(CR) รีวิวปรับรูปหน้าด้วยการฉีดเมโสแฟต (Meso Fat) ลดแก้ม ลดเหนียง 1 สัปดาห์เห็นผลจริง

* กระทู้นี้สามารถใช้งานได้เฉพาะผู้ที่มี Link นี้เท่านั้นค่ะ

กระทู้สนทนา

สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะมารีวิวผลลัพธ์การฉีดเมโสแฟต ลดแก้ม ลดเหนียงอย่างละเอียด ที่ Villa Clinic ใกล้ BTS พญาไท/ราชเทวี แบบหน้าเล็กลงจริงไม่แหกตา! ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าเราเป็นคนหน้าใหญ่และมีเนื้อแก้มเยอะมากเนื่องจากเราอ้วน นอกจากอ้วนออกแขน ขา และพุงแล้วยังอ้วนออกหน้าอีกด้วย ว่าง่ายๆคืออ้วนทั้งตัวนั่นเอง xD วันดีคืนดีก็รู้สึกอยากหน้าเล็กขึ้นมา เลยไปนั่งอ่านว่ามีวิธีไหนบ้างที่จะทำให้เหนียงและแก้มหายไปฉบับคนขี้เกียจออกกำลังกาย แล้วก็ได้คำตอบว่า การฉีดเมโสแฟตเป็นวิธีหนึ่งที่น่าสนใจอีกทั้งยังราคาไม่แพงจนเกินไปเหมาะกับวัยนักศึกษาอย่างเรา

ก่อนที่เราจะเริ่มรีวิวการฉีดเมโสแฟต เรามาทำความรู้จักกับเจ้าสิ่งนี้กันก่อนดีกว่าว่ามีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร จะได้เอาไว้ประกอบการพิจารณากัน หรือหากเพื่อนๆทราบกันอยู่แล้วก็สามารถข้ามส่วนนี้ไปได้เลยจ้า ( ขอบคุณข้อมูลจาก https://www.honestdocs.co/ )
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้Q : เมโสแฟต (Meso Fat) คืออะไร
A : การทำ Meso Fat เป็นวิธีที่แพทย์ใช้การฉีดตัวยาในกลุ่มของ Phosphatidylcholine, Deoxycholate, Dexpanthenol, L-carnitine, Amino acid หรือ Minerals สารเหล่านี้เป็นสารสกัดจากถั่วเหลืองหรือไข่แดงและวิตามินอีกหลายชนิด โดยจะฉีดเข้าสู่ผิวหนังลึกเข้าไปในชั้นไขมัน และสามารถสลายออกจากร่างกายได้ เนื่องจากเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ เมื่อฉีดสารสำคัญเข้าไปในจุดที่ต้องการลดไขมันแล้ว สารนี้จะช่วยสกัดการสะสมของไขมันและทำให้ไขมันเหล่านี้สลายตัวออกมา โดยไขมันที่สลายออกมานั้นจะอยู่ในรูปของไขมันเหลว และถูกขับออกมาทางปัสสาวะกับทางอุจจาระ

Q : เมโสแฟต (Meso Fat) มีข้อดี-ข้อเสียอะไรบ้าง
A : ข้อดี - การทำ Meso Fat ก็สามารถช่วยขจัดไขมันส่วนเกินและปรับรูปหน้าหรืออวัยวะให้สมส่วนดูดีได้ เหมาะสำหรับผู้ที่มีสุขภาพดีแต่ไม่สามารถลดไขมันได้ด้วยวิธีอื่น โดยหลังการฉีดจะเห็นผลว่าใบหน้าได้รูปขึ้น 1-3 เดือน
ข้อเสีย - บางรายอาจมีการแพ้สารที่ฉีดหรือเกิดการติดเชื้อในบริเวณที่ฉีด ผิวหนังบริเวณที่ฉีดมีการเปลี่ยนแปลงหรือเกิดรอยช้ำ เกิดแผลเป็นและอาจเป็นโรคชั้นไขมันอักเสบ

Q : ค่าใช้จ่ายในการฉีดเมโสแฟต (Meso Fat)
A : ขึ้นอยู่กับจุดที่ต้องการฉีดและปริมาณในการฉีด โดยราคาจะอยู่ที่ประมาณ 1,500 บาท ขึ้นไป

Q : หลังจากฉีดเมโสแฟต (Meso Fat) แล้วต้องดูแลตัวเองอย่างไร
A : - เพื่อสลายก้อนไขมันให้กลายเป็นไขมันเหลวแล้วถูกขับออกทางปัสสาวะ ต้องดื่มน้ำเยอะๆ อย่างน้อยวันละ 2 ลิตร เพื่อให้มีการขับไขมันออกมากที่สุด
- ควรออกกำลังกายเบาๆ เพื่อช่วยให้ไขมันสลายออกไปได้เร็วขึ้น
- หลังการทำ Meso Fat อาจมีรอยฟกช้ำ จึงควรหลีกเลี่ยงการอบซาวน่า การทำทรีทเม้นต์ทุกชนิด การนวด และไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์เป็นเวลา 1 สัปดาห์

Q : ข้อควรระวังในการทำเมโสแฟต (Meso Fat)
A : เนื่องจากเป็นเทคนิคทางการแพทย์เฉพาะกลุ่มคนที่ต้องการความสวยความงาม ดังนั้นบุคคลดังต่อไปนี้จึงไม่ควรทำเพื่อความปลอดภัยของตนเอง สตรีที่กำลังอยู่ในช่วงตั้งครรภ์ / ผู้ที่มีโรคประจำตัว ได้แก่ ผู้ป่วยโรคเบาหวานที่ต้องฉีดอินซูลิน ผู้ที่เป็นโรคหลอดเลือดผิดปกติต่างๆ อย่างเช่นเส้นเลือดตีบ ผู้ที่เป็นโรคเลือด โรคมะเร็ง และโรคหัวใจ

.
.
.
.

ขอบอกว่านี่เป็นการเข้าคลินิกเสริมความงามครั้งแรกในชีวิต! เราไม่เคยรักษาสิวหรือทำอะไรกับหน้าเลย เราจึงมีความตื้นเต้นและกลัวเจ็บสูงมาก เพราะไปอ่านรีวิวต่างๆเยอะมากแล้วเกือบทุกคนยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า มันเจ็บมากกกก แถมหลังฉีดบางคนยังหน้าระบมอีกด้วย แต่ในเมื่อเราตัดสินใจแล้วเราจะไม่เปลี่ยนใจแม้ว่าจะกลัวมากก็ตาม5555 โดยเราเลือกไปใช้บริการที่ Villa Clinic (ใกล้ BTS พญาไท/ราชเทวี ใต้คอนโด Villa ราชเทวี อยู่ติดกับร้านสะดวกซื้อ Max Value) เลือกจากความสะดวกในการเดินทางล้วนๆเพราะคลินิกอยู่ใกล้ที่พักเรามาก แต่หากใครจะขับรถยนต์ส่วนตัวไปก็มีที่จอดให้หรือจะไปด้วยรถไฟฟ้าก็สะดวกเช่นกันค่ะ

บรรยากาศในคลินิก
ขออนุญาตแนบรูปจาก Facebook Page ของคลินิกเพราะไม่ได้ถ่ายรูปเก็บไว้ แฮะๆ

คลินิกเล็กๆ ตกแต่งสบายตา สะอาด คนไม่พลุกพล่าน พอไปถึงก็ไปแจ้งกับพี่พนักงานว่าจะทำอะไร นั่งรออ่านหนังสือเพลินๆสักพักเค้าก็เรียกเค้าไปคุยกับคุณหมอที่ห้องตรวจด้านใน หลังจากที่เราบอกหมอว่าอยากทำอะไร หมอก็จะทำการวิเคราะห์ใบหน้าเราและแนะนำว่าเราควรฉีดตรงไหนอะไรยังไง ซึ่งหมอแนะนำว่าเราควรฉีด 2 ขวด ถ้าอยากให้เห็นผล (ลืมถามหมอว่า 1 ขวดมันเท่ากับกี่ CC) เมื่อพร้อมแล้วก็ขึ้นเขียงเลยจ้า

ก่อนฉีดก็จะมีการทำความสะอาดใบหน้าก่อน ตอนหมอผสมยาคือเรากลัวเจ็บมากและทำใจไว้แล้วว่าต้องเจ็บแน่ๆ เพราะการฉีดเมโสแฟต จะไม่ใช้ยาชาแต่จะเป็นการประคบเย็นแทน แต่ปรากฏว่าความกลัวของเรานั้นก็หายวับไปทันทีที่เริ่มฉีด คือไม่เจ็บเลยสักนิดเดียว ไม่เจ็บจริงๆ แบบบีบสิวเองยังเจ็บกว่า คือหมอมือเบามากจนแบบเหมือนเรามานอนเล่นที่คลินิกแล้วกลับบ้าน5555 ความรู้สึกตอนนั้นคือ ที่ฉันอ่านมาทั้งหมดคืออะไรรรร! พอฉีดเสร็จผู้ช่วยหมอก็จะประคบเย็นแล้วนวดบริเวณที่ฉีดให้ยามันเข้าที่เข้าทางไม่เกิน 5 นาที จากนั้นก็ไปชำระค่าเสียหายได้เลยจ้า เบ็ดเสร็จแล้วเสียหาย 3,000 บาท (เมโสแฟตขวดละ 1,500 บาท เราฉีด 2 ขวด) จากนั้นหมอจะนัดดูอาการอีกครั้งภายใน 1-2 สัปดาห์เพื่อตรวจความเรียบร้อยค่ะ ระหว่างนี้ก็สามารถปรึกษาปัญหาต่างๆใน Line ของทางคลินิกได้เลย

และนี่คือผลลัพธ์เปรียบเทียบใบหน้าก่อน-หลังฉีด ไปดูกันจ้า

.
.
.
.

เห็นความเปลี่ยนแปลงไหม ถ้ายังไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงเราจะมาเทียบให้ดูกันชัดๆ

.
.
.
.

จากรูปก่อนฉีดจะเห็นว่าเราเป็นคนมีเนื้อแก้มค่อนข้างเยอะ แต่หลังจากฉีดไป 7 วัน เราสังเกตได้ว่าหน้าเราได้รูปมากขึ้น แก้มและเหนียงลดลงอย่างเห็นได้ชัด หลังจากฉีดหน้าจะมีอาการตึงนิดๆบวมๆหน่อยๆเป็นปกติไม่ต้องตกใจค่ะ อาการเหล่านี้จะหายไปภายใน 1-2 วัน โดยรูปหน้านี้จะอยู่กับเรานาน 1-3 เดือน และเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสลายไขมันควรดื่มน้ำเยอะๆ วันละ 2 ลิตรเป็นอย่างน้อยและออกกำลังลังกายเบาๆควบคู่ไปด้วยนะคะ เราเน้นกินน้ำเยอะๆเอาอย่างเดียวก็เห็นผลนะคะ แต่จะให้ดีควรออกกำลังกายควบคู่กันไปค่ะ โดยรวมแล้วเราพอใจกับผลลัพธ์ที่ออกมา เพราะไปแบบงงๆและไม่ได้คาดหวังอะไรแต่ผลที่ได้กลับเกินคาดมาก เพียง 7 วัน หน้าก็ดูเล็กลงได้ระดับหนึ่ง ที่ประทับใจอีกอย่างคือคลินิกบริการดีมาก พูดคุยแบบเป็นกันเองสุดๆตั้งแต่พี่ๆพนักงานจนถึงคุณหมอ ที่สำคัญคือให้คำปรึกษาอย่างตรงไปตรงมา อะไรเหมาะกับเราหรือไม่เหมาะก็พูดตามความจริง ที่สำคัญคือไม่ขายคอร์ส! ไม่มีการ Hard Sale ใดๆทั้งสิ้น ซึ่งเราคิดว่าเป็นอะไรที่ดีมากๆเพราะการ Hard Sale ทำให้เรารู้สึกอึดอัด (คือเราไม่รู้ว่าที่อื่นเป็นแบบนี้ไหมเพราะเราไม่เคยไป5555)

.
.
.
.

ทั้งหมดนี้เป็นความรู้สึกและความคิดเห็นส่วนตัวของเรานะคะ คลินิกไม่ได้จ้างเรามาโฆษณาแต่อย่างใด เก็บเงินเพื่อไปฉีดเอง เสียเงินเองทุกบาททุกสตางค์ ยืนยัน! หากเพื่อนๆสนใจจะฉีดแฟตหรือทำอย่างอื่นกับใบหน้าลองไปสอบถาม ขอคำปรึกษากับ Villa Clinic กันดูได้เลย ชื่ออาจจะไม่คุ้นหูเท่าไหร่แต่ที่นี่เค้าเปิดบริการมาได้ 3-4 ปีแล้วนะ แนะนำให้ติดต่อทาง Social Media ของทางคลินิกก่อนจะเข้าไปนะคะ เราจะแปะช่องทางการติดต่อและอัตราค่าบริการคร่าวๆไว้ให้ด้านล่างเผื่อเพื่อนๆสนใจ ที่สำคัญก่อนจะทำอะไรกับใบหน้าหรือร่างกายควรศึกษาให้ละเอียดก่อนตัดสินใจทำนะคะ เลือกสถานที่ๆมีมาตรฐานและเชื่อถือได้ สุดท้ายนี้หากสงสัยหรืออยากแลกเปลี่ยนประสบการณ์การเข้าคลินิกเสริมความงามก็ Comment ไว้ในกระทู้ได้เลย มาแลกเปลี่ยนความรู้กันค่ะ

นี่เป็นการตั้งกระทู้ครั้งแรกของเราหากมีอะไรผิดพลาดต้องขอโทษด้วย หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆนะคะ ขอบคุณมากๆที่สละเวลาเข้ามาอ่านค่า