กๆ อย่าใช้ชีวิตบนความประมาท
อาหารการกินที่นี่ อร่อยจานใหญ่แต่ราคาเบาๆ คล้ายร้านก๋วยเตี๋ยวของเราเลย…อยู่ต่างประเทศหลายวันจนพี่ใสใสบ่นอยากกินก๋วยเตี๋ยวฝีมือปาป๊า…หม่าม้าดีใจนะที่พวกหนูคิดถึงมันและดีใจที่มีคนรีวิวร้านของเราในพันทิปด้วย
<<ขอบคุณจากใจค่ะ>>
https://pantip.com/topic/37932382
Lots of Love & Support.
การมาเยือน Johannesburg ครั้งนี้ ทำให้หม่าม้ารู้สึกสบายใจขึ้นมาก เพราะได้มาเห็นกับตาว่าคุณยายของพวกหนูใช้ชีวิตอยู่ที่นี่โดยมี a lots of love support.
สำหรับ EP. 3 หม่าม้าจะกลับมาเล่าต่อถึงความสุข ณ Cape Town ให้ฟังนะคะ
[CR] South Africa ลาพักร้อนไปพบรัก : EP.2 Johannesburg / Pretoria
<< ความเดิมตอนที่แล้ว : https://pantip.com/topic/38205358
เพื่อนของคุณยายชื่อว่าคุณยายนิมมาร่าขับรถพาหม่าม้าเข้าไปทัศนศึกษาแบบเจาะลึกในตัวเมือง Johannesburg ทั้ง 4 ทิศ (เหนือ ใต้ ออก และตก) พร้อมเล่าถึงข้อจำกัดในการใช้ชีวิตท่ามกลางปัญหาการแบ่งแยกสีผิว กระทบหลายมิติของชีวิตพวกเขา เด็กๆ ไม่สามารถเรียนร่วมกันได้ จึงต้องมี Private school ต้องมี Private hospital หรือ Private transportation ที่รถไฟมีไว้บริการเฉพาะคนผิวสีเท่านั้น คุณยายนิมมาร่ามีเชื้อสายอินเดียแต่ถือสัญชาติ South African เพราะเกิดและโตที่นี่จึงเข้าใจประเทศนี้เป็นอย่างดี
<<สัญญาณไฟจราจรในเมืองนี้เยอะมาก ทุกครั้งที่จอดติดไฟแดงคุณยายนิมมาร่าสั่งให้หม่าม้าสังเกตุพฤติกรรมผู้คนข้างทาง พร้อมกับเตือนให้เก็บกระเป๋าถือและกล้องไว้ใต้เบาะเสมอ>>
จาก Business area สู่ Dark zone จนเจ้าของ Carlton Hotel ต้องประกาศขายโรงแรมหรูในราคาเพียง 1 แรนด์ (ถ้าไม่รวยจริงประชดชีวิตแบบนี้ไม่ได้นะคะเด็กๆ) อาจจริงอย่างที่คนขาวกล่าวไว้ “คนดำถนัด Burn มากกว่า Build” ผลงานเด่นๆ จำพวกเผาป้ายรถเมล์ เผาสถานีรถไฟ หรือบ้านเรือน มีให้เห็นตามข้างทาง
หมายเหตุ : เนื้อหาด้านบนเรียบเรียงจากเรื่องเล่าของคนในพื้นที่บวกกับการตีความของหม่าม้าเท่าที่ตาเห็น พวกหนูอย่าเพิ่งเชื่อทั้งหมดนะ เมื่อโตขึ้นจงไปสัมผัสและตัดสิน Joburg ด้วยตัวเอง
(เรามาถึงจุดนี้กันตอนค่ำ อากาศหนาวมาก พี่ใสใสกอดหม่าม้าแน่น)
สำหรับ Joburg โซน Northern , Eastern and Western เป็นย่านคนขาวบ้านหลังโตๆ พร้อมรั้วไฟฟ้า โซนเหล่านี้แหล่ะที่ทำให้ความคิดเชิงลบที่มีต่อ South Africa เปลี่ยนเป็น positive thinking ตึกสูงๆ บ้านสวยๆ แทรกตัวอยู่กับ jacaranda trees อย่างลงตัว ถนนกว้างและสะอาด บรรยากาศคล้ายฝั่งยุโรปผสมกับอเมริกา “ไม่ธรรมดาจริงๆ”
จุดชมวิวมุมสูงห่างจากที่พักคุณยายไม่ถึง 10 นาที…สวยและปลอดภัย
• Constitution Hill : พิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับเส้นทางสู่ประชาธิปไตยของแอฟริกาใต้ ถ้าใครใช้บริการ Johannesburg City Sightseeing Bus สถานที่นี้คือจุดเชื่อมระหว่างเส้นทาง Green Tour และ Red City Tour
หม่าม้าเคยพลาดรถเที่ยวสุดท้ายของ City Sightseeing Bus ตรงจุด Carlton Centre (16.10) เพราะมัวแต่เลือกซื้อรองเท้าให้พี่ใสใส เมื่อรู้ว่าตัวเองพลาดหม่าม้าตื่นเต้นมาก เพราะจะโทรหาคุณยายก็กลัวโดนบ่น อินเทอร์เน็ตก็หมด โชคดีได้รับความช่วยเหลือจากเด็กหนุ่มผิวสีที่ลักษณะภายนอกดูไม่น่าไว้ใจ แต่ภายในกับตรงกันข้าม พี่เขาพาพวกหม่าม้าไปส่งขึ้นรถแท็กซี่โดยไม่หวังผลตอบแทนใดๆ สิ่งเหล่านั้นยิ่งทำให้หม่าม้ารู้สึกผิดที่ตอนแรกเลือกเดินหนีและเมินเฉยกับคำเตือนของเขา…เพียงเพราะสีผิวและปากที่คาบบุหรี่
<<ค่าแท็กซี่จาก Carlton Centre ไป Constitution Hill อยู่ที่ราคา 80 แรนด์ ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที>>
การมาเยือน Union Buildings ในฤดูร้อนตอนเที่ยงวัน ไม่ต่างอะไรกับการทำทารุณกรรมผิว แดดที่นี่ร้อนแรงเหลือหลาย ถ้าเลี่ยงได้โปรดเลี่ยงช่วงเวลาอันตรายนี้นะคะ (แก้ม 2 สาวแดงเป็นลูกตำลึง)
..
อัตราค่าเข้ามีหลายแบบ คุณยายเลือกแบบ 199 แรนด์ให้เรา (สามารถขับรถเข้าไปส่องสัตว์ได้เฉพาะโซนเปิด เข้าโซนป่าปิดไม่ได้ คุณยายเล่าให้ฟังว่า “ก่อนหน้านี้มีชาวจีนใจกล้าฝ่ากฎเหล็กของ park ลงจากรถไปถ่ายเซลฟี่กับสิงโต ผลคือโดนขย้ำจนตาย” กฎเขามีไว้ให้ปฎิบัติตามนะคะเด็กๆ อย่าใช้ชีวิตบนความประมาท
อาหารการกินที่นี่ อร่อยจานใหญ่แต่ราคาเบาๆ คล้ายร้านก๋วยเตี๋ยวของเราเลย…อยู่ต่างประเทศหลายวันจนพี่ใสใสบ่นอยากกินก๋วยเตี๋ยวฝีมือปาป๊า…หม่าม้าดีใจนะที่พวกหนูคิดถึงมันและดีใจที่มีคนรีวิวร้านของเราในพันทิปด้วย
<<ขอบคุณจากใจค่ะ>> https://pantip.com/topic/37932382
Lots of Love & Support.
การมาเยือน Johannesburg ครั้งนี้ ทำให้หม่าม้ารู้สึกสบายใจขึ้นมาก เพราะได้มาเห็นกับตาว่าคุณยายของพวกหนูใช้ชีวิตอยู่ที่นี่โดยมี a lots of love support.
สำหรับ EP. 3 หม่าม้าจะกลับมาเล่าต่อถึงความสุข ณ Cape Town ให้ฟังนะคะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้