"ซูเปอร์ตี๋"
สินทวีชัย หทัยรัตนกุล อดีตผู้รักษาประตู
ทีมชาติไทย วัย 36 ปี สโมสรชลบุรี และ สุพรรณบุรี ยกให้แมตช์อุ่นเครื่องที่ลงเฝ้าเสาให้ทีมชาติไทย พบ เรอัล มาดริด ที่จัดแข่งที่ประเทศไทย คือแมตช์ในฝันและประทับใจสุดๆในชีวิต
"โดยให้เหตุผลว่าเป็นเกมที่นอกเหนือจาก เรอัล มาดริด จะคับคั่งไปด้วยซูเปอร์สตาร์เต็มทีม คือในความรู้สึกส่วนตัวเป็นเรื่องที่พิเศษของชีวิตที่ไม่คิดว่าจะได้ลงเล่นในเกมนี้ ซึ่งแค่นั่งดูผมก็ดีใจแล้ว แต่วันนั้นเซอร์ไพรส์มาก รวมถึงในช่วงนั้นตนก็ยังเป็นมือสามอยู่ ถ้าแคนดิเดตที่จะได้ลงก็เป็นโกล์มือ1 และมือ 2 เช่น มือ 1 ลงครึ่งแรก , มือ 2 ลงครึ่งหลัง
ผมก็ไม่คิดว่าผมจะได้ลงอยู่แล้วในวันนั้น แต่ก่อนหน้านั้นในการฝึกซ้อมผมก็พยายามฝึกซ้อมอย่างหนัก เพื่อแสดงให้โค้ชเห็นว่าเราพร้อมเสมอ แต่ก็ไม่คิดว่าจะได้ลง แต่พอได้ลงก็ยิ่งกว่าฝันอีกในการลงแข่งกับทีมระดับโลก ก็รู้สึกหลงรักในเกมวันนั้นมาก"
"ส่วนแมตช์ดรามาที่สุดในชีวิตคงจะเป็นแมตช์ที่พบเกาหลีเหนือ ซึ่งช่วงนั้นกระแสฟุตบอลไทยกำลังดี ผมก็ได้ลงเล่นกับชุดของพี่ซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง , พี่โอ่ง ดุสิต เฉลิมแสน, พี่แบน ธชตวัน ศรีปาน พี่วัง ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล ซึ่งทีมชาติไทย ชุดนี้เป็นความหวังที่ว่าเราจะไปเล่นในรอบ 10 ทีม สุดท้ายในฟุตบอลโลก โซนเอเชีย ได้ และเกมนั้นเราได้เล่นในบ้านด้วย
แต่ว่าเกมนั้นเรากับทำไม่ได้ โดยสกอร์เราแพ้ไป 1-4 ทำให้ผมผิดหวังกับตัวเอง และรู้สึกช็อคกับผลการแข่ขัน ช็อคกับแฟนบอลที่มาเชียร์ในสนามเต็มสนามราชมังคลากีฬาสถาน ดังนั้นแมตช์นี้จึงเป็นอีกหนึ่งแมตช์ดรามาที่ตนเคยเจอกับทีมชาติไทย"
ที่มา >
https://www.facebook.com/ThaileagueCrazy/photos/a.542357709520730/545878112502023/?type=3&theater 
แมตช์! ดรามา - ประทับใจ .. สินทวีชัย
"โดยให้เหตุผลว่าเป็นเกมที่นอกเหนือจาก เรอัล มาดริด จะคับคั่งไปด้วยซูเปอร์สตาร์เต็มทีม คือในความรู้สึกส่วนตัวเป็นเรื่องที่พิเศษของชีวิตที่ไม่คิดว่าจะได้ลงเล่นในเกมนี้ ซึ่งแค่นั่งดูผมก็ดีใจแล้ว แต่วันนั้นเซอร์ไพรส์มาก รวมถึงในช่วงนั้นตนก็ยังเป็นมือสามอยู่ ถ้าแคนดิเดตที่จะได้ลงก็เป็นโกล์มือ1 และมือ 2 เช่น มือ 1 ลงครึ่งแรก , มือ 2 ลงครึ่งหลัง
ผมก็ไม่คิดว่าผมจะได้ลงอยู่แล้วในวันนั้น แต่ก่อนหน้านั้นในการฝึกซ้อมผมก็พยายามฝึกซ้อมอย่างหนัก เพื่อแสดงให้โค้ชเห็นว่าเราพร้อมเสมอ แต่ก็ไม่คิดว่าจะได้ลง แต่พอได้ลงก็ยิ่งกว่าฝันอีกในการลงแข่งกับทีมระดับโลก ก็รู้สึกหลงรักในเกมวันนั้นมาก"
"ส่วนแมตช์ดรามาที่สุดในชีวิตคงจะเป็นแมตช์ที่พบเกาหลีเหนือ ซึ่งช่วงนั้นกระแสฟุตบอลไทยกำลังดี ผมก็ได้ลงเล่นกับชุดของพี่ซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง , พี่โอ่ง ดุสิต เฉลิมแสน, พี่แบน ธชตวัน ศรีปาน พี่วัง ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล ซึ่งทีมชาติไทย ชุดนี้เป็นความหวังที่ว่าเราจะไปเล่นในรอบ 10 ทีม สุดท้ายในฟุตบอลโลก โซนเอเชีย ได้ และเกมนั้นเราได้เล่นในบ้านด้วย
แต่ว่าเกมนั้นเรากับทำไม่ได้ โดยสกอร์เราแพ้ไป 1-4 ทำให้ผมผิดหวังกับตัวเอง และรู้สึกช็อคกับผลการแข่ขัน ช็อคกับแฟนบอลที่มาเชียร์ในสนามเต็มสนามราชมังคลากีฬาสถาน ดังนั้นแมตช์นี้จึงเป็นอีกหนึ่งแมตช์ดรามาที่ตนเคยเจอกับทีมชาติไทย"
ที่มา > https://www.facebook.com/ThaileagueCrazy/photos/a.542357709520730/545878112502023/?type=3&theater