" มีสติ มีสัมปชัญญะ รอคอยการตาย "

มีสติ มีสัมปชัญญะ รอคอยการตาย


ภิกษุทั้งหลาย !
ภิกษุพึงเป็นผู้มีสติ มีสัมปชัญญะ เมื่อรอคอยการทำกาละ ( รอคอยการตาย )
นี้ เป็นอนุสาสนีของเรา สำหรับพวกเธอทั้งหลาย.


ภิกษุทั้งหลาย ! ภิกษุ เป็นผู้มีสติเป็นอย่างไรเล่า ?
ภิกษุทั้งหลาย ! ภิกษุในกรณีนี้

เป็นผู้ตามเห็นกายในกายอยู่เป็นประจำ
มีความเพียรเผากิเลส มีสัมปชัญญะ มีสติ กำจัดอภิชฌาและโทมนัสในโลกออกเสียได้

เป็นผู้ตามเห็นเวทนาในเวทนาทั้งหลายอยู่เป็นประจำ
มีความเพียรเผากิเลส มีสัมปชัญญะ มีสติ กำจัดอภิชฌาและโทมนัสในโลกออกเสียได้

เป็นผู้ตามเห็นจิตในจิตอยู่เป็นประจำ
มีความเพียรเผากิเลส มีสัมปชัญญะ มีสติ กำจัดอภิชฌาและโทมนัสในโลกออกเสียได้

เป็นผู้ตามเห็นธรรมในธรรมทั้งหลายอยู่เป็นประจำ
มีความเพียรเผากิเลส มีสัมปชัญญะ มีสติ กำจัดอภิชฌาและโทมนัสในโลกออกเสียได้

อย่างนี้แลภิกษุทั้งหลาย ! เรียกว่า ภิกษุเป็นผู้มีสติ.


ภิกษุทั้งหลาย ! ภิกษุเป็นผู้มีสัมปชัญญะ เป็นอย่างไรเล่า ?
ภิกษุทั้งหลาย ! ภิกษุในกรณีนี้

เป็นผู้รู้ตัวรอบคอบในการก้าวไปข้างหน้า การถอยกลับไปข้างหลัง, การแลดู การเหลียวดู,
การคู้ การเหยียด, การทรงสังฆาฏิ บาตร จีวร, การฉัน การดื่ม การเคี้ยว การลิ้ม,
การถ่ายอุจจาระ ปัสสาวะ, การไป การหยุด, การนั่ง การนอน, การหลับ การตื่น, การพูด การนิ่ง

อย่างนี้แล ภิกษุทั้งหลาย ! เรียกว่า ภิกษุเป็นผู้มีสัมปชัญญะ


ภิกษุทั้งหลาย !
ภิกษุพึงเป็นผู้มีสติ มีสัมปชัญญะ เมื่อรอคอยการทำกาละ ( รอคอยการตาย )
นี้ เป็นอนุสาสนีของเรา สำหรับพวกเธอทั้งหลาย.


ภิกษุทั้งหลาย !
ถ้าเมื่อภิกษุ มีสติ มีสัมปชัญญะ
ไม่ประมาท มีความเพียรเผากิเลส มีตนส่งไปแล้วในธรรม อยู่อย่างนี้

( กรณี สุขเวทนา )
สุขเวทนา เกิดขึ้นไซร้ เธอย่อมรู้ชัดอย่างนี้ว่า
“สุขเวทนานี้ เกิดขึ้นแล้วแก่เรา
แต่สุขเวทนานี้ อาศัยเหตุปัจจัยจึงเกิดขึ้นได้ ไม่อาศัยเหตุปัจจัยแล้วหาเกิดขึ้นได้ไม่.
อาศัยเหตุปัจจัยอะไรเล่า ? อาศัยเหตุปัจจัยคือ กายนี้นั่นเอง
ก็กายนี้ ไม่เที่ยง มีปัจจัยปรุงแต่ง อาศัยเหตุปัจจัยเกิดขึ้น
สุขเวทนาที่เกิดขึ้นเพราะอาศัยกาย ซึ่งไม่เที่ยง มีปัจจัยปรุงแต่ง อาศัยเหตุปัจจัยเกิดขึ้น
ดังนี้แล้ว จักเป็นสุขเวทนาที่เที่ยงมาแต่ไหน” ดังนี้.

ภิกษุนั้น เป็นผู้ตามเห็นความไม่เที่ยงอยู่ ตามเห็นความเสื่อม ความจางคลายอยู่
ตามเห็นความดับไป ความสลัดคืนอยู่ ในกาย และในสุขเวทนา

เมื่อเธอเป็นผู้ตามเห็นความไม่เที่ยง (เป็นต้น) อยู่ในกายและในสุขเวทนาอยู่ ดังนี้
เธอย่อมละเสียได้ ซึ่งราคานุสัย ในกาย และในสุขเวทนานั้น

( กรณี ทุกขเวทนา )
ทุกขเวทนา เกิดขึ้นไซร้ เธอย่อมรู้ชัดอย่างนี้ว่า
… ฯลฯ …
เธอย่อมละเสียได้ ซึ่งปฏิฆานุสัย ในกาย และในทุกขเวทนานั้น

( กรณี อทุกขมสุขเวทนา )
อทุกขมสุขเวทนา เกิดขึ้นไซร้ เธอย่อมรู้ชัดอย่างนี้ว่า
… ฯลฯ …
เธอย่อมละเสียได้ ซึ่งอวิชชานุสัย ในกาย และในอทุกขมสุขเวทนานั้น


ภิกษุนั้น
ถ้าเสวย สุขเวทนา ก็รู้ชัดว่า
“สุขเวทนานั้น เป็นของไม่เที่ยง, และเป็นเวทนาที่เรามิได้มัวเมาเพลิดเลินอยู่” ดังนี้

ถ้าเสวย ทุกขเวทนา ก็รู้ชัดว่า
“ทุกขเวทนานั้น เป็นของไม่เที่ยง, และเป็นเวทนาที่เรามิได้มัวเมาเพลิดเพลินอยู่” ดังนี้

ถ้าเสวย อทุกขมสุขเวทนา ก็รู้ชัดว่า
“อทุกขมสุขเวทนานั้น เป็นของไม่เที่ยง, และเป็นเวทนาที่เรามิได้มัวเมาเพลิดเพลินอยู่” ดังนี้


ภิกษุนั้น
ถ้าเสวย สุขเวทนา
ก็เป็นผู้ปราศจากกิเลส อันเกิดจากเวทนานั้นเป็นเครื่องร้อยรัดแล้ว เสวยเวทนานั้น

ถ้าเสวย ทุกขเวทนา
ก็เป็นผู้ปราศจากกิเลส อันเกิดจากเวทนานั้นเป็นเครื่องร้อยรัดแล้ว เสวยเวทนานั้น

ถ้าเสวย อุทกขมสุขเวทนา
ก็เป็นผู้ปราศจากกิเลส อันเกิดจากเวทนานั้นเป็นเครื่องร้อยรัดแล้ว เสวยเวทนานั้น


ภิกษุนั้น
เมื่อเสวยเวทนาอันมีกายเป็นที่สุดรอบ ย่อมรู้ชัดว่า เราเสวยเวทนาอันมีกายเป็นที่สุดรอบ
เมื่อเสวยเวทนาอันมีชีวิตเป็นที่สุดรอบ ย่อมรู้ขัดว่า เราเสวยเวทนาอันมีชีวิตเป็นที่สุดรอบ

เธอย่อมรู้ชัดว่า
เวทนาทั้งปวงอันเราไม่เพลิดเพลินแล้ว จักเป็นของเย็นในอัตตภาพนี้นั่นเทียว
จนกระทั่งถึงที่สุดรอบแห่งชีวิต เพราะการแตกทำลายแห่งกาย ดังนี้.


ภิกษุทั้งหลาย ! เปรียบเหมือนประทีปน้ำมัน ได้อาศัยน้ำมันและไส้แล้วก็ลุกโพลงอยู่ได้
เมื่อขาดปัจจัยเครื่องหล่อเลี้ยง เพราะขาดน้ำมันและไส้นั้นแล้ว ย่อมดับลง, นี้ฉันใด

ภิกษุทั้งหลาย ! ข้อนี้ก็ฉันนั้น คือภิกษุ
เมื่อเสวยเวทนาอันมีกายเป็นที่สุดรอบ ก็รู้ชัดว่าเราเสวยเวทนาอันมีกายเป็นที่สุดรอบ ดังนี้
เมื่อเสวยเวทนาอันมีชีวิตเป็นที่สุดรอบ ก็รู้ชัดว่าเราเสวยเวทนาอันมีชีวิตที่สุดรอบ ดังนี้

ภิกษุนั้นย่อมรู้ชัดว่า
เวทนาทั้งปวงอันเราไม่เพลิดเพลินแล้ว จักเป็นของเย็นในอัตตภาพนี้นั่นเทียว
จนกระทั่งถึงที่สุดรอบแห่งชีวิต เพราะการแตกทำลายแห่งกาย ดังนี้.


- สฬา. สํ. 18/260/374-381.
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่