
สวยมั้ย?
(ตัวจริงนางสวยกว่านี่อีกนะ ถ่ายรูปไม่ค่อยขึ้น)
เป็นสาวเวียดนามที่คอยบรรยายตามจุดให้นักท่องเที่ยวฟัง..
พอดีตอนเราเจอนางไม่มีคนมาเลย..นางก็บรรยายตามหน้าที่ไปก่อนเกี่ยวบ้านโบราณของเวียดนามที่ผสมผสานทั้งสถาปัตยกรรมจากจีนและญี่ปุ่น(ญี่ปุ่นเข้ามาตอนไหนก็ต้องกลับไปอ่าน)
ก็บรรยายโน่นนี่นั่นไปเราก็อยากรู้อยากเห็นก็ซัก..แต่รู้สึกถูกชะตาและคุยสนุก็คุยไปเรื่อยๆ
จนมาถึงเรื่องภาษานางบอกว่านางไม่เก่งเพิ่งมาฝึกเอาจริงๆจบครูฟิสิกส์แต่ไม่มีเงินยัดเข้าราชการและไม่มีเส้น(คุ้นๆมั้ย)เลยเบนเข็มมาทำงานนี้ไปพลางๆ
พอมาถึงตรงนี้นางก็บ่นระบบการศึกษาเวียดนามให้ฟังว่าล้มเหลวยังไงบ้าง..
ฟังแล้วเราก็ลยบอกนางว่าคล้ายกันเลย..พูดฮอดไปASEANว่าดีสุดก็สิงคโปร์อันอื่นไม่ไหว55..นางฉลาด..นางพูดแบบว่าเราเป็นเจอเนเรชั่นเดียวกัน(นางเพิ่งเรียนจบ)แต่ไม่ได้ถามอายุเราหรอกนางมโนเอา(นึกขำในใจป้าน่าจะเป็นพี่โขอยุ่จ้า55)และอีกมากมาย บลาๆ คุยไปนานเลยทั้งที่หิวข้าว ลุกแล้วลุกอีกกีเรื่องใหม่มาคุยต่อเกือบชม.
รู้สึกมีความสุขมากเลย..นางบอกว่าเดี๋ยวจะมาไทย..ก็แอดเฟสบุคไปแต่ตอนนั้นนางไม่มีคลื่น..ยังไม่เห็นขึ้นจนป่านนี้55
จนมาถึงเรื่องชื่อการออกเสียงตัวอักษรในเวียดนามที่คล้ายจีนก็คุยไปอีก..นางบอกชื่อเวียดนามแต่จำไม่ได้ละ..แต่แฟนนางเรียกแมว..ซึ่งแมวภาษาเวียดนามก้คือแมวบ้านเราอ่ะแหละ..(เลยขอเรียกนางว่าCat🐱)
อีกหลายคำที่คล้ายกัน เช่น มังคุด เวียดนามเรียก มังคุ เราก้บอกนางว่าน้อยหน่าไทย เวียดนามเรียกหน่า (อันนี้ไกด์เคยบอก) แล้วนางก้บอกว่าข้าวภาษาเวียดนามออกว่าจ่าว อะไรประมาณนี้..
สนุกดี..
แต่ไม่ได้เจอแต่คนดีๆนะ..ป้ามหาภัยก็มาจ้า..พวกเก็บค่าตั่วรถบัสต่างชาติแพงๆไงล่ะ..แต่พี่ข้อมูลแน่น..และผ่านการต่อสู้กับแขกมาแล้วอย่างเชี่ยวกรำ..ก็เลยมองให้เป็นเรื่องขำที่เอาตัวรอดได้แบบไม่โดนโกง..แต่เห็นการเปลี่ยนแปลงของตัวเองบางอย่างนะในการดิวกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก..เมื่อก่อนเลือกที่จะแอคเกรสสีฟหรือไม่ก็นิ่งเก้บกดแบบหินทับหญ้า..แต่คราวนี้มีสติแล้วแก้ปัญหาเสร็จก็จบตรงนั้น..ไม่ได้โกรธหรือฉุนเฉียวว่าทำไมแกเป็นคน(ขี้โกง)อย่างงี้วะ..แต่สงสารและขำเค้ามากว่า..เถียงกันเพื่อยืนยันจุดยืนและความถูกต้องแล้วก็จบและยิ้มให้เค้าได้..
การออกจากคอมฟอร์ทโซนไปสู่โซนอันตรายที่สุดคืออินเดีย..ทำให้เห็นความร้ายกาจและขาดเมตตาเกินเหตุเพราะความกลัว..กลัวโดนโกง..กลัวโดนเอาเปรียบ..กลัวโดนทำร้าย..และกลัวอื่นๆสารพัดจนเกินเหตุ..แล้วจิตที่ไม่เป็นกลางก้เลยแสดงพฤติกรรมบิดๆเบี้ยวๆออกแนวก้าวร้าว..เพื่อให้ตัวเองรู้สึกปลอดภัย..
พอเห็นแล้วรุ้จักตัวเองก็เริ่มกลัวตัวเอง..โดยเห็นว่าการแก้ปัญหาแบบนั้นไม่ได้มีประโยชน์..เราไม่จำเป็นต้องก้าวร้าวเพื่อให้ตัวเองรุ้สึกปลอดภัย..แต่สติและปัญญาที่ประกอบด้วยเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ต่างหาก..ก็ลงมือขัดเกลาตัวเองไปเรื่อยๆ..นี่แหละคือการภาวนา..สำเร็จบ้างไม่สำเร็จบ้างแต่ทำไปเรื่อยๆ..เมื่อกิเลสเบาบางลง,ความเห็นถูกทำถูกเพิ่มขึ้น..คนที่มีความสุขขึ้นคือตัวเอง ซึ่งคนรอบข้างก้ได้อานิสงค์ไปด้วย

การออกจากคอมฟอร์ทโซนมีหลายอย่างที่ต้องแลก..ไม่ว่าจะเป็นความสะดวกสบาย,ความปลอดภัย,และอื่นๆ แม้แต่ความสวย (เหมือนจะขำแต่จริง55 ต้องเจอแดดเจอลมเจอฝน55) ..เมื่อแลกแล้วเราก็น่าจะได้อะไรกลับมาบ้าง..อย่างเช่น การแลกความสุขภายนอกก็น่าจะได้ความสุขภายในตอบแทนมา..เป็นความสุขจากการรู้จักตัวเองทั้งดีและร้าย, ยอมรับมัน,แล้วปรับปรุงแก้ไข..
(24/09/18) #VietnamTrip #HoiAn
**วิธีเดินทาง
ผู้เขียนเลือกใช้รถโดยสารประจำทางตัวเมืองดานังถึงMarble Mountainระยะทางประมาณ10-11กม.โดยจุดจอดรถที่สังเกตง่ายคือตลาดหาน แต่บังเอิญออกจากโบสถ์คริสต์ทางไปตลาดหานแล้วมีรถประจำทางสีเหลือผ่านมาพอดีจึงขึ้นที่ป้ายรถเมล์หน้าโบสถ์คริสต์ โดยแวะเที่ยวที่ภูเขาหินอ่อนนี้ก่อนต่อรถไปฮอยอัน
1)ขึ้นรถจากภูเขาหินอ่อนไปฮอยอัน(ค่ารถคือ20000ดอง=30บาท)
*Tips
1)รถประจำทางสีเหลืองดานัง-ฮอยอันไม่มีการฉีกตั๋วและขึ้นชื่อในการโก่งราคา เพราะฉะนั้นผู้เขียนแนะนำให้ขึ้นรถแล้วเดินไปนั่งหน้าสุดคนขับและใกล้ที่ที่มีผู้โดยสารชาวเวียดนามนั่งอยู่ เวลากระเป๋ารถเมล์มาเก็บยื่นเงินให้เตรียมจำนวนพอดี ไม่งั้นเสี่ยงจะไม่ได้เงินทอน ยืนยันหนักแน่นในการจ่ายเงิน ถ้ากระเป๋าทู่ซี้ให้เอาภาษาเวียดนามจากTip2)หันไปถามผู้โดยสารท้องถิ่น หรือขู่จะลงรถเพื่อรอคันอื่น หากไม่สำเร็จทั้งสองก็ใช้วิจารณญาณว่าจะลงจริงหรือจะยอมจ่ายแพง😆😆
2)ในการท่องเที่ยวเวียดนามโดยเฉพาะใช้บริการรถท้องถิ่นควรเตรียมตัวถ่ายรูปภาษาเวียดนามโดยโปรแกรมgoogle translateในสถานที่ที่คุณจะไปเป็นภาษาเวียดนามและยื่นให้คนท้องถิ่นอ่าน ในกรณีที่ต้องการความช่วยเหลือ
ฝากเพจน้องใหม่ด้วยนะจ้ะ
Page:
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=770292286644763&id=765684477105544
Blog:
http://www.mindfultravelthailand.com/2018/09/blog-post_28.html?m=1
Hoi An: มิตรภาพระหว่างทาง..
สวยมั้ย?
(ตัวจริงนางสวยกว่านี่อีกนะ ถ่ายรูปไม่ค่อยขึ้น)
เป็นสาวเวียดนามที่คอยบรรยายตามจุดให้นักท่องเที่ยวฟัง..
พอดีตอนเราเจอนางไม่มีคนมาเลย..นางก็บรรยายตามหน้าที่ไปก่อนเกี่ยวบ้านโบราณของเวียดนามที่ผสมผสานทั้งสถาปัตยกรรมจากจีนและญี่ปุ่น(ญี่ปุ่นเข้ามาตอนไหนก็ต้องกลับไปอ่าน)
ก็บรรยายโน่นนี่นั่นไปเราก็อยากรู้อยากเห็นก็ซัก..แต่รู้สึกถูกชะตาและคุยสนุก็คุยไปเรื่อยๆ
จนมาถึงเรื่องภาษานางบอกว่านางไม่เก่งเพิ่งมาฝึกเอาจริงๆจบครูฟิสิกส์แต่ไม่มีเงินยัดเข้าราชการและไม่มีเส้น(คุ้นๆมั้ย)เลยเบนเข็มมาทำงานนี้ไปพลางๆ
พอมาถึงตรงนี้นางก็บ่นระบบการศึกษาเวียดนามให้ฟังว่าล้มเหลวยังไงบ้าง..
ฟังแล้วเราก็ลยบอกนางว่าคล้ายกันเลย..พูดฮอดไปASEANว่าดีสุดก็สิงคโปร์อันอื่นไม่ไหว55..นางฉลาด..นางพูดแบบว่าเราเป็นเจอเนเรชั่นเดียวกัน(นางเพิ่งเรียนจบ)แต่ไม่ได้ถามอายุเราหรอกนางมโนเอา(นึกขำในใจป้าน่าจะเป็นพี่โขอยุ่จ้า55)และอีกมากมาย บลาๆ คุยไปนานเลยทั้งที่หิวข้าว ลุกแล้วลุกอีกกีเรื่องใหม่มาคุยต่อเกือบชม.
รู้สึกมีความสุขมากเลย..นางบอกว่าเดี๋ยวจะมาไทย..ก็แอดเฟสบุคไปแต่ตอนนั้นนางไม่มีคลื่น..ยังไม่เห็นขึ้นจนป่านนี้55
จนมาถึงเรื่องชื่อการออกเสียงตัวอักษรในเวียดนามที่คล้ายจีนก็คุยไปอีก..นางบอกชื่อเวียดนามแต่จำไม่ได้ละ..แต่แฟนนางเรียกแมว..ซึ่งแมวภาษาเวียดนามก้คือแมวบ้านเราอ่ะแหละ..(เลยขอเรียกนางว่าCat🐱)
อีกหลายคำที่คล้ายกัน เช่น มังคุด เวียดนามเรียก มังคุ เราก้บอกนางว่าน้อยหน่าไทย เวียดนามเรียกหน่า (อันนี้ไกด์เคยบอก) แล้วนางก้บอกว่าข้าวภาษาเวียดนามออกว่าจ่าว อะไรประมาณนี้..
สนุกดี..
แต่ไม่ได้เจอแต่คนดีๆนะ..ป้ามหาภัยก็มาจ้า..พวกเก็บค่าตั่วรถบัสต่างชาติแพงๆไงล่ะ..แต่พี่ข้อมูลแน่น..และผ่านการต่อสู้กับแขกมาแล้วอย่างเชี่ยวกรำ..ก็เลยมองให้เป็นเรื่องขำที่เอาตัวรอดได้แบบไม่โดนโกง..แต่เห็นการเปลี่ยนแปลงของตัวเองบางอย่างนะในการดิวกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก..เมื่อก่อนเลือกที่จะแอคเกรสสีฟหรือไม่ก็นิ่งเก้บกดแบบหินทับหญ้า..แต่คราวนี้มีสติแล้วแก้ปัญหาเสร็จก็จบตรงนั้น..ไม่ได้โกรธหรือฉุนเฉียวว่าทำไมแกเป็นคน(ขี้โกง)อย่างงี้วะ..แต่สงสารและขำเค้ามากว่า..เถียงกันเพื่อยืนยันจุดยืนและความถูกต้องแล้วก็จบและยิ้มให้เค้าได้..
การออกจากคอมฟอร์ทโซนไปสู่โซนอันตรายที่สุดคืออินเดีย..ทำให้เห็นความร้ายกาจและขาดเมตตาเกินเหตุเพราะความกลัว..กลัวโดนโกง..กลัวโดนเอาเปรียบ..กลัวโดนทำร้าย..และกลัวอื่นๆสารพัดจนเกินเหตุ..แล้วจิตที่ไม่เป็นกลางก้เลยแสดงพฤติกรรมบิดๆเบี้ยวๆออกแนวก้าวร้าว..เพื่อให้ตัวเองรู้สึกปลอดภัย..
พอเห็นแล้วรุ้จักตัวเองก็เริ่มกลัวตัวเอง..โดยเห็นว่าการแก้ปัญหาแบบนั้นไม่ได้มีประโยชน์..เราไม่จำเป็นต้องก้าวร้าวเพื่อให้ตัวเองรุ้สึกปลอดภัย..แต่สติและปัญญาที่ประกอบด้วยเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ต่างหาก..ก็ลงมือขัดเกลาตัวเองไปเรื่อยๆ..นี่แหละคือการภาวนา..สำเร็จบ้างไม่สำเร็จบ้างแต่ทำไปเรื่อยๆ..เมื่อกิเลสเบาบางลง,ความเห็นถูกทำถูกเพิ่มขึ้น..คนที่มีความสุขขึ้นคือตัวเอง ซึ่งคนรอบข้างก้ได้อานิสงค์ไปด้วย
การออกจากคอมฟอร์ทโซนมีหลายอย่างที่ต้องแลก..ไม่ว่าจะเป็นความสะดวกสบาย,ความปลอดภัย,และอื่นๆ แม้แต่ความสวย (เหมือนจะขำแต่จริง55 ต้องเจอแดดเจอลมเจอฝน55) ..เมื่อแลกแล้วเราก็น่าจะได้อะไรกลับมาบ้าง..อย่างเช่น การแลกความสุขภายนอกก็น่าจะได้ความสุขภายในตอบแทนมา..เป็นความสุขจากการรู้จักตัวเองทั้งดีและร้าย, ยอมรับมัน,แล้วปรับปรุงแก้ไข..
(24/09/18) #VietnamTrip #HoiAn
**วิธีเดินทาง
ผู้เขียนเลือกใช้รถโดยสารประจำทางตัวเมืองดานังถึงMarble Mountainระยะทางประมาณ10-11กม.โดยจุดจอดรถที่สังเกตง่ายคือตลาดหาน แต่บังเอิญออกจากโบสถ์คริสต์ทางไปตลาดหานแล้วมีรถประจำทางสีเหลือผ่านมาพอดีจึงขึ้นที่ป้ายรถเมล์หน้าโบสถ์คริสต์ โดยแวะเที่ยวที่ภูเขาหินอ่อนนี้ก่อนต่อรถไปฮอยอัน
1)ขึ้นรถจากภูเขาหินอ่อนไปฮอยอัน(ค่ารถคือ20000ดอง=30บาท)
*Tips
1)รถประจำทางสีเหลืองดานัง-ฮอยอันไม่มีการฉีกตั๋วและขึ้นชื่อในการโก่งราคา เพราะฉะนั้นผู้เขียนแนะนำให้ขึ้นรถแล้วเดินไปนั่งหน้าสุดคนขับและใกล้ที่ที่มีผู้โดยสารชาวเวียดนามนั่งอยู่ เวลากระเป๋ารถเมล์มาเก็บยื่นเงินให้เตรียมจำนวนพอดี ไม่งั้นเสี่ยงจะไม่ได้เงินทอน ยืนยันหนักแน่นในการจ่ายเงิน ถ้ากระเป๋าทู่ซี้ให้เอาภาษาเวียดนามจากTip2)หันไปถามผู้โดยสารท้องถิ่น หรือขู่จะลงรถเพื่อรอคันอื่น หากไม่สำเร็จทั้งสองก็ใช้วิจารณญาณว่าจะลงจริงหรือจะยอมจ่ายแพง😆😆
2)ในการท่องเที่ยวเวียดนามโดยเฉพาะใช้บริการรถท้องถิ่นควรเตรียมตัวถ่ายรูปภาษาเวียดนามโดยโปรแกรมgoogle translateในสถานที่ที่คุณจะไปเป็นภาษาเวียดนามและยื่นให้คนท้องถิ่นอ่าน ในกรณีที่ต้องการความช่วยเหลือ
ฝากเพจน้องใหม่ด้วยนะจ้ะ
Page: https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=770292286644763&id=765684477105544
Blog: http://www.mindfultravelthailand.com/2018/09/blog-post_28.html?m=1