
The Third Charm คือความสวยงามของความรัก
ละครจะสื่อให้เรารู้ว่า ไม่ว่าจะรูปร่างหน้าตา ผิวพรรรณ
ฐานะ ชาติตระกูล เป็นอย่างไร แต่ละคน
ก็มีเสน่ห์ที่ 3 ที่อาจจะไม่มีใครเห็นกันทั้งนั้น
เสน่ห์ที่ 3 ที่จะมีเฉพาะคนบางคนเท่านั้นที่จะมองเห็นมัน
อนจุนยอง

สำหรับจุนยอง ตอนแรก ทุกคนก็คงเห็นแล้ว
ว่าไม่ได้หล่ออะไรเลย อ้วน ผมหยิก ฟันเหยิน
ขี้เหร่ครบสูตร
แต่จุนยองเป็นคนฉลาด เรียนเก่งมาก ๆ
เป็นความหวังของครอบครัว
(แถมยังทำอาหารเก่งมาก)
ซึ่งทักษะการทำอาหารนี่แหละ
จะเป็นตัวดำเนินเรื่องต่อไปในพาร์ทอายุ 27
อียองแจ

ยองแจ บ้านจน เรียนไม่เก่ง
ชีวิตต้องลำบาก ไม่ได้เรียนมหาลัยเพราะจน
จนต้องไปทำงานที่ร้านทำผม
แต่เธอเป็นคนสู้ชีวิต เข้มแข็ง อดทน

สองคนมีจุดด้อย และจุดเด่นในตัวเอง และเผอิญว่า อยู่ดี ๆ ชะตาฟ้าลิขิต
ก็ทำให้สองคนมาเจอกัน ต่างคนก็ต่างมองเห็นเสน่ห์ที่ 3
ของแต่ละคน และก็ประทับใจกัน ชอบกัน เป็นแฟนกัน ตอนอายุ 20

เรื่องไม่ได้จบแค่นั้น เพราะได้เป็นแฟนกัน
แค่วันเดียว แล้วยองแจก็เลิกกับจุนยอง
โดยที่เขาไม่รู้เหตุผลเลย

สองคนมาเจอกันอีกครั้งตอนอายุ 27 ความรัก
ความคิดถึงตลอด 7 ปี ทำให้สองคนสวีทหวานเว่อร์
จนคนดูแอบคิดไม่ได้ ว่าจะมีเรื่องดราม่าตามมาไหม
ความสนุก มันไม่ได้อยู่ที่ สองคนนี้หวานเวอร์กันแค่ไหน
แต่มันคือการพัฒนาความสัมพันธ์ ของคนสองคน
ตลอดระยะเวลา 12 ปีที่ทั้งสองคน
ได้แสดงให้เราเห็นในละคร
ความเปลี่ยนแปลง การเติบโต พัฒนาการ
ที่ทำให้เราค่อย ๆ เห็นคนสองคนนี้
จริง ๆ มันไม่ได้เป็นละครที่แปลกใหม่ แหวกแนว
หรือว่า บทปังจนทำให้หัวใจเต้นแรงเลย
บทละครเรื่องนี้ทำให้เราซึมซับ และค่อย ๆ ซึมลึก
จนเราหลงรักตัวละครทั้งสองตัว นี่อย่างไม่ทันตั้งตัว
พัฒนาการของคังจุน

เชื่อว่า หลาย ๆ คน คงจะเคยได้ยิน
เคยเห็น และเคยอ่านคำวิจารณ์ต่าง ๆ
ไม่ว่าจะเป็นแสดงแข็ง ไม่เก่ง หล่ออย่างเดียว
ตอนรับบทหุ่นยนต์ ก็มีคำสบประมาณไม่น้อย
ว่าเล่นแข็งเหมือนหุ่นยนต์ ถึงได้รับบทหุ่นยนต์ไง
ละครเรื่องนี้ ทำให้เราได้รู้แล้วว่า
ความมานะ อดทน ฝึกฝน และความพยายาม
ในหลายปีที่ผ่านมาของคังจุน มันไม่ได้สุญเปล่าเลย
ทุกย่างก้าวของคังจุน ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ
การก้าวเข้ามารับบทอนจุนยอง บทธรรมดา
ที่ไม่มีอะไรเลย แต่คังจุนกลับทำให้มันมีอะไร
ใครจะคิดว่า คังจุน จะเล่นบทเนิร์ด อ้วน ฟันเหยิน
บุคลิกเด๋อด๋า ได้ดีขนาดนี้
พอก้าวเข้าสู่วัย 27 ก็อีโวกลายเป็นนักสืบหนุ่ม
รูปหล่อ (ถึงจะป๊อดไปบ้าง ออมม่าก็ให้อภัย)
บอกได้เลยว่า บทของอนจุนยอง
คือหนึ่งก้าวกระโดด บทพิสูจน์ความสามารถ
และการเป็นนักแสดงของซอคังจุนได้เป็นอย่างดี
อีซม

นักแสดงสาวดาวรุ่ง ที่เคยได้รับรางวัล ดาวรุ่งหน้าใหม่
อีซมเข้าวงการมาในฐานะนักแสดงหนัง
แน่นอนว่า นักแสดงหนัง จะได้รับการยอมรับในเกาหลีเป็นอย่างมาก
เรื่องฝีมือไม่ต้องพูดถึงเลย เธอเป็นนักแสดงที่เก่งมาก ๆ
หาตัวจับได้ยาก
บทของอียองแจ อีซมตีบทแตกกระจุย
หญิงสาวที่ต้องลำบาก เพราะครอบครัวยากจน
แววตาของเธอ สื่ออารมณ์ของยองแจได้ดีมาก ๆ
การแสดง รับส่งอารมณ์กับคังจุน
ทำออกมาได้อย่างดีเยี่ยม ต้องขอบคุณอีซม
ที่ยอมรับเล่นละครเรื่องนี้ เธอเหมาะกับบทอียองแจมาก
สิ่งที่ซ่อนไว้ใน The Third Charm

คำว่า The Third Charm คือเสน่ห์ที่ 3 ที่ซ่อนอยู่ในตัวของคนเรา
เสน่ห์ที่ 3 นี้ จะมีเฉพาะบางคนที่มองเห็นมัน แน่นอน
เหมือนที่จุนยองเห็นของยองแจ และที่ยองแจได้เห็นเสน่ห์ของจุนยอง
ยองแจบอกจุนยองว่า ไม่ต้องสนว่าใครจะพูดอะไร
นายเป็นคนดี นายเป็นคนไม่ขี้อวด
จุนยองก็เห็นความสวยงามของยองแจ
ไม่ใช่การศึกษา ฐานะ หรืออะไร แต่เป็นการที่ยองแจ
กล้าหาญ แข็งแกร่ง และสู้ชีวิต จุนยองไม่เคยรังเกียจยองแจเลยแม้แต่น้อย
จุนยอง กับยองแจ ก็เหมือนกับตัวแทนของมนุษย์ทั่วไป
ที่เราได้พบเจอกันในทุก ๆ วัน
เราทุกคนต่างก็ไม่เฟอร์เฟค ทุกคนมีข้อดีในตัวเอง
จงภูมิใจ และรักษาตัวตนของตัวเองไว้
แต่ก็น่าแปลกนะคะ สิ่งที่ละครพยายามจะสื่อ
แต่กลับมีใครบางคนมองไม่เห็น
หลายคนกลับมองว่า อีซมไม่สวย ไม่น่าดู อยากเท
ซึ่งมันก็ไม่ผิดหรอก ที่จะคิดแบบนั้น
แต่เราอยากจะให้ทุกคน มองในมุมแก่นของคำว่า The Third Charm
ที่ทางละครเรื่องนี้อยากจะสื่อ
ต้องสวยเท่านั้นเหรอ ถึงจะได้เป็นนางเอก ต้องน่ารักเท่านั้นเหรอ
ถึงจะคู่ควรกับคนหล่อ
สำหรับเรา อยากให้โฟกัสถึงความสามารถของนักแสดง
บทละคร โปรดักชั่น การถ่ายภาพที่สวยงามมาก ๆ
สำหรับเราแล้วนะ The Third Charm ถือเป็น
ละครที่ดีที่สุดอีกเรื่องหนึ่ง ในปี 2018 ในความคิดของเรานะ
"เราจะมองเห็นแจ่มชัดด้วยหัวใจเท่านั้น
สิ่งสำคัญนั้นไม่อาจเห็นได้ด้วยดวงตา"
ลองปิดตาแล้วเปิดใจ ลองใช้หัวใจมองดูซีรีส์เรื่องนี้
ในอีกมุมดูนะ
รีวิว The Third Charm ซีรีส์ละมุนหัวใจส่งท้ายฤดูใบไม้ร่วง
ละครจะสื่อให้เรารู้ว่า ไม่ว่าจะรูปร่างหน้าตา ผิวพรรรณ
ฐานะ ชาติตระกูล เป็นอย่างไร แต่ละคน
ก็มีเสน่ห์ที่ 3 ที่อาจจะไม่มีใครเห็นกันทั้งนั้น
เสน่ห์ที่ 3 ที่จะมีเฉพาะคนบางคนเท่านั้นที่จะมองเห็นมัน
อนจุนยอง
สำหรับจุนยอง ตอนแรก ทุกคนก็คงเห็นแล้ว
ว่าไม่ได้หล่ออะไรเลย อ้วน ผมหยิก ฟันเหยิน
ขี้เหร่ครบสูตร
แต่จุนยองเป็นคนฉลาด เรียนเก่งมาก ๆ
เป็นความหวังของครอบครัว
(แถมยังทำอาหารเก่งมาก)
ซึ่งทักษะการทำอาหารนี่แหละ
จะเป็นตัวดำเนินเรื่องต่อไปในพาร์ทอายุ 27
อียองแจ
ยองแจ บ้านจน เรียนไม่เก่ง
ชีวิตต้องลำบาก ไม่ได้เรียนมหาลัยเพราะจน
จนต้องไปทำงานที่ร้านทำผม
แต่เธอเป็นคนสู้ชีวิต เข้มแข็ง อดทน
สองคนมีจุดด้อย และจุดเด่นในตัวเอง และเผอิญว่า อยู่ดี ๆ ชะตาฟ้าลิขิต
ก็ทำให้สองคนมาเจอกัน ต่างคนก็ต่างมองเห็นเสน่ห์ที่ 3
ของแต่ละคน และก็ประทับใจกัน ชอบกัน เป็นแฟนกัน ตอนอายุ 20
เรื่องไม่ได้จบแค่นั้น เพราะได้เป็นแฟนกัน
แค่วันเดียว แล้วยองแจก็เลิกกับจุนยอง
โดยที่เขาไม่รู้เหตุผลเลย
ความคิดถึงตลอด 7 ปี ทำให้สองคนสวีทหวานเว่อร์
จนคนดูแอบคิดไม่ได้ ว่าจะมีเรื่องดราม่าตามมาไหม
ความสนุก มันไม่ได้อยู่ที่ สองคนนี้หวานเวอร์กันแค่ไหน
แต่มันคือการพัฒนาความสัมพันธ์ ของคนสองคน
ตลอดระยะเวลา 12 ปีที่ทั้งสองคน
ได้แสดงให้เราเห็นในละคร
ความเปลี่ยนแปลง การเติบโต พัฒนาการ
ที่ทำให้เราค่อย ๆ เห็นคนสองคนนี้
จริง ๆ มันไม่ได้เป็นละครที่แปลกใหม่ แหวกแนว
หรือว่า บทปังจนทำให้หัวใจเต้นแรงเลย
บทละครเรื่องนี้ทำให้เราซึมซับ และค่อย ๆ ซึมลึก
จนเราหลงรักตัวละครทั้งสองตัว นี่อย่างไม่ทันตั้งตัว
พัฒนาการของคังจุน
เชื่อว่า หลาย ๆ คน คงจะเคยได้ยิน
เคยเห็น และเคยอ่านคำวิจารณ์ต่าง ๆ
ไม่ว่าจะเป็นแสดงแข็ง ไม่เก่ง หล่ออย่างเดียว
ตอนรับบทหุ่นยนต์ ก็มีคำสบประมาณไม่น้อย
ว่าเล่นแข็งเหมือนหุ่นยนต์ ถึงได้รับบทหุ่นยนต์ไง
ละครเรื่องนี้ ทำให้เราได้รู้แล้วว่า
ความมานะ อดทน ฝึกฝน และความพยายาม
ในหลายปีที่ผ่านมาของคังจุน มันไม่ได้สุญเปล่าเลย
ทุกย่างก้าวของคังจุน ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ
การก้าวเข้ามารับบทอนจุนยอง บทธรรมดา
ที่ไม่มีอะไรเลย แต่คังจุนกลับทำให้มันมีอะไร
ใครจะคิดว่า คังจุน จะเล่นบทเนิร์ด อ้วน ฟันเหยิน
บุคลิกเด๋อด๋า ได้ดีขนาดนี้
พอก้าวเข้าสู่วัย 27 ก็อีโวกลายเป็นนักสืบหนุ่ม
รูปหล่อ (ถึงจะป๊อดไปบ้าง ออมม่าก็ให้อภัย)
บอกได้เลยว่า บทของอนจุนยอง
คือหนึ่งก้าวกระโดด บทพิสูจน์ความสามารถ
และการเป็นนักแสดงของซอคังจุนได้เป็นอย่างดี
อีซม
นักแสดงสาวดาวรุ่ง ที่เคยได้รับรางวัล ดาวรุ่งหน้าใหม่
อีซมเข้าวงการมาในฐานะนักแสดงหนัง
แน่นอนว่า นักแสดงหนัง จะได้รับการยอมรับในเกาหลีเป็นอย่างมาก
เรื่องฝีมือไม่ต้องพูดถึงเลย เธอเป็นนักแสดงที่เก่งมาก ๆ
หาตัวจับได้ยาก
บทของอียองแจ อีซมตีบทแตกกระจุย
หญิงสาวที่ต้องลำบาก เพราะครอบครัวยากจน
แววตาของเธอ สื่ออารมณ์ของยองแจได้ดีมาก ๆ
การแสดง รับส่งอารมณ์กับคังจุน
ทำออกมาได้อย่างดีเยี่ยม ต้องขอบคุณอีซม
ที่ยอมรับเล่นละครเรื่องนี้ เธอเหมาะกับบทอียองแจมาก
สิ่งที่ซ่อนไว้ใน The Third Charm
คำว่า The Third Charm คือเสน่ห์ที่ 3 ที่ซ่อนอยู่ในตัวของคนเรา
เสน่ห์ที่ 3 นี้ จะมีเฉพาะบางคนที่มองเห็นมัน แน่นอน
เหมือนที่จุนยองเห็นของยองแจ และที่ยองแจได้เห็นเสน่ห์ของจุนยอง
ยองแจบอกจุนยองว่า ไม่ต้องสนว่าใครจะพูดอะไร
นายเป็นคนดี นายเป็นคนไม่ขี้อวด
จุนยองก็เห็นความสวยงามของยองแจ
ไม่ใช่การศึกษา ฐานะ หรืออะไร แต่เป็นการที่ยองแจ
กล้าหาญ แข็งแกร่ง และสู้ชีวิต จุนยองไม่เคยรังเกียจยองแจเลยแม้แต่น้อย
จุนยอง กับยองแจ ก็เหมือนกับตัวแทนของมนุษย์ทั่วไป
ที่เราได้พบเจอกันในทุก ๆ วัน
เราทุกคนต่างก็ไม่เฟอร์เฟค ทุกคนมีข้อดีในตัวเอง
จงภูมิใจ และรักษาตัวตนของตัวเองไว้
แต่ก็น่าแปลกนะคะ สิ่งที่ละครพยายามจะสื่อ
แต่กลับมีใครบางคนมองไม่เห็น
หลายคนกลับมองว่า อีซมไม่สวย ไม่น่าดู อยากเท
ซึ่งมันก็ไม่ผิดหรอก ที่จะคิดแบบนั้น
แต่เราอยากจะให้ทุกคน มองในมุมแก่นของคำว่า The Third Charm
ที่ทางละครเรื่องนี้อยากจะสื่อ
ต้องสวยเท่านั้นเหรอ ถึงจะได้เป็นนางเอก ต้องน่ารักเท่านั้นเหรอ
ถึงจะคู่ควรกับคนหล่อ
สำหรับเรา อยากให้โฟกัสถึงความสามารถของนักแสดง
บทละคร โปรดักชั่น การถ่ายภาพที่สวยงามมาก ๆ
สำหรับเราแล้วนะ The Third Charm ถือเป็น
ละครที่ดีที่สุดอีกเรื่องหนึ่ง ในปี 2018 ในความคิดของเรานะ
"เราจะมองเห็นแจ่มชัดด้วยหัวใจเท่านั้น
สิ่งสำคัญนั้นไม่อาจเห็นได้ด้วยดวงตา"
ลองปิดตาแล้วเปิดใจ ลองใช้หัวใจมองดูซีรีส์เรื่องนี้
ในอีกมุมดูนะ