▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
บันทึกนักเดินทาง
Backpack
เที่ยวต่างประเทศ
ประเทศแอฟริกาใต้
สถานที่ท่องเที่ยวต่างประเทศ
[CR] รีวิวแอฟริกาใต้ ทริปตามใจฉัน...มันส์ (ไม่ได้มีแค่)สัตว์
สวัสดีเพื่อนๆชาวพันทิปทุกคน ปีนี้เรากลับมาอีกแล้ว กลับมาก็จะมาเขียนรีวิวอย่างนี้ทุกปีทุกเมษาแต่เนื่องด้วยทริปนี้แปลกหน่อย แปลกตรงไหนน่ะเหรอ แปลกตรงเราไปเยือนทวีปแอฟริกาครั้งแรกน่ะซิ แล้วมันเริ่มต้นมาจากไหนน่ะเหรอ มันเริ่มมาจากเมื่อ 10 เดือนที่แล้ว เพื่อนในกลุ่มเราดันไปเจอตั๋วถูกแสนถูก ชวนกันไปชวนกันมา รวมตัวกันได้ 9 คน ทริปนี้จึงบังเกิด
เราได้บังเอิญเจอตั๋วในราคา 18,025 บาทของสายการบิน Kenya airways เส้นทางดังต่อไปนี้
6 Apr BKK-Joburg
13 Apr Capetown-Nairobi
16 Apr Nairobi-BKK
27 Apr BKK-Guangzhou <---- route นี้เราตัดสินใจทิ้งเพราะคิดว่าไม่น่ามีอะไรแล้วเดินทางยาวติดกันมาหลายวันแล้ว พอเห็นราคาที่ว่ามานี้ มือลอยไปจองโดยไม่รู้ตัว ทริปนี้จึงได้เกิดขึ้น
ปล.เพิ่มเติมค่ะ วันที่ 8 Apr เราได้ซื้อตั๋วแยกจาก Juburg-Capetownเองโดยสายการบิน Mango airline ราคาอยู่ที่ประมาณ 2,200 บาท เอาล่ะค่ะ ในเมื่อจองตั๋วอะไรเรียบร้อย สิ่งที่ต้องทำต่อไปคือวางแผนเที่ยว เนื่องจากเราต้องแวะไปซาฟารีที่เคนย่าก่อนกลับ เราเลยต้องไปทำวีซ่าเข้าเคนย่าและฉีดวัคซีนไข้เหลืองก่อนไป ราคาวีซ่าก็ประมาณ 1,700 บาท + ไข้เหลือง เข็มละ 700 บาท (ขอข้ามขั้นตอนเลยแล้วกันโน๊ะ)
นั่งนอนรอ และแล้ว 10 เดือนก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว นี่เราจะไปกันจริงๆแล้วใช่ไหม
Day1 6 Apr 2018
6 Apr BKK-Nairobi-Joburgออกเดินทางจากสุวรรณภูมิ 1.15 แวะเปลี่ยนเครื่องที่ไนโรบี สรุปมาถึง Joburgเวลา 11.00 ได้ บนเครื่องเค้าแจกโยเกิร์ตยี่ห้อนี้มาทั้งไปและกลับชอบมาก รดชาดกล่มกล่อม ถ่ายรูปเก็บเอาไว้ซักหน่อย
สรุปกันว่าจะเข้ารร.ก่อนเพื่ออาบน้ำเก็บของแล้วค่อยออกมาเดินเที่ยวและหาอะไรกิน รร. ที่เราจองไปชื่อ Signature Lux hotel อยู่ย่าน Sandtonซึ่งเราหาข้อมูลมาแล้วว่าย่านนี้ปลอดภัย ราคาแพงหน่อยแต่อุ่นใจ แล้วจะมาเราให้ฟังว่า Joburgเนี่ยน่ากลัวและอันตรายขนาดไหนกันเชียว นี่คือห้องพัก ราคาประมาณคืนละ 2000 บาทค่ะ
วันนี้จะลองนั่งรถไฟใต้ดินดูจาก Sandtonไป Rosebank 1 สถานีค่ะ เพราะตอนแรกว่าจะไปซื้อตั๋ว Hop on Hop Off ที่ The Zone @ Rosebank เที่ยวใน Joburgแต่ก็เปลี่ยนใจเพราะเค้าจะปิดแล้ว แล้วพรุ่งนี้เราก็ต้องไปทัวร์ Soweto ด้วย
บรรยากาศด้านหน้ารร. ค่ะ ย่านนี้คือย่าน Sandton ค่ะ
ที่แอฟริกาใต้ก็มีตุ๊กๆด้วยนะเออ
ตอนนี้หิวข้าวมากมาย ที่ The zone นี่จะเป็นเหมือน Mall มีร้านอาหาร ขายของ มื้อแรกขอลองไก่ Nandoเนื่องจากหิวมากเลยไม่ได้ถ่ายรูปอาหาร
ที่ south africaนี่เราชอปโค้กรดชาดนี้มาก เป็นรดหญ้าหวาน
หลังจากหาอะไรอิ่มท้อง เราก็ว่าจะหาที่เดินเล่น เลยเดินไปถามพนักงานที่ขายตั๋ว Hop on Hop Off ว่ามีที่ไหนน่าเที่ยวในเวลาบ่ายแก่ๆใกล้จะเย็นแล้วมั่ง เค้าบอกต้องที่นี่เลย "Art on Main" ฟังชือแล้วมันจะต้องเป็นถนนที่ขายของ local แน่ๆ แต่ๆ อย่าเพิ่งชะล่าใจไป มันเป็นแบบนี้ กลัวแล้วจ้าพี่จ๋า
คือเราเรียก uberจาก The zone มา Art on main ระหว่างทางอยู่บนรถ พี่ในกลุ่มเราที่มาด้วยกันก็ถ่ายรูปวิวระหว่างทางไปเรื่อยเปื่อย แต่พี่ๆที่ยืนปิ้งไก่อยู่ริมถนนนางไม่ยอม วิ่งมาชี้หน้า แล้วก็ตะโกนเสียงดังๆ ทันใดนั้นจึงรีบเก็บกล้องลงทันที มารู้ว่าที่ south africa นี่ต้องระวังเรื่องการถ่ายรูปมากๆ เพราะเค้าคิดว่ามันเป็น privacy ของเค้า บางทีก็ต้องขออนุญาติเค้าก่อนนะคะ ไม่ใช่นึกอยากจะถ่ายอะไรก็ถ่ายได้นะ
บรรยากาศที่ Art on main ค่ะ
ไม่รู้จะเดินไปไหน มองซ้ายมองขวาช้อปปิ้งแล้วกัน
จากนั้นรีบเรียก uberกลับรร. โดยเร็วที่สุด รู้สึกไม่ปลอดภัย จบไป 1 วันใน Joburg
Day2 7 Apr 2018
วันนี้เราซื้อทัวร์ไป Soweto ย่านสลัมที่โด่งดัง ห่างจากตัวเมือง Joburgไปสัก 30 นาทีได้ เราติดต่อบริษัททัวร์ให้มารับที่รร. เค้าเป็นทัวร์ 4 ชม. ราคาต่อคน R330 หรือประมาณ 840 บาท เหตุผลที่เลือกมาทัสร์สลัมที่นี่เพราะดูรายการเถื่อน travel เห็นพี่สิงห์พาไป แล้วแบบมันต้องลองสักครั้งในชีวิต
9 โมงเช้า ทัวร์ก็มารับเรา ระหว่างไป Soweto เห็นสนามกีฬารูปร่างแปลกตาดี เลยให้เค้าแวะไปถ่ายรูปแปปนึงค่ะ
ที่Soweto เค้าพาไปที่นี่ที่แรกค่ะ เป็นเหมือนหอคอยยที่มีบันได้ 49 ขั้น ขึ้นไปก็จะเห็นวิว Soweto ทั้งเมืองเลยค่ะ ชื่อว่า "Helmet tower"
ภาพมุมสูงซักภาพ
ที่ต่อไปเค้าพาไป Hector Pieterson Memorial and Museum ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีเหตุการณ์ปะทะกันเรื่องเหยียดสีผิว แล้วเด็กอายุ 12 ปีถูกยิงเสียชีวิตซึ่งก็คือ Pietersonนั่นเอง ถ่ายแต่ข้างหน้ามา เค้าห้ามถ่ายภาพข้างในค่ะ ที่นี่รู้สึกหดหู่อย่างบอกไม่ถูก
ออกมาด้านนอก ถูกใจเป็นที่สุด มีของขาย handmade เอาจริงๆตอนนั้นคิดว่ามันแพง แต่พอไปเคปทาวน์แล้วแพงกว่าหลายเท่าตัว น่าเสียดายจริงๆ
เราบอกทัวร์ว่าอยากให้เค้าพาไปเดินในย่านบ้านคน อยากเห็นสภาพความเป็นอยู่ ทัวร์ก็จัดไปตามใจลูกค้า
เราชอบที่นี่มากนะคะ พอไปถึงเหมือนเด็กๆดีใจมากที่มีคนไปดูบ้านเค้า ไปเยี่ยมเค้า วิ่งเข้ามา ต่างก็พูดว่า "sweet sweet"
กลับมารู้สึกว่า คนที่นี่ ถึงแม้ว่าความเป็นอยู่จะไม่ได้หรูหราอะไร แต่ทุกคนดูมีความสุขกับสิ่งที่เค้ามี ยิ้มให้ พูดคุยด้วย เอาล่ะค่ะ เรากลับมาเรื่องกินกันบ้าง เราแวะกินข้าวกลางวันกันที่ Soweto อาหารส่วนมากจะเป็นเนื้อ สเต๊ก ประมาณนี้ค่ะ
ขาวๆซ้ายมือที่นู่นเค้าเรียกว่า PAP ค่ะ ลองสั่งมาดู รดชาดคล้ายๆซาลาเปาเปียก
จากนั้นเราเรียก Uber ไปยัง Carlton Centre เพราะหาข้อมูลมาว่าที่นี่เราสามารถขึ้นไปดูวิวแบบเห็น 360 องศาของ Joburgได้ ค่าขึ้นก็ประมาณ 300 บาท จ่ายให้รปภ. ข้างล่าง (คิดว่าโดนหลอกเช่นเคย)
ถ่ายรูปหมูรวมๆซักหน่อย
จากนั้นเราตั้งใจจะกลับรร.เพราะอยากไปถ่ายรูป Nelson ที่ Nelson Mandela Square ให้ทันก่อนพระอาทิดย์ตกดินเพราะรร.เราอยู่ติดกันเลย แต่มันไม่ง่ายแบบนั้น จะเรียก uberก็เรียกไม่ได้ taxi ก็แพงเท่าตัวนึง เลยตัดสินใจเดินไปถามรปภ. เค้าบอกว่ายูจะเรียก uberที่นี่ไม่ได้เลยนะ เพราะมี taxi เจ้าถิ่นอยู่ ทะเลาะกันบ่อยมาก ไม่มี uberกล้ามาในย่านนี้หรอก เอาแล้วไง เค้าบอกมานี่ไอจะพาพวกยู ยู ไปเรียก uberอีกที่ที่ปลอดภัยนะ เราถามเค้าว่าที่ไหนก็ไม่บอก แต่พวกเรา 9 คนก็เดินตามเค้าไปนะ งง มาก ทั้งลงบันไดเลื่อน ขึ้นลิฟท์ มาโผล่อีกทีที่ลานจอดรถ แล้วเค้าก็บอกว่า เนี่ย เรียกเลยที่นี่ ใส่ไปใน uberว่าให้มารับที่ parking no.1 carlton center แต่ก็เป็นอีกแฮะ ไม่มี uberมาถูกซักคัน เนื่องจากเราต้องเรียก 2 คันเพราะมากัน 9 คน คันนึงมาถูก อีกคันมาไม่ถูก โดนยกเลิกไปประมาณ 3 คันได้ คันแรกเค้าก็ดีนะคะ ไม่ยอมไปก่อน ช่วยเรียกและสื่อสารอีกคันให้ได้เพื่อไปพร้อมกันสุดท้ายไม่ได้ คันแรกก็เลยโทรเรียกเพื่อนเค้าให้มาแทน พวกเราซาบซึ้งในน้ำใจมาก ตอนแรกกะว่าจะให้ทิป ปรากฏพอมาถึงรร. เค้าคิดราคาแพงมากกว่าที่ uberโชว์ บอกว่าค่าเสียเวลา เราเลยไม่ให้ทิปเลยค่ะ ไม่จ่ายก็ไม่ได้ ไม่ยอมไป เห่ออ!! มานี่ก็มาเสียค่าเดินทางซะเป็นส่วนมาก
สุดท้ายแล้วก็ยังมีอะไรดีๆอยู่บ้าง ได้ถ่ายรูปกับ Nelson Mandela ในตอนพลบค่ำซักหน่อย ก่อนเราจะบินไปเคปทาวน์กันพรุ่งนี้