นิทานชีวิต

นิทานชีวิต 5คณะ
สวัสดีค่ะเรื่องที่ดิฉันจะเล่าต่อไปนี้นำมาจากเรื่องจริงในชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่งจุดประสงค์ที่มาเล่าไม่ได้อยากดังหรือเป็นจุดสนใจนะคะแต่อยากจะแชร์มุมชีวิตของคนที่พ่ายแพ้ต่อตัวเองมาทั้งชีวิตเรียกได้ว่าชีวิตล้มเหลวเลยก็ได้ค่ะรวมทั้งอยากเป็นกำลังใจให้น้องๆหนูวัยเรียนหรือคนที่เคยเจออะไรคล้ายๆกับเธอจะพยายามย่อให้สั้นที่สุดนะคะ
สมมุติว่าคือ นางสาวเอ
นางสาวเอเป็นลูกครึ่งไทยจีน ครอบครัวมุสลิม บ้านของเธออยู่ทางภาคเหนือตอนบนของประเทศไทเอตอนอยู่โรงเรียนมักไม่สนใจเรียนชอบเล่นเป็นเด็กร่าเริง ดื้อรั้น เอาแต่ใจ ไม่กลัวใครในสมัยเด็กๆน้องเอมีเพื่อนเยอะเหมือนเด็กทั่วไปจนกระทั่ง
  เมื่อเธอขึ้น ม.ปลาย ในโรงเรียนกระโปรงสีแดง เอเรียนอยู่ศิลป์ฝรั่งเศส เอตั้งใจเรียนหนังสือแต่ไม่อยากแสดงออกให้ใครรู้ว่าขยัน(เอคิดว่าการเป็นเด็กเกเรแล้วอยู่ๆกลับใจมาตั้งใจเรียนมันดูหน้าอาย)
ที่บ้านคิดว่าเอมีทางสอบได้มหาวิทยาลัยสีม่วงเพราะความไม่เอาถ่าน
ปล.พ่อแม่เอจบสูงกว่าระดับ ป.ตรีทั้งคู่
เธอมีเพื่อนสนิทคนเดียวในห้องเรียนที่สนิทกันเพราะชอบนั่งอ่านการ์ตูนในเวลาเรียน
ทุกวันเอและเพื่อนจะเช่าหนังสือการ์ตูนมาอ่านวันละ 20เล่มแลกกับเพื่อนๆในห้องบ้างหรือต่างห้องบ้างนั่นคือความสุขเล็กๆภายในโรงเรียนเอทำงานเป็นบรรณารักษ์น้อยประจำห้องสมุดของโรงเรียนเลยนะ
เหตุผลเพราะนางอยากอ่านหนังสือที่มาใหม่ก่อนคนอื่น
ด้วยความที่นางสาวเอตัวโต 168 cm น้ำหนักเท่าไหร่ไม่รู้
ผมบางเล็กผิวคล้ำและอ้วนจึงถูกเพื่อนล้อเพื่อนแกล้งบ่อยๆแถมยังมีฉายาว่า
“ปุ๊นี”และ” ปุ๊นีหัวหลิม” ฉายานี้ได้มาจากเพื่อนในห้องอยากรู้ชื่อมุสลิมของเธอ
ที่จริงๆคือ ฮุสนา ที่แปลว่าสวยเอเกลียดชื่อ ปุ๊นี มากเธอรู้สึกเหมือนโดนดูถูกเหยียดหยาม
เอจบ ม.6 ด้วยเกรดเฉลี่ยเพียง 1.86 (น้อยเน้อะ)
ตอนแรกพ่อนางให้ไปสมัครที่ มฟลคร่า แต่บังเอิญเกรดนางไม่ถึงเขาไม่รับ
ใครจะคิดว่าเอก็สอบติดโควตาภาคเหนือของมหาวิทยาลัยสีม่วง
รหัส 48xxxx คณะที่เกี่ยวกับการสอน
ช่วงนั้นเออายุ 18ปี เธอลดความอ้วนด้วยวิธีผิดๆ
ใช่ละค่ะ เธอเริ่มซื้อยาลดความอ้วนกินตั้งแต่ตอนนั้นเพราะอยากผอม อยากขาว อยากสวย
เอไม่ชอบการรับน้อง ไม่ชอบกฎ เธอไม่สามารถใช้ชีวิตเดิมๆเหมือนตอนเรียนมัธยมได้
(ชีวิตที่เรียนๆเล่นๆ)
สุดท้ายเอเลิกเรียนด้วยสาเหตุเดิมคือเข้ากับเพื่อนไม่ได้จึงย้ายไปสมัครคณะกฎหมายในมหาลัยสีม่วงเหมือนเดิม
เอเป็นนักศึกษาในรหัส 50xxxxx เอแอบไปบอกชอบ ผช. คนนึงเพราะเพื่อนยุว่าเขามีใจให้เธอ
แล้วนังเอก็โดนปฏิเสธจนเข้าหน้า ผช ไม่ติดอายเพื่อนๆ (เดี๋ยวเรามาเล่าเรื่องผมเอกัน)
เอกินยาลดน้ำหนักมากขึ้นเรื่อยๆ จนผอมที่สุดคือ 45 กิโล
และแน่นอนเธอสวยเอต่อผมให้ยาวดูหนาเพื่อความมั่นใจแต่ยังไงมันก็ผมปลอมไหมไม่ได้สวยจริง
การที่อยากสวยทางลัดไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ เอบอกว่าเริ่มเห็นภาพหลอน หูแว่ว นอนไม่หลับ
เรียนก็มึนๆงงๆแถมยังมีแฟนโดดเรียนไปเที่ยวจนใกล้สอบเอเริ่มท้ออ่านหนังสือไม่ทันไม่อยากเรียน
เอจึงปล่อยให้พ้นสภาพการเป็นนักศึกษาไม่มาติดต่อทำเรื่องลาออกที่มหาวิทยาลัยแต่อย่างใด
พ่อแม่เอเสียใจมากที่เอโกหกว่าเรียนขอเงินไปก็เอาไปซื้อยาลดน้ำหนักต่อผมช้อปปิ้ง
อายุเอน่าจะประมาณ 20-21 เป็นวัยที่คนส่วนใหญ่ควรเรียนจบกันแล้ว
เออายเพื่อนจนไม่กล้าออกจากบ้านน้ำหนักตัวก็กลับมาเพิ่มเพราะโยโย่
เอไม่ติดต่ออาจารย์หรือเพื่อนที่คณะเลยเธอเริ่มเก็บตัวไม่คบใครจนมีอาการซึมเศร้าที่บ้านพาเอไปหาหมอเป็นช่วงแรกนางดื้อไม่ยอมกินยา (ให้เหตุผลว่ายาที่นางกินทำให้นางง่วงและไม่อยากทำอะไรนอกจากนอน)
ระหว่างที่กินเอก็ยังไม่เลิกซื้อยาลดความอ้วนอีกเธออยากผอมด้วยวิธีสบายๆ (ยังไม่จบเรื่องผอม)
พ่อแม่ขอให้เอไปเรียนอีกครั้ง(ท่านเชื่อว่าเธอสามารถเรียนได้พ่อแม่รักมากให้โอกาส)
แต่เธอไม่อยากเรียนที่เดิมอายเพื่อนโรงเรียนเก่าหรือเพื่อนคณะเก่ากลัวเขาจำหน้าได้ว่าซิ่วมาสองปี
จึงตัดสินใจไปสมัครที่ใหม่เป็นมหาลัยสีเหลืองเหลืองที่ใครๆคิดว่าเป็นเกรด2
คณะแรกที่เอไปเยือนคือสายมนุษย์ในรหัส 52xxxxx แต่นั่นแหละค่ะ
เหมือนเดิม เออยู่ไม่รอดคือนางไม่ชอบสังคมเพื่อนชวนไปเที่ยวกลางคืนกินเหล้าฟังเพลงนางไม่ไป
ตอนไปเรียนเอบอกอายค่ะเหมือนเป็นนางฟ้าตกสวรรค์ถ่อววววแม่อีโก้สูงไม่ยอมเข้าเรียน
อยู่บ้านเล่นเกมจนแล้วจนรอดก็ถูกพ้นสภาพมาอีกไม่ลาออกอีกแล้วครับท่าน
ยังไม่จบเอ ย้ายมาคณะที่สองคือครูค่ะ
รหัสตามมาติดๆเลย 53xxxxxx
แต่ก็ไม่ถูกใจนางอีก (ดีละที่ไม่ได้เป็นครูสอนใคร)
อ้างไม่ชอบเพื่อน ไม่ชอบสังคม มาเรียนไม่ได้มาหาเพื่อน
ไม่ชอบรับน้อง คุยกับเพื่อนไม่รู้เรื่องสรุปนะคะนางก็อยู่บ้านเล่นเกมปล่อยให้โดนรีไทร์แถมไปโกหกคนอื่นว่าเรียนจบแล้วอีกใครๆคนรอบข้างคิดว่าเอขี้เกียจไม่เอาไหน
เอเห็นแม่ร้องไห้ พ่อเสียใจ เริ่มสำนึก (ชั่วมากเพิ่งมาคิดได้) เอเลิกกินยาลดความอ้วนและไปหาหมอตามนัดทุกครั้ง
(ไปบ่อยแรกๆอาการหนัก)
เอเริ่มดีขึ้นเพราะกินยา อาการหูแว่ว ฯลฯ เริ่มหาย
ต่อมาเอทำงานกับที่บ้านตอนนั้นน่าจะอายุประมาณ 25 ปี หรือ 2555
คิดอยากกลับไปเรียนอีกครั้งเอเลือกคณะบัญชี
(นางลืมตัวว่านางเกรด 0 คณิตศาสตร์ ม.ปลาย 3ปีซ้อน+พ่อเอบอกให้เลือก)
เอจึงเลือกนิเทศอันดับสองเพราะคิดว่าบัญชีไม่ได้หรอกลงขำขำ
เหมือนฟ้ากลั่นแกล้งเมื่อวันประกาศผลสอบเข้าเรียน
นางสาวเอเกรด 0 คณิตศาสตร์ได้เรียนบัญชีค่ะ (โอ้แม่เจ้ามันรอดไปได้ไงนี่)
เอรีบไปขอร้องพ่อให้เธอสอบใหม่หรือย้ายคณะแต่ครั้งนี้คือครั้งสุดท้ายที่พ่อแม่จะให้โอกาสเธอเรียน
เอร้องไห้โวยวายบอกว่า เธอไม่มีวันทำได้เธอต้องสอบตกแน่ๆ
พ่อเอกลับพูดว่า สอบตกก็ลงใหม่จะลงเป็นสิบยี่สิบครั้งก็ได้จนกว่าจะผ่านนั่นแหละ (อิเอซวยแล้วว)
เอหาครูสอนพิเศษค่ะนางไม่มีพื้นฐานทางบัญชีเลย (ปกติก็ไม่เคยเรียน)
ครูสอนพิเศษคนแรกที่นางนัดไปเจอที่ร้านโดนัทบอกกับนางทันทีที่เริ่มเรียนว่า
หนูเอ ย้ายคณะเถอะไปเรียนอย่างอื่นดีกว่าหนูไม่รอดหรอก
เอกลับไปร้องไห้โวยวายกับพ่ออีกครั้งว่าไม่เอาแล้วขนาดครูสอนพิเศษยังไม่ยอมสอนเอ (อาการหนัก)
แต่ก่อนจากครูติวเตอร์ให้เบอร์ครูสอนพิเศษบัญชีอีกคนให้กับเอพ่อกับแม่บอกให้เอลองติดต่อครูคนใหม่
ปรากฏว่าครูคนที่สองตกลงรับสอนพิเศษ(อยากบอกว่าครูใจเย็นและสอนดีมากอารมณ์เข็นควายขึ้นภูเขา)
ด้วยความที่เอทำงาน 8โมงเช้า เลิก 5โมงเย็น เวลาเรียนหนังสือก็จะเป็นวันธรรมดา 6โมงเย็นถึง 2 ทุ่ม
หลังเลิกเรียนเอตรงกลับบ้านอ่านหนังสือทบทวนบทเรียนและทำการบ้านเอคิดว่าตัวเอหัวไม่ดีเลยต้องขยันมากกว่าคนอื่นๆ
เอเริ่มเปลี่ยนไปทีละน้อยเธอไม่โดดเรียนแม้แต่วิชาเดียวมีการจัดตารางอ่านหนังสือแพลนชีวิตว่าในหนึ่งวันต้องทำอะไร
(เรียนบัญชีละนางดูเป็นผู้เป็นคนมีระเบียบขึ้นมั้งแถมเอเก็บเรื่องที่ป่วยเป็นซึมเศร้าเพราะไม่อยากให้ใครคิดว่าเธอใช้อาการป่วยเป็นข้ออ้างที่เรียนไม่จบเอหาหมอคลินิกค่ะไม่ได้เข้าโรงพยาบาลจึงไม่มีประวัติว่าป่วยกลัวหางานทำไม่ได้)
ปัญหายังไม่หมดเอเรียนได้คะแนนดีเพราะขยันบวกเรียนพิเศษและทำการบ้านเองไม่เคยแอบลอกเพื่อนเหมือนแต่ก่อนเพื่อนบางคนมาขอลอกการบ้านเอบ่อยๆ(นางไม่อยากให้เพราะนางไม่ชอบการลอกการบ้านแหมทำเองเป็นแล้วนิ)
พอเพื่อนขอให้เอช่วยสอนหรือติวเอก็บอกเพื่อนว่าเธอไม่เก่งไม่กล้าสอนไม่ได้รู้ไม่จริงกลัวสอนผิดเพื่อนกลับคิดว่าเอกั๊ก
(เพราะคะแนนสอบออกมาค่อนข้างดี หรือว่าข้อสอบอาจไม่ยากสำหรับนางแต่เอบอกว่าเอทำข้อสอบไม่ได้หมดทุกข้อเลือกข้อที่คิดว่าทำได้ทำถูกก่อนและค่อยกลับมาดูข้อที่ไม่ได้ทีหลังถ้าไม่ทันจริงๆก็เว้นไว้)
เพื่อนในห้องที่เรียนพากันเกลียดเอ
เคยมีเพื่อนคนหนึ่งพยายามมาเตือนเอตรงๆบอกเอว่ารู้ไหมมีแต่คนไม่ชอบเอนะ
แต่เอกลับตอบเพื่อนว่าไม่สนไม่แคร์บอกว่าไม่ชอบก็ตามใจไม่ได้ไปขอข้าวใครกิน
จริงๆข้อดีของเอมีนะคือนางไม่ใช่คนช่างเม้าท์นินทาคนอื่นเพราะนางสนใจแต่เรื่องของตัวเอง
และตอนนั้นเองเอได้พบกับผู้ชายคนหนึ่งในเฟสบุ๊ค
เขาเป็นวิศวกรหนุ่มทำงานอยู่เมืองกรุงไม่รังเกียจที่เอเรียนไม่จบและทำงานกระจอกๆ
ขอแทนว่า นายบีละกันบีช่วยสอนการบ้านเอค่ะ(นี่ขนาดเรียนพิเศษอยู่แล้ว)
สอนคณิตศาสตร์ ม.ปลายพื้นฐานที่ต้องใช้ด้วยวีดีโอคอล
จนสนิทสนมนายบีขอเอเป็นแฟนจนเอพอเริ่มเรียนไหวความพลาดของเอกลับมาอีกครั้งค่ะ (พลาดมาทั้งชีวิตละไหม)
เอจำเวลาสอบผิด midterm (555+ ยังไม่รอด)
  นางไม่สามารถทำเรื่องสอบย้อนหลังได้
อ.บอกว่าถึงเอยื่นเรื่องไปเขาก็ไม่รับพิจารณา
เพราะเอโง่ที่ยอมรับตรงๆว่าลืมจริงและไม่ได้ป่วยหรือลากิจใดๆ
(นางอ้างว่านางไม่อยากให้พ่อแม่ต้องมาโกหก)
อาจารย์ประจำวิชาบอกเอว่าให้ไปลงเรียนเทอมหน้าเพราะเธอไม่มีคะแนนมิดเทอมเลยไม่มีทางสอบผ่าน
ถ้าเป็นเอคนก่อนนางต้องยอมแพ้ละใช่ไหมคะ? (ตอบแทนเลยชัวร์)
แต่รอบนี้ไม่ค่ะเอเปลี่ยนไปเอไม่อยากจบช้ากว่านี้นางมาเข้าเรียนต่อทุกวัน
แม้จะไม่มีคะแนน midterm 40 คะแนนเหมือนเพื่อนๆ
ในที่สุดความพยายามก็ทำให้เอสอบผ่าน(ผ่านไปได้ด้วย D)
ชีวิตเอเริ่มดีขึ้นเอเรียนหนังสือและทำงานไปด้วยกลายเป็นคนคิดบวกมองโลกในแง่ดีถึงขั้นโลกสวย
แต่ความจำของเอค่อนข้างมีปัญหาเพราะเอขี้ลืมมาก
นางเริ่มปล่อยตัวไม่สนใจเรื่องความงามคิดแต่เรื่องเรียนจนกลับมาอ้วนอีกครั้ง  
เอจำชีวิตที่เลวร้ายคำพูดแย่ๆหรือเรื่องไม่ดีที่เกิดกับนางไม่ได้เลย (เหมือนกลายเป็นคนเลือกจำ)
นางจำไม่ได้ว่าเคยคุยหรือคบกับผู้ชายคนไหนด้วยนะ
ปัจจุบันเอยังไปหาหมอเดือนละครั้งค่ะ กินยาวันละ8เม็ดทุกวัน
ตอนนี้นางรอรับปริญญาละน๊าคอนเกรทกับนางด้วยแต่เรื่องน่าเศร้าคือเอเลิกกับนายบี
หนุ่มแสนดีแล้วค่ะสาเหตุที่เลิกนี่ขอไม่เปิดเผยทั้งหมดเพราะเดี๊ยนก็ไม่รู้
พ่อแม่เป็นห่วงความรู้สึกเอมากเพราะกลัวเอจะรับไม่ไหวที่เลิกรากับนายบี
(กังวลว่าจะกลับไปซึมเศร้าอีก)
แต่ผิดคาดเอบอกว่าดีแล้วละที่เลิกกันให้บีได้เจอกับผู้หญิงดีๆที่พร้อมและอยู่เคียงข้าง
บีมีความสุขเอก็ยินดี
(อีกอย่างคือต่างศาสนา)
เอบอกพ่อว่าไม่ต้องเป็นห่วงนะนางโอเค
ชีวิตเอผู้ชายที่ดีและรักเอที่สุดก็คือพ่อแค่มีพ่อแม่พี่น้องที่รักและเข้าใจเอก็พอแล้ว
เอโชคดีที่เกิดมามีพร้อมทุกอย่าง (ที่ผ่านมาไม่เคยสนใจ)
ตอนนี้เอนิสัยดีขึ้นนิดหน่อยคือพยายามเป็นมิตรกับคนอื่น
ตัวอย่าง ถ้ามีคนมาทักเธอว่าสบายดีไหมครับ
เอจะตอบแค่ว่าสบายดีค่ะแล้วก็เงียบไปเลย
แต่เอคนใหม่ตอนนี้ เมื่อมีคนมาถามว่าเธอสบายดีไหมเธอจะตอบว่า
สบายดีแล้วคุณละเป็นยังไงบ้าง
ดูแคร์คนมานิดนึงเน้อะ  (เหมือนนางไร้หัวใจและเย็นชา)  จบเรื่องเม้าท์ละคร่า

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่