แอบหลงรักครูตั้งแต่สมัยเด็ก

คือเรื่องที่ผมจะเล่า มันอาจจะแปลกไปนิดนึงนะครับ

ผมถือว่ามาเขียนระบายเรื่องชีวิตตัวเองเฉยๆนะครับ เลยพิมพ์ยาวหน่อยเพราะมาจากความรู้สึกล้วนๆ

เริ่มเลยละกัน  คือตอนเด็กๆสมัยประถมผมเรียนอยู่โรงเรียน ฤว. สายไหม ดอนเมือง แต่พ่อผมได้เสียชีวิตลง ผมก็เลยต้องย้ายมาอยู่บ้านแม่ที่ต่างจังหวัด คือจังหวัดสระแก้ว แล้วก็เลยได้ย้ายโรงเรียนมาด้วย คือย้ายมาตอน ป.5  ด้วยความที่เป็นโรงเรียนชนบท ผมปรับตัวไม่ได้ครับ  จากเมื่อก่อนได้ไปโรงเรียนวันละ 40 บาท ต้องไปได้เงินไปโรงเรียนวันละ 10 บาท เพื่อนๆเด็กนักเรียนก็ชอบแกล้งเรา คือแบบปรับตัวไม่ได้เลย  ผมก็เลยไม่มีเพื่อนครับ ทำตัวเก็บกด ด้วยที่ว่าพ่อเสียด้วยแหละมั้งครับ ผมเลยแบบเคว้งมากๆ แม่จากที่เคยเป็นคุณนายทหารอากาศ ก็ต้องมาหาทำงานรับจ้าง ผมเลยเหมือนกับช๊อคกับชีวิตตัวเองช่วงนั้นมมั้งครับ เลยกลายเป็นว่าผมไม่พูดกับใครเลย ไม่ได้เชิงแบบเป็นใบ้นะครับ แต่คือไม่ว่าเพื่อนคนไหน ผมก็จะไม่พูด จะมาถามหรือจะมาคุยอะไรผมจะเงียบ ไม่ยิ้มไม่แสดงสีหน้าอะไร แบบนี้ล่ะมั้งครับ เพื่อนเลยชอบแกล้ง

ครูประจำชั้นของผมคนนึงในตอนนั้นชื่อครูเข็ม(นามสมมุติ) แกเป็นครูประจำชั้นผมครับ แกเป็นนักศึกษาจบใหม่ เพิ่งได้บรรจุเป็นครู แกคงเห็นความผิดปกติกับผมละมั้งครับ เลยเรียกไปคุย ผมก็ไม่คุย เอาแต่เงียบเหมือนเดิม แกเลยไปเยี่ยมที่บ้าน แม่ก็เลยเล่าเรื่องให้ฟังทั้งหมด หลังจากนั้นครูก็เริ่มดึงผมไปช่วยงานทุกอย่าง ทั้งจัดบอร์ด จัดเวที ช่วงนั้น ผมเริ่มพูดกับแกบ้างแล้ว เฉพาะแกคนเดียวนะครับ จนผมเรียนจบไปได้เทอมนึง ผลการเรียนของผมในเทอมนั้นปรากฏว่า ได้ที่ 1 ครูเข็มจึงเริ่มให้เป็นตัวแทนแข่งขันวิทยาศาสตร์ และที่สำคัญ จะส่งผมแข่งเกี่ยวกับเรื่องการพูด ผมซึ่งเป็นคนไม่พูด แต่ครูดันส่งเข้าประกวดเกี่ยวกับการพูดต่อหน้าสาธารณะชน  แกก็ฝึกผมพูดนะครับ ผมก็อั้มๆอึ้งๆ คัดตัวไว้ 2 คน ผมกับเด็กผู้หญิงอีก 1 คน  เราก็ซ้อมพูดด้วยกันหลังเลิกเรียนทุกวันครับ ในใจผมก็ไม่ได้ซ้อมมาก แค่ท่องบทที่จะต้องพูดไว้เฉยๆ เพราะคิดว่าคงไม่ได้แข่งหรอก ครูคงเลือกผู้หญิงอีกคน พอใกล้ๆจะวันแข่งครูก็มาถามกับผมว่า ทำได้มั้ย กล้าพูดมั้ย ก็เลยบอกครูว่า พูดได้ครับ ท่องได้หมดแล้ว บทที่ครูให้มา ครูเลยถามอีกว่า กล้าแข่งมั้ยครูอยากเห็นเทอขึ้นเวทีไปพูด ความรู้สึกตอนนั้นเหมือนกับว่า ผมต้องทำให้ครูคนนี้เห็นในสิ่งที่ครูอยากเห็น ผมเลยบอกครูว่า ผมจะแข่งครับ แล้วครูก็เลยเลือกผมไปแข่ง พอแข่งประกวดกันเรียบร้อย ประกาศผลออกมา ผมก็ได้ที่ 1 ตอนนั้นเลยเริ่มคิดว่าครูทำให้เราทำได้ถึงขนาดนี้

หลังจากนั้นผมก็ชอบที่จะไปโรงเรียนมากครับ เหตุผลหลักๆเลยก็คือ ผมอยากเจอครู อยากอยู่กับครู  ทุกวันหลังเลิกเรียน หลังจากที่นักเรียนคนอื่นกลับไปหมดแล้ว ครูเขาก็จะคอยตรวจการบ้านหรือทำอะไรสักอย่างอยู่ที่โต๊ะ ผมก็เลยยังไม่กลับครับ อาสาช่วยครูทำความสะอาดห้อง เพื่อที่จะแค่ว่า อยากอยู่กับครูต่อ

อยู่มาแบบนี้จนผมขึ้น ม.1 คือโรงเรียนตอนแรกที่ผมเรียนมีแค่ชั้นประถม พอผมขึ้น ม. ผมจึงต้องย้ายโรงเรียนไปที่อื่น ตอนนั้นบอกตามตรงครับ ผมคิดถึงครูทุกวัน แต่ก็ไม่กล้าไปหา ต้องบอกก่อนว่าครูเขาไม่เคยได้ทำอะไรผมนะ หรือไม่ได้รักไม่ได้ชอบแบบชู้สาวอะไรกับนักเรียน เพียงแต่ผมคิดของผมเองคนเดียว ผมจะมีโอกาสเจอครูเข็มแค่ช่วงที่ผมไปแข่งกิจกรรมงานใหญ่ๆ ซึ่งครูก็จะพาเด็กของแกมาแข่งที่เดียวกัน ปีนึงเจอกันครั้งสองครั้งเองมั้ง ผมก็เข้าไปไหว้แกตลอด ดีใจมากที่ได้เจอแกทุกครั้ง

ตัดมาตอนช่วงผมเรียนมหาลัยเลยละกัน ช่วงนี้ เรื่องครูเข็ม เริ่มไม่มีในหัวแล้ว ความคิดผมได้ไปตามสิ่งแวดล้อมรอบกาย ทั้งเพื่อนฝูง และสาวๆมหาลัย  แต่แฟนของผมแต่ละคน ก็จะมีรูปร่างลักษณะหรือนิสัย คล้ายกับครูเข็ม (ต้องขอบอกว่าครูเข็มแก ไม่เคยมีแฟนหรือมีสามีเลยนะครับ จนทุกวันนี้ก็ไม่มี ทั้งๆที่แกเป็นคนที่สวยมาก) ด้วยความที่ตัวผมเองตั้งสเปคเกี่ยวกับผู้หญิงไว้แบบนี้ ผู้หญิงที่ผมจีบหรือลองคบด้วย ส่วนมากจึงเป็นพวกนางแบบพริตตี้ แต่ก็คบกับผมกันได้ไม่นานครับ เพราะปัจจัยด้านการเงินเป็นปัญหาซะส่วนมาก แล้วตัวผมเองก็ชอบมีปัญหา เวลาแฟนออกงาน แล้วแต่งตัวโป๊เกินไป

จนกระทั่งผมเรียนจบแล้วได้มาทำงาน ช่วงทำงานนี่โสดเลยครับ ไม่เอาใครเลย สามะเลเทเมาไปเรื่อย หาผู้หญิงมานอนบ้างบางครั้ง  ชีวิตออกสายเทาๆ  พอวันไหนได้กลับไปเยี่ยมบ้านตายายที่สระแก้ว ผมก็ต้องถามเด็กๆหลานๆว่า ครูเข็มยังสอนอยู่มั้ย แกก็ยังสอนอยู่เหมือนเดิมครับ ผมก็จะเข้าไปไหว้แก เหมือนเป็นลูกศิษย์คนนึง

จนวันนี้ ผมได้มีโอกาสได้คุยกับครูในเฟสบุคครับ ก็คุยกันตามประสาครูอาจารย์ ถามสารทุกสุกดิบกันไป  จนผมเปิดประเด็นว่า ครูไม่มีน้องสักทีหรอครับ(หมายถึงมีลูกอะนะ) ครูก็เลยบอกว่า แฟนครูยังไม่มีเลย เราก็เลยชงไปว่า ครูสวยขนาดนี้ไม่มีเสียดายแย่เลยนะครับ  ครูเลยว่าครูแก่แล้วไม่มีใครเอาครูแล้วมั่ง  ผมก็เลยพิมพ์ไปว่าสักวันครูอาจจะเจอคนที่ใช่ครับ  คือพิมพ์คุยแบบให้เกียติแก แต่ในใจก็เลยว่าคิดว่า ก่อนหน้านี้เราหาผู้หญิงที่คล้ายครูที่สุด แล้วทำไมเราถึงไม่จีบครูไปเลยล่ะ เพราะผู้หญิงแบบครูเป็นผู้หญิงที่เราต้องการที่สุด

ผมไม่สนนะครับ ว่าใครจะว่าผมได้เมียแก่หรือยังไง (ตอนนี้ผม 26 ครู 40) ส้วนผมเอง ก็ไม่ได้ว่าจะขี้เหล่อะไร แถมการงานก็มั่นคง

แต่มันติดอยู่อย่างเดียวครับ ติดอยู่ตรงที่คำว่า ความเหมาะสม ว่าผมสมควรแล้วหรือไม่ ที่จะจีบครูที่สอนหนังสือผมตอนเด็ก แถมเป็นผู้มีพระคุณที่จุดประกายความสามารถต่างๆของผม ให้ผมเป็นผมได้ทุกวันนี้

ขอความเห็นครับ ผมรับฟังทุกคนเห็นไม่ว่าด้านไหน หรือถ้าใครมีวิธีอะไรก็บอกผมได้ครับ

ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงตอนนี้ ขอบคุณครับ

*แถมนิดนึง ที่ผมเล่าว่าตอนเด็กๆผมไม่พูด โตมาผมพูดแทบไม่หยุดเลยครับ เป็นพิธีกร เป็นMC ทำงานด้านการพูดไปเรียบร้อยคครับ 555+
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่