หลังจากที่ห่างหายการรีวิวให้ห้องบลูไปหลายปีม๊ากกก ด้วยที่ออกเรือนไปมีครอบครัวพร้อมลูก2 จอมป่วน รวมถึงงานประจำ และงานบ้านที่รัดตัว เลยไม่มีเวลามาอวดทริปให้เพื่อนๆดูกันเลยค่ะ นี่พอลูกเริ่มโต และเป็นช่วงปิดเทอม แม่ก็ขอมารีวิวหน่อยแล้วนะคะ
ผิดพลาดยังไงก็ขออภัยมาด้วยค่ะ
ด้วยมีภาระกิจต้องไปแก้บนที่วัดฉลอง จ.ภูเก็ต ก็เลยต้องจัดทริปกันไปค่ะ เอาล่ะเริ่มเดินทางกันเลยนะคะ
วันที่1 10 มี.ค. 61  กรุงเทพ-ถ้าพุงช้าง-สะพานไม้หาดปิหลาย
ตื่นกันแต่เช้ามืด ด้วยอาการตื่นเต้นที่จะได้ไปเที่ยว หน้าตาก็จะลั้นลากันหน่อย เราออกเดินทางกันด้วยเครื่องบินของ ไทยไลอ้อนแอร์ค่ะ วันนี้ตื่นเต้นเป็นที่สุดเพราะได้นั่งเครื่องบินลำใหม่ ลำใหญ่ไฉไลกว่าเดิม
แต่มันดีเลย์เป็นชั่วโมงเลยค่ะ  วันนี้เรามาถึงกัน9โมงกว่าจ้า ระหว่างทางเดินไปรับรับกระเป๋าลูกชายก็ขอถ่ายรูปกับเครื่องบินลำที่นั่งมาหน่อยสนามบินที่นี่วิวสวยมากข้างหลังเป็นทะเล มาถึงที่รอรับกระเป๋า รับกระเป๋าเสร็จ ช็อคค่ะ กระเป๋าเราแตก ใบนี้เพิ่งใช้ครั้งแรก ใบละหลายตังค์เลย เป็นลมแป๊บ ตั้งสติได้ปุ๊บ รีบหาเจ้าหน้าที่สายการบินค่ะ เพื่อสอบถามว่าเราจะทำยังไงได้บ้างกับกระเป๋าที่เสียหาย กว่าจะตามหาตัวเจ้าหน้าที่ได้ก็เกือบครึ่งชั่วโมง เสร็จแล้วก็ไปที่เคาน์เตอร์พี่สิงโตค่ะ เค้าบอกว่ากระเป๋าเราไม่ได้แตกนะคะ แต่น่าจะโดนอะไรแหลมๆเสียบ (แล้วไงคะพี่ ตอนนี้หน้านิ่งมากแล้ว เพราะหิว ยังไม่ได้กินข้าวเช้า) เค้าก็ชดใช้มาให้500บาทถ้วนค่ะ เนื่องด้วยเราไม่ได้ทำประกันไว้ตอนเดินทาง(ก็เดินทางมาหลายครั้งแล้วไม่คิดว่างานที่จะโชคดีทั้งดีเลย์ และกระเป๋าเยิน) อ่ะ ได้500ก็เอา ไปเหอะเริ่มโมโหหิวละ ไปเอารถที่เช่าไว้ดีกว่า จะได้รีบไปกินข้าว หิววววว
ทริปนี้เราเช่ารถโตโยต้ายาริส ไว้กับ asap (เพิ่งเคยใช้บริการครั้งแรก) ได้รถเสร็จแฟนก็รีบบึ่งไปหาของกินเลยค่ะ ออกจากสนามบินภูเก็ตได้แป๊บนึง ก็ได้กลิ่นควันรถเข้ามาในรถ สรุปต้องย้อนกลับมาสนามบินภูเก็ตอีกค่ะเพื่อเปลี่ยนรถ แต่น้องพนักงานก็น่ารักรีบหารถมาเปลี่ยนให้ค่ะ หลังจากที่เปลี่ยนรถแล้ว ก็เหาะไปหาของกินเลยค่ะ ได้ร้านข้าวแกงอิสลามที่อยู่ข้างทางนี่แหละค่ะ เป็นที่ฝากท้องมื้อเช้า และเที่ยงของบ้านเรา บอกเลยค่ะว่าหิวโฮกกกกก

อิ่มแล้วไปกันต่อเลยค่ะ เราจะไปพังงากัน Let's gooooooo. ขับรถข้ามสะพานสารสิน แล้วเราก็แวะหาของกินกันค่ะ ยูเทิร์นใต้สะพานแล้วขับเข้าไปเที่ยวหมู่บ้านที่ขายของทะเลค่ะ
อันนั้นเป็นสะพานสารสิน แต่เราไม่ได้ไปค่ะ แดดร้อน สู้ไม่ไหวขับรถไปเจอร้านป้าคนนึงแกติดว่าปูนึ่งโลละ350บาท แฟนจอดเลยค่าาา ก่อนจะได้กินปูนึ่งเราก็ต้องไปเอาปูมาก่อนนะคะ
ก่อนจะเจอปู เจอกับลูกชายและคุณสาของเดี๊ยนก่อนนะคะ555
ไปคะไปเอาปูมานึ่งกัน ลุงบอกว่าเรือที่นี่เป็นเรือเล็กของชาวบ้านจะออกทะเลทุกวัน อาหารทะเลที่นี่จึงสดจริงๆจ้าา
นี่ค่าาาปูนึ่งของเรา บอกเลยว่าสดมาก หวานมาก น้ำจิ้มไม่ต้องค่ะ เพราะป้าแกไม่มี แกรับนึ่งปูอย่างเดียว555กินปูเสร็จก็ไปกันต่อค่ะ เรามุ่งหน้ากันไปที่ถ้าพุงช้าง จ.พังงานกันค่ะ ถ้าพุงช้างอยู่ภายในบริเวณวัดประพาสประจิมเขต ไปไม่ยากค่ะ เราใช้กูเกิ้ลแมปพาไปค่ะ
ตรงนี้เป็นจุดบริการนักท่องเที่ยว มีห้องน้ำให้เข้า และก่อนจะเข้าถ้ำ ก็มาอ่านกฎ กติกา มารยาทกันก่อนนะคะ แล้วก็มารับไฟฉายด้วยค่ะ
ทางเดินไปถ้ำค่ะ

ก่อนจะเข้าถ้าเราก็มาไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์กันก่อนนะคะ

ไปค่ะเราไปเข้าถ้ำกัน จากนี้เราจะไม่มีรูปภายในถ้ำให้ดูนะคะ เพราะเจ้าหน้าที่ไม่ให้ถ่ายรูปภายในถ้ำค่ะ ขอบรรยายให้ฟังนะคะ ไปถึงด่านแรกเราก็นั่งเรืองยางไปค่ะโดยจะมีพี่ๆช่วยพายให้เรานั่ง ด่านที่สองย้ายจากเรือยางไปนั่งแพไม้ไผ่ ด่านที่สามขึ้นจากแพ แล้วเราก็เดินกันไปค่ะ มีเจ้าหน้าที่คอยนำทาง และให้ความรู้ตลอด น้ำในถ้ำไม่ลึกมากประมาณหน้าแข้งของผู้ใหญ่ ในถ้ำจะมีน้ำตลอด และมืดมาก แต่อากาศถ่ายเทได้ดี หายใจได้ปกติค่ะ ลูกชายสนุกมากกก ตอนแรกเราก็คิดว่าลูกจะกลัว เพราะมันมืดมาก แต่ตรงข้ามค่ะ เค้าสนุกที่มาก ที่ได้มาเจอประสบการณ์ใหม่ๆ สถานที่ใหม่ๆ เค้าบอกกับเราว่า แม่ครับๆครั้งหน้าเรามากันอีกนะครับหนูชอบ ได้ฟังลูกพูดแบบนี้แม่กับป๊าก็ยิ้มแก้มปริ
เดินไปจนสุดทางที่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเดินชมได้ เราจะได้เจอหินงอกเป็นรูปช้างสีขาว สวยมากค่ะ สวยจนไม่รู้จะเล่ายังไง ถ้าใครอยากรู้ต้องไปดูกันเองค่ะ เที่ยวเมืองไทย ไม่ไปไม่รู้ อิอิ  
ออกจากถ้ำพุงช้าง เราก็มาแวะถ่ายรูปกันอีกแป๊บ

แล้วเราก็มุ่งหน้าไปที่พักที่หาดนาใต้ จ.พังงา ก่อนจะถึงที่พักแวะตลาดหาซื้อรองเท้าแตะที่ลุยน้ำได้ก่อน แล้วเราก็ได้ของแถมเป็นขนมหวานชิ้นละ5บาทมากินรองท้อง ไม่คิดว่าจะมีใครขายแล้วนะคะราคานี้ ส่วนรสชาติเราว่าก็พอกินได้นะไปถึงก็เข้าที่พักเลยค่ะ จองมาทางโทรศัพท์แล้ว แต่พี่เจ้าของที่พักแกบอกไม่ต้องโอนเงินมาหรอก ถ้าน้องมาพักจริงๆค่อยมาจ่ายก็ได้ พี่โคตรใจเลยค่ะ แบบนี้น้องก็ไม่กล้าเทพี่หรอกค่าาา555  (ก่อนเดินทาง1วันเราโทรยืนยันกับพี่เจ้าของที่พักว่าเราจะไปจริงๆนะเก็บห้องให้เราด้วย)ที่พักของเราค่ะ นาใต้ เฮ้าส์



เก็บของเสร็จ ก็ไปเที่ยวต่อกันเล้ยยย เราจะไปดูพระอาทิตย์ตกทะเลกันค่ะ เราขับรถจากที่พักไปนิดเดียวเองก็ถึงสะพานไม้หาดปิหลาย สะพานไม้เก่าแก่ของพังงา เดิมเป็นสะพานสำหรับใช้เดินขึ้นลงของชาวเรือ ในสมัยที่ยังมีการทำเหมืองแร่อยู่


ไปเที่ยวที่ไหนสิ่งที่ขาดไม่ได้คือเราต้องเจอเจ้าถิ่นค่ะ เจ้าถิ่นของหาดนี้หน้าตาน่ารักมั๊ยคะ


ขอลงรูปรัวๆเลยนะคะ ที่นี่สวยมาก ทรายก็สะอาด คนไม่เยอะ


เริ่มจะค่ำแล้วไปหาของกินกัน แต่หิวมากเลยถ่ายรูปอาหารเย็นไม่ทัน เอาของหวานไปดูแทนนะคะ


วันนี้หมดแรงขอนอนเอาแรงก่อนนะคะ พรุ่งนี้ไปเที่ยวกันต่อค่ะ บ๊าย บาย
รอชมตอนที่2กันด้วยนะคะ