ก่อนหน้านี้ ผมสมัครบัตรเครดิต Signature ธนาคารนึงโดยหอบ Slip เงินเดือนย้อนหลัง 6 เดือน ร่วมกับหนังสือรับรองเงินเดือน
แน่นอน "ไม่ผ่านครับ" สาเหตุเพราะรายได้ไม่ถึงเกณณ์
งงมาก รายได้เราถึงแน่นอน เลยเดาว่าเพราะ
1.ข้อมูลส่วนของ เงินเดือน ในหนังสือรับรองมันน้อยมาก และฝ่ายการเงิน "ไม่ยอมให้พิมพ์ข้อมูลอื่น นอกจากเงินเดือนเพียวๆ"
2.สลิปเงินเดือน ในแต่ละเดือนผมมี 3 ชุด เพราะเงินเดือนออกจากสำนักงานใหญ่ ส่วนเงินอื่นๆออกจากสาขาย่อย 2 สาขา (หน่วยงานเดียวกันแหละ) หากฝ่ายพิจารณาบัตรเครดิต เห็นสลิปเงินเดือนผมเป็นใบแรก แน่นอน ! โยนลงถังขยะ
เพราะตอนแรกเข้าใจว่า ฝ่ายพิจารณาจะดูทุกอย่างเพื่อให้คนๆคนนึงสมัครบัตรผ่าน ซึ่งความจริง ผมเข้าใจว่าตรงกันข้ามเลย
ด้วยความนอยด์ ผ่านไป 1 เดือน (พนักงานบอก 6 เดือน ผมไม่รอ)
ผมสมัครใหม่ครับ คราวนี้ง่ายๆ ส่ง
- Statement ย้อนหลัง 6 เดือน (มีระบุรหัสเงินเดือน)
- ทวิ 50 ปี 60
- สลิปเงินเดือนของสาขา (ที่ไม่มีเงินเดือน) ย้อนหลัง 3 เดือน
โดยผม ไม่ส่ง
1.หนังสือรับรองเงินเดือน หรือรับรองการทำงาน
2.สลิป เงินเดือน
(คนรับเอกสารที่ธนาคาร ยังงงว่า "เงินเดือน" ซึ่งเป็นรายได้หลักชัดๆ ไม่คิดจะส่งเลยเหรอ ?)
แน่นอน ผมไม่ส่ง (มันน่าอาย 555)
ผ่านไปสองวันได้ SMS ว่าบัตรอนุมัติแล้วครับ เอิ่ม ได้บัตรมีระดับสูงกับเขาบ้างซักที
แทบตาย
สรุปแค่อยากบอกว่า
1.การส่งเอกสารการเงินเยอะๆ ไม่ได้ทำให้ผลการอนุมัติผ่านง่ายขึ้นสำหรับบางคน
คงต้องคัดเอกสารอันที่แน่นอนที่สุด
2.แนบ ทวิ 50 ไปด้วยน่าจะช่วยให้อนุมัติง่ายขึ้นครับ
3.กรอกเอกสารเองจะดีที่สุดครับ โม้ให้เยอะ โดยเฉพาะตรง "รายได้อื่นๆ" (แบบที่มีหลักฐานประกอบจริง) เพราะพนักงานบางคนไม่รู้หรอกว่าเราจะมีรายได้ (เสริม) ทางไหนบ้าง
4.คนที่ Refer บัตร จากใบเก่า (คือการสมัครบัตรเพิ่ม) ไม่จำเป็นต้องได้บัตรระดับเดียวกับใบเก่านะครับ
-บางธนาคารสามารถสอบถามได้ก่อนสมัคร(เช่น SCB)
-บางธนาคารไม่มีทางทราบก่อนสมัคร ขนาดใบสมัครหลังๆมานี้ยังไม่มีให้เลือกระดับบัตรเลย (Kbank one siam)
ดังนั้นหากไม่มั่นใจส่งเอกสารใหม่น่าจะดี
เท่านี้แหละครับ
สมัครบัตรเครดิต / ส่ง Slip เงินเดือนเยอะๆ ไม่ใช่ว่าจะดี (เล่าสู่กันฟัง)
แน่นอน "ไม่ผ่านครับ" สาเหตุเพราะรายได้ไม่ถึงเกณณ์
งงมาก รายได้เราถึงแน่นอน เลยเดาว่าเพราะ
1.ข้อมูลส่วนของ เงินเดือน ในหนังสือรับรองมันน้อยมาก และฝ่ายการเงิน "ไม่ยอมให้พิมพ์ข้อมูลอื่น นอกจากเงินเดือนเพียวๆ"
2.สลิปเงินเดือน ในแต่ละเดือนผมมี 3 ชุด เพราะเงินเดือนออกจากสำนักงานใหญ่ ส่วนเงินอื่นๆออกจากสาขาย่อย 2 สาขา (หน่วยงานเดียวกันแหละ) หากฝ่ายพิจารณาบัตรเครดิต เห็นสลิปเงินเดือนผมเป็นใบแรก แน่นอน ! โยนลงถังขยะ
เพราะตอนแรกเข้าใจว่า ฝ่ายพิจารณาจะดูทุกอย่างเพื่อให้คนๆคนนึงสมัครบัตรผ่าน ซึ่งความจริง ผมเข้าใจว่าตรงกันข้ามเลย
ด้วยความนอยด์ ผ่านไป 1 เดือน (พนักงานบอก 6 เดือน ผมไม่รอ)
ผมสมัครใหม่ครับ คราวนี้ง่ายๆ ส่ง
- Statement ย้อนหลัง 6 เดือน (มีระบุรหัสเงินเดือน)
- ทวิ 50 ปี 60
- สลิปเงินเดือนของสาขา (ที่ไม่มีเงินเดือน) ย้อนหลัง 3 เดือน
โดยผม ไม่ส่ง
1.หนังสือรับรองเงินเดือน หรือรับรองการทำงาน
2.สลิป เงินเดือน
(คนรับเอกสารที่ธนาคาร ยังงงว่า "เงินเดือน" ซึ่งเป็นรายได้หลักชัดๆ ไม่คิดจะส่งเลยเหรอ ?)
แน่นอน ผมไม่ส่ง (มันน่าอาย 555)
ผ่านไปสองวันได้ SMS ว่าบัตรอนุมัติแล้วครับ เอิ่ม ได้บัตรมีระดับสูงกับเขาบ้างซักที
แทบตาย
สรุปแค่อยากบอกว่า
1.การส่งเอกสารการเงินเยอะๆ ไม่ได้ทำให้ผลการอนุมัติผ่านง่ายขึ้นสำหรับบางคน
คงต้องคัดเอกสารอันที่แน่นอนที่สุด
2.แนบ ทวิ 50 ไปด้วยน่าจะช่วยให้อนุมัติง่ายขึ้นครับ
3.กรอกเอกสารเองจะดีที่สุดครับ โม้ให้เยอะ โดยเฉพาะตรง "รายได้อื่นๆ" (แบบที่มีหลักฐานประกอบจริง) เพราะพนักงานบางคนไม่รู้หรอกว่าเราจะมีรายได้ (เสริม) ทางไหนบ้าง
4.คนที่ Refer บัตร จากใบเก่า (คือการสมัครบัตรเพิ่ม) ไม่จำเป็นต้องได้บัตรระดับเดียวกับใบเก่านะครับ
-บางธนาคารสามารถสอบถามได้ก่อนสมัคร(เช่น SCB)
-บางธนาคารไม่มีทางทราบก่อนสมัคร ขนาดใบสมัครหลังๆมานี้ยังไม่มีให้เลือกระดับบัตรเลย (Kbank one siam)
ดังนั้นหากไม่มั่นใจส่งเอกสารใหม่น่าจะดี
เท่านี้แหละครับ