ใครเคยไปรอแฟนที่เดิมซ้ำๆเพื่อรอวันที่ได้พบบ้าง เรารอมา 1 ปี และออกตามหา.. จนกระทั้ง

ผมชื่อ “ลุง” เราพบกันที่โรงบาลรามคำแหง ลุงหลงรักเธอตั้งแต่แรกเห็นเดินเข้าไปสอบถาม “ทางไปห้องการเงินไปทางไหนครับ” และก็แอบจีบตอนช่วงเธอมึนๆว่า “ขอเบอร์หน่อยได้มัยเพื่อผมไปไม่ถูกจะได้โทรถาม” หลังจากนั้นเราก็ได้คุยกันและคบหากัน เรารักกันมากเข้ากันได้ทุกเรื่อง ผมเรียกเธอว่า “ป้า” เพราะป้าจะได้คู่กับลุงแรกๆก็ไม่ชอบแต่ผมก็เรียกจนติดปากลุงโกหกป้าหลายเรื่องเพื่อที่จะลองใจอย่างเงินเดือน 9,000 เป็นคนเก็บบัวในบึงมาขายที่ตลาดบางกะปิรถที่เอามาขับเป็นรถเพื่อนยืมมา ป้าไม่ลุงว่าผมมีฐานะอะไร ลุงชวนป้ากินข้าวแกงกันข้างถนนง่ายๆ สุดท้ายลุงก็บอกความจริงไปว่า ลุงเป็นโปรแกรมเมอร์ ป้าเป็นคนน่ารักเธอไม่โกรธแถมพูดอย่างหัวเราะไปก็ว่า “คิดอยู่คนอะไรเก็บบัวขายในซอยราม 81 “ ลุงเป็นคนชอบแกล้งไม่ว่าจะเดินไปไหนลุงหาเรื่องแกล้งป้าได้ตลอดทางเดินๆอยู่เอามือทำเป็นงับขาแล้วทำเสียงหมาแง๊งๆ(หมากัดขาให้ป้าวิ่ง) แกล้งมองสาวคนอื่นบ้าง ทำมือเหมือนกำลังวัดความสูงกับคนอื่นบ้าง(ป้าเตี้ยนั้นเอง) ลุงหลงรักป้าและเลือกที่จะหยุดอยู่ที่เธอ

เรามีความสุขกันมากจนกระทั้งจุดเปลี่ยนในชีวิตลุงก็มาถึงเมื่อบ้านลุงที่อยู่มา 23 ปี กำลังโดนไล่ที่ลุงต้องหาบ้านใหม่และลุงก็ได้บ้านที่รามคำแหงใกล้บิ๊กซีรามคำแหง ป้ามาช่วยผมทำความสะอาดบ้านทุกวันประมาณ 2 อาทิตย์มันยิ่งทำให้ลุงรักป้ามากขึ้นและคิดว่าเราโช๊คดีแค่ไหนที่ได้เจอกัน พอถึงช่วงขนย้ายลุงย้ายบ้านกับญาติผู้ชายอยู่ 3 วัน ขับรถกระบะหลังคาสูง 16 รอบ เป็นช่วงจุดเปลี่ยนที่ลุงไม่ค่อยมีเวลามาหาป้าจริงๆแล้วลุงไม่มีเงินนับเหรียญใช้แต่ไม่อยากบอกให้ป้ารู้ หลังจากเข้ามาอยู่บ้านหลังใหม่ได้ไม่นานรายจ่ายหลายๆปราการก็โหมเข้าใส่ อยู่ๆน้ำไม่ไหลปั้มน้ำเสียซ่อม หลังคารั่วซ่อม ห้องน้ำเสียซ่อม นึกภาพตามนะครับบ้านร้างที่ทุกอย่างพัง วันไหนลุงซ่อมเสร็จเร็วลุงก็จะมาหาป้าบ้างแต่ด้วยเธอทำงานโรงบาลช่วงนั้นเข้ากะดึกทำให้เราไม่ค่อยได้เจอกัน แต่ปัญหาชีวิตของลุงยังไม่หมดเมื่อต้องมาเจอกับผีที่บ้านอีก บ้านร้างติดวัดแน่นอนสัมภเวสีเพียบเค้าชอบมาให้เห็นทางหางตา วันไหนลืมสวดมนต์นอนจะโดนนั่งทับหน้าอกหัวเราะพร้อมกับโยกไปโยกไปโยกมา บางครั้งเลิกงานมาลุงเหนื่อย นอนเล่นกลางบ้านซักพักตนเดิมท่าเดิมมาอีกแล้ว ทุกตี3 ประตูเลื่อนกระจกจะเปิดเอง แรกๆเราก็ได้ยินเสียงเปิดประตูมีวันนึงลองของมานั่งเผ้าเลยตอนตี3 เปิดโชว์แบบประตูเซเว่นเลยหลังจากนั้นตี3ลุงไม่ลงมาอีกเลย ตอนกลางวันแม่นั่งข้างล่างบอกว่าได้ยินเสียงคนเดินข้างบนนึกว่าลุงกลับมาเอาของที่บ้าน ปรึกษาผู้รู้เค้าบอกว่าอารมแย่งที่อยู่กันระหว่างผีกับคน ใครอดทนได้มากกกว่าชนะ ตอนนั้นบ้านที่คิดว่าได้พักผ่อนได้กลับมามีความสุขกลับกลายเป็นว่าเย็นนี้ถึงบ้านต้องเจอกับอะไรบ้างดีกว่า เราทั้งครอบครัวอดทนกันมากสุดท้ายเราก็ชนะ ลุงพยามหาเวลาไปหาป้าอยู่เสมอแต่ด้วยกะงานของป้า การเงิน ปัญหาทางบ้าน ลือไม้เก่าจากบ้านเก่า แล้วยังมีเรื่องเกี่ยวกับยายที่ตายไปแล้วพี่น้องแม่มาหารค่าใช้จ่ายระหว่างรักษายายที่นอนมา2ปีกันเรียกได้ว่าเป็นมรสุมชีวิตเลย จนกระทั้งป้าได้ระเบิดออกมาลุงพยามอธิบายแต่อธิบายไม่หมดกลัวว่าป้าจะเอาเอาเรื่องของลุงไปคิดทำให้เครียด ป้าบอกมาว่าเราไปกันไม่ได้หรอกพี่ไม่มีเวลาให้ลุงบอกขอเวลา ป้าบอกว่าลุงเป็นอิสลามด้วยจะเข้ากับเธอได้ยังไง เราคงไม่เหมาะกัน ป้าวางสายไป ซึ่งผมตอนนั้นสภาวะทางอารมไม่ค่อยดีเลือกที่จะเงียบไปซักพักดีกว่ารีบไปเคลียร์ตัวเองแล้วไปง้อป้า ลุงใช้เวลาอยู่เดือนนึงเห็นจะได้ทุกอย่างในชีวิตผมก็เริ่มปกติ ผมโทรไปหาป้าป้าปิดเครื่องไม่เป็นไร โทรไปอีกวันป้าก็ยังคงปิดเครื่อง คราวนี้หลังเลิกงานผมมาดักรอป้าทีหน้าโรงพยาบาล ไม่เจอ ผมไปดักรอที่หน้าซอยทางเข้าหอไม่เจอ ในใจคิดว่าคงทำงานกะกลางคืน วันไหนตื่นเช้าผมรีบไปสแกนนิ้วเข้างานก่อนแล้วรีบมารอที่หน้าซอยหวังจะได้เจอป้าออกกะก็คงไม่เจอกัน บางวันก็ยืนมองบนสะพานลอยเป็นจุดที่เห็นได้กว้างที่สุด บางวันยืนกางร่มฝนตกหลายชั่วโมง เป็นแบบนี้อยู่ราว 6 เดือน

ลุงเริ่มเปลี่ยนแผนชาร์จ Power Bank มาเต็มที่เลยคราวนี้ไปนั่งหน้าหอป้าเลยผมไม่อยากไปนั่งหน้าหอป้าเท่าไรนักเพราะรู้ว่าป้าไม่ชอบให้มาเฝ้าใกล้ๆแบบนี้ ยุงกัดทั้งคืนก็ไม่เจอ ลุงจะมาเฝ้าหน้าหออาทิตย์ละวันสองวันเพื่อหาจังหวะกะงานป้าลงตัวมาเจอกัน สุดท้ายทำอยู่ได้เกือบเดือนไม่เจอ หรือป้าจะย้ายหอเพราะจำได้บ่นร้อน ผมเริ่มล้ำเส้นไปอีกนิดผมรู้ป้าทำงานห้องไหนของโรงบาลพยามนั่งหน้าห้องในมุมเยื้องๆกันเพื่อที่ป้ามาเจอจะได้ไม่โกรธป้าไม่ชอบแน่ๆมาเฝ้าชิดซะขนาดนี้ สุดท้ายก็ไม่เจอ และลุงก็นึกขึ้นได้ว่าป้าเคยชวนไปสำพาสงานที่โรงบาลสมิติเวช ลุงก็ไปหาทุกห้องยา เดินวนอยู่หลายวันก็ไม่พบผ่านมาแล้ว 10 เดือน ลุงได้เลื่อนตำแหน่งที่บริษัทเป็นผู้บริหารแล้วในใจอยากให้ป้าได้รับรู้มากเรื่องดีๆแบบนี้อยากแสดงให้คนที่รักมากได้รับรู้ เวลาผ่านล่วงเลยไป ลุงใช้เบอร์เก่าของป้าที่ปิดไปเป็นเบาะแสสุดท้ายลุงเป็นคนที่ไม่เคยขอร้องใครรอบนี้ลุงไปหาเพื่อนสมัยเรียนให้เค้าช่วยผมเล่าเรื่องทั้งหมดให้เพื่อนฟังเพื่อนผมตัดสินใจช่วย ลุงได้ชื่อจริงนามสกุลจริงป้ามาแล้ว แต่จริงๆแล้วลุงเคยรู้มาก่อนแล้วแต่ด้วยความ ยิ้มของลุงที่ไม่จดจำเอง ลุงไม่รอช้าที่จะเอาชื่อไปค้นหาในเฟสบุ๊คเพราะจำได้ว่าป้าเคยพิมพ์ให้ดูว่าเฟสป้าชื่ออะไร แต่ด้วยตอนนั้นไม่ได้กดแอดเพราะกลัวป้าเห็นรูปบางอย่างในอดีตไม่อยากให้ป้าเอาไปคิด และลุงก็ไม่อยากเข้าไปดูเฟสป้าด้วยว่าเคยคบกับใครอะไรยังไงเพราะกลัวความคิดตัวเองเช่นกัน กลับมาที่พยามเข้าเฟสบุ๊คป้าต่อ พยามสะกดชื่อ-สกุลป้าเป็นภาษาอังกฤษ ได้มาทั้งหมด 180 รูปแบบ แต่ไม่เจอ เอาชื่อป้าไปหาใน Google ได้ข้อมูลสมัยเรียนมหาลัย ได้เลขบัตรประชาชนมา ลองเอาเลขบัตรเช็คกับพร้อมเพย์พบผูกอยู่ ลุงเลยโอนเงินเข้าไปอนึงเป็นหมายเลขโทรศัพท์โอนไปที่ละตัว หวังว่าป้าจะเห็นข้อความเงินเข้าแล้วเอาตัวเลขมาต่อกันแล้วโทรมาหาไม่มีวี๊แวว มีครั้งนึงลุงได้ไปหาเพื่อนที่ธนาคารให้เพื่อนค้นประวัติหาเบอร์มาให้และเล่าทุกอย่างให้เพื่อนฟังเพื่อนไม่ถามบอกแค่ว่า “รู้ใช่มัยพลาดมากูตกงานเลยนะ กูจะช่วยลุง” ได้เบอร์ใหม่ป้ามาสมใจแต่ก็ต้องผิดหวังเมื่อโทรไปเบอร์นี้ไม่ได้เปิดใช้งานแล้ว นี้ก็จะครบหนึ่งปีแล้วทำไมเรายังลืมป้าไม่ได้ซักที่ยิ่งตามมากเท่าไรทุกเวลาทุกวินาทีที่เฝ้ารอมันตอกย้ำให้รู้ว่าเรารักเค้ามากเพียงใหนตอนนี้ลุงรักป้ามากมากกว่าเดิมคงจะตรงกับคำที่บอกว่า เราไม่รู้ว่าอะไรสำคัญหรอกจนกว่าจะเสียไป หรือว่าลุงควรตัดใจ บางวันลุงไปหลอกลูกน้องที่ออฟฟิตมาให้ไปนั่งกินข้าวที่แถวโรงบาลรามคำแหงด้วย กินเสร็จจะออกอุบายชวนไปนั่งตากแอร์ข้างในทำบ่อยๆเข้าลุงก็บอกลูกน้องลุงไปว่าจริงๆแล้วลุงมาตามหาป้า ลูกน้องลุงและเพื่อนๆต่างรู้จักลุงดีว่าลุงเป็นคนถ้าคิดจะทำอะไรแล้วลุงต้องทำให้ได้ ลุงเคยซ่อมรถตั้งแต่ 4 โมงเย็นยันเช้าทุกจนติด สมัยเรียนทำโปรเจ็คจบมากยากมากเพื่อนๆกลุ่มอื่นเลือกที่จ้าง แต่ลุงทำอย่างหนัก 3 เดือน จนมีโปรเจ็คจบและออกมา และอีกหลายๆเหตุผลที่คนรู้จักลุงจะเข้าใจลุงดี (ถ้าไปเล่าให้คนที่ไม่รู้จักกันเค้าคงหาว่าบ้าคนอะไรไปยืนรอบ่อยๆ) มีครั้งนึงที่ลุงมีคนอื่นเข้ามาในชีวิตได้แชทคุยกันมีครั้งนึงสาวออกปากชวนลุงไปกินข้าวดูหนังกัน แต่เอาเข้าจริงวันที่ต้องไปดูหนังลุงเลือกที่จะปฏิเสธไปอ้างว่าติดธุระลึก ลุงยังคิดถึงป้าและรู้สึกว่าเงินนี้มันควรที่จะเอาไปหาความสุขกับป้าไม่ใช่คนอื่น และความอดทนของลุงก็หมดลงเริ่มจะทำในสิ่งที่ป้าไม่ชอบคือ โทรเข้าไปใน รพ.สอบถามหาป้า แต่คำตอบที่ได้ยินกลับมาเหมือนสายฟ้าฟาดลงมาที่ตัวรู้สึกชาไปทั้งตัวเมื่อรู้ว่า “คุณ.....ลาออกไปนานแล้วค่ะ” ลุงเลยตัดสินใจจ้างนักสืบขอข้อมูลประกันสังคมและลุงก็ได้ที่ทำงานใหม่ป้าแล้ว

ลุงได้โทรไปหาคนๆนึงที่เป็นเจ้าหน้าที่เร่งรัดหนี้สินที่เคยโทรเข้ามาบริษัทที่ลุงทำงานเพื่อตามหาลุงและยื่นข้อเสนอว่าผมจะปิดยอดให้ขอส่วนลดให้ผมด้วยแลกกับการให้ช่วยโทรเข้าไปบริษัทนี้ตามผู้หญิงคนนี้ให้ผมหน่อย พนักงานทำอย่างสุดความสามารถแต่บริษัทใหม่ที่ป้าทำงานไม่ปล่อยข้อมูลอะไรเกี่ยวกับพนักงานเลยอาจจะเป็นว่า พนักงานเค้าเยอะราว 450 คนเลยตัดปัญหาการให้ข้อมุลพนักงาน ลุงทำตามสัญญาปิดบัตรให้ และให้เพื่อนที่ขายประกันช่วยและเล่าเรื่องราวทั้งหมดไปเพื่อนลุงตัดสินใจช่วยอย่างเต็มที่ คงจะเป็นเพราะรู้จักนิสัยของลุงดี ไม่ว่าจะโทรเข้าไปเสนอขายประกัน ตอนนี้ลุงมีทีมเพื่อนที่ร่วมกันช่วยหาป้าแล้ว 9 คน บริษัทที่ป้าทำเป็นร้านขายของมีสาขาอยู่ทั่วไทย เราเอาทุกสาขาพร้อมเบอร์โทร ไปแบ่งกันโทรตามหาทุกสาขา ไม่พบคิดว่าป้าคงทำงานอยู่ที่สำนักงานใหญ่ ลุงไปเฝ้าที่สำนักงานใหญ่ตั้งแต่ 07.00 - 09.00 สรุปไม่มีพนักงานมาตอนแรกเข้าใจว่าเค้าเปิด จ.-ส. ลุงได้แต่เช็คอินทิ้งไว้หวังว่าป้าจะมาเห็น แผน2 เพื่อนลุงเสนอความคิดหาชุด Kerry มาให้ปลอมตัวไปส่งของที่สำนักงานใหญ่ พอเข้าไปพนักงานที่นั้นบอกไม่มี กลับมาวางแผนใหม่รอบนี้ลุงได้เห็นข่าวบริษัทเปิดรับแผนกไอที ลุงแต่งตัวเตรียมไปสมัครงาน แลกบัตรเข้ามาได้แล้วโซนในของบริษัท ลุงเดินไปที่เค้าเตอร์บอกว่ามาสมัครงานและมีพนักงานชื่อนี้แนะนำมา(ป้า) อารมเหมือนกับต้องการให้พนักงานเค้าเอาป้าออกมาให้นั้นเองแต่ก็ต้องผิดหวังเค้าบอกไม่มีพนักงานคนนี้พร้อมเรียกเพื่อนๆมาถามกันว่ารู้จักกันมัยคนเริ่มทยอยมาดูกันที่ละคน ลุงเลยบอกรบกวนช่วยพิมพ์หาในระบบให้หน่อยพร้อมส่งกระดาษเขียนชื่อให้ เหมือนที่เค้าเตอร์จะรุ้ทันบอกมาเซอร์ไพรใช่มัยเจ๊ชอบจัดให้ ได้ข้อมูลมาว่าป้าอยู่ที่ พิษณุโลกเป็นสาขาใหม่ที่เพิ่งเปิดเลยไม่มีข้อมูลสาขานี้ในเว็บไซต์ คราวนี้ลุงมาปรึกษากับทีมหาป้า เพื่อนที่ขายประกันยกทีมขายประกันคัดเลือกคนขายเก่งที่สุดเพื่อที่โทรไปสาขานี้พลาดไม่ได้กลัวป้าหนีไปอีก อัดเสียงการสนทนามาให้ฟัง ลุงได้ยินเสียงป้าโดนเซลมือหนึ่งขายประกันสมใจ ลุงไม่รอช้าเตรียมรถออกเดินทางไปพิษณุโลก เพื่อความชัวร์เลยให้ทีมเพื่อนหาข้อมูลทำงานวันไหนบ้างมาให้ แต่ด้วยรอบนี้ป้าไม่รับสายสงสัยกลัวโดนขายประกันมีคนรับแทนบอกป้าไม่เข้าเข้าอีกทีอาทิตย์หน้า ในขณะนั้นลุงขับรถใกล้นครสวรรค์แล้ว ทีมเพื่อนคำนวณแล้วมีความเสี่ยงที่ไม่เจอสูง บวกกับ ลุงมีเวลาไปหาป้า แค่วันเดียว อยู่ตรงไหนก็ไม่รู้เสี่ยงเกินไปที่จะไม่เจอสู้ลางานมาหลายๆวันแล้วไปตามหาทีเดียวดีกว่า กลับมาวันสองวันลุงก็ต้องเจอปัญหาอีกเมื่อฝนที่กทม.ตกหนักรถลุงลุยน้ำเสียลุงคิดในใจทำไมต้องตอนนี้ลุงรีบส่งซ่อมด่วนที่สุด ซ่อมเสร็จ ท่างอู่บอกว่าไม่สามารถซักพรมรถที่เปียกน้ำได้ คนไม่พอรีบเอาไปใช้ก่อนได้คับ ลุงกลับบ้านไม่รอช้าซักพรมคืนนั้นเอาไดเป่าผมช่วย ตากแดดเต็มๆ 2 วันแห้งประกอบรถเก็บของเตรียมไปตามหาป้า 5 วันที่พิษณุโลก อาจเป็นเพราะความคิดถึงตื่นเต้น 2 คืนก่อนวันไปลุงนอนหลับได้แค่วันละ 1 – 2 ชั่วโมงเท่านั้น วันออกเดินทางถึงจะไม่ได้นอนแต่ลุงก็ไม่รู้สึกเหนื่อยง่วงเลยแม้แต่น้อย  ตามหาหลายที่จนกระทั้งขับผ่านหน้าร้านลุงมองเข้าไปในร้านเห็นป้า กำลังมองรถลุงที่วิ่งผ่านรีบจอดรถแล้วเดินเข้าไปหา ป้าทำหน้าตกใจมากที่ได้เจอ ป้าถามผ่านมาหรอเราก็สั่งสมุดบันทึกไดอารี่ที่เขียนทั้งหมดให้พร้อมพูดว่า “ป้าอาจไม่เชื่อแต่อยากให้อ่านเล่มนี้ก่อนเดี๋ยวเย็นๆลุงจะมาหาใหม่” ตกเย็นป้าร้องไห้ไปพร้อมกับพูดว่า “แล้วทำไมมาหาเอาตอนนี้ป้าไม่เหมือนเดิมแล้ว...”

ไม่ว่ายังไงลุงก็ยังคงรอป้าตลอดไป ลุงไม่สามารถรักใครได้อีก ไม่อยากเริ่มต้นใหม่กับใคร ลุงเคยเจอสิ่งที่ดีที่สุดจะรักป้าตลอดไป ลุง


เพลงประกอบที่ตรงกับความรู้สึกผม
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่