เรื่องมันเป็นแบบนี้ครับ ผมกับแฟน เราคบกันมาได้ซัก 2 ปีแล้ว แรกเริ่มก็คบกันรักไคร่กลมเกลียวกันดี จนผมเองรู้สึกว่า เธอคนนี้แหละ คือคนที่ผมตามนามานาน และอยากสร้างอนาคตและครอบครัวกับเธอ ซึ่งเราก็คุยถึงเรื่องอนาคตมากันซักพักครับ ผมต้องการซื้อใจเธอ โดยการวางแผนอนาคต และเก็บเงินแต่งงานกัน อ่อ ลืมเล่าครับ ผมไปมาหาสู่ระหว่างบ้านผมกับแฟน มาซักระยะนึงแล้วครับ ซึ่งผมก็คิดว่าผมกับพ่อแม่ และพี่น้องของแฟนเข้ากันได้ดีระดับนึงครับ ถึงระดับค้างที่บ้านแฟนได้ครับ โดยตกลงว่าจะไม่ทำอะไรลุ่มลาม น่าเกียจภายในบ้าน ซึ่งผมก็ตกลงตามนั้น ซึ่งแน่นอนครับ แรกรักน้ำต้มผักยังว่าหวาน ถึงจะตกลงกันแบบนั้น สบโอกาสผมกับแฟนก็มีอะไรกันในบ้านของเธอบ้าง คอนโดผมบ้าง ซึ่งผมมองดูเป็นเรื่องปกตินะครับ ผมเองอายุ 33 ส่วนแฟนก็ 29 แล้ว แรกๆ ก็มีไรกันถี่เหมือนคู่รักทั่วไป แค่มองตากัน ก็คลิ๊ก เราค่อนข้างเข้ากันได้ดีครับ ถึงแม้ผมมักจะทำอะไรด้วยสัญชาตญาน แต่เธอชอบความสมบูรณ์แบบ มีแบบแผน ซึ่งแรกๆ ก็ไม่มีปัญหาอะไรนะครับ เราท่องเที่ยวด้วยกันค่อนข้างบ่อยในประเทศบ้าง ต่างประเทศบ้าง ญี่ปุ่น เกาหลีงี้ ผมมีความสุขมากครับที่ได้อยู่กับเธอครับ ถึงแม้เธอจะอารมณ์ร้อน เอาแต่ใจบ้างเนื่องจากที่บ้านไม่เคยปล่อยให้เธอลำบากเนื่องจากบ้านเธอค่อนข้างมีฐานะ และหน้าที่การงานเธอก็ดีพอดู ส่วนผมก็พนักงานขายธรรมดากินค่าคอม (แน่นอนครับรายได้เธอมากกว่าผมอยู่พอประมาณเลย) พอย่างเข้าปีที่สองครับ เราทั้งคู่ก็เริ่มมีปากเสียงกัน ทะเลาะกันค่อนข้างบ่อยเนื่องจาก ทรรศคติไม่ค่อยตรงกัน บวกกับ ผมให้เธอนำด้านความคิดจนเกินไป ระดับนึง ประมานผมทำอะไรไม่ค่อยได้อย่างใจเธอ ซึ่งผมก็เข้าใจและพยายามปรับปรุงตัวให้เป็นผู้นำและยอมเธอให้เธอพอใจเนื่องจากผมไม่อยากทะเลาะและแคร์เธอครับ จน อยู่มาระยะนึงเราทะเลาะกันค่อนข้างหนัก เนื่องจาก ผมเองเนี่ยแหละคิดว่าเธอไม่ค่อยใส่ใจ ติดการเม้าและไปเที่ยวกับเพื่อน บางทีนัดกันเธอก็ให้ค่ากับเพื่อนๆของเธอที่ นัดเธอไปโน่นไปนี่กันมากกว่าไปกับผม บางทีทิ้งนัดกันดื้อๆ แล้วไปกับเพื่อนซะงั้น ที่หนักกว่านั้น ที่เคยนอนด้วยกันเธอมักปฎิเสธผมอยู่บ่อยครั้งจนแทบจะไม่มีอะไรกันเลยในระยะนึง ผมก็พยายามถามเธอนะครับว่า ผมบกพร่องอะไรมั้ย ทำอะไรถูกใจรึป่าว เธอมักบ่ายเบี่ยงและบอกว่าไม่มีอารมย์ ไม่มีความรู้สึกอยากเลย ถึงบอกอย่างนั้นตัวผมเองก็โทษตัวเองและคิดมาก มันเป็นความไม่มั่นใจอย่างนึงของผู้ชายครับ โอเคร ผมก็คิดแหละว่าเออ ถ้ามันทำให้เธอไม่พอใจ และเลี่ยงการทะเลาะกัน ผมจึงยอมเธอ แค่ได้ใกล้กันผมก็พอใจแล้ว ถึงแม้จะมีความรู้สึกไม่มั่นในตัวเองอยู่ลึกๆ ทุกอย่างมันเหมือนจะดีขึ้นครับเราไปเที่ยวกัน ผมยังไปมาหาสู่เธอที่บ้าน เป็นปกติ ครับ แต่...สุดท้ายก็ทะเลาะกันหนักจนเธอขอเลิกกับผม เธอบอกผมว่าเธอไม่ได้รักผมแล้ว ที่คบกันต่อเธอบอกว่าเธอรู้สึกสงสารผม แต่รอบนี้เธอไม่ไหวแล้ว แน่นอนผมเสียใจมาก และพยายามจะโทรหาเธอเพื่อขอคืนดี เธอให้โอกาสผมครับ โดยผมเองสัญญากับเธอว่าจะไม่ทำตัวงี่เง่า จะให้เวลาเธอสังสรรกับเพื่อนบ้าง ให้เวลาส่วนตัวเธอมากขึ้น จนมาวันนึง เราไปเที่ยวทะเลกันครับ ผมอุตริไงไม่รู้ เอาโทรศัพท์ของเธอมาอ่านไลน์ที่เธอคุยกับเพื่อน ผมอ่านข้อความที่เธอคุยกับเพื่อนประมาณว่าเธอน่ะ ไม่ได้รักผมแล้ว ที่อยู่ๆ ด้วยกัน เพราะมันผูกพันธ์กัน มากกว่ารู้สึกรัก และแสดงความรักกันอย่างแฟน เธอก็เล่าให้เพื่อนเธอฟังว่าเธอไม่ได้มีอะไรกับผม มานานมากแล้ว เพื่อนเธอก็ท้วงมาว่า นี่แหละเมิงไม่ได้รักเค้ามาแต่แรกแล้วนี่ ข้อความนี่แหละถึงทำให้ผมกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ อ้าวที่อยู่ด้วยกันล่ะ ที่คุยกันล่ะ ที่ไปเที่ยวด้วยกันล่ะ ที่บอกว่าจะแต่งงานกันล่ะ มันคืออะไร หลังจากที่อ่าน ผมก็ทำเป็นเหมือนว่าไม่รู้อะไร ไม่ได้อ่านไร จนหมดทริปกลับมาใช้ชีวิตปกติ อยู่กับเธอต่อไป เธอก็ยังคงเฉยชา ไม่สนใจผมในบางที แน่นอนเราไม่มีอะไรกันครับ ถึงแม้ผมจะขอเธอแต่เธอปฎิเสธมาตลอด มาจุดนี้ผม คิดมากครับที่อยู่ปัจจุบันนี้ เธอเฉยชาไม่เหมือนเดิม ทั้งเรื่อง sex และความไม่ใส่ใจ เพราะต้องการบีบผมให้ผมขอเลิกกับเธอเองหรือเปล่า ที่อยูกับผมเพราะ เธอต้องการแค่คนดูแล ไปรับไปส่ง คุยกัน เหมือนเพื่อนที่ดูแลกันแค่นั้นรึป่าว ผมเองก็ใจไม่แข็งพอที่จะเปิดใจคุยกับเธอตรงๆ ว่ายังรักกันอยู่มั้ย? แต่ทำใจไว้ว่าถ้าเธอมาขอเลิกกับผม แน่นอนรอบนี้ผมคงไม่รั้งเธอไว้อีกแล้ว ผมคงไม่ใช่สำหรับเธอมาตั้งแต่แรกแล้ว...เพื่อนๆคิดว่ายังไงครับ ผมควรคบกับแฟนต่อไปแบบนี้ดีไหม? หรือเดินไปคุยกับเธอตรงๆ ว่าต้องการคบกันอยู่รึป่าว หรือปล่อยให้มันเป็นไป......
จากที่เคยหวานและเข้ากันดี จนมารู้สึกว่าแฟนหมดรักเราแล้วมาซักพักแล้ว เลิกกันมันเป็นทางออกที่ดีมั้ยครับ