
เชื่อว่าหลายคนที่ได้ไปเที่ยวญี่ปุ่นจะต้องไปเห็นภูเขาไฟฟูจิกับตาซักครั้ง แต่สำหรับญี่ปุ่นรอบนี้ของผมแล้ว แค่เห็นฟูจิกับตานั้นคงยังไม่พอ เพราะเป้าหมายการไปญี่ปุ่นรอบนี้คือต้องไปพิชิตถึงยอดฟูจิ ชมแสงแรกของวันบนยอดเขาฟูจิให้ได้ เลยขอรีวิวเอาข้อมูลและประสบการณ์มาแชร์ให้เพื่อนๆ ที่สนใจได้อ่านกัน
ก่อนอื่นมาชมวิดิโอการเดินทางพิชิตยอดเขาฟูจิครั้งนี้กันนะครับ

------------------------------------------------
แพลนการเดินทาง
รอบนี้เราไปญี่ปุ่น 10 วัน ตั้งแต่วันที่ 21-30 ก.ค. 61 กับสมาชิกผู้ร่วมผจญภัย 5 คน แพลนการเดินทางคร่าวๆ ที่วางไว้เป็นดังนี้
21-23 ก.ค.
จากสนามบินนั่งรถบัสตรงไปที่ Kawaguchiko เลย (ค่ารถบัส 3,300 yen )
สามารถจองล่วงหน้าได้ทาง
https://japanbusonline.com/en/CourseSearch/11300720001
เราใช้เวลาพักอยู่ที่ Kawaguchiko 3 วัน พักผ่อน ปั่นจักรยานเที่ยวเล่นแถวนั้น และนั่งรถไปเที่ยวทะเลสาบทั้ง 5 รอบฟูจิ
24-25 ก.ค.
เดินทางไปขึ้นภูเขาไฟฟูจิ โดยขึ้นทาง Yoshida Trail พักที่สถานี 8 คืนนึง แล้วตื่นเช้าไปขึ้นยอดชมพระอาทิตย์ขึ้น เดินลงทาง Subashiri Trail แวะ Gotemba Outlet ก่อนเข้าโตเกียว
26-30 ก.ค.
พักในเมืองโตเกียว เที่ยวในเมืองและเมืองรอบๆ
------------------------------------------------
วางแผนการเดินทางพิชิตยอดเขาฟูจิ
ภูเขาไฟฟูจิจะเปิดให้นักปีนเขาได้ขึ้นไปพิชิตปีละครั้ง เป็นเวลาเกือบ 3 เดือนคือตั้งแต่ต้นเดือน กรกฎาคม จนถึงกลางเดือนกันยายน เนื่องจากเป็นช่วงหน้าร้อนที่ญี่ปุ่น หิมะบนยอดเขาจะเริ่มละลายจนสามารถเปิดทางให้นักปีนเขาขึ้นไปได้ ถ้าใครไปเที่ยวฟูจิช่วงนี้ก็จะเป็นฟูจิเป็นเขาหัวโล้นนี่แหละครับ

เส้นทางปีนเขาฟูจินั้นมีทั้งหมด 4 เส้นทางตามในรูป ซึ่งควรจะศึกษาเส้นทางเดินตามป้ายให้ดี เพราะถ้าเดินลงผิดเส้นทางจะไปโผล่คนละจังหวัดกันเลย

1 Yoshida Trail (สีเหลือง) เป็นเส้นยอดนิยม คนล้นหลามมาก เดินสบายๆ ไม่ยากมาก มีร้านค้าและที่พักตลอดทาง
2 Subashiri Trail (สีแดง) เป็นเส้นทางที่คนไม่ค่อยเยอะมาก ที่พักน้อย มีร้านค้าไม่กี่ร้าน
3 Gotemba Trail (สีเขียว) เป็นเส้นทางที่คนน้อยที่สุด ทางเดินสั้นที่สุด ชันและยากที่สุด ใช้เวลาเดินนานสุด ไม่ค่อยมีร้านค้าและที่พัก
4 Fujinomiya Trail (สีน้ำเงิน) เป็นเส้นทางที่คนเยอะเป็นอันดับ 2 มีร้านค้าและที่พักตลอดทาง
สามารถติดตามข่าว และศึกษารายละเอียดเส้นทางปีนฟูจิ ได้ที่
http://www.fujisan-climb.jp/en/
เราเลือกที่จะขึ้นฟูจิเส้นทาง Yoshida Trail (สีเหลือง) เพราะเป็นเส้นทางที่ง่ายที่สุด ใช้เวลาไม่เยอะมาก เหมาะกับสมาชิกในกลุ่มที่มีนักปีนเขามือใหม่อยู่ด้วย ส่วนขาลงเราวางแผนจะไปเดินช้อปปิ้งกันต่อที่ Gotemba Outlet เราเลยเลือกเส้นทางลงทาง Subashiri Trail (สีแดง) เพราะจากสถานี 5 ที่ Subarashi มีรถบัสตรงไป Gotemba Outlet โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง และจาก Outlet ก็ต่อรถบัสยาวๆ ไปโตเกียวได้เลย
------------------------------------------------
ที่พัก

สำหรับเส้นทาง Yoshida Trail มีที่พักให้เลือกมากมายทุกสถานี เราเลือกจองที่พักที่อยู่สูงที่สุดเท่าที่จะสามารจองออนไลน์ได้ เพื่อวันรุ่งขึ้นจะได้เดินขึ้นยอดไม่เหนื่อยเกินไป เราเลือกพักบนสถานีที่ 8 ชื่อ Ganso Muro ที่ความสูง 3,250m (ลูกศรสีแดงๆ ในรูปข้างบน) ราคา 7,800 yen ต่อคน รวมอาหารสองมื้อ (มื้อเย็น และเช้าวันรุ่งขึ้น) ที่นี่ไม่มีจ่ายเงินออนไลน์ พกเงินไปจ่ายตอนเช็คอินเลย
จองออนไลน์ได้ที่
http://www.mfi.or.jp/fujisan/english/index.html
------------------------------------------------
อุปกรณ์จำเป็นที่ควรมีในการปีนฟูจิ
1 ไฟคาดหัว จำเป็นมากเพราะต้องเดินกลางคืนกันจนถึงเช้า
2 เสื้อกันลมกันฝน ระหว่างทางจะเจอสภาพอากาศที่แปรปรวนตลอดเวลา เดี๋ยวแดดออก เดี๋ยวฝนตก ข้างบนกลางคืนจะหนาวมาก ประมาณ 6ºC เสื้อผ้าอุปกรณ์กันฝนกันหนาวควรเตรียมไปให้ครบแบบจัดเต็ม
3 ไม้เท้า หาไม้เท้าเดินป่าดีๆ ซักอัน ช่วยได้เยอะเลย หรือระหว่างทางจะมีไม้ปีนเขาขายที่สามารถประทับตราที่ระลึกได้ แต่จะหนักหน่อย อาจจะเป็นภาระแทนได้
4 รองเท้าเดินเขา เป็นรองเท้าแบบมีดอกลึกๆ พื้นหนาๆ จะเป็นรองเท้าวิ่งเทรลก็ได้ เพราะทางเดินกรวดหินลื่นๆ ค่อนข้างเยอะ บางช่วงต้องปีนป่ายเขา พวกรองเท้าแฟชั่นทั้งหลายเก็บไปใส่ในเมืองเถอะ
5 ถุงร้อนแบบพกพา (Heat Pack) อากาศหนาวๆ บนยอดเขา ฉีกซอง Heat Pack ยัดใส่กระเป๋าเสื้อไว้อุ่นสบาย
7 ถุงมือ หมวกกันหนาว ถ้าไม่อยากมือชา หน้าชา หูชา ก็เอาไปด้วย จะได้ขึ้นไปกินชาเขียวร้อนๆ บนยอดเขากัน
8 เงินสดเยอะๆๆๆ เอาไว้จ่ายค่าโรงแรมเพราะรับเฉพาะเงินสด ค่าอาหาร ค่าน้ำ ยิ่งสูงก็จะยิ่งแพง พกเหรียญ 100 เยนไปเยอะๆ ด้วย เพราะห้องน้ำคิดค่าบริการครั้งละ 100-300 เยน รับเฉพาะเหรียญนะจ๊ะ หยอดใส่กล่องหน้าห้องน้ำเลย
9 เสบียงของกินจุกจิกที่ให้พลังงานระหว่างทาง เอาไว้รองท้องเวลาหิว บางทีเราต้องเดินไกลกว่าที่คิดกว่าจะไปถึงร้านค้า ท้องอาจจะหิวระหว่างทางได้
10 ยาประจำตัว สำหรับคนที่แพ้ความสูงจะมีอาการปวดหัว อาเจียน เวลาขึ้นที่สูงเพราะร่างการปรับตัวไม่ทัน ก็อย่าลืมเตรียมยาไปด้วย หรือถ้าไม่ไหวจริงๆ ข้างบนมีอ๊อกซิเจนกระป๋องขาย สูดอัดกันเข้าไป
------------------------------------------------
ถ้าพร้อมแล้ว เราก็เดินทางไปกันได้เลย!!! อ้อ อย่าลืมศึกษาสภาพอากาศก่อนเดินทางกันด้วยนะครับ
[CR] โอ้ ภูเขาไฟฟูจิ ฉันจะพิชิตเธอ... รีวิว 2 เส้นทาง ขึ้น Yoshida Trail & ลง Subashiri Trail
เชื่อว่าหลายคนที่ได้ไปเที่ยวญี่ปุ่นจะต้องไปเห็นภูเขาไฟฟูจิกับตาซักครั้ง แต่สำหรับญี่ปุ่นรอบนี้ของผมแล้ว แค่เห็นฟูจิกับตานั้นคงยังไม่พอ เพราะเป้าหมายการไปญี่ปุ่นรอบนี้คือต้องไปพิชิตถึงยอดฟูจิ ชมแสงแรกของวันบนยอดเขาฟูจิให้ได้ เลยขอรีวิวเอาข้อมูลและประสบการณ์มาแชร์ให้เพื่อนๆ ที่สนใจได้อ่านกัน
ก่อนอื่นมาชมวิดิโอการเดินทางพิชิตยอดเขาฟูจิครั้งนี้กันนะครับ
------------------------------------------------
แพลนการเดินทาง
รอบนี้เราไปญี่ปุ่น 10 วัน ตั้งแต่วันที่ 21-30 ก.ค. 61 กับสมาชิกผู้ร่วมผจญภัย 5 คน แพลนการเดินทางคร่าวๆ ที่วางไว้เป็นดังนี้
21-23 ก.ค.
จากสนามบินนั่งรถบัสตรงไปที่ Kawaguchiko เลย (ค่ารถบัส 3,300 yen )
สามารถจองล่วงหน้าได้ทาง https://japanbusonline.com/en/CourseSearch/11300720001
เราใช้เวลาพักอยู่ที่ Kawaguchiko 3 วัน พักผ่อน ปั่นจักรยานเที่ยวเล่นแถวนั้น และนั่งรถไปเที่ยวทะเลสาบทั้ง 5 รอบฟูจิ
24-25 ก.ค.
เดินทางไปขึ้นภูเขาไฟฟูจิ โดยขึ้นทาง Yoshida Trail พักที่สถานี 8 คืนนึง แล้วตื่นเช้าไปขึ้นยอดชมพระอาทิตย์ขึ้น เดินลงทาง Subashiri Trail แวะ Gotemba Outlet ก่อนเข้าโตเกียว
26-30 ก.ค.
พักในเมืองโตเกียว เที่ยวในเมืองและเมืองรอบๆ
------------------------------------------------
วางแผนการเดินทางพิชิตยอดเขาฟูจิ
ภูเขาไฟฟูจิจะเปิดให้นักปีนเขาได้ขึ้นไปพิชิตปีละครั้ง เป็นเวลาเกือบ 3 เดือนคือตั้งแต่ต้นเดือน กรกฎาคม จนถึงกลางเดือนกันยายน เนื่องจากเป็นช่วงหน้าร้อนที่ญี่ปุ่น หิมะบนยอดเขาจะเริ่มละลายจนสามารถเปิดทางให้นักปีนเขาขึ้นไปได้ ถ้าใครไปเที่ยวฟูจิช่วงนี้ก็จะเป็นฟูจิเป็นเขาหัวโล้นนี่แหละครับ
เส้นทางปีนเขาฟูจินั้นมีทั้งหมด 4 เส้นทางตามในรูป ซึ่งควรจะศึกษาเส้นทางเดินตามป้ายให้ดี เพราะถ้าเดินลงผิดเส้นทางจะไปโผล่คนละจังหวัดกันเลย
1 Yoshida Trail (สีเหลือง) เป็นเส้นยอดนิยม คนล้นหลามมาก เดินสบายๆ ไม่ยากมาก มีร้านค้าและที่พักตลอดทาง
2 Subashiri Trail (สีแดง) เป็นเส้นทางที่คนไม่ค่อยเยอะมาก ที่พักน้อย มีร้านค้าไม่กี่ร้าน
3 Gotemba Trail (สีเขียว) เป็นเส้นทางที่คนน้อยที่สุด ทางเดินสั้นที่สุด ชันและยากที่สุด ใช้เวลาเดินนานสุด ไม่ค่อยมีร้านค้าและที่พัก
4 Fujinomiya Trail (สีน้ำเงิน) เป็นเส้นทางที่คนเยอะเป็นอันดับ 2 มีร้านค้าและที่พักตลอดทาง
สามารถติดตามข่าว และศึกษารายละเอียดเส้นทางปีนฟูจิ ได้ที่ http://www.fujisan-climb.jp/en/
เราเลือกที่จะขึ้นฟูจิเส้นทาง Yoshida Trail (สีเหลือง) เพราะเป็นเส้นทางที่ง่ายที่สุด ใช้เวลาไม่เยอะมาก เหมาะกับสมาชิกในกลุ่มที่มีนักปีนเขามือใหม่อยู่ด้วย ส่วนขาลงเราวางแผนจะไปเดินช้อปปิ้งกันต่อที่ Gotemba Outlet เราเลยเลือกเส้นทางลงทาง Subashiri Trail (สีแดง) เพราะจากสถานี 5 ที่ Subarashi มีรถบัสตรงไป Gotemba Outlet โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง และจาก Outlet ก็ต่อรถบัสยาวๆ ไปโตเกียวได้เลย
------------------------------------------------
ที่พัก
สำหรับเส้นทาง Yoshida Trail มีที่พักให้เลือกมากมายทุกสถานี เราเลือกจองที่พักที่อยู่สูงที่สุดเท่าที่จะสามารจองออนไลน์ได้ เพื่อวันรุ่งขึ้นจะได้เดินขึ้นยอดไม่เหนื่อยเกินไป เราเลือกพักบนสถานีที่ 8 ชื่อ Ganso Muro ที่ความสูง 3,250m (ลูกศรสีแดงๆ ในรูปข้างบน) ราคา 7,800 yen ต่อคน รวมอาหารสองมื้อ (มื้อเย็น และเช้าวันรุ่งขึ้น) ที่นี่ไม่มีจ่ายเงินออนไลน์ พกเงินไปจ่ายตอนเช็คอินเลย
จองออนไลน์ได้ที่ http://www.mfi.or.jp/fujisan/english/index.html
------------------------------------------------
อุปกรณ์จำเป็นที่ควรมีในการปีนฟูจิ
1 ไฟคาดหัว จำเป็นมากเพราะต้องเดินกลางคืนกันจนถึงเช้า
2 เสื้อกันลมกันฝน ระหว่างทางจะเจอสภาพอากาศที่แปรปรวนตลอดเวลา เดี๋ยวแดดออก เดี๋ยวฝนตก ข้างบนกลางคืนจะหนาวมาก ประมาณ 6ºC เสื้อผ้าอุปกรณ์กันฝนกันหนาวควรเตรียมไปให้ครบแบบจัดเต็ม
3 ไม้เท้า หาไม้เท้าเดินป่าดีๆ ซักอัน ช่วยได้เยอะเลย หรือระหว่างทางจะมีไม้ปีนเขาขายที่สามารถประทับตราที่ระลึกได้ แต่จะหนักหน่อย อาจจะเป็นภาระแทนได้
4 รองเท้าเดินเขา เป็นรองเท้าแบบมีดอกลึกๆ พื้นหนาๆ จะเป็นรองเท้าวิ่งเทรลก็ได้ เพราะทางเดินกรวดหินลื่นๆ ค่อนข้างเยอะ บางช่วงต้องปีนป่ายเขา พวกรองเท้าแฟชั่นทั้งหลายเก็บไปใส่ในเมืองเถอะ
5 ถุงร้อนแบบพกพา (Heat Pack) อากาศหนาวๆ บนยอดเขา ฉีกซอง Heat Pack ยัดใส่กระเป๋าเสื้อไว้อุ่นสบาย
7 ถุงมือ หมวกกันหนาว ถ้าไม่อยากมือชา หน้าชา หูชา ก็เอาไปด้วย จะได้ขึ้นไปกินชาเขียวร้อนๆ บนยอดเขากัน
8 เงินสดเยอะๆๆๆ เอาไว้จ่ายค่าโรงแรมเพราะรับเฉพาะเงินสด ค่าอาหาร ค่าน้ำ ยิ่งสูงก็จะยิ่งแพง พกเหรียญ 100 เยนไปเยอะๆ ด้วย เพราะห้องน้ำคิดค่าบริการครั้งละ 100-300 เยน รับเฉพาะเหรียญนะจ๊ะ หยอดใส่กล่องหน้าห้องน้ำเลย
9 เสบียงของกินจุกจิกที่ให้พลังงานระหว่างทาง เอาไว้รองท้องเวลาหิว บางทีเราต้องเดินไกลกว่าที่คิดกว่าจะไปถึงร้านค้า ท้องอาจจะหิวระหว่างทางได้
10 ยาประจำตัว สำหรับคนที่แพ้ความสูงจะมีอาการปวดหัว อาเจียน เวลาขึ้นที่สูงเพราะร่างการปรับตัวไม่ทัน ก็อย่าลืมเตรียมยาไปด้วย หรือถ้าไม่ไหวจริงๆ ข้างบนมีอ๊อกซิเจนกระป๋องขาย สูดอัดกันเข้าไป
------------------------------------------------
ถ้าพร้อมแล้ว เราก็เดินทางไปกันได้เลย!!! อ้อ อย่าลืมศึกษาสภาพอากาศก่อนเดินทางกันด้วยนะครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น