ข้อตกลงก่อนอ่าน
1. นี้คือเหตุการณ์จริง แต่พยายามเขียนให้เหมือนนิยาย เพื่อให้ได้อรรถรถในการอ่าน
2. เหตุการณ์ที่ทั้งหมด เป็นเหตุการณ์จากมุมมองของผมคนเดียวเท่านั้น
บทแรก
“ผม” ซึ่งในขณะนั้นได้ศึกษาอยู่ชั้น ปวส.1 (ภาคค่ำ) และทำงานที่บริษัทเอกชนที่หนึ่ง (ตอนเด็กไม่ตั้งใจเรียน จนต้องมาเรียนตอนโต)
ได้พบเจอและตกหลุมรักกับ”เธอ” ซึ่งเธอศึกษาอยู่ ปวส.2 (ภาคค่ำ) ในโรงเรียนเดียวกัน
แรกพบเธอเป็นคนนิสัยดี เข้าอกเข้าใจ นิสัยเป็นผู้ใหญ่ (อายุมากกว่าผม 2 ปี)
ในปีแรกชีวิตรักของเรา เหมือนคู่รักทั่วไปๆ ในช่วงเวลาเรียนไปไหนไปด้วยกัน
เลิกเรียนผมก็จะไปส่งเธอที่บ้าน โทรศัพท์คุยกันก่อนนอนทุกวัน (ผมกับแฟน เราต่างคนต่างอยู่บ้านตัวเองนะครับ)
ช่วงเวลาที่ผมทำงาน ก็จะมีโทรคุยกันในเวลาว่าง วันหยุดก็ไปเที่ยวด้วยกัน เดินซื้อของด้วยกัน ทำกิจกรรมร่วมกัน
โดยปรกติเวลาที่เราทะเลาะกันผมจะยอมเธอเสมอ และพยายามที่จะหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ที่จะทำให้มีการทะเลาะกัน
เช่น เหตุการณ์บางเหตุการณ์ ถ้าผมรู้ว่าผมปฏิเสธไป จะต้องทะเลาะกันแน่ ผมก็จะไม่ปฏิเสธ นั่นจากจะเป็นจุดเริ่มต้นของความผิดพลาดในชีวิตคู่ของเรา
บทกลาง
ชีวิตรักเรามีความสุขดี แต่แล้วเมื่อเธอเรียนจบ ช่วงเวลาแห่งความสุขก็ค่อยๆ ลดหายไป
หลังจากที่เธอเรียนจบ เราก็แทบไม่ค่อยจะได้เจอกัน
เนื่องจาก ผมเลิกงาน 4 โมงเย็น เข้าเรียน 5 โมงเย็น เลิกเรียน 3 ทุ่ม อาจมีบางวันเธอแวะมาหาผมที่โรงเรียน
แต่เรายังคุยโทรศัพท์กันอยู่นะครับ
ซึ่งเราจะได้เจอกันเฉพาะในวันหยุดของผม
จนเกิดเหตุการณ์หนึ่ง ขณะที่ผมนั่งดูหนังอยู่ที่บ้าน
เหมือนฟ้าผ่าในตอนกลางวัน
ไม่รู้อะไรเข้าสิงเธอ เธอโทรมาสารภาพว่า ระหว่างที่คบกับผมนั้น เธอได้คบกับอีกคนนึ่งอยู่ด้วย แต่ตอนนี้ได้เลิกกับคนนั้นแล้ว เนื่องจากเธอเลือกผม ผมจะว่ายังไง?
ผมขอเวลาเธอซักครู่ บอกว่าขอตั้งสติก่อน เดี๋ยวโทรกลับ
ในตอนนั้นมีหลายความคิดเข้ามาในหัวผม
“ส่วนมากเราก็อยู่ด้วยกัน เธอเอาเวลาไหนไปมีวะ”
“เราเป็นชู้ หรือเค้าเป็นชู้วะ”
“มาบอกเราทำไมวะ”
หลังจาก ตั้งสติแล้ว ผมโทรกลับไปหาเธอ
“เรารับได้ แต่รับได้แค่ครั้งที่ครั้งเดียว ที่ผ่านไปแล้วช่างมัน”
เนื่องจาก ผมไม่พร้อมที่จะเสียเธอไป แต่หารู้ไม่ ผมเสียเธอไปแล้ว เธอที่เป็นทั้ง เพื่อนและคนรักในคนเดียวกัน
เพราะต่อจากนี้ไปเธอคือ คนรักและคนที่ทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของชีวิตเรา
หลังจากนั้น เธอคอยมาเฝ้าผมที่โรงเรียนทุกวัน ให้ผมไปส่งเธอที่บ้านทุกวัน วันหยุดมาหาผมแต่เช้าตรู่
โทรศัพท์ต้องต่อสายตลอด ห้ามวางสาย โดยเริ่มแรก จะแค่เวลาที่ผมไม่ได้ทำงาน
แต่พอเวลาผ่านไป แม้แต่เวลาที่ผมอยู่บริษัท ก็ต้องต่อสายโทรศัพท์เธอทิ้งไว้ ถุงแม้จะไม่ได้คุยก็ตาม
จากความ
สุขกลายเป็นความ
อึดอัด
จากความรู้สึกที่อยากใช้เวลาอยู่ด้วยกัน กลายเป็นต้องการเวลาของตัวเองบ้าง
เธอคอยติดตามความเคลื่อนไหวผมทุกวัน เหมือนกับว่าเธอกลัวผมจะเอาคืนเธอโดยการมีคนใหม่
ซึ่งพอผมพูดเรื่องนี้กับเธอ กลายเป็นว่าผมชวนทะเลาะซะอย่างนั้น
เมื่อเหตุการณ์ที่ทำให้ถึงจุดสิ้นสุดมาถึง
เนื่องจากบริษัทของผม จะมีการประเมินผลงานของพนักงานทุก 2 ปี เพื่อปรับขึ้นเงินเดือนให้พนักงาน
โดยการให้พนักงานทำรายการการทำงานของตนเอง เพื่อให้หัวหน้าประเมิน
เนื่องจากบ้านผมไม่มีคอมพิวเตอร์ จึงมีเหตุให้ต้องใช้เวลาในวันหยุดมาทำรายงานที่บริษัท
นั้นหละครับ จุดเริ่มต้นของจุดจบ
เธอโทรมาโวยวาย หาว่าผมมีคนอื่น
เธอมาที่บริษัทในวันหยุด แล้วอาละวาด เนื่องจากเห็นผมกับผู้หญิงที่ทำงาน(หลายชีวิต)
วันเวลาผ่านไปด้วยความเครียด
และแล้ววันสุดท้ายก็มาถึง
ผมได้ชวนรุ่นพี่ที่โรงเรียนไปดื่มตอนเลิกเรียน เพื่อที่จะระบายให้ใครซักคนฟัง (รุ่นพี่คนนี้อายุมากกว่าผม แต่เรียนชั้นเดียวกัน)
ซึ่งปรกติ ผมจะดื่มกับรุ่นพี่คนนี้ประจำอยู่แล้ว (ดื่มกัน 2 คน ที่บ้านรุ่นพี่) ซึ่งโดยปรกติเธอก็รู้ ซึ่งก่อนหน้านั้นเธอก็ไม่ได้ว่าอะไร
แต่ครั้งนี้ไม่!! เมื่อดื่มไปได้ซักพัก เธอโทรมาบอกให้มารับเธอไปด้วย ซึ่งบอกปฏิเสธไป โดยให้เหตุผลว่า ผมดื่มแล้วไม่อยากขับรถ เดี๋ยวโดนด่าน
เธอโวยวาย หาว่าผมไปกับผู้หญิงอื่น ทะเลาะกันเป็นเวลานานมาก จนประโยคสิ้นสุดมาถึง “เธอบอกเลิกผม!!”
ในวินาทีนั้น เหมือนช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ญี่ปุ่นโดนระเบิด ถ้าฝืนต่อไปลูกที่สามตามมาแน่ ทำได้แค่ยกธงขาวยอมแพ้สงคราม
ผมบอกเธอ “ถ้าแน่ใจแล้ว ก็เลิกกันก็ได้”
เธอตอบ “อย่ามาพูดอย่างนี้นะ แล้ววางสายไป”
ในขณะที่ผมดื่มทั้งน้ำตา พร้อมระบายทุกสิ่งอย่างให้รุ่นพี่คนนั้นฟัง โทรศัพท์ผมดังขึ้นอีกครั้ง
“ทำไมไม่โทรมาง้อ” (ประโยคนี้ เสียงนี้ ได้ติดอยู่ในสมองผมมาทุกวันนี้)
“ถ้าอยากเลิก ก็เลิกจริงๆ เลยแล้วกัน”
จบแล้วความสัมพันธ์ของเรา
บทท้าย
หลักจากที่ผมได้เลิกกับเธอ ผมใช้ชีวิตต่อไปด้วยความสับสนในอารมณ์ของตัวเอง
บางครั้ง เรารู้สึกวูบๆ เหมือนกับว่าจะไม่เธอคนนั้นอีกแล้ว,
บางครั้ง รู้สึกมีความสุขที่ได้อยู่กับคนเองอีกครั้ง,
บางครั้ง รู้สึกสับสนว่า ความรักของเรามันเป็นอย่างนี้ได้ยังไง
แต่แล้วความรู้สึกเหล่านั้น ก็หายไป เพราะว่าเธอกลับมาที่โรงเรียนอีกครั้ง
แต่ครั้งนี้เธอไม่ได้มาหาผม เธอมาหารุ่นที่ผม (ไอคนนั้นแหละ คนเดียวกัน)
ผมรู้สึกช๊อก ภายหลังจากที่ทราบว่า หลังจากที่เธอเลิกกับผม เธอคบกับรุ่นที่ผม
ความรู้สึกผมตอนนั้น ไม่ใช้เศร้า ไม่ใช้แค้น แต่คือ “อะไรวะ” (อะไรวะจริงๆ ไม่ใช้ประโยคคำถาม) คือมัน งงๆ
โชคดีของผมที่ ช่วงนั้นเป็นช่วงสุดท้ายก่อนจะจบการศึกษาแล้ว จึงไม่ต้องทนเห็นไปภาพนั้นนาน
(แต่ก็เป็นเหตุให้ต่อไปนี้ ผมไม่สามารถสบตากับรุ่นพี่ผมได้อีก)
บทสรุป
หลังจากที่เรียนจบ ผมก็ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับคู่รักคู่นี้อีก แต่ภายหลักได้ทราบจากเพื่อนผมว่า
เธอและรุ่นที่ผม ทะเลาะกันบ่อยครั้ง เวลาทะเลาะกัน เวลาทะเลาะกันรุ่นพี่ผมจะชอบบอกว่า “ใช่สิเค้า(ตัวรุ่นพี่)ไม่ใช่ผมนี้”
กลายเป็นว่าผมไปทำลายชีวิตรักของเขาโดยที่ตัวผมเองยังไม่รู้ตัว ส่งผลให้รุ่นพี่คนนั้น ไม่ค่อยชอบผม
(กุผิดอะไรวะ กุต้องเป็นคนไม่ชอบหน้ามืงปะที่มาแคลมแฟนเก่ารุ่นน้อง)
ละทราบอีกว่า เธอชอบไปประกาศว่าผมทิ้งเธอ ผมมีคนใหม่ ผมเกาะเธอกิน (ทำไมผมนี้เลวจัง) ทั้งๆที่ เวลาคบกับเธอ ผมไม่เคยขอเงินเธอซักบาท มีแต่ผมจะซื้อของให้ เนื่องจาก ผมทำงานมีรายได้ แต่เธอไม่ได้ทำงาน ช่วยที่บ้านขายของตอนเย็น
แต่ผมก็ไม่ได้สนใจหรอกนะ เนื่องจาก ปัจจุบัน ผมได้ออกจากสถานที่นั้น สังคมนั้น แล้ว
(แต่ยังคบเพื่อนๆ ที่สนิทจริงๆ จากสังคมนั้นอยู่นะ ซึ่งมันก็รู้ว่าผมไม่สนใจ มันจึงชอบนำอะไรพวกนั้นมาเล่าให้ผมฟังขำๆ เวลาดื่ม)
แต่ยังรู้สึกสงสารเธอด้วยซ้ำ เนื่องจาก ไอรุ่นพี่คนนั้นมันคราสโนว่าตัวพ่อ เลยนะ
จริงๆ มีเหตุการณ์ช่วงระหว่างที่เราเลิกกัน แล้วเธอคบกับรุ่นที่ผมอยู่
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้วันหนึ่ง ผมได้แวะไปแถวบ้านเก่าผม เพื่อดื่มสังสรรค์กับเพื่อนฝูง แล้วเจอเธอมาด้วย (ไม่มีไอรุ่นพี่) เธอดื่มจนเมามาย ร้องไห้ฟูมฟายบอก ที่คบกันรุ่นพี่คนนั้น เพื่อจะเอาคืนผม ปัจจุบันเธอไม่มีความสุขเลย เนื่องจากรุ่นพี่คนนั้นเจ้าชู้ มีคนอื่นบ่อยๆ (ซึ่งผมทราบทุกอย่างดีว่ารุ่นพี่คนนี้เป็นแบบนั้นจริงๆ) เธอขอกลับมาเหมือนเดิน อาจจะด้วยความเมาหรืออะไรก็ตาม เธอพยายามจะมีอะไรกับผม (ในขณะนั้น ดื่มในห้องกันสามคน ผม เธอ และเพื่อนผมที่(แกล้ง)เมาหลับ ในขณะที่คนอื่นๆ ไปซื้อเสบียงเพิ่ม)
ผมรู้ดีว่า ถ้าผมมีอะไรกับเธอ ไอทุกอย่างที่ผมผ่านมาได้มันจะกลับมาอีกครั้ง เอาเลยเอาขาหลัง(ทีน) สะกิดเพื่อนที่หลับ (กุรู้มืงแกล้งหลับ) พอมันลุกขึ้นมา ผมก็เดินตามมันไป พอพวกที่ไปซื้อของกลับมา ผมก็กลับทันที
ประสบการณ์ชีวิตรักที่เริ่มต้นดี๊ดี แต่จบห๊วยห่วย
1. นี้คือเหตุการณ์จริง แต่พยายามเขียนให้เหมือนนิยาย เพื่อให้ได้อรรถรถในการอ่าน
2. เหตุการณ์ที่ทั้งหมด เป็นเหตุการณ์จากมุมมองของผมคนเดียวเท่านั้น
บทแรก
“ผม” ซึ่งในขณะนั้นได้ศึกษาอยู่ชั้น ปวส.1 (ภาคค่ำ) และทำงานที่บริษัทเอกชนที่หนึ่ง (ตอนเด็กไม่ตั้งใจเรียน จนต้องมาเรียนตอนโต)
ได้พบเจอและตกหลุมรักกับ”เธอ” ซึ่งเธอศึกษาอยู่ ปวส.2 (ภาคค่ำ) ในโรงเรียนเดียวกัน
แรกพบเธอเป็นคนนิสัยดี เข้าอกเข้าใจ นิสัยเป็นผู้ใหญ่ (อายุมากกว่าผม 2 ปี)
ในปีแรกชีวิตรักของเรา เหมือนคู่รักทั่วไปๆ ในช่วงเวลาเรียนไปไหนไปด้วยกัน
เลิกเรียนผมก็จะไปส่งเธอที่บ้าน โทรศัพท์คุยกันก่อนนอนทุกวัน (ผมกับแฟน เราต่างคนต่างอยู่บ้านตัวเองนะครับ)
ช่วงเวลาที่ผมทำงาน ก็จะมีโทรคุยกันในเวลาว่าง วันหยุดก็ไปเที่ยวด้วยกัน เดินซื้อของด้วยกัน ทำกิจกรรมร่วมกัน
โดยปรกติเวลาที่เราทะเลาะกันผมจะยอมเธอเสมอ และพยายามที่จะหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ที่จะทำให้มีการทะเลาะกัน
เช่น เหตุการณ์บางเหตุการณ์ ถ้าผมรู้ว่าผมปฏิเสธไป จะต้องทะเลาะกันแน่ ผมก็จะไม่ปฏิเสธ นั่นจากจะเป็นจุดเริ่มต้นของความผิดพลาดในชีวิตคู่ของเรา
บทกลาง
ชีวิตรักเรามีความสุขดี แต่แล้วเมื่อเธอเรียนจบ ช่วงเวลาแห่งความสุขก็ค่อยๆ ลดหายไป
หลังจากที่เธอเรียนจบ เราก็แทบไม่ค่อยจะได้เจอกัน
เนื่องจาก ผมเลิกงาน 4 โมงเย็น เข้าเรียน 5 โมงเย็น เลิกเรียน 3 ทุ่ม อาจมีบางวันเธอแวะมาหาผมที่โรงเรียน
แต่เรายังคุยโทรศัพท์กันอยู่นะครับ
ซึ่งเราจะได้เจอกันเฉพาะในวันหยุดของผม
จนเกิดเหตุการณ์หนึ่ง ขณะที่ผมนั่งดูหนังอยู่ที่บ้าน เหมือนฟ้าผ่าในตอนกลางวัน
ไม่รู้อะไรเข้าสิงเธอ เธอโทรมาสารภาพว่า ระหว่างที่คบกับผมนั้น เธอได้คบกับอีกคนนึ่งอยู่ด้วย แต่ตอนนี้ได้เลิกกับคนนั้นแล้ว เนื่องจากเธอเลือกผม ผมจะว่ายังไง?
ผมขอเวลาเธอซักครู่ บอกว่าขอตั้งสติก่อน เดี๋ยวโทรกลับ
ในตอนนั้นมีหลายความคิดเข้ามาในหัวผม
“ส่วนมากเราก็อยู่ด้วยกัน เธอเอาเวลาไหนไปมีวะ”
“เราเป็นชู้ หรือเค้าเป็นชู้วะ”
“มาบอกเราทำไมวะ”
หลังจาก ตั้งสติแล้ว ผมโทรกลับไปหาเธอ
“เรารับได้ แต่รับได้แค่ครั้งที่ครั้งเดียว ที่ผ่านไปแล้วช่างมัน”
เนื่องจาก ผมไม่พร้อมที่จะเสียเธอไป แต่หารู้ไม่ ผมเสียเธอไปแล้ว เธอที่เป็นทั้ง เพื่อนและคนรักในคนเดียวกัน
เพราะต่อจากนี้ไปเธอคือ คนรักและคนที่ทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของชีวิตเรา
หลังจากนั้น เธอคอยมาเฝ้าผมที่โรงเรียนทุกวัน ให้ผมไปส่งเธอที่บ้านทุกวัน วันหยุดมาหาผมแต่เช้าตรู่
โทรศัพท์ต้องต่อสายตลอด ห้ามวางสาย โดยเริ่มแรก จะแค่เวลาที่ผมไม่ได้ทำงาน
แต่พอเวลาผ่านไป แม้แต่เวลาที่ผมอยู่บริษัท ก็ต้องต่อสายโทรศัพท์เธอทิ้งไว้ ถุงแม้จะไม่ได้คุยก็ตาม
จากความสุขกลายเป็นความอึดอัด
จากความรู้สึกที่อยากใช้เวลาอยู่ด้วยกัน กลายเป็นต้องการเวลาของตัวเองบ้าง
เธอคอยติดตามความเคลื่อนไหวผมทุกวัน เหมือนกับว่าเธอกลัวผมจะเอาคืนเธอโดยการมีคนใหม่
ซึ่งพอผมพูดเรื่องนี้กับเธอ กลายเป็นว่าผมชวนทะเลาะซะอย่างนั้น
เมื่อเหตุการณ์ที่ทำให้ถึงจุดสิ้นสุดมาถึง
เนื่องจากบริษัทของผม จะมีการประเมินผลงานของพนักงานทุก 2 ปี เพื่อปรับขึ้นเงินเดือนให้พนักงาน
โดยการให้พนักงานทำรายการการทำงานของตนเอง เพื่อให้หัวหน้าประเมิน
เนื่องจากบ้านผมไม่มีคอมพิวเตอร์ จึงมีเหตุให้ต้องใช้เวลาในวันหยุดมาทำรายงานที่บริษัท
นั้นหละครับ จุดเริ่มต้นของจุดจบ
เธอโทรมาโวยวาย หาว่าผมมีคนอื่น
เธอมาที่บริษัทในวันหยุด แล้วอาละวาด เนื่องจากเห็นผมกับผู้หญิงที่ทำงาน(หลายชีวิต)
วันเวลาผ่านไปด้วยความเครียด
และแล้ววันสุดท้ายก็มาถึง
ผมได้ชวนรุ่นพี่ที่โรงเรียนไปดื่มตอนเลิกเรียน เพื่อที่จะระบายให้ใครซักคนฟัง (รุ่นพี่คนนี้อายุมากกว่าผม แต่เรียนชั้นเดียวกัน)
ซึ่งปรกติ ผมจะดื่มกับรุ่นพี่คนนี้ประจำอยู่แล้ว (ดื่มกัน 2 คน ที่บ้านรุ่นพี่) ซึ่งโดยปรกติเธอก็รู้ ซึ่งก่อนหน้านั้นเธอก็ไม่ได้ว่าอะไร
แต่ครั้งนี้ไม่!! เมื่อดื่มไปได้ซักพัก เธอโทรมาบอกให้มารับเธอไปด้วย ซึ่งบอกปฏิเสธไป โดยให้เหตุผลว่า ผมดื่มแล้วไม่อยากขับรถ เดี๋ยวโดนด่าน
เธอโวยวาย หาว่าผมไปกับผู้หญิงอื่น ทะเลาะกันเป็นเวลานานมาก จนประโยคสิ้นสุดมาถึง “เธอบอกเลิกผม!!”
ในวินาทีนั้น เหมือนช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ญี่ปุ่นโดนระเบิด ถ้าฝืนต่อไปลูกที่สามตามมาแน่ ทำได้แค่ยกธงขาวยอมแพ้สงคราม
ผมบอกเธอ “ถ้าแน่ใจแล้ว ก็เลิกกันก็ได้”
เธอตอบ “อย่ามาพูดอย่างนี้นะ แล้ววางสายไป”
ในขณะที่ผมดื่มทั้งน้ำตา พร้อมระบายทุกสิ่งอย่างให้รุ่นพี่คนนั้นฟัง โทรศัพท์ผมดังขึ้นอีกครั้ง
“ทำไมไม่โทรมาง้อ” (ประโยคนี้ เสียงนี้ ได้ติดอยู่ในสมองผมมาทุกวันนี้)
“ถ้าอยากเลิก ก็เลิกจริงๆ เลยแล้วกัน”
จบแล้วความสัมพันธ์ของเรา
บทท้าย
หลักจากที่ผมได้เลิกกับเธอ ผมใช้ชีวิตต่อไปด้วยความสับสนในอารมณ์ของตัวเอง
บางครั้ง เรารู้สึกวูบๆ เหมือนกับว่าจะไม่เธอคนนั้นอีกแล้ว,
บางครั้ง รู้สึกมีความสุขที่ได้อยู่กับคนเองอีกครั้ง,
บางครั้ง รู้สึกสับสนว่า ความรักของเรามันเป็นอย่างนี้ได้ยังไง
แต่แล้วความรู้สึกเหล่านั้น ก็หายไป เพราะว่าเธอกลับมาที่โรงเรียนอีกครั้ง
แต่ครั้งนี้เธอไม่ได้มาหาผม เธอมาหารุ่นที่ผม (ไอคนนั้นแหละ คนเดียวกัน)
ผมรู้สึกช๊อก ภายหลังจากที่ทราบว่า หลังจากที่เธอเลิกกับผม เธอคบกับรุ่นที่ผม
ความรู้สึกผมตอนนั้น ไม่ใช้เศร้า ไม่ใช้แค้น แต่คือ “อะไรวะ” (อะไรวะจริงๆ ไม่ใช้ประโยคคำถาม) คือมัน งงๆ
โชคดีของผมที่ ช่วงนั้นเป็นช่วงสุดท้ายก่อนจะจบการศึกษาแล้ว จึงไม่ต้องทนเห็นไปภาพนั้นนาน
(แต่ก็เป็นเหตุให้ต่อไปนี้ ผมไม่สามารถสบตากับรุ่นพี่ผมได้อีก)
บทสรุป
หลังจากที่เรียนจบ ผมก็ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับคู่รักคู่นี้อีก แต่ภายหลักได้ทราบจากเพื่อนผมว่า
เธอและรุ่นที่ผม ทะเลาะกันบ่อยครั้ง เวลาทะเลาะกัน เวลาทะเลาะกันรุ่นพี่ผมจะชอบบอกว่า “ใช่สิเค้า(ตัวรุ่นพี่)ไม่ใช่ผมนี้”
กลายเป็นว่าผมไปทำลายชีวิตรักของเขาโดยที่ตัวผมเองยังไม่รู้ตัว ส่งผลให้รุ่นพี่คนนั้น ไม่ค่อยชอบผม
(กุผิดอะไรวะ กุต้องเป็นคนไม่ชอบหน้ามืงปะที่มาแคลมแฟนเก่ารุ่นน้อง)
ละทราบอีกว่า เธอชอบไปประกาศว่าผมทิ้งเธอ ผมมีคนใหม่ ผมเกาะเธอกิน (ทำไมผมนี้เลวจัง) ทั้งๆที่ เวลาคบกับเธอ ผมไม่เคยขอเงินเธอซักบาท มีแต่ผมจะซื้อของให้ เนื่องจาก ผมทำงานมีรายได้ แต่เธอไม่ได้ทำงาน ช่วยที่บ้านขายของตอนเย็น
แต่ผมก็ไม่ได้สนใจหรอกนะ เนื่องจาก ปัจจุบัน ผมได้ออกจากสถานที่นั้น สังคมนั้น แล้ว
(แต่ยังคบเพื่อนๆ ที่สนิทจริงๆ จากสังคมนั้นอยู่นะ ซึ่งมันก็รู้ว่าผมไม่สนใจ มันจึงชอบนำอะไรพวกนั้นมาเล่าให้ผมฟังขำๆ เวลาดื่ม)
แต่ยังรู้สึกสงสารเธอด้วยซ้ำ เนื่องจาก ไอรุ่นพี่คนนั้นมันคราสโนว่าตัวพ่อ เลยนะ
จริงๆ มีเหตุการณ์ช่วงระหว่างที่เราเลิกกัน แล้วเธอคบกับรุ่นที่ผมอยู่
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้