ตอนนั้นผมเคยตั้งกระทู้ว่าไม่อยากมีแฟนเพราะกลัวจะกระทบกับการทำสิ่งที่เรารัก แต่พอมาประเมินดูแล้ว มันเป็นมากกว่าสิ่งที่ผมรักครับ อาจจะเรียกว่ามันเป็นความฝันที่ผมจะต้องทำมันให้ได้ แต่คงยังไม่ถึงขั้นที่ว่าเป็นเป้าหมายในชีวิต เรื่องบอลที่เคยบอกก็เป็นแค่ตัวอย่างหนึ่งครับ จริงๆ แล้วความฝันของผมมันมีมากกว่านั้น ทั้งเรื่องงานที่อยากทำอะไรที่เราชอบ แล้วก็ไปเที่ยวหลายๆ ที่ที่อยากไป ทั้งในเมืองไทยและเมืองนอก ที่สำคัญคือความฝันของผมมันเป็นอะไรที่เปลี่ยนได้ยากด้วยครับ นอกจากว่าผมจะลงมือทำจนประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งแล้วถึงจุดอิ่มตัวกับมัน
ที่ผมเคยบอกว่า”ไม่อยากมีแฟนเพราะไม่อยากเสียโอกาสในการทำสิ่งที่ตัวเองรักเพื่อคนคนเดียว”วันนี้ขอแก้เป็น”ไม่อยากมีแฟนเพราะไม่อยากทิ้งความฝันเพื่อคนคนเดียว”นะครับ ถ้านึกไม่ออกขอแนะนำให้ลองไปฟังเพลง”ที่ว่าง”ดู นั่นแหละบอกถีงความรู้สึกของผมได้ดีที่สุด
ลึกๆ ผมเชื่อว่าความรักกับความฝันมันไปด้วยกันได้ครับ เพียงแต่ว่าตอนนี้มันยังจูนกันไม่ติด เลยต้องเลือกทำทีละอย่าง หรือพูดง่ายๆ คือยังหาคนที่เข้าใจเราไม่เจอ ก็เลยอยากจะใช้ชีวิตในช่วงนี้ทำอะไรที่อยากทำให้เต็มที่ ส่วนคนที่จะมาเป็นแฟนในอนาคตนั้น ไม่จำเป็นว่าเขาจะต้องชอบเหมือนเราก็ได้ ขอแค่เขาเข้าใจเราและยอมรับว่าเราชอบอะไร อยากทำอะไรก็พอแล้ว
แล้วเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทุกคนล่ะครับ ความรักกับความฝันของพวกคุณมันไปด้วยกันได้ไหม ถ้ามันมีปัญหาอะไร พวกคุณมีวิธีจัดการมันยังไง แล้วถ้าพวกคุณต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งจะเลือกเก็บอะไรไว้ครับ ส่วนตัวผมเลือกความฝันแน่นอน เพราะถ้าล้มเลิกความตั้งใจไปคงจะเป็นการทรยศต่อความตั้งใจของตัวเอง (ผมวางแผนมาเป็นปี) และอาจจะโดนด่าด้วยซ้ำเพราะผมเคยเล่าความฝันของตัวเองให้คนใกล้ตัวฟังหลายคนแล้ว
เรื่องของ“ความรัก”กับ“ความฝัน”
ที่ผมเคยบอกว่า”ไม่อยากมีแฟนเพราะไม่อยากเสียโอกาสในการทำสิ่งที่ตัวเองรักเพื่อคนคนเดียว”วันนี้ขอแก้เป็น”ไม่อยากมีแฟนเพราะไม่อยากทิ้งความฝันเพื่อคนคนเดียว”นะครับ ถ้านึกไม่ออกขอแนะนำให้ลองไปฟังเพลง”ที่ว่าง”ดู นั่นแหละบอกถีงความรู้สึกของผมได้ดีที่สุด
ลึกๆ ผมเชื่อว่าความรักกับความฝันมันไปด้วยกันได้ครับ เพียงแต่ว่าตอนนี้มันยังจูนกันไม่ติด เลยต้องเลือกทำทีละอย่าง หรือพูดง่ายๆ คือยังหาคนที่เข้าใจเราไม่เจอ ก็เลยอยากจะใช้ชีวิตในช่วงนี้ทำอะไรที่อยากทำให้เต็มที่ ส่วนคนที่จะมาเป็นแฟนในอนาคตนั้น ไม่จำเป็นว่าเขาจะต้องชอบเหมือนเราก็ได้ ขอแค่เขาเข้าใจเราและยอมรับว่าเราชอบอะไร อยากทำอะไรก็พอแล้ว
แล้วเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทุกคนล่ะครับ ความรักกับความฝันของพวกคุณมันไปด้วยกันได้ไหม ถ้ามันมีปัญหาอะไร พวกคุณมีวิธีจัดการมันยังไง แล้วถ้าพวกคุณต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งจะเลือกเก็บอะไรไว้ครับ ส่วนตัวผมเลือกความฝันแน่นอน เพราะถ้าล้มเลิกความตั้งใจไปคงจะเป็นการทรยศต่อความตั้งใจของตัวเอง (ผมวางแผนมาเป็นปี) และอาจจะโดนด่าด้วยซ้ำเพราะผมเคยเล่าความฝันของตัวเองให้คนใกล้ตัวฟังหลายคนแล้ว