เราเคยแต่อ่านปัญหาคนอื่นแล้วก็คิดว่าถ้าเป็นตัวเองจะทำแบบนี้ไม่ทำแบบนี้ แต่พอเราได้เจอเหตุการณ์ตัวเองมันไม่รู้ว่าต้องเรียงลำดับจากอะไรก่อนดี ขอเริ่มที่แฟนที่คบกันเมื่อ 18 ปีก่อน มีปัญหาครั้งแรกคือผู้ชายเอาผู้หญิงไปนอนที่บ้านพักในที่ทำงานแล้วเราไปเจอถุงยางใช้แล้ว ก็ทำให้ทะเลาะแล้วเลิกกันไปในครั้งแรก จนเราไปมีคนใหม่และมีปัญหาก็เลิกกันไป จึงได้กลับมาคุยกันอีกครั้ง แล้วแฟนได้ย้ายออกจากบ้านพักที่ทำงานมาซื้อบ้านเพื่ออยู่ด้วยกัน ในหว่างที่คบกันใหม่ก็มีเรื่องผู้หญิงเข้ามาเหมือนเดิม เป็นน้องที่ทำงานด้วยกัน เขาต้องเจอกันทุกวัน ไปงาน ไปไหนด้วยกันบ่อยๆ มีแซวกันผ่านไลน์ จนเราเริ่มรู้สึกสงสัยได้ถามไป แฟนก็ยืนยันว่าไม่ได้มีอะไร ผ่านไป4-5 เดือนก็จับได้ว่าได้พาน้องที่ทำงานมานอนที่บ้าน บ้านที่เขาบอกว่าซื้อเพื่อเราสองคน บ้านที่เราคอยดูแลทำความสะอาด ทำทุกอย่างโดยไม่รู้ว่ามันเป็น รร.สำหรับเขาสองคน จนได้มาเจอด้วยตัวเอง เจอรถของน้องผู้หญิงจอดอยู่ในบ้านตัวเอง เราก็ยังไม่อยากให้เขามีปัญหาที่ทำงาน เพราะอาจจะทำให้เขาออกจากงานได้ จึงอดทนและได้พยายามพูดและทำทุกอย่างให้ดีที่สุด ให้เขารู้ว่าเขากำลังทำผิด แต่ไม่เลยเขาก็ยังทำเหมือนเดิมพากันไปกินข้าวตามร้านอาหารที่เคยพาเราไป รับส่งดูแลกันอยู่ตลอด โดยน้องผู้หญิงก็ทราบว่ามีเราอยู่ แต่รับได้และช่วยกันปกปิดไม่สร้างปัญหาให้เรา จนเราทนไม่ไหวจึงได้คุยกับพี่หัวหน้าว่า เราไม่ไหวแล้วเราขอเลิก แต่ผู้ชายก็มาขอโอกาสจะเลิกกับน้องผู้หญิงคนนั้น แล้วก็ดีอยู่แค่ไม่ถึงปี เราก็จับได้อีกว่ายังโทรไปตามตื้อน้องผู้หญิง ตีหนึ่งตีสอง ซึ่งน้องก็มีสามีอยู่อีกคน ก็ทะเลาะกันอีกเป็นครั้งที่สองแล้วก็ลงเอยว่าขอโอกาสอีกครั้ง เพราะว่าสามีน้องผู้หญิงคนนั้น เขารู้จักไม่อยากเป็นหมา ที่ไปเอาเมียรุ่นน้องที่รู้จัก เลยจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเด็กคนนั้นทุกกรณ๊ จะไปไหนที่มีเด็กคนนั้นจะบอกเราก่อนเสมอ ไม่ให้เรารู้จากคนอื่น แต่ครั้งที่สามและสี่ก็มีตามมาเรื่อยๆ ทั้งๆที่น้องกับสามีเขาก็ยังคบกันอยู่ แอบไปดูหนังรอบดึกกัน ไปมีเรื่องมีราว แฟนเราไปดูหนังกับน้องผู้หญิงที่มีสามีอยู่ สามีน้องตามไปเจอเขาแอบไปดูหนังด้วยกัน มีเรื่อง มีราว เรารู้เราก็เฉย เพราะไม่อยากให้เสียชื่อเสียง นัดไปกินข้าวร้านพี่คนสนิท แล้วไปส่งกัน มีไปด้วยกันอยู่ตลอด มีโทรหาโดยใช้เบอร์คนอื่น เพราะเราเช็คข้อมูลโทรได้หมด เขาเลยใช้เบอร์คนอื่นโทรหา ส่วนน้องก็ใช้เบอร์ญาติโทรมาหากัน แล้วพอครั้งสุดท้ายเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เราเพิ่งรุว่า ผู้หญิงมากินข้าวกับแฟนเราที่ร้านพี่คนสนิท แล้วแฟนเราไปส่งตอนดึก เราก็ยังรอว่าเขาจะบอกเราไหม เพราะตกลงกันไว้แล้ว แล้วรถที่เขาใช้รับส่งเป็นรถของเราที่ให้แฟนไว้ใช้ ผ่านไปแค่2 วัน ที่ไปส่งน้องผู้หญิงมาแล้วเป็นวันหยุดเราเลยบอกว่าเราไม่อยู่นะ จะกลับบ้าน เขาก็นัดกันมากินข้าวกันอีก แต่อ้างว่ามาคุยงานกันผู้หญิงบอกว่า ขอมากินข้าวด้วย ผู้ชายบอกว่านัดมาคุยงานกัน ครั้งนี้เราไม่ยอมเหมือนทุกครั้ง เราไปที่ร้านเจอแฟนเรานั่งข้างกันอยู่กับผู้หญิงคนนั้น ผู้ชายตกใจอุทานว่า ซวยละ เราเพิ่งเคยเจอว่าเขามีอาการแบบนี้ แฟนเราเขาชอบผู้หญิงไม่วุ่นวาย ไม่ตาม ไม่จู้จี้ เพราะคนเจ้าชู้มักไม่ชอบคนตาม มันจะจับได้เสมอ แต่เรารู้นะแต่ไม่เคยตาม แต่ครั้งนี้มันไม่ไหวแล้ว เรื่องราวที่เคยตกลงกันไว้ เขาไม่เคยทำให้เราเลยสักครั้ง อ้างแค่รักเราคำเดียว แต่สัญญา ข้อตกลง ไม่เคยทำให้เราเลย เขาอ้างว่า รอจบงานจะบอกเราว่าไปเจอกันมา มันเป็นคำแก้ตัวใช่ไหม เพราะเราตกลงว่าต้องบอกเราก่อนทุกครั้ง ถ้าเราไม่บอกว่าเรารู้ เขาก็คงไม่ยอมรับ แล้วที่สำคัญเขาเอารถของเราที่เราให้เขาใช้ ไปรับส่งผู้หญิงที่เราเกลียด ผู้หญิงที่ทำลายครอบครัวเรา แต่เขาก็ยังทำ พาขึ้นรถเราโดยไม่รู้สึกว่า ถ้าเรารู้เราจะเจ็บปวด เสียใจแค่ไหน คำว่ารักที่เขาบอก รักแต่ทำให้เจ็บปวด ยอมให้เราเจ็บปวดได้ แค่มานอนที่บ้าน เราก็แทบไม่อยากไปนอนที่บ้านนั้นอีกเลย เพราะบ้านแฟนเป็นคนซื้อแต่มาถึงรถนี้เราของเรา เรารับไม่ไหวจริงๆ สิ่งที่ทำให้เราหมดศรัทธาคือ ตอนเรียกผู้หญิงมาคุยด้วย แล้วถามว่าจะเอายังไง ความรู้สึกเราคือ ผู้ชายไม่แสดงออกเลยว่า เรามีค่า หรือแคร์ความรู้สึกเรา ลอยหน้าตอบว่าเลือกเราไง หน้าตากวนมาก ไม่ยอมเสียหน้าต่อหน้าผู้หญิงคนนั้นไม่เคลียร์ ไม่พูดให้เราถามๆๆ โวยวายอยู่คนเดียว ว่าจะเอายังไง มันยังไง ทำไมโกหก ทำไมไม่บอก เขาก็พูดแต่ไม่มีอะไร เชื่อใจกันบ้างสิ พอเราถามว่าจะเอาทั้งคู่เหรอ หรือยังไง จะเลิกไหม เราเลิกให้ เขาบอกว่า เอาได้ไหมละ 3 คน เหมือนโยนหินถามทาง เราถามน้องผู้หญิง เขาตอบว่า ได้หมด หนูยังไงก็ได้ เอาจริงๆ เราก็คิดว่าเรารับได้นะ ถ้าเรารับได้ก็วินๆ แต่ถ้าไม่ก็อ้างว่าประชดเรา ถ้าพูดกับเราตรงๆบ้างเราคงจะเชื่อ แต่นี้ผู้ชายไม่เคยมีความจริงกะเราเลย ครบสูตร จับได้รับครึ่งเดียว จับไม่ได้ไม่รับทั้งสิ้น แล้วกับน้องคนนี้คือทะเลาะกันมาสี่ห้าครั้งแล้ว ก็ยังวนเวียนกลับมากันอยู่ตลอด แอบไปส่งกัน เราก็พยายามไม่พูดเยอะ หวังว่าเขาจะคิดได้ เพราะหน้าที่การงาน ถ้าทำผิดศีลธรรมก็มีผลกระทบกับงาน เพราะเป็นน้องที่ทำงานด้วยกัน ซึ่งครั้งหนึ่งเราก็เคยบอกให้ หัวหน้าคนเก่า ช่วยเอาออก ย้ายเขาไปที่อื่น แต่เรื่องก็เงียบ ไม่คืบหน้า จนหัวหน้าคนเก่าย้ายไป คนใหม่มา สามปีแล้วสำหรับปัญหาน้องคนนี้เราคงต้องหยุดเอง ยิ่งเจอคำว่าเราจะเสียใจที่เลิก ไม่เอาเขา เรายิ่งรู้สึกว่าเราตัดสินใจถูก ตอนนี้ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นตัวเองยังไง แล้วจะทำยังไง กับเขาสองคนดี หรือรอให้เขารับผลกรรมเอง
คิดยังไงกับปัญหาสามีไปมีอะไรกับผู้หญิงในที่ทำงานจับได้หลายครั้งก็ไม่เลิก แล้วยังช่วยกันปิดบังทั้งคู่