ทำยังไงถึงจะไล่เพื่อนสามีที่ชอบมาสิงอยู่ที่บ้านดีคะ???

เกริ่นก่อนนะคะ เพื่อนคนนี้นามสมมุติ “เอ” เป็นเพื่อนกับสามีเราตั้งแต่มัธยมปลายคะ เค้าจะมาบ้านสามีเราค่อนข้างบ้อยคะ เราคลกับสามีตอนปี 1 คะ แล้วตอนปี 2 เอเค้าหนีออกจากบ้าน สามีเราเลยใฟ้มาอยู่ที่บ้านก่อน กินนอนห้องเดียวกัน เวลาเราไปนอนบ้านสามีก็นอนห้องเดียวกันคะ เวลาเราไปก็ต้องซักผ้าล้างจานให้ แรกๆ ก็เฉยๆ หลังๆ เราเริ่มไม่ไหวจนปี 4 ช่วงน้ำท่วมเค้าก็ย้ายออกไปอยู่หอคะ แต่ก็จะมีมาบ้านเราบ้าง แรกๆ ก็มานอนบ้านวันศุกร์เสาร์ หลังๆ เริ่มมาอยู่ยาวแบบสามสี่เดือนยาวๆ แล้วก็กลับไปอยู่หอ เป็นแบบนี้จนเราแต่งงานมีลูกสองคน ตอนท้องลูกคนที่สองก่อนลูกเกิด 1 เดือนเค้าก็มาอยู่ ช่วงนั่นบ้านเรารีโนเวทบ้าน ตอนลูกคนที่สองเกิดเราก็มาอยู่บ้านแม่ 1 เดือนแล้วก็ย้ายกลับมาอยู่บ้านกับสามี ซึ่งเพื่อนเค้าก็ยังอยู่ ตอนนี้ลูกคนที่สองห้าเดือนแล้วก็ยังอยู่ ส่งนลูกคนแรกเราฝากแม่เลี้ยงคะ จะพามาอยู่ด้วยสามสี่วันแล้วก็พาไปอยู่กับแม่ ยอมรับคะว่าเลี้ยงไม่ไหว ทำงานด้วยเลี้ยงลูกด้วย พอดีเราทำงานที่บ้านค่ะ กลับมาที่เพื่อนสามีต่อ คือเอเค้าก็มาอยู่บ้านทุกวัน กินๆ นอนๆ ที่นี่ กินข้าวเสร็จจานก็ไม่ล้าง น๊านนานเราจะเห็นล้างที เราต้องเป็นคนล้างจานให้ เราเป็นคนกลัวแมลงสาปคะ ต้อฃเคลียร์จานข้าวเศษอาหารทุกคืนก่อนขึ้นห้องเพื่อไม่ให้มี เลยต้องทำของเอด้วย แล้วเวลาเราพาลูกคนโตมาบ้าน ลูกเราซนมาก ไม่พอใจก็นอนบนพื้น ร้องโวยวายแต่ไม่ดิ้นคะ ชอบโยนของเทของ แล้ววันนึงเราได้ยินเอพูดกับลูกเรา เฮ้ยอะ เราตกใจมาก บอกทันทีเลยว่า พูดดีๆ กับลูกกูหน่อย ก็ยอมรับนะคะว่าเราก็ไม่ได้พูดจาภาษาดอกไม้ แต่กับลูกเราไม่พูดคะ ตอนนี้กำลังพยายามไม่ใช้คำหยาบต่อหน้าลูกอยู่ ตอนที่พูดสามีเราไม่อยู่ ผ่านไปอีกอาทิตย์นึงลูกเรากินไก่เราให้เค้าถือกินเอง ลูกเราแค่ขวบกว่าๆ เองคะ ปลายเดือนตุลานี้จะ 2 ขวบแล้วคะ แล้วลูกเราก็เดินถือน่องไก่ ไปเรื่อยแล้วเอาน่องไก่ตีกระจก ตีๆๆๆๆๆ เอเค้ารำคาญมั้งตะคอกเลยคะ เฮ้ย!! ดังมากจนลูกเราตกใจ แต่ก็ไม่ร้อง เค้าก็เดินมาหาแม่ เอก็พูดว่าเออ -เข้าไปซะ เราก็แบบ พูดดีๆ กับลูกกูหน่อย เ_ี้ย คือมันโมโหคำหยาบก็หลุดออกมา ครั้งนี้สามีนั่งกินข้าวอยู่ก็บอกเราว่าให้เราพูดดีๆ ด้วย เอก็ทำหน้าแบบ ก็ยังพูดไม่ดีเลย - -
แล้วเมื่ออาทิตย์ที่แล้วลูกคนโตร้องๆๆๆๆๆ ร้องหนักมากเพราะเราไม่ให้เล่นขวดน้ำมัน ส่วนสามีเอาคนเล็กไปเลี้ยงบนห้องนอนคะ จังหวะนั่นเอลงมาพอดี เค้าบอกว่า เอออ ร้องไปเลย ร้องไปนะ ไม่มีใครสนใจหรอก เราก็พูดทันทีเลยว่า ไม่ต้องพูดไรเลย ยิ่งพูดเหมือนยิ่งสนใจเค้าไม่ต้องพูดเลย เอก็เงียบลูกเราก็ร้องเราเลยเก็บของเล่นตามพื้นก่อน เคลียร์บ้านนิดหน่อยแบบเบาๆ แล้วได้ยินเอบอกว่า อะไรของเนี่ย ประมาณนี่แหละ เราแบบเฮ้ยนี่มันครั้งที่ 3 แล้วนะ

เราเคยคุยกับสามีหลังจากเหตุการณ์ลูกเอาน่องไก่ฟาดกระจก ถามว่าทำไมถึงอยากให้เออยู่บ้าน สามีบอกว่า เค้าเห็นเป็นพี่น้องเห็นเป็นครอบครัว บอกให้เราเห็นเอแบบนี้บ้างได้แล้ว มันก็ช่วยเรานะ ช่วยซื้อกับข้าวตอนเย็นกับช่วยเลี้ยงลูกได้บ้าง แบบฝากอุ้มแปปนึง

ในใจเรา เค้าเรียกช่วยอ่อวะ แค่นี้ถือเป็นบุญคุณต้องเห็นเป็นคนในครอบครัวแล้วหรอ

เราก็เล่าเรื่องที่เอะพูดคำหยาบกับลูก สามีเราบอกว่าแล้วจะทำยังไง เป็นเราเราจะทำยังไง ในเมื่อไปบอกมันมันก็จะบอกว่าแล้วกูต้องทำยังไง เราจะบอกเอยังไง?

เราอึ้งเลยนะ แล้วไม่ต้องเตือนอ่อวะ เราก็บอกไปว่า คงเตือนๆ มันไปอะ สามีเราก็บอกว่า อืม มันทำได้แค่นั่นแหละ

สบายคะ 😒

แล้วเราก็พูดเรื่องล้างจาน สามีเราถามว่า เป็นเราอะ ไปอยู่หอเพื่อนหรือบ้านเพื่อนที่ไม่มีผู้ใหญ่อยู่ เราจ่ายเงินซื้อข้าวเข้ามากินด้วยกันกับเพื่อน เป็นเรา เราจะล้างหรอ

เราก็บอกว่า ล้างสิ ก็กินด้วยกัน อยู่บ้านเค้าก็ต้องล้างสิ

สามีบอกว่าเราผิดปกติ

เราแบบอ้าว กูผิดปกติหรอวะ สรุปวันนั่นเราได้คำตอบตามนี้จ้า เรื่องซื้อข้าวเย็นมากินที่บ้านอะ เอเป็นคนจ่าย แต่ แต่ แตตตตตตต่!!!! เวลากินมื้อใหญ่อย่างสุกี้ หรือ แซลมอน ข้าวในห้าง ดูหนัง ฝั่งเราจ่ายหมดนะ

แล้วเรื่องพูดไม่ดีกับลูกเราล่าสุด เราก็บอกสามีไป สามีบอกว่ามันแค่บ่นมั้ง

โอเคค่ะ เข้าข้างกันเข้าไปตอนนี้เราเลยคิดว่าจะทนเท่าที่ทนได้ สุดๆ เลยคือลูกคนเล็ก 1 ขวบ แล้วถ้าเอยัฃอยู่อีก เราจะขับรถพาลูกคนเล็กกลับไปอยู่บ้านแม่ ปล่อยให้เค้าอยู่กันสองคน

อ่อ ลืมอีกเรื่อง เมื่อเดือนที่แล้วมีรุ่นน้องโดนไล่ออกจากบ้านเช่ามา น้องเค้ามีลูกมีเมียเราเลยให้มาอยู่ด้วยกันก่อน ระหว่างนั่นน้องก็หาบ้านพัก มาอยู่ 1 อาทิตย์ก็ย้ายออกไปค่ะ ช่วงนั่นเอขยันมาก ช่วยเราล้างจานทุกวันเลยจ้า พอน้องคนนี้ย้ายออกไปก็เหมือนเดิม

พี่ชายสามีมากินข้าวที่บ้านกับพี่สะใภ้ ของกินก็เยอะนะ พอกินเสร็จเราก็พาคนโตไปส่งบ้านแม่ ไปตั้งแต่ห้าโมง กลับมาสามทุ่ม ทุกอย่างเหมือนเดิม เรากับสามีก็ช่วยกันเก็บโต๊ะ เอนั่งเล่นเกม ดีค่ะ

แล้วตอนนี้ป้าสามีฝากเลี้ยงหมา หมาป้าค่อนข้างน่ารำคาญคะ เกาะแข้งเกาะขา เอมันก็บ่นๆๆๆๆ งุงงิ้งๆๆ จนเรารำคาญคะ อยากจะบอกว่าไม่ชอบก็กลับไปอยู่หอไป๊

คือตอนนี้เอเค้าก็มีหอเช่าไว้อยู่นะคะ ไม่ได้ย้ายออก สามีเราบอกให้เอาเงินค่าเช่าหอมาช่วยจ่ายค่าเน็ตค่าไฟบ้านนี้แทน เอก็ไม่ออก สำหรับเรานะ มีหอไว้ก็เหมือนอุ่นใจอะ เหมือนมีที่ให้เอกลับ เราก็บอกสามีเรื่องนี้นะ แล้วเวลาใครถามเรื่องเอ สามีเราจะบอกว่าอ่อ เก็บไว้ให้เราอุ่นใจ เราก็สงสัย ทำไมไม่บอกไปวะว่าบอกเอแล้วแต่เอไม่เอา - -

หลายคนอาจจะสงสัยทำไมเราไม่บอกเอเอง เราบอกเลยว่า รำคาญเพราะเวลาจะคุยอะไรกับเอต้องพูดดีๆ เรารำคาญมากที่ต้องมานั่งคิดก่อนว่ากูต้องพูดยังไงถึงจะดีวะ คือสามีเราอยากให้เราพูดกับเอดีๆ ไง เพราะเอช่วยเรา (ตามที่บอกไป - -) เราเลยไม่อยากคุยเอง แต่เรื่องพูดคำหยาบกับลูกเราพูดไปสามรอบแล้วนะ เราบอกสามีว่า ที่ไม่บอกเองเพราะเอไม่ฟังเรา บอกหนึ่งครั้งยังทำ สองก็ยังทำ ถ้าเราต้องพูดไปเรื่อย เราคงเหวี่ยงใส่ สามีเราก็เหมือนจะเข้าใจนะ

แล้วเราไม่เข้าใจว่าเวลาเอเห็นลูกคนโตแล้วร้องไห้หนักๆ แล้วเราไม่โอ๋ ดูมันสะใจอะ เราแบบ จะอะไรกับเด็กตัวอค่นี้วะ มันเคยบอกว่าแบบนี้มันต้องตีเลย เราแบบไม่อะ ไม่ตี มันก็ดูไม่พอใจนะ

คือเราไม่รู้จะไล่มันไปยังไง คือถ้าสามีเราเป็นคนพูดมันก็ย้ายกลับไปอยู่หอ แต่สามีเราไม่พูดไง กับอีกทางคือเราเหวี่ยงใส่อารมณ์ อันนี้ไม่เรากับเอก็ต้องขาดกับสามีอะ

คือตอนนี้รำคาญมากเวลาเห็นหน้าเอ และเริ่มจะรำคาญหน้าสามีแล้วด้วย

เราควรทำไงดี กลับไปอยู่บ้านเลยดีมั้ยหรือทนไปก่อนเผื่อมันจะไป เราก็อยากรู้นะว่าลูกเราขวบนึงแล้วมันจะไปมั้ย

😒😒😒

**อัพเดทสถานการณ์
1. ได้คุยกับแม่สามีไปบางพอสมควรแต่ไม่ได้ลึกมากมายเพราะแม่ก็รู้ปัญหานี่อยู่แล้ว แม่สามีอยู่ต่างจังหวัดค่ะแล้วเดี๋ยวแกจะลงมา กทม เราบอกแม่ว่าพอแม่กลับขึ้นไปแล้วเราจะกลับไปอยู่บ้าน แม่บอกไม่ต้องออก คนที่ต้องออกคือเอ เดี๋ยวแม่คุยเอง

2. และก็ได้บอกสามีให้เตือนเรื่องคำพูดคำจาของเอด้วยบอกว่าถ้ามีครั้งที่สี่จะไล่ออกจากบ้านแล้ว สามีรีบคุยเลยค่า เอก็บอกง่ายมาก แต่เราคิดว่าเดี๋ยวก็เป็นอีก ประกอบกับทนไม่ไหวกับปัญหานี่แล้ว ถ้าแม่พูดแล้วยังไม่ไปเราก็คงไปเองอยู่ดีค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่