จากใจชิปปิ้งรับส่งออกชวนชมรายเล็กที่เริ่มจากการเรียนรู้ด้วยตัวเองถ้าคิดชิปปิ้งแพงไปขอโทษทั้งน้ำตาเลยค่ะ

#ส่งออกชวนชม_อยากให้อ่านจากใจชิปปิ้งตัวเล็กๆ ท่านที่กำลังส่งออกชวนชมแต่ไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงบ้าง ขอแนะนำเป็นรายละเอียดหลักๆถึงเอกสารสำคัญที่จำเป็นต้องมี และหลักเกณฑ์การประมาณค่าใช้จ่ายไปยังมาเลเซีย และประเทศอื่นๆ ก่อนการทำเอกสาร อันดับแรกต้องมีข้อมูลประเทศปลายทางที่ต้องส่งให้แน่นๆ ศึกษาหลักๆคือกฏการนำเข้าและอัตราภาษีอากรนำเข้าของแต่ละประเทศ
เอกสารสำคัญที่ต้องมีคือ
- ใบตรวจโรคโดยกรมเกษตรฯ
- ใบรับรองถิ่นกำเนิด (ใช้ลดหย่อนภาษีอากรสำหรับผู้รับที่ด่านศุลกากรประเทศมาเลเซีย)
- ใบ invoid + packinglist+ใบรายการสินค้า เพื่อผ่านด่านศุลฯ
**การขอใบรับรองและเอกสารต่างๆจากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง คุณต้องขึ้นทะเบียนเป็นตัวแทนส่งออกพืชพันธ์เกษตรของกรมเกษตร และต้องมีบัตรตัวแทนนำเข้า-ส่งออก โดยกรมการค้าเพื่อการส่งออกฯอีก ในบางครั้งต่อให้คุณมีทั้งรหัสตัวแทนส่งออกและขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องแล้ว คุณยังต้องพึ่งพาดวงขอให้วันที่ไปทำเอกสารคนไม่เยอะทีเถอะ !!! ไม่ง่ายน่ะค่ะ และอาจจะไม่ยากในมุมมองของหลายๆคนที่เอเจนซี่อยู่แล้ว เราอาจจะดูน้องใหม่ในเรื่องนี้แต่เคยอยู่ในสถานะการที่ต้องการส่งออกน้อยชิ้น ส่งออกแต่ละครั้งจำนวนไม่มาก เราเคยอยู่ในสถานะที่ต้องวิ่งหาเอเจนซี่ หากลูกค้าที่มีเอเจนซี่ของเขาอยู่แล้วก็ดีไป แต่ถ้าลูกค้าของเราไม่มีหล่ะ ?? บีเคยโดนลูกค้าปฏิเศธที่ให้ราคาในส่วนของการดำเนินงานในราคา 2500 บาทตอนนั้นต้องใช้บริการของรุ่นพี่ที่ ม.เกษตร เป็นราคาต่อเนื่องที่ถึงเราไม่บวกค่าเซอร์วิสลูกค้าก็มองว่าแพงเกินไป เราคิดถึงจุดนี้ที่เราเคยเป็น ปัณหาที่เราเคยพบเจอ และผ่านการแก้ไขจนมีวันนี้ และมีพันธมิตรที่ดีในการขนส่งข้ามแดนไปยังมาเลเซียด้วยราคาที่ต่างจากชิปปิ้งทั่วไปมากๆ แทบจะทุกบรรษัทที่รับชิปปิ้งขนส่ง แม้แต่ smeshipping.thailand เองก็ยังไม่รับส่งต้นไม้ เพราะอะไรค่ะ ??? เพราะรายละเอียดยิบย่อยมันเยอะไม่คุ้มกับเวลา ไม่คุ้มเสียหากโดนกักกันเพื่อทำลายมันไม่คุ้มค่าประกัน เพราะต้นไม้ก็คือพืช คือ สิ่งมีชีวิตที่ถูกบัญญติลงในสิ่งต้องห้ามการนำเข้า-ส่งออกระหว่างประเทศ อีกทั้งบางประเทศที่เข้าร่วมสนธิสัญญาไซเตสเกี่ยวกับพันธ์พืชสงวนแห่งชาติบวกรายละเอียดยิบๆเข้าไปอีก เราคิดค่าเอกสารตามจริงค่ะ ตามหลักมนุษยธรรม สำหรับรายเล็กๆที่เริ่มไม่เป็นจริงๆ เท่าที่เรามีข้อมูลจากลูกค้าหลายๆรายเลยเอามาสรุปให้ฟังกันจ่ะๆในที่นี้ โดยค่าเอกสารไม่รวมชิปปิ้งของเอเจนซี่ถูกสุดที่เคยทราบมา 1200บาท คงเป็นเอเจนซี่รายใหญ่ที่ไปมาเลเซีย เพื่อนๆที่อยากได้ราคานี้ก็ไปหาสอบถามข้อมูลดูในเพจต่างๆน่าจะมีเจ้าของสวนใหญ่ที่ไม่หวงทิศทางทำมาหากินแนะนำให้ได้ ส่วนตัวเรารายเล็กรายย่อย เก็บค่าดำเนินงาน1800บาท (ลดเหลือ 1000 ต่อหัวกรณีมีการส่งออกไปมาเลเซีย3รายต่อครั้ง**เพราะงั้นแนะนำแม่ค้าทั้งหลายบอกลูกค้ามาเลเซียที่น่ารักไปเลยว่าถ้าไม่มีเอเจนท์รับส่งออกเมื่อไปซื้อไม้จากรายอื่นๆก็สามารถแนะนำตัวท่านเองเป็นเอเจนท์ได้น่ะค่ะ แล้วบีจะซับพอร์ทค่าเอกสารให้ไปในตัวเพื่อช่วยกันทำมาหากินต่อไป555+)ต่อๆ ค่าน้ำมัน 800 ค่าเอกสาร 500 ค่าแรง 500 ใช้เวลา 1 วัน กับเอกสารที่เคยแนะนำกันไปแล้ว...คนที่เป็นลูกค้ามาเลเซียน่าจะเข้าใจและได้โปรดเข้าใจไว้ด้วยว่าต่อให้คุณซื้อต้นเดียวคุณก็ต้องแบกค่าใช้จ่ายส่วนนี้เพราะงั้นซื้อทีละเยอะๆไปเลยค่ะ เรามีใบลดหย่อนภาษีอากรให้ด้วยไม่ต้องกลัว และถ้าเห็นว่าค่าบริการส่วนนี้ของเรามันแพงเกินรับไหวก็ขอให้หาเอเจนซี่ติดตัวมาด้วยน่ะค่ะ พ่อค้าแม่ขายคนไทยเขาจะได้ไม่ยุ่งยาก ส่งให้เอเจนซี่ของคุณพอ ไม่ต้องเหนื่อยหาวิธีส่งออกให้คุณโดยที่บางคนเริ่มต้นไม่เป็นเหมือนเรา มันเหนื่อยค่ะ เหนื่อยที่ต้องเริ่มหาจุดลง เหนื่อยที่ต้องคลำทางกว่าจะเจอก็เสียโอกาสทางการค้าไปมากโข เราบอกแล้วน่ะค่ะ ไม่ปิด ไม่เม้ม !!!! อ้อ !!! ค่าขนส่งเอาง่ายๆ ถ้ากล่องใหญ่เอาปริมาตรกล่องเป็นหลักแต่ถ้าคำนวณแล้วน้ำหนักมีมวลค่ามากกว่าปริมาตรก็ใช้นำ้หนักเป็นเกณฑ์การแพคก็ต้องใช้เกณฑ์เพื่อให้ผ่านการทำประกันขนส่งอีก แต่เรามันคนง่ายๆ เลยใช้การส่งแบบแปะไปกับขนส่งทางบกโดยรถบรรทุกค่าขนส่งวิธีนี้ถูกสุดแนะนำกันไปเลย เพราะเคยใช้ชิปปิ้งที่เสจหาข้อมูลจากในเน็ตมีแบบส่งถึงบ้านด้วยแต่อัตราการส่งไปมาเลเซียจะอยู่ที่ 3500-4500บาทกันเลยทีเดียว นึกถึงลูกค้าขนาดค่าต้นไม้ยังต่อราคาขนส่งเลทนี้ไม่ต้องพูดถึง ถ้าไม่ดิ้นหาทางรักษาลูกค้าเพื่อแนวทางทำมาหากินต่อไปก็คงต้องถูกลูกค้านั้นแหละปฏิเสธ ผ่านมาหล่ะถึงเข้าใจ เพราะงั้นหากเราคิดค่าขนส่งก็ให้รู้ไว้เลยว่า แพงมั้ยมันอยู่ที่ขนาดและน้ำหนักของต้นไม้คุณเป็นหลัก ซึ่งเคยส่งน้ำหนักประมาณ 28 โล แพคกล่องไม้ลังค่าจัดส่งอยู่ที่ 2000 บาทไทย ใครเคยส่งถูกกว่านี้บอกด้วย และไม่เกิน 10โล ราคาที่เคยส่งก็พันเศษ เอาตรงๆ ค่าขนส่งไม่บวกเพิ่มเพราะเอเจนท์ขนส่งเขาก็บวกอยู่แล้ว แต่เคยไปใช้บริการไปรษณีย์ไทยที่ด่านของศุลกากรสุวรรณภูมิอาคาร4น่ะรอนานโคตรเพราะบางเจ้าตรวจกันเป็นตู้คอนเทรนเนอร์แต่ก็ส่งได้อ่ะ ทางเรือ นานนิดนึงแต่มีประกัน สรุป สำหรับผู้ส่งออกรายย่อยที่ส่งรายครั้งน้อยชิ้นแนะนำว่าควรบอกลูกค้าให้ซื้อเยอะๆค่ะ 555+ จะได้คุ้มกับการทำเอกสารแต่ถ้าสั่งน้อยก็ต้องทำใจรับค่าใช้จ่ายหากไม่สะดวกไปทำเรื่องส่งออกเองอ่ะน่ะ ถ้าเขาหาเอเจนต์ส่งออกได้เองก็ดีใจด้วย แต่สำหรับเราก็ตามนี้ค่าใช้จ่ายมันตามหลักสุดเหตุและผลจริงๆ ค่ะ ... สงสัยให้ถาม ตอบช้า ตอบนานอย่าว่ากันเด้อ !!! ขอสัญญาให้ตัวเองด้วยความทะเยอทะยานอย่างสุดโต่งของข้าพเจ้าว่าจะสู้กับปัญหาทุกอย่างที่เจอเพื่อพัฒนาขอบเขตการขนส่งให้ดีขึ้นกว้างขึ้นมืออาชีพมากยิ่งขึ้นและลดภาระผู้ส่งออกรายย่อยสัญญาจะพัฒนาด้วยหยาดเหงื่อ มันสมอง และสองมือ จากใจชิปปิ้งตัวเล็ก ... ขอบพระคุณคร่า
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่