ทำไมผู้ชายแบบนี้ถึงกล้าบอกว่าตัวเองเป็นคนดี?
ก่อนอื่นต้องบอกว่าเรื่องนี้เกิดกับน้องสาวแท้ๆของผม ซึ่งผมเป็นพี่ชาย แล้วก็รู้สึกแย่มากที่แม่ต้องมาเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งหัวอกคนเป็นพี่ชายอย่างผมก็รู้สึกไม่ต่างกัน
ด้วยความที่ผมเป็นผู้ชาย ปีนี้ก็อายุ 25 แล้ว ตลอดชีวิตผมไม่เคยล่วงเกินผู้หญิงเลย คบกับใคร มีแฟนมากี่คน ผมไม่เคยแตะโดนเนื้อตัวสักคน เพราะพ่อแม่สอนผมมาว่า ควรให้เกียรติคนรัก ครอบครัวเขา รวมถึงเห็นแก่หน้าวงศ์ตระกูลตัวเองด้วย
แล้วน้องสาวผม ตลอดชีวิต เจอแต่ผู้ชายแย่ๆมาตลอด เขาเป็นคนที่มีสเน่ห์เฉพาะตัว รูปร่างดี ผู้ชายมักเข้าหาเพราะหวังร่างกาย น้องผมมีคนอิจฉาเยอะ ชอบลือให้เสียหาย สังคมแถวบ้านมีแต่คนมักง่าย
แต่ความจริงใครๆก็บอกว่าน้องผมมีแรงดึงดูดทางเพศสูงด้วย เพื่อนผมยังบอกแบบนั้น
จากนิสัยแล้ว น้องผมเป็นคนที่เลิอกนะ ผู้ชายที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเขาก็จะคัดกรองตลอด ไม่ใช่คบใครง่ายๆ แต่พอคบ ก็มักหวังมีเพศสัมพันธ์ตลอด น้องผมก็ปฏิเสธ แล้วผู้ชายเหล่านั้นก็เลิกไปกันหมด
ปีนี้น้องผมก็ 23 แล้ว เขาก็คิดว่าโตพอสมควร จริงๆทางบ้านไม่เคยห้ามเรื่องเพศนะ แต่จะสอนให้ดูให้ดีๆ คิดเองได้ ชีวิตเป็นของหนูเอง
น้องผมก็มีเพื่อนๆเป็นผู้ชายเสียส่วนใหญ่ เพราะผู้หญิงเจอแต่เสแสร้ง ชอบลับหลังกันแบบไม่จริงใจ ชอบยั่วยุเรื่องทางเพศให้ไปเสื่อมเสีย นอนกับผู้ชายบ้างอะไรบ้าง ไม่เจอเพื่อนดีๆก็เลือกจะอยู่คนเดียวของมันได้
เพื่อนสนิทมันก็เรียนอยู่มหาลัยใกล้ๆกัน รู้จักกันเพราะอยู่หอเดียวกัน
ต้องบอกว่าเพื่อนสนิทมันเป็นผู้ชาย นิสัยค่อนข้างคล้ายผม เป็นคนขี้อาย จริงใจ และให้เกียรติผู้หญิง มากกว่าผมด้วยซ้ำ ตั้งแต่รู้จักน้องผม ก็พยายามทำความรู้จักครอบครัวเรา เข้าหาพ่อแม่
แนะนำครอบครัวตัวเองให้รู้จักกัน ต้องบอกว่าน้องเขาเป็นผู้ชายที่จริงใจมากจนผมรู้สึกได้ ถ้าไม่รู้ ตอนแรกผมก็คิดว่ามันเป็นแฟนกัน เพราะมันบอกว่ารู้ใจกัน เอาใจใส่ ดูแลกันตลอด จนน้องผมขอแม่เพื่อย้ายไปอยู่ห้องเดียวกัน เพื่อนชายมันยังบอกเลยว่าจะดีหรอ มันก็บอกพ่อแม่มันให้มาขอคุยกับพ่อแม่ผมด้วย เพื่อขออนุญาตก่อน ผมยังขำเลย
แมผมก็ไม่ว่าอะไร แต่พ่อผมนี่สิ แปลกใจมาก ทั้งชีวิต แกหวงลูกสาวมาก หวงถึงขั้นว่า ถ้ารู้ว่ามีผู้ชายมาจีบ เขาจะแสดงตัวทันที แล้วที่ผ่านมา ไม่ว่าผู้ชายหน้าไหนก็เผ่นหมด
เพื่อนสนิทน้องคนนี้เขาขอเข้ามาเจอหน้าเองเลยด้วยซ้ำ ผมก็แปลกใจ แต่ก็เข้าใจนะว่าคนจริงใจก็ไม่มีอะไรต้องกลัว
พ่อผมก็ไม่มีทีท่าจะดุหรืออคติเลย ก็ไม่มีปัญหาอะไร ขนาดหมาที่บ้านผมดุๆ ไม่ว่าใครมา บ้านขนาดรู้จัก หรือญาติ มันยังกัดยังเห่า แต่เพื่อนสนิทน้องสาวผมมันมาบ้าน หมาที่บ้านไม่แอะสักคำ หมาสองตัวที่ดุจะง่ำทุกคน กลับมาดมๆแล้วก็เฉยๆกับมัน ไม่หิอไม่อือ แต่มันก็ไม่ยอมให้เล่นด้วยนะ 555
(กลับมาที่คนดีกว่า พ่อแม่เราคิดว่าสองคนนั้นเป็นแฟนกันด้วยซ้ำ) จนมันก็อยู่ห้องเดียวกัน ค่าห้องหารครึ่ง ก็ดูแลเอาใจใส่กันดีมาก น้องผมมีความสุขจนสังเกตได้
ก็อยู่ด้วยกัน 3 ปี จนน้องผมเรียนจบมหาลัย เคยถามว่าได้กันยัง มันยังโกรธผมเลย ว่าพี่พูดอะไร คือมันอยู่ด้วยกันมา 3 ปี มันบอกไม่เคยเกินเลยกันเลย นอนติดกันแรกๆก็เอาหมอนกั้น แต่พอนานไปมันก็ไม่เอาอะไรกั้น บางทีก็นอนก่ายกันบ้างตามประสาคนนอนด้วยกัน แต่ก็ไม่มีอะไรเพราะให้เกียรติกัน เป็นเพื่อนกัน
ซึ่งถ้าเป็นผมเอง ยังคิดว่าอดทนไม่ได้หรอกหากมีสาวนอนด้วยกัน สนิทกันขนาดนี้
เพื่อนสนิทน้องผมมันเป็นชายแท้นะ แต่มันไม่เคยมีแฟน ไม่มีด้วย เพราะมันบอกยังไม่เจอคนที่ใช่ (น้องสาวผมก็ไม่ใช่สำหรับมัน555 ผมล่ะสงสาร)
แล้วรู้มาว่า สองคนนี้มันก็มีอารมณ์ทางเพศสูงกันทั้งคู่ด้วย ผมยังแปลกใจที่มันอดทนกันมาได้ไงตั้ง 3 ปี
แต่ก็พอเข้าใจนะว่าน้องสาวผมมันก็มีคนคุย แล้วเพื่อนมันก็ให้เกียรติน้องผมเป็นอย่างดีด้วย
เล่ามาตั้งนาน มาเข้าเรื่องกันดีกว่า (เดี๋ยวนะ ที่เล่ามาทั้งหมดคืออะไรน่ะหรอ ต้องบอกว่า มันต่อเนื่องกัน และผมยกเอาชายคนนี้มาเปรียบเทียบกับผู้ชายอีกคน)
น้องสาวผมมีแฟนตอน ม.ปลาย คบกันมาจนอยู่มหาลัยปี 2 ซึ่งเพื่อนสนิทน้องมันก็คุยตั้งแต่แรกเลย กับแฟนน้องผม ว่าไว้ใจไหม โอเครึเปล่า แฟนน้องมันก็ไม่มีปัญหา จนมันก็เลิกกัน เหตุผลเพราะแฟนน้องสาวผมมันนอกใจ
น้องสาวผมก็เป็นคนมีมารยาท ใครเข้ามาคุยด้วยก็คุยได้ (ไม่น่าเรียกว่าเฟรนลี่นะ เพราะน้องผมจะไม่ชวนคุยเลย แค่ฝ่ายชายชวนคุยอย่างเดียว มันก็ตอบเป็นมารยาท)
แล้วมีคนหนึ่ง จีบน้องผมตั้งแต่มันอยู่ปี 1 (ยังไม่เลิกกับแฟน) จนน้องผมเลิกกับแฟน ตอนปี 2 ก็เลยคุยกับไอ้ชายคนนี้บ่อยขึ้น (มีชวนคุยบ้าง สลับกันไปมา จากที่คนอื่นน้องผมจะเป็นฝ่ายตอบอย่างเดียว) ผู้ชายคนนี้ รู้จักกับน้องสาวผมทางเฟซบุ๊ค ไม่เคยเจอตัวจริงสักครั้งเดียว แต่ลักษณะนิสัย จากการพิมพ์ รวมถึงโปรไฟล์ ก็ดูเป็นคนไม่เจ้าชู้ ไม่เกเรต่อยตี
น้องผมไว้ใจเพื่อนสนิท ขนาดรู้ทุกเรื่อง มีอะไรก็เล่าให้ฟังหมด หลายเรื่องเขารู้ดีกว่าน้องผมด้วยซ้ำ รวมถึงปรึกษาเรื่องแฟน พวกแชท รหัสส่วนตัวอะไรเพื่อนน้องผมก็รู้หมด เพราะไว้ใจกัน ยิ่งกว่าผมอีก
ด้วยความที่ผม รวมถึงเพื่อนสนิทน้อง เป็นคนซื่อ ไม่มีเล่เหลี่ยมก็ว่าได้ เลยมักจะมองโลกในแง่ดี สะอาดเกินไปกว่าที่จะรู้เท่าทันคนคิดร้ายหรือหวังไม่ดี หรือมีนัยแอบแฝง
แล้วน้องผมกับผู้ชายคนที่มันคุยก็สนิทกันมากขิ้น คุยกันจนเรียนจบ ผู้ชายขอนัดเจอ ด้วยความที่รู้จักกับน้องมากว่า 4 ปี น้องผมเลยไว้ใจ เพื่อนสนิทมันก็บอกก็เตือนว่าอย่าไว้ใจผู้ชาย แต่ก็ไม่ได้ฟันธงว่าคนนั้นดีหริอไ่ม่ดี เพราะรู้จักแค่ในโลกออนไลน์ ขนาดคนที่เจอต่อหน้ายังเสแสร้งกันได้ เขาก็มีเหตุผลดีนะ รู้จักระมัดระวัง
แต่น้องผมก็มีเหตุผลว่า กลัวนานไปจะไม่มีแฟน (มันอยากมีลูก อยากแต่งงานให้แม่ภูมิใจ แม่ผมอยากเห็นลูกใส่ชุดเจ้าสาวมาก ตอนพ่อแม่ผมแต่งงาน แต่งแบบเงียบๆ เพราะไม่มีเงิน บ้านเราฐานะยากจน แค่ไปขอกันแล้วจดทะเบียนตามกฎหมาย) น้องมันเลยเหมือนจะแบกความหวังเอาไว้
ก็เลยรับปากจะไปหาผู้ชายที่บ้าน
ทีนี้ เพื่อนน้องผมรู้สึกว่าไม่เหมาะไม่ควร เนื่องจากเราไม่รู้พื้นเพผู้ชายคนนั้นเลย มันออกจะอันตรายเกินไป ก็เลยพยายามห้ามปราม
แต่น้องผมมันเป็นคนคิดมาก รับปากใครแล้วก็ไม่ผิดคำพูด
ัส่วนผู้ชายคนนั้นก็รับปากกับผม กับเพื่อนน้อง กับน้อง ว่าแค่ไปค้าง 2 คืน ไม่ทำอะไรหรอก ไม่ใช่ผู้ชายหวังร่างกาย ทางบ้านก็ให้เขาแยกห้องนอน ให้น้องผมไปนอนห้องพี่สาวของผู้ชาย (บ้านนั้นมีลูก 2 คน คือพี่สาว กับ น้องชาย)
เมื่อลูกผู้ชายเอ่ยรับปาก ให้สัจจะคำมั่น ก็ควรให้เกียรติเขา ผมกับเพื่อนสนิทน้องสาวก็เลยตกลงว่าให้น้องไปเจอกันได้
ต่อไปนี้จะขอใส่ความรู้สึกปนไประหว่างเล่าด้วย และเรื่องราวจะรู้จากมุมที่น้องสาวผมบอกรวมกับที่เพื่อนมันบอกเท่านั้น รายละเอียดลึกมากๆไม่อาจรู้ได้ เพราะตั้งแต่นี้ น้องผมมันเริ่มปิดบังทุกคนแล้ว
ครั้งแรกเจอกัน ผช อาสาถือของให้ทุกอย่าง เอาอกเอาใจน้องผมดีมาก
ไปถึงบ้าน น้องโทรไปบอกเพื่อนว่า ที่บ้านเขาไม่สะดวกให้นอนห้องพี่สาว เหตุผลคือเขาไม่อยู่บ้าน เป็นห้องส่วนตัว เลยขอให้นอนห้อง ผช แต่แยกเตียง
เพื่อนน้องผมรีบโทรมาบอกให้ช่วยกันบอกให้น้องกลับทันที เพราะมันเริ่มแสดงท่าทางตุกติกอะไรบางอย่างละ
น้องผมไม่ยอม เพราะรับปากว่าจะอยู่ 2 วัน อีกอย่าง ระหว่างทางจาก BTS ไปบ้าน ผช ไม่มีรถประจำทาง สุดท้ายเลยต้องค้างคืน
ปรากฎว่าคืนแรก ผช มันขอน้องผมเป็นแฟนเลย (ทั้งที่แม่มเพิ่งเจอกันครั้งแรก) ด้วยความที่น้องผมไม่คิดอะไร ก็เลยตกลง คิดว่าลองคบไปก่อนก็ได้
มันสองคนก็เลยเป็นแฟนกันตั้งแต่วันนั้น
ต่อมา พอน้องผมกลับมา มันก็เริ่มมีความลับ เพื่อนถามอะไรก็ไม่ค่อยบอก จนผ่านไปประมาณ 20 วัน แฟนน้องก็ขอเจอ เพราะอ้างว่าคนเป็นแฟนกัน คิดถึงกัน อยากเจอ
คราวนี้มันขอไปค้างที่ทำงานน้อง เพื่อนมันก็บอกว่าไม่ควร
น้องผมก็ไม่ฟัง ก็ทะเลาะกัน จนสุดท้ายบอกว่าไม่ค้าง จะออกไปเที่ยวไปเจอกันข้างนอก
ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ในชีวิต ที่น้องผมกับแฟนมันเจอกัน
แฟนมันก็นั่ง BTS จากต้นสายมาสุดสาย ต่อรถ MRT อีก ค่าใช้จ่ายถือว่าไม่ใช่น้อยเลย แต่บ้านมันรวย มีฐานะเลยอาจคิดว่าเรื่องเล็กน้อย
มันก็ไปหาน้องผม แล้วก็พาเที่ยว ออกค่าใช้จ่ายให้หมดทุกอย่าง ซื้อของกิน ของใช้ ตุ๊กตา ค่ารถ เลี้ยงน้องผมหมด แล้วมันก็กลับไป
หลังจากวันนั้น น้องผมไม่ติดต่อผมอีกเลย ส
กับเพื่อนมันก็กลายเป็นไม่ทักไปเลยเหมือนกัน แต่เพื่อนมันก็ยังติดต่อไป น้องผมกลับรำคาญ เริ่มไม่คุย
ผ่านไป 7 วัน คราวนี้น้องผมจู่ๆก็อยากเจอแฟนมัน แต่ก็โทรไปขอเพื่อนสนิทมันว่าจะให้แฟนมาหา ไปขอค้างห้องเพื่อน (ทั้งที่มันรู้นิสัยเพื่อนมันดีว่าไม่เคยให้คนนอกเข้าห้อง แม้แต่เพื่อนมันเอง คนที่มันให้มีแค่น้องสาวผมคนเดียว)
พอเพื่อนมันไม่ให้ ก็อ้างคำว่าเพื่อน สุดท้ายเพื่อนมันเลยยอม
ครั้งที่ 3 ที่มันเจอกัน เพื่อนน้องผมก็ออกไปข้างนอก ปล่อยให้มันอยู่ห้องกันเพราะให้เกียรติที่เหมือนเป็นเจ้าบ้าน เกรงใจ เข้าใจว่าเป็นแฟนกันก็ให้อยู่ด้วยกัน
จนแฟนมันกลับไป เพื่อนมันก็คุยกันจริงจัง ว่ามันไม่สมควร ดูท่าทาง ผช ไม่น่าไว้ใจ ผช ด้วยกันจะดูออก แต่น้องผมก็ไม่เชื่อไม่ฟัง มีปากเสียง ทะเลาะกันแบบที่ไม่เคยเป็น
เพื่อนน้องมันเล่าให้ผมฟังว่ามันแปลกๆตั้งแต่ครั้งที่สองที่มันเจอกันแล้ว พฤติกรรมน้องสาวผมเปลี่ยนไปจนผิดสังเกต
แต่เราสองคนก็ไม่คิดอะไร คิดว่าคงเป็นอาการหลงแฟนธรรมดา
แต่น้องผมให้สัญญากับเพื่อนมันว่า ต่อไปจะคิดดีๆ ไม่หลงมาก เจอกันสองสามเดือนครั้งพอ
เพื่อนมันก็ตกลง ผมก็ตกลง
แต่ผ่านครั้งที่ 3 ไปไม่ถึงสัปดาห์ น้องผมก็ดั้นด้นอยากเจออีกแล้ว แฟนมันก็เช่นกัน
เพื่อนมันก็ถามว่าเป็นอะไรจะต้องเจอกันบ่อยขนาดนั้น น้องมันก็ไม่ยอม ทะเลาะกัน จนเพื่อนมันไม่อยากทะเลาะ เลยยอมๆไป
ครั้งที่ 4 มันมาดูหนังกัน มันบอกจะเลี้ยงทุกอย่าง แต่มันก็ไม่เลี้ยงสักอย่าง มีข้ออ้างสารพัดว่าเงินไม่พอ รอเงินออก คราวหน้าบ้างอะไรบ้าง
สุดท้ายมันก็ดูหนังกัน ไปกินหมูกระทะกัน เที่ยวกัน โดยที่ให้น้องผมจ่ายให้
หลังจากนั้น เพื่อนมันจับได้ว่ามันแอบให้แฟนมันค้าง 2 วันโดยไม่บอกมัน (มันกับเพื่อนสัญญากันว่าจะไม่ปิดบัง) มันก็ทะเลาะกันอีก
ผ่านไปสามวัน น้องผมไปหาแฟนมันที่บ้าน ลางาน หยุดงาน หลอกเพื่อนว่าไม่สบาย
ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 ที่มันเจอกัน
พอน้องมันกลับมาวันทำงาน มันยังพาแฟนมันกลับมาค้างที่ห้องมันอีก ในขณะที่ผมเป็นพี่ชายแท้ๆ เคยขอไปทำธุระ มันยังไม่ให้ค้าง
เพื่อนสนิทมัน ขอไปหาไปค้าง มันก็ไม่ให้ค้าง
แม่จะไปหา มันก็มีข้ออ้างสารพัดเพื่อเลี่ยง แต่มันกลับให้แฟนมันค้าง
ผมกับแม่ยุ่งไม่ได้อีกต่อไป
แต่เพื่อนมันยังพอคุยได้
จากนั้น เพื่อนมันโมโห เลยขอไปค้าง วันที่แฟนมันกลับ
มันทะเลาะกันหนักมาก และเพื่อนมันทนไม่ไหว เพราะรัสึกว่าที่ผ่านมา น้องผมต้องโกหกแน่ๆ สุดท้ายมันก็จริงอย่างที่ผมคิด
น้องผมกับแฟนมันมีอะไรกันแล้ว มันถึงได้โหยหากันตลอดเวลาจนผิดสังเกต
มันบอกเพื่อน สัญญาว่าจะไม่ทำอะไรแม้แต่จับมือ ถ้าผิดคำพูด มันจะเลิกทันที
แต่มันก็ไม่ยอมเลิก มันผิดสัญญาทุกอย่าง ผิดคำพูด โกหกทุกคน ยอมกระทั่งตัดเพื่อน ตัดครอบครัว
ที่เพื่อนมันจับไม่ได้ อย่างแรก เพราะความเชื่อใจ ไว้ใจ
มันอ่อนต่อโลกเกินไปด้วย เลยไม่คิดว่าจะเกิดอะไรแบบนี้ได้
มันเล่าให้ผมฟังว่า มันจับไม่ได้ว่าสองคนนั้นมีอะไรกันแล้วเพราะมันถามอะไรน้องผมก็ปฏิเสธตลอด ไปสังเกตสภาพในห้อง ตามถังขยะก็ไม่เจออะไร (เพราะถ้ามีเพศสัมพันธ์ก็น่าจะมีถุงยางอนามัย) แต่สุดท้าย มารู้ว่า มันไม่ป้องกัน ทั้งที่เอ่ยว่า มือยังไม่เคยจับกัน
ที่ผ่านมา มันไม่ได้ป้องกันกันเลยสักครั้ง มารู้ว่าแฟนมันขอตั้งแต่ครั้งที่ 2 ที่เจอกัน วันที่บอกว่าไปเที่ยว แต่จริงๆแอบขึ้นห้องมาไม่ถีงครึ่งชั่วโมง
ฟังดูไม่น่าเป็นไปได้ใช่ไหมล่ะครับ เจอกันในชีวิตจริงแค่ ครั้งที่ 2 อยู่ตามลำพังแค่สิบกว่านาที ก็ทำเรี่องอย่างว่ากันได้แล้ว
มันยังไม่จบเท่านี้ น้องผมมันบอกว่าหลังจากมีครั้งแรก ต่อมามันมีกันทุกครั้งที่เจอ ไปบ้านแฟน พ่อแม่เขาอยู่ก็ยังกล้ามี ทั้งที่เขาดูทีวีอยู่ห้องข้างๆ
หลังจากนั้น เพื่อนน้องให้โอกาสน้องแก้ตัว คุยกับแฟนน้อง สอนให้รู้จักป้องกัน
ขอให้ไปตรวจโรค ให้มันสองคนลด ละ เลิก
ทำไมผู้ชายแบบนี้ถึงกล้าบอกว่าตัวเองเป็นคนดี?
ก่อนอื่นต้องบอกว่าเรื่องนี้เกิดกับน้องสาวแท้ๆของผม ซึ่งผมเป็นพี่ชาย แล้วก็รู้สึกแย่มากที่แม่ต้องมาเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งหัวอกคนเป็นพี่ชายอย่างผมก็รู้สึกไม่ต่างกัน
ด้วยความที่ผมเป็นผู้ชาย ปีนี้ก็อายุ 25 แล้ว ตลอดชีวิตผมไม่เคยล่วงเกินผู้หญิงเลย คบกับใคร มีแฟนมากี่คน ผมไม่เคยแตะโดนเนื้อตัวสักคน เพราะพ่อแม่สอนผมมาว่า ควรให้เกียรติคนรัก ครอบครัวเขา รวมถึงเห็นแก่หน้าวงศ์ตระกูลตัวเองด้วย
แล้วน้องสาวผม ตลอดชีวิต เจอแต่ผู้ชายแย่ๆมาตลอด เขาเป็นคนที่มีสเน่ห์เฉพาะตัว รูปร่างดี ผู้ชายมักเข้าหาเพราะหวังร่างกาย น้องผมมีคนอิจฉาเยอะ ชอบลือให้เสียหาย สังคมแถวบ้านมีแต่คนมักง่าย
แต่ความจริงใครๆก็บอกว่าน้องผมมีแรงดึงดูดทางเพศสูงด้วย เพื่อนผมยังบอกแบบนั้น
จากนิสัยแล้ว น้องผมเป็นคนที่เลิอกนะ ผู้ชายที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเขาก็จะคัดกรองตลอด ไม่ใช่คบใครง่ายๆ แต่พอคบ ก็มักหวังมีเพศสัมพันธ์ตลอด น้องผมก็ปฏิเสธ แล้วผู้ชายเหล่านั้นก็เลิกไปกันหมด
ปีนี้น้องผมก็ 23 แล้ว เขาก็คิดว่าโตพอสมควร จริงๆทางบ้านไม่เคยห้ามเรื่องเพศนะ แต่จะสอนให้ดูให้ดีๆ คิดเองได้ ชีวิตเป็นของหนูเอง
น้องผมก็มีเพื่อนๆเป็นผู้ชายเสียส่วนใหญ่ เพราะผู้หญิงเจอแต่เสแสร้ง ชอบลับหลังกันแบบไม่จริงใจ ชอบยั่วยุเรื่องทางเพศให้ไปเสื่อมเสีย นอนกับผู้ชายบ้างอะไรบ้าง ไม่เจอเพื่อนดีๆก็เลือกจะอยู่คนเดียวของมันได้
เพื่อนสนิทมันก็เรียนอยู่มหาลัยใกล้ๆกัน รู้จักกันเพราะอยู่หอเดียวกัน
ต้องบอกว่าเพื่อนสนิทมันเป็นผู้ชาย นิสัยค่อนข้างคล้ายผม เป็นคนขี้อาย จริงใจ และให้เกียรติผู้หญิง มากกว่าผมด้วยซ้ำ ตั้งแต่รู้จักน้องผม ก็พยายามทำความรู้จักครอบครัวเรา เข้าหาพ่อแม่
แนะนำครอบครัวตัวเองให้รู้จักกัน ต้องบอกว่าน้องเขาเป็นผู้ชายที่จริงใจมากจนผมรู้สึกได้ ถ้าไม่รู้ ตอนแรกผมก็คิดว่ามันเป็นแฟนกัน เพราะมันบอกว่ารู้ใจกัน เอาใจใส่ ดูแลกันตลอด จนน้องผมขอแม่เพื่อย้ายไปอยู่ห้องเดียวกัน เพื่อนชายมันยังบอกเลยว่าจะดีหรอ มันก็บอกพ่อแม่มันให้มาขอคุยกับพ่อแม่ผมด้วย เพื่อขออนุญาตก่อน ผมยังขำเลย
แมผมก็ไม่ว่าอะไร แต่พ่อผมนี่สิ แปลกใจมาก ทั้งชีวิต แกหวงลูกสาวมาก หวงถึงขั้นว่า ถ้ารู้ว่ามีผู้ชายมาจีบ เขาจะแสดงตัวทันที แล้วที่ผ่านมา ไม่ว่าผู้ชายหน้าไหนก็เผ่นหมด
เพื่อนสนิทน้องคนนี้เขาขอเข้ามาเจอหน้าเองเลยด้วยซ้ำ ผมก็แปลกใจ แต่ก็เข้าใจนะว่าคนจริงใจก็ไม่มีอะไรต้องกลัว
พ่อผมก็ไม่มีทีท่าจะดุหรืออคติเลย ก็ไม่มีปัญหาอะไร ขนาดหมาที่บ้านผมดุๆ ไม่ว่าใครมา บ้านขนาดรู้จัก หรือญาติ มันยังกัดยังเห่า แต่เพื่อนสนิทน้องสาวผมมันมาบ้าน หมาที่บ้านไม่แอะสักคำ หมาสองตัวที่ดุจะง่ำทุกคน กลับมาดมๆแล้วก็เฉยๆกับมัน ไม่หิอไม่อือ แต่มันก็ไม่ยอมให้เล่นด้วยนะ 555
(กลับมาที่คนดีกว่า พ่อแม่เราคิดว่าสองคนนั้นเป็นแฟนกันด้วยซ้ำ) จนมันก็อยู่ห้องเดียวกัน ค่าห้องหารครึ่ง ก็ดูแลเอาใจใส่กันดีมาก น้องผมมีความสุขจนสังเกตได้
ก็อยู่ด้วยกัน 3 ปี จนน้องผมเรียนจบมหาลัย เคยถามว่าได้กันยัง มันยังโกรธผมเลย ว่าพี่พูดอะไร คือมันอยู่ด้วยกันมา 3 ปี มันบอกไม่เคยเกินเลยกันเลย นอนติดกันแรกๆก็เอาหมอนกั้น แต่พอนานไปมันก็ไม่เอาอะไรกั้น บางทีก็นอนก่ายกันบ้างตามประสาคนนอนด้วยกัน แต่ก็ไม่มีอะไรเพราะให้เกียรติกัน เป็นเพื่อนกัน
ซึ่งถ้าเป็นผมเอง ยังคิดว่าอดทนไม่ได้หรอกหากมีสาวนอนด้วยกัน สนิทกันขนาดนี้
เพื่อนสนิทน้องผมมันเป็นชายแท้นะ แต่มันไม่เคยมีแฟน ไม่มีด้วย เพราะมันบอกยังไม่เจอคนที่ใช่ (น้องสาวผมก็ไม่ใช่สำหรับมัน555 ผมล่ะสงสาร)
แล้วรู้มาว่า สองคนนี้มันก็มีอารมณ์ทางเพศสูงกันทั้งคู่ด้วย ผมยังแปลกใจที่มันอดทนกันมาได้ไงตั้ง 3 ปี
แต่ก็พอเข้าใจนะว่าน้องสาวผมมันก็มีคนคุย แล้วเพื่อนมันก็ให้เกียรติน้องผมเป็นอย่างดีด้วย
เล่ามาตั้งนาน มาเข้าเรื่องกันดีกว่า (เดี๋ยวนะ ที่เล่ามาทั้งหมดคืออะไรน่ะหรอ ต้องบอกว่า มันต่อเนื่องกัน และผมยกเอาชายคนนี้มาเปรียบเทียบกับผู้ชายอีกคน)
น้องสาวผมมีแฟนตอน ม.ปลาย คบกันมาจนอยู่มหาลัยปี 2 ซึ่งเพื่อนสนิทน้องมันก็คุยตั้งแต่แรกเลย กับแฟนน้องผม ว่าไว้ใจไหม โอเครึเปล่า แฟนน้องมันก็ไม่มีปัญหา จนมันก็เลิกกัน เหตุผลเพราะแฟนน้องสาวผมมันนอกใจ
น้องสาวผมก็เป็นคนมีมารยาท ใครเข้ามาคุยด้วยก็คุยได้ (ไม่น่าเรียกว่าเฟรนลี่นะ เพราะน้องผมจะไม่ชวนคุยเลย แค่ฝ่ายชายชวนคุยอย่างเดียว มันก็ตอบเป็นมารยาท)
แล้วมีคนหนึ่ง จีบน้องผมตั้งแต่มันอยู่ปี 1 (ยังไม่เลิกกับแฟน) จนน้องผมเลิกกับแฟน ตอนปี 2 ก็เลยคุยกับไอ้ชายคนนี้บ่อยขึ้น (มีชวนคุยบ้าง สลับกันไปมา จากที่คนอื่นน้องผมจะเป็นฝ่ายตอบอย่างเดียว) ผู้ชายคนนี้ รู้จักกับน้องสาวผมทางเฟซบุ๊ค ไม่เคยเจอตัวจริงสักครั้งเดียว แต่ลักษณะนิสัย จากการพิมพ์ รวมถึงโปรไฟล์ ก็ดูเป็นคนไม่เจ้าชู้ ไม่เกเรต่อยตี
น้องผมไว้ใจเพื่อนสนิท ขนาดรู้ทุกเรื่อง มีอะไรก็เล่าให้ฟังหมด หลายเรื่องเขารู้ดีกว่าน้องผมด้วยซ้ำ รวมถึงปรึกษาเรื่องแฟน พวกแชท รหัสส่วนตัวอะไรเพื่อนน้องผมก็รู้หมด เพราะไว้ใจกัน ยิ่งกว่าผมอีก
ด้วยความที่ผม รวมถึงเพื่อนสนิทน้อง เป็นคนซื่อ ไม่มีเล่เหลี่ยมก็ว่าได้ เลยมักจะมองโลกในแง่ดี สะอาดเกินไปกว่าที่จะรู้เท่าทันคนคิดร้ายหรือหวังไม่ดี หรือมีนัยแอบแฝง
แล้วน้องผมกับผู้ชายคนที่มันคุยก็สนิทกันมากขิ้น คุยกันจนเรียนจบ ผู้ชายขอนัดเจอ ด้วยความที่รู้จักกับน้องมากว่า 4 ปี น้องผมเลยไว้ใจ เพื่อนสนิทมันก็บอกก็เตือนว่าอย่าไว้ใจผู้ชาย แต่ก็ไม่ได้ฟันธงว่าคนนั้นดีหริอไ่ม่ดี เพราะรู้จักแค่ในโลกออนไลน์ ขนาดคนที่เจอต่อหน้ายังเสแสร้งกันได้ เขาก็มีเหตุผลดีนะ รู้จักระมัดระวัง
แต่น้องผมก็มีเหตุผลว่า กลัวนานไปจะไม่มีแฟน (มันอยากมีลูก อยากแต่งงานให้แม่ภูมิใจ แม่ผมอยากเห็นลูกใส่ชุดเจ้าสาวมาก ตอนพ่อแม่ผมแต่งงาน แต่งแบบเงียบๆ เพราะไม่มีเงิน บ้านเราฐานะยากจน แค่ไปขอกันแล้วจดทะเบียนตามกฎหมาย) น้องมันเลยเหมือนจะแบกความหวังเอาไว้
ก็เลยรับปากจะไปหาผู้ชายที่บ้าน
ทีนี้ เพื่อนน้องผมรู้สึกว่าไม่เหมาะไม่ควร เนื่องจากเราไม่รู้พื้นเพผู้ชายคนนั้นเลย มันออกจะอันตรายเกินไป ก็เลยพยายามห้ามปราม
แต่น้องผมมันเป็นคนคิดมาก รับปากใครแล้วก็ไม่ผิดคำพูด
ัส่วนผู้ชายคนนั้นก็รับปากกับผม กับเพื่อนน้อง กับน้อง ว่าแค่ไปค้าง 2 คืน ไม่ทำอะไรหรอก ไม่ใช่ผู้ชายหวังร่างกาย ทางบ้านก็ให้เขาแยกห้องนอน ให้น้องผมไปนอนห้องพี่สาวของผู้ชาย (บ้านนั้นมีลูก 2 คน คือพี่สาว กับ น้องชาย)
เมื่อลูกผู้ชายเอ่ยรับปาก ให้สัจจะคำมั่น ก็ควรให้เกียรติเขา ผมกับเพื่อนสนิทน้องสาวก็เลยตกลงว่าให้น้องไปเจอกันได้
ต่อไปนี้จะขอใส่ความรู้สึกปนไประหว่างเล่าด้วย และเรื่องราวจะรู้จากมุมที่น้องสาวผมบอกรวมกับที่เพื่อนมันบอกเท่านั้น รายละเอียดลึกมากๆไม่อาจรู้ได้ เพราะตั้งแต่นี้ น้องผมมันเริ่มปิดบังทุกคนแล้ว
ครั้งแรกเจอกัน ผช อาสาถือของให้ทุกอย่าง เอาอกเอาใจน้องผมดีมาก
ไปถึงบ้าน น้องโทรไปบอกเพื่อนว่า ที่บ้านเขาไม่สะดวกให้นอนห้องพี่สาว เหตุผลคือเขาไม่อยู่บ้าน เป็นห้องส่วนตัว เลยขอให้นอนห้อง ผช แต่แยกเตียง
เพื่อนน้องผมรีบโทรมาบอกให้ช่วยกันบอกให้น้องกลับทันที เพราะมันเริ่มแสดงท่าทางตุกติกอะไรบางอย่างละ
น้องผมไม่ยอม เพราะรับปากว่าจะอยู่ 2 วัน อีกอย่าง ระหว่างทางจาก BTS ไปบ้าน ผช ไม่มีรถประจำทาง สุดท้ายเลยต้องค้างคืน
ปรากฎว่าคืนแรก ผช มันขอน้องผมเป็นแฟนเลย (ทั้งที่แม่มเพิ่งเจอกันครั้งแรก) ด้วยความที่น้องผมไม่คิดอะไร ก็เลยตกลง คิดว่าลองคบไปก่อนก็ได้
มันสองคนก็เลยเป็นแฟนกันตั้งแต่วันนั้น
ต่อมา พอน้องผมกลับมา มันก็เริ่มมีความลับ เพื่อนถามอะไรก็ไม่ค่อยบอก จนผ่านไปประมาณ 20 วัน แฟนน้องก็ขอเจอ เพราะอ้างว่าคนเป็นแฟนกัน คิดถึงกัน อยากเจอ
คราวนี้มันขอไปค้างที่ทำงานน้อง เพื่อนมันก็บอกว่าไม่ควร
น้องผมก็ไม่ฟัง ก็ทะเลาะกัน จนสุดท้ายบอกว่าไม่ค้าง จะออกไปเที่ยวไปเจอกันข้างนอก
ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ในชีวิต ที่น้องผมกับแฟนมันเจอกัน
แฟนมันก็นั่ง BTS จากต้นสายมาสุดสาย ต่อรถ MRT อีก ค่าใช้จ่ายถือว่าไม่ใช่น้อยเลย แต่บ้านมันรวย มีฐานะเลยอาจคิดว่าเรื่องเล็กน้อย
มันก็ไปหาน้องผม แล้วก็พาเที่ยว ออกค่าใช้จ่ายให้หมดทุกอย่าง ซื้อของกิน ของใช้ ตุ๊กตา ค่ารถ เลี้ยงน้องผมหมด แล้วมันก็กลับไป
หลังจากวันนั้น น้องผมไม่ติดต่อผมอีกเลย ส
กับเพื่อนมันก็กลายเป็นไม่ทักไปเลยเหมือนกัน แต่เพื่อนมันก็ยังติดต่อไป น้องผมกลับรำคาญ เริ่มไม่คุย
ผ่านไป 7 วัน คราวนี้น้องผมจู่ๆก็อยากเจอแฟนมัน แต่ก็โทรไปขอเพื่อนสนิทมันว่าจะให้แฟนมาหา ไปขอค้างห้องเพื่อน (ทั้งที่มันรู้นิสัยเพื่อนมันดีว่าไม่เคยให้คนนอกเข้าห้อง แม้แต่เพื่อนมันเอง คนที่มันให้มีแค่น้องสาวผมคนเดียว)
พอเพื่อนมันไม่ให้ ก็อ้างคำว่าเพื่อน สุดท้ายเพื่อนมันเลยยอม
ครั้งที่ 3 ที่มันเจอกัน เพื่อนน้องผมก็ออกไปข้างนอก ปล่อยให้มันอยู่ห้องกันเพราะให้เกียรติที่เหมือนเป็นเจ้าบ้าน เกรงใจ เข้าใจว่าเป็นแฟนกันก็ให้อยู่ด้วยกัน
จนแฟนมันกลับไป เพื่อนมันก็คุยกันจริงจัง ว่ามันไม่สมควร ดูท่าทาง ผช ไม่น่าไว้ใจ ผช ด้วยกันจะดูออก แต่น้องผมก็ไม่เชื่อไม่ฟัง มีปากเสียง ทะเลาะกันแบบที่ไม่เคยเป็น
เพื่อนน้องมันเล่าให้ผมฟังว่ามันแปลกๆตั้งแต่ครั้งที่สองที่มันเจอกันแล้ว พฤติกรรมน้องสาวผมเปลี่ยนไปจนผิดสังเกต
แต่เราสองคนก็ไม่คิดอะไร คิดว่าคงเป็นอาการหลงแฟนธรรมดา
แต่น้องผมให้สัญญากับเพื่อนมันว่า ต่อไปจะคิดดีๆ ไม่หลงมาก เจอกันสองสามเดือนครั้งพอ
เพื่อนมันก็ตกลง ผมก็ตกลง
แต่ผ่านครั้งที่ 3 ไปไม่ถึงสัปดาห์ น้องผมก็ดั้นด้นอยากเจออีกแล้ว แฟนมันก็เช่นกัน
เพื่อนมันก็ถามว่าเป็นอะไรจะต้องเจอกันบ่อยขนาดนั้น น้องมันก็ไม่ยอม ทะเลาะกัน จนเพื่อนมันไม่อยากทะเลาะ เลยยอมๆไป
ครั้งที่ 4 มันมาดูหนังกัน มันบอกจะเลี้ยงทุกอย่าง แต่มันก็ไม่เลี้ยงสักอย่าง มีข้ออ้างสารพัดว่าเงินไม่พอ รอเงินออก คราวหน้าบ้างอะไรบ้าง
สุดท้ายมันก็ดูหนังกัน ไปกินหมูกระทะกัน เที่ยวกัน โดยที่ให้น้องผมจ่ายให้
หลังจากนั้น เพื่อนมันจับได้ว่ามันแอบให้แฟนมันค้าง 2 วันโดยไม่บอกมัน (มันกับเพื่อนสัญญากันว่าจะไม่ปิดบัง) มันก็ทะเลาะกันอีก
ผ่านไปสามวัน น้องผมไปหาแฟนมันที่บ้าน ลางาน หยุดงาน หลอกเพื่อนว่าไม่สบาย
ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 ที่มันเจอกัน
พอน้องมันกลับมาวันทำงาน มันยังพาแฟนมันกลับมาค้างที่ห้องมันอีก ในขณะที่ผมเป็นพี่ชายแท้ๆ เคยขอไปทำธุระ มันยังไม่ให้ค้าง
เพื่อนสนิทมัน ขอไปหาไปค้าง มันก็ไม่ให้ค้าง
แม่จะไปหา มันก็มีข้ออ้างสารพัดเพื่อเลี่ยง แต่มันกลับให้แฟนมันค้าง
ผมกับแม่ยุ่งไม่ได้อีกต่อไป
แต่เพื่อนมันยังพอคุยได้
จากนั้น เพื่อนมันโมโห เลยขอไปค้าง วันที่แฟนมันกลับ
มันทะเลาะกันหนักมาก และเพื่อนมันทนไม่ไหว เพราะรัสึกว่าที่ผ่านมา น้องผมต้องโกหกแน่ๆ สุดท้ายมันก็จริงอย่างที่ผมคิด
น้องผมกับแฟนมันมีอะไรกันแล้ว มันถึงได้โหยหากันตลอดเวลาจนผิดสังเกต
มันบอกเพื่อน สัญญาว่าจะไม่ทำอะไรแม้แต่จับมือ ถ้าผิดคำพูด มันจะเลิกทันที
แต่มันก็ไม่ยอมเลิก มันผิดสัญญาทุกอย่าง ผิดคำพูด โกหกทุกคน ยอมกระทั่งตัดเพื่อน ตัดครอบครัว
ที่เพื่อนมันจับไม่ได้ อย่างแรก เพราะความเชื่อใจ ไว้ใจ
มันอ่อนต่อโลกเกินไปด้วย เลยไม่คิดว่าจะเกิดอะไรแบบนี้ได้
มันเล่าให้ผมฟังว่า มันจับไม่ได้ว่าสองคนนั้นมีอะไรกันแล้วเพราะมันถามอะไรน้องผมก็ปฏิเสธตลอด ไปสังเกตสภาพในห้อง ตามถังขยะก็ไม่เจออะไร (เพราะถ้ามีเพศสัมพันธ์ก็น่าจะมีถุงยางอนามัย) แต่สุดท้าย มารู้ว่า มันไม่ป้องกัน ทั้งที่เอ่ยว่า มือยังไม่เคยจับกัน
ที่ผ่านมา มันไม่ได้ป้องกันกันเลยสักครั้ง มารู้ว่าแฟนมันขอตั้งแต่ครั้งที่ 2 ที่เจอกัน วันที่บอกว่าไปเที่ยว แต่จริงๆแอบขึ้นห้องมาไม่ถีงครึ่งชั่วโมง
ฟังดูไม่น่าเป็นไปได้ใช่ไหมล่ะครับ เจอกันในชีวิตจริงแค่ ครั้งที่ 2 อยู่ตามลำพังแค่สิบกว่านาที ก็ทำเรี่องอย่างว่ากันได้แล้ว
มันยังไม่จบเท่านี้ น้องผมมันบอกว่าหลังจากมีครั้งแรก ต่อมามันมีกันทุกครั้งที่เจอ ไปบ้านแฟน พ่อแม่เขาอยู่ก็ยังกล้ามี ทั้งที่เขาดูทีวีอยู่ห้องข้างๆ
หลังจากนั้น เพื่อนน้องให้โอกาสน้องแก้ตัว คุยกับแฟนน้อง สอนให้รู้จักป้องกัน
ขอให้ไปตรวจโรค ให้มันสองคนลด ละ เลิก