สวัสดีค่ะ ใครแวะเข้ามาอ่าน ก็อยากจะให้อ่านให้จบเลยนะคะ ยาวหน่อย แต่รับรองมีประโยชน์แน่นอนค่ะ
ไม่ค่อยได้มีโอกาสแวะเข้ามานานมาก ๆ แล้ว แต่พอดีมีเหตุการณ์ที่คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้หญิงทุก ๆ คนเลยอยากจะเข้ามาเล่าประสบการณ์ค่ะ
เรื่องที่ยังไม่ได้ตั้งชื่อแต่ตั้งใจจะเล่า 55555
สามบรรทัดยังไม่ไปไหนเลย เข้าเรื่องเลยล่ะกัน คืองี้ค่ะคุณ "ดิฉันตรวจเจอเชื้อ HPV ค่ะ" กระทู้นี้ไม่ได้มาถามว่าควรต้องทำยังไงแต่จะเป็นกระทู้เพื่อเล่าแนวทางในการดูแลและรับการรักษาค่ะ
เมื่อก่อนโรคมะเร็งเนี่ย เวลาเราๆ ได้ฟังกันมักจะคิดว่ามันเป็นเรื่องไกลตัวมาก แต่ในปัจจุบันนี้โรคนี้เป็นโรคฮิตฮอต (จริง ๆ ไม่ได้มีใครอยากเป็นเน๊อะ) ติดโผอันดับต้น ๆ ที่คร่าชีวิตมนุษย์เลยก็ว่าได้ และเมื่อปีที่แล้วนี่เองเราเพิ่งเสียแม่ไปด้วยโรคมะเร็ง ตัวเราเองเนี่ยก็เพิ่งได้ข่าวว่าเพื่อนที่เคยร่วมงานป่วยเป็นมะเร็งกระดูกเมื่อช่วงต้นปี ยังได้ส่งเงินไปร่วมสมทบค่ารักษาเพื่อนคนนั้นอยู่เลย พอช่วงเดือนมิถุนายน 2561 ก็ได้ข่าวว่าญาติห่าง ๆ เสียชีวิตเพราะตรวจพบมะเร็งปากมดลูกในระยะสุดท้าย เข้าโรงพยาบาลได้เพียงสัปดาห์เดียวก็จากไป ยิ่งทำให้เรารู้สึกฉุกคิดว่าสักวันนึงมันจะเป็นเราหรือเปล่า แต่ความคิดนั้นก็ไม่ได้มีผลอะไรกับเรามากเพราะเรายังรู้สึกว่าเราแข็งแรงดี ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร อีกอย่างก็ตรวจสุขภาพอยู่เรื่อย ๆ สังเกตุตัวเองอยู่เสมอ ทำให้มั่นใจมากว่าเราไม่น่าจะเป็นอะไร นี่คือเราค่ะ
แต่ก็มีเหตุการณ์ที่ทำให้เราต้องเข้าพบหมอ เนื่องจากเมื่อช่วงต้น ๆ ปี ได้ไปตรวจเลือดทิ้งไว้ แล้วหมอไม่โทรมาแจ้งผลเลือด ประกอบกับมีอาการวิงเวียนเลยตัดสินใจนัดหมอ ปรากฎหมอคนเก่าย้ายเลยได้พบกับหมอคนใหม่ ไปถึงก็คุยปกติ หมอบอกผลเลือดเราปกติดี ไม่มีปัญหาอะไรก็สบายใจกันไป แต่ด้วยความที่เสียเงินค่าหมอแล้วงัย หมอเลยชวนคุยเรื่องมะเร็งปากมดลูก ชวนคุยยังไม่พอหมอถามต่อว่าตรวจมะเร็งปากมดลูกครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ เราก็ตอบไปสามปีที่แล้วค่ะ 555 หมอบอกเฮ้ยยยนานไปแระ ว่าแล้วหมอคนสวยก็ชวนตรวจ แพ๊บเมียร์ด้วยเลย เอาก็เอาค่ะหมอเพื่อความปลอดภัย จากนั้นก็นัดวันเพื่อทำการตรวจ และนี่คือจุดเริ่มต้นค่ะ 5555555
เรากลับไปหาหมออีกทีตอนต้นเดือน มิถุนายน 2561 ตามนั้นเพื่อตรวจ แพ๊บเมียร์ ใช้เวลาตรวจไม่นานหลังจากนั้นผลจะออกอีกก็ประมาณหนึ่งสัปดาห์ หมอบอกว่าถ้าผลตรวจครั้งนี้ปกติดีอีกห้าปีเราถึงจะได้ตรวจอีกรอบ โอ้ย ดีจังค่ะหมอ บอกหมอไปด้วยความมั่นใจมาก ๆ ๆ กลับบ้านไปสบายใจไม่ได้สนใจว่าผลจะเป็นงัยด้วยซ้ำ เพราะ ความมั่นใจในความฟิตของตัวเอง 555555
วันที่ 7 มิถุนายน 2561 เราได้รับโทรศัพท์จากหมอค่ะ ที่นี่ถ้าหมอโทรมาและนัดเราเข้าไปเจออีกรอบนี่คือแบบเสียว ๆ 555 เพราะมันน่าจะมีอะไรที่ไม่ปกติเกิดขึ้น หมอบอกให้เข้าไปเจอในวันรุ่งขึ้นเลยเกี่ยวกับผลตรวจแพ๊บเมียร์และไม่ได้บอกอะไรมากไปกว่านี้ จังหวะนี้ค่ะคุณ จังหวะนี้นี่เองความมั่นใจที่เคยมีหดลงเหลือนิดเดียว พร้อมกับคำถามในหัว "นี่ชั้นกำลังจะเจออะไร" นับเวลาให้ถึงวันพรุ่งนี้ไวไว อยากรู้มากกกกกกกกกกกกกกก
8 มิย 61 ไปค่ะไปเจอหมอกันแต่เช้ากันเลย ไปคนเดียวด้วย พอถึงเวลาหมอเรียกพบ เวลาที่รอคอย 5555 หมอกางกระดาษเอสี่ในแผ่นนั้นตัวหนังสือใหญ่มาก ๆ นั่นคือกระดาษรายงานผลการตรวจของเราด้วยความอยากรู้อยากเห็นนี่หมอยังไม่คุยนะ แค่กางกระดาษให้ดู HPV16 High risk need to be treat urgent... bla bla bla ว้อทเดอะฟ้อกกกกกกกกกกกกกกก สรุปค่ะ หมอบอก ผลการตรวจคือ เรามีเชื่อ HPV16 ในบริเวณปากมดลูกและเชื้อนี้มีผลทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูกสูงและหมอจำเป็นจะต้องส่งตัวเราไปให้หมอเฉพาะทางทำการตรวจอีกรอบเพื่อความแน่ใจว่าเชื้อที่พบในขั้นต้นเนี่ยไปถึงระยะไหนแล้ว ไม่ต้องตกใจ ไม่ต้องกังวล จากนั้นก็ทำหนังสือส่งตัวเราทันที ในขณะที่ตัวเราเนี่ย ชาไปหมด สั่นไปหมด เพราะความมั่นใจที่มีตอนนี้หายเข้ากลีบเฆมไปหมดแล้ว 5555555 ขอลาค่ะหมอ
ผ่านไปหนึ่งอาทิตย์ ไม่มีวี่แววของน้องหมอ พี่หมอ ป้าหมอ รพ หรืออะไรทั้งนั้น ไม่มีแม้แต่ข้อความ ในขณะนั้นค่ะ ความอยากรู้อยากเห็นก็พุ่งเต็มที่ เอชพีวีคืออะไร จะคล้าย ๆ กับพีวีซีหรือไม่ หรือทำไมชื่อคล้ายกับเอชไอวีจังเปลี่ยนแค่ตัวตรงกลางแค่นั้นเอง 5555 วิญญาณของนักวิจัยก็มาค่ะ โชคดีที่มีอินเตอร์เน็ต ก็อ่านค่ะ อ่านเรื่อยเปื่อย เพื่อสนองความอยากรู้ เลยได้ความรู้มาเล่านิดหน่อย ขออนุญาตไม่อ้างอิงเพราะจำไม่ได้ แต่จากการอ่านพบว่า เชื้อเอชพีวี เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูก แต่อย่าเพิ่งตกใจไป เอชพีวีมีหลายสายพันธุ์มาก ๆ แต่ละสายพันธุ์ก็จะมีผลแตกต่างกันไป สายพันธุ์ที่เสี่ยงมากที่สุดถึง 70% ที่ทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูกคือ HPV16 (เราได้รับสายพันธุ์นี้) โดยปกติติดต่อทางเพศสัมพันธุ์ โดยผู้ชายได้รับเชื้อและสามารถแพร่เชื้อไปยังคู่นอนหรือภรรยาได้ถ้าไม่ได้สวมถุงยางอนามัย ง่าย ๆ คือ เค้ามีแต่เค้าจะไม่เป็นอะไรเพราะเค้าไม่มีที่อยู่ให้กับเชื่อนี้ แต่ถ้าเชื้อถูกปล่อยมายังเราที่มีมดลูก น้องเค้าจะอยู่ได้สบายมาก ถึงอย่างนั้นก็ช่างเถอะ ถ้ารับเชื้อมาแล้ว ปกติเค้าก็บอกว่าร่างกายสามารถกำจัดเชื้อออกได้เองภายใน 1 ถึง 2 ปีหลังจากรับเชื้อ (ดังนั้นอย่าเพิ่งกังวลให้มากนะคะ) แต่ในกรณีของเราร่างกายกำจัดออกไม่ได้ทำให้เกิดเชื้ออยู่ในปากมดลูกเราค่ะ
มะเร็งปากมดลูก โรคร้ายป้องกันได้ ที่ฉันเกือบจะเป็น
ไม่ค่อยได้มีโอกาสแวะเข้ามานานมาก ๆ แล้ว แต่พอดีมีเหตุการณ์ที่คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้หญิงทุก ๆ คนเลยอยากจะเข้ามาเล่าประสบการณ์ค่ะ
เรื่องที่ยังไม่ได้ตั้งชื่อแต่ตั้งใจจะเล่า 55555
สามบรรทัดยังไม่ไปไหนเลย เข้าเรื่องเลยล่ะกัน คืองี้ค่ะคุณ "ดิฉันตรวจเจอเชื้อ HPV ค่ะ" กระทู้นี้ไม่ได้มาถามว่าควรต้องทำยังไงแต่จะเป็นกระทู้เพื่อเล่าแนวทางในการดูแลและรับการรักษาค่ะ
เมื่อก่อนโรคมะเร็งเนี่ย เวลาเราๆ ได้ฟังกันมักจะคิดว่ามันเป็นเรื่องไกลตัวมาก แต่ในปัจจุบันนี้โรคนี้เป็นโรคฮิตฮอต (จริง ๆ ไม่ได้มีใครอยากเป็นเน๊อะ) ติดโผอันดับต้น ๆ ที่คร่าชีวิตมนุษย์เลยก็ว่าได้ และเมื่อปีที่แล้วนี่เองเราเพิ่งเสียแม่ไปด้วยโรคมะเร็ง ตัวเราเองเนี่ยก็เพิ่งได้ข่าวว่าเพื่อนที่เคยร่วมงานป่วยเป็นมะเร็งกระดูกเมื่อช่วงต้นปี ยังได้ส่งเงินไปร่วมสมทบค่ารักษาเพื่อนคนนั้นอยู่เลย พอช่วงเดือนมิถุนายน 2561 ก็ได้ข่าวว่าญาติห่าง ๆ เสียชีวิตเพราะตรวจพบมะเร็งปากมดลูกในระยะสุดท้าย เข้าโรงพยาบาลได้เพียงสัปดาห์เดียวก็จากไป ยิ่งทำให้เรารู้สึกฉุกคิดว่าสักวันนึงมันจะเป็นเราหรือเปล่า แต่ความคิดนั้นก็ไม่ได้มีผลอะไรกับเรามากเพราะเรายังรู้สึกว่าเราแข็งแรงดี ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร อีกอย่างก็ตรวจสุขภาพอยู่เรื่อย ๆ สังเกตุตัวเองอยู่เสมอ ทำให้มั่นใจมากว่าเราไม่น่าจะเป็นอะไร นี่คือเราค่ะ
แต่ก็มีเหตุการณ์ที่ทำให้เราต้องเข้าพบหมอ เนื่องจากเมื่อช่วงต้น ๆ ปี ได้ไปตรวจเลือดทิ้งไว้ แล้วหมอไม่โทรมาแจ้งผลเลือด ประกอบกับมีอาการวิงเวียนเลยตัดสินใจนัดหมอ ปรากฎหมอคนเก่าย้ายเลยได้พบกับหมอคนใหม่ ไปถึงก็คุยปกติ หมอบอกผลเลือดเราปกติดี ไม่มีปัญหาอะไรก็สบายใจกันไป แต่ด้วยความที่เสียเงินค่าหมอแล้วงัย หมอเลยชวนคุยเรื่องมะเร็งปากมดลูก ชวนคุยยังไม่พอหมอถามต่อว่าตรวจมะเร็งปากมดลูกครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ เราก็ตอบไปสามปีที่แล้วค่ะ 555 หมอบอกเฮ้ยยยนานไปแระ ว่าแล้วหมอคนสวยก็ชวนตรวจ แพ๊บเมียร์ด้วยเลย เอาก็เอาค่ะหมอเพื่อความปลอดภัย จากนั้นก็นัดวันเพื่อทำการตรวจ และนี่คือจุดเริ่มต้นค่ะ 5555555
เรากลับไปหาหมออีกทีตอนต้นเดือน มิถุนายน 2561 ตามนั้นเพื่อตรวจ แพ๊บเมียร์ ใช้เวลาตรวจไม่นานหลังจากนั้นผลจะออกอีกก็ประมาณหนึ่งสัปดาห์ หมอบอกว่าถ้าผลตรวจครั้งนี้ปกติดีอีกห้าปีเราถึงจะได้ตรวจอีกรอบ โอ้ย ดีจังค่ะหมอ บอกหมอไปด้วยความมั่นใจมาก ๆ ๆ กลับบ้านไปสบายใจไม่ได้สนใจว่าผลจะเป็นงัยด้วยซ้ำ เพราะ ความมั่นใจในความฟิตของตัวเอง 555555
วันที่ 7 มิถุนายน 2561 เราได้รับโทรศัพท์จากหมอค่ะ ที่นี่ถ้าหมอโทรมาและนัดเราเข้าไปเจออีกรอบนี่คือแบบเสียว ๆ 555 เพราะมันน่าจะมีอะไรที่ไม่ปกติเกิดขึ้น หมอบอกให้เข้าไปเจอในวันรุ่งขึ้นเลยเกี่ยวกับผลตรวจแพ๊บเมียร์และไม่ได้บอกอะไรมากไปกว่านี้ จังหวะนี้ค่ะคุณ จังหวะนี้นี่เองความมั่นใจที่เคยมีหดลงเหลือนิดเดียว พร้อมกับคำถามในหัว "นี่ชั้นกำลังจะเจออะไร" นับเวลาให้ถึงวันพรุ่งนี้ไวไว อยากรู้มากกกกกกกกกกกกกกก
8 มิย 61 ไปค่ะไปเจอหมอกันแต่เช้ากันเลย ไปคนเดียวด้วย พอถึงเวลาหมอเรียกพบ เวลาที่รอคอย 5555 หมอกางกระดาษเอสี่ในแผ่นนั้นตัวหนังสือใหญ่มาก ๆ นั่นคือกระดาษรายงานผลการตรวจของเราด้วยความอยากรู้อยากเห็นนี่หมอยังไม่คุยนะ แค่กางกระดาษให้ดู HPV16 High risk need to be treat urgent... bla bla bla ว้อทเดอะฟ้อกกกกกกกกกกกกกกก สรุปค่ะ หมอบอก ผลการตรวจคือ เรามีเชื่อ HPV16 ในบริเวณปากมดลูกและเชื้อนี้มีผลทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูกสูงและหมอจำเป็นจะต้องส่งตัวเราไปให้หมอเฉพาะทางทำการตรวจอีกรอบเพื่อความแน่ใจว่าเชื้อที่พบในขั้นต้นเนี่ยไปถึงระยะไหนแล้ว ไม่ต้องตกใจ ไม่ต้องกังวล จากนั้นก็ทำหนังสือส่งตัวเราทันที ในขณะที่ตัวเราเนี่ย ชาไปหมด สั่นไปหมด เพราะความมั่นใจที่มีตอนนี้หายเข้ากลีบเฆมไปหมดแล้ว 5555555 ขอลาค่ะหมอ
ผ่านไปหนึ่งอาทิตย์ ไม่มีวี่แววของน้องหมอ พี่หมอ ป้าหมอ รพ หรืออะไรทั้งนั้น ไม่มีแม้แต่ข้อความ ในขณะนั้นค่ะ ความอยากรู้อยากเห็นก็พุ่งเต็มที่ เอชพีวีคืออะไร จะคล้าย ๆ กับพีวีซีหรือไม่ หรือทำไมชื่อคล้ายกับเอชไอวีจังเปลี่ยนแค่ตัวตรงกลางแค่นั้นเอง 5555 วิญญาณของนักวิจัยก็มาค่ะ โชคดีที่มีอินเตอร์เน็ต ก็อ่านค่ะ อ่านเรื่อยเปื่อย เพื่อสนองความอยากรู้ เลยได้ความรู้มาเล่านิดหน่อย ขออนุญาตไม่อ้างอิงเพราะจำไม่ได้ แต่จากการอ่านพบว่า เชื้อเอชพีวี เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูก แต่อย่าเพิ่งตกใจไป เอชพีวีมีหลายสายพันธุ์มาก ๆ แต่ละสายพันธุ์ก็จะมีผลแตกต่างกันไป สายพันธุ์ที่เสี่ยงมากที่สุดถึง 70% ที่ทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูกคือ HPV16 (เราได้รับสายพันธุ์นี้) โดยปกติติดต่อทางเพศสัมพันธุ์ โดยผู้ชายได้รับเชื้อและสามารถแพร่เชื้อไปยังคู่นอนหรือภรรยาได้ถ้าไม่ได้สวมถุงยางอนามัย ง่าย ๆ คือ เค้ามีแต่เค้าจะไม่เป็นอะไรเพราะเค้าไม่มีที่อยู่ให้กับเชื่อนี้ แต่ถ้าเชื้อถูกปล่อยมายังเราที่มีมดลูก น้องเค้าจะอยู่ได้สบายมาก ถึงอย่างนั้นก็ช่างเถอะ ถ้ารับเชื้อมาแล้ว ปกติเค้าก็บอกว่าร่างกายสามารถกำจัดเชื้อออกได้เองภายใน 1 ถึง 2 ปีหลังจากรับเชื้อ (ดังนั้นอย่าเพิ่งกังวลให้มากนะคะ) แต่ในกรณีของเราร่างกายกำจัดออกไม่ได้ทำให้เกิดเชื้ออยู่ในปากมดลูกเราค่ะ