หลายคนคงเคยได้ยินและรู้จัก Golden Ratio หรือสัดส่วนทองคำ และคงมีบางคนเคยนำสัดส่วนทองคำนี่ไปใช้ช่วยในการออกแบบ
การถ่ายภาพ หรือการวาดรูปเพื่อให้งานหรือรูปที่ถ่ายหรือภาพวาด ออกมาได้มีสัดส่วนที่สวยงาม นัยว่า รูปวาด The Last Supper
ของจิตรกรเอกของโลกลีโอนาโด ดาวินซี่ ก็ใช้สัดส่วนทองคำนี่แหละในการจัดสัดส่วนวางองค์ประกอบของรูปภาพ
ตัวเลข 1 : 1.618 นี่แหละครับ ที่เขาเรียกว่า Golden Ratio หรือ สัดส่วนทองคำ นั่นเอง
ซึ่งชาวกรีกแต่โบราณ ยกให้เป็นสัดส่วน ที่สวยงามและสมบูรณ์ที่สุด มันเป็นสัดส่วนพื้นฐานของความงามของสรรพสิ่งในจักรวาล
และเป็นสัดส่วนแห่งกฏธรรมชาติเลยทีเดียว
ซึ่งเชื่อกันว่า ปิรามิดอียิปต์ก็สร้างด้วยสัดส่วนนี้ และนักออกแบบหลายคนก็ใช้สัดส่วนนี้ในการออกแบบ ไม่ว่าจะออกแบบโลโก้
เช่น โลโก้ของแอปเปิ้ล โลโก้ Google โลโก้โตโยต้า โลโก้แป๊บซี่ และอีกหลายโลโก้ดังๆ ล้วนออกแบบภายใต้สัดส่วนทองคำนี้
ทีนี้มาเข้าเรื่องที่ผมจะเขียน ซึ่งผมเชื่อว่ายังไม่เคยมีใครใช้ สัดส่วนทองคำนี้ กับ ช่วงชีวิตของคนเรา ว่าเราควรทำงานกี่วันในสัปดาห์
วันละกี่ชั่วโมง และคุณควรเกษียณเมื่ออายุเท่าไหร่จึงจะเหมาะสม หรือจะนอนวันละกี่ชั่วโมงจึงจะพอดี
ผมคิดว่าคุณคงมิเคยได้ยิน ได้อ่านที่ไหน นอกจากที่นี่วันนี้
หากสัดส่วนทองคำ 1 : 1.618 เป็นสัดส่วนพื้นฐานของสรรพสิ่ง และสรรพสิ่งย่อมเชื่อมโยงกันภายใต้กฏเดียวกันในจักรวาล
ผมก็จะลองใช้มันมาคำนวณหาช่วงเวลาทำงาน ช่วงชีวิตที่สวยงามของคนกันดูว่า มันควรจะออกมาในรูปแบบใด
หากเราจะหาว่า ในหนึ่งสัปดาห์เราควรทำงานกี่วัน โดยใช้ตัวเลขสัดส่วนทองคำมากำหนด
เราเอา 7 วันหารด้วย 1.618 จะได้ออกมประมาณ 4วัน (ปัดเศษทิ้ง) 4 วันทำงาน ช่างเป็นตัวเลขที่พอเหมาะว่าไหมครับ
หากตอนนี้ที่เราทำงาน วันจันทร์ถึงวันศุกร์ เป็นเวลา 5วัน จะลดลงเหลือเพียง 4วัน คุณว่าดีไหมครับหากวันศุกร์อนุญาติ
ให้คุณกลับบ้านได้ไว เลิกงานบ่ายและวันจันทร์ให้คุณมาทำงานสายได้ เข้างานบ่าย เพื่อลดเวลาทำงานจาก5 วัน เหลือเพียง 4วัน
ผมคิดว่านี่ควรเป็นเวลาทำงานของอนาคต หากมีพรรคไหนจะเสนอเป็นนโยบาย ผมเชื่อว่า ปฏิวัติวงการการทำงานแน่นอน
ทุกวันนี้ ผมเชื่อว่าคนทำงานจะเกลียดวันจันทร์และพอถึงวันศุกร์ใจก็อยากกลับบ้านไวๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ผมเคยอ่านข่าวว่า ประเทศญี่ปุ่นมีนโยบาย Premium Friday ซึ่งอนุญาติให้ลูกจ้างสามารถเลิกงานได้เร็วกว่าปกติในวันศุกร์สุดท้ายของเดือน ( ความจริงน่าจะทุกศุกร์ว่าไหมครับ )และมีนโยบาย Shining Monday ซึ่งอนุญาติให้ลูกจ้างสามารถมาทำงานสายได้เป็นพิเศษในวันจันทร์แรกของเดือน ( ผมเชื่อว่า อนาคตต้องทุกวันจันทร์แน่นอน ) ซึ่งหลังจากออกนโยบายนี้พนักงานส่วนใหญ่มาทำงานบ่าย และงานที่ออกมาก็มีประสิทธิผลดีด้วย
และอีกตัวอย่าง ผู้ใช้แรงงานเยอรมนีมีโอกาสได้เลือกชั่วโมงทำงานน้อยลง หรือมากขึ้นก็ได้ ขึ้นอยู่กับข้อตกลงกับนายจ้าง เพื่อสร้างความสมดุลระหว่างการใช้ชีวิตตามปกติ กับการทำงาน ซึ่งสามารถทำงานน้อยที่สุดทางเลือกมีให้คือ 28 ชั่วโมงใน 1 สัปดาห์ใครจะขยันทำมากถึง 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ก็ย่อมได้ ถ้ามีพลัง และต้องการรายได้ให้เพียงพอกับค่าใช้จ่าย ทางเลือกใหม่นี้เป็นรูปแบบของการทำงานภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนี มีนายจ้างทั้งชื่นชมและบ่นพึมว่าจะทำให้เปลี่ยนไป
ทีนี้เรามาดูกันต่อว่า ในหนึ่งวันเราควรทำงานกี่ชั่วโมง นอนกี่ชั่วโมง กันถึงจะเหมาะ เราจะมาลองใช้สัดส่วนทองคำกำหนดดู
ในหนึ่งวันมี 24 ชั่วโมง หากนับจำนวนชั่วโมงที่ตื่น ไม่หลับนั่นแหละครับ จำนวนที่เหมาะสมก็น่าจะเป็น 24 ชั่วโมงหารด้วย 1.618
จำนวนชั่วโมง จะได้ออกมาเท่ากับ 14.8 ชั่วโมง เอาตัวเลขเต็มๆก็ประมาณ 15ชั่วโมง ดังนั้นเวลาที่เหลือ
หลังจากเอา 24ชั่วโมงมาหักออก 15 ชั่วโมง คือ 9ชั่วโมงจาก 24 ชั่วโมง ควรเป็นเวลาพักผ่อนนอนหลับ
หาก3ทุ่ม คุณเริ่มเข้านอน ตื่นนอน 6 โมงเช้า นับได้ 9 ชั่วโมง ผมคิดว่าคุณนอนได้เต็มอิ่มแน่
พลังชีวิตฟื้นฟูมาเต็มขีดแน่นอนหากคุณหลับสนิท
ทีนี้เรามาดู 15 ชั่วโมงที่ตื่นในแต่ละวัน เราควรใช้กี่ชั่วโมงสละให้แก่การทำงานดีเราเอา 15 ชั่วโมงหารด้วย 1.618
คุณจะได้ประมาณ 9 ชั่วโมง นั่นเป็นเวลาที่คุณควรอยู่ในที่ทำงานหรือเวลาทำงานนั่นแหละครับ
และ 6 ชั่วโมงที่เหลือ จาก 15 ชั่วโมงหักออก 9 ชั่วโมง คือ Free Time ที่คุณจะเอาไว้เป็นเวลาทำกิจกรรมส่วนตัว
เช่น อาบน้ำแต่งตัว ทานข้าว ออกกำลังกาย เวลาเดินทาง หรืออื่นๆ ก็แล้วแต่กิจวัตรประจำวันของคุณ
คุณว่ามันเหมาะเจาะลงตัวไหมครับ
หากปัจจุบัน เวลาทำงานคุณ 8.00 -17.00 ก็ 9 ชั่วโมงรวมเวลาพักเที่ยง ถือว่ากำลังดี ในแต่ล่ะวัน
ไม่ว่าคุณจะทำงานอะไรทำงานออฟฟิส ทำไร่ ทำนา ทำสวน ผมคิดว่า ช่วงเวลา 8.00-17.00 จำนวน 9 ขั่วโมง
คือช่วงเวลาแห่งการทำงานที่ดีที่สุด
ทีนี้หลังจากทำงานกันจนเพลิน เราจะเริ่มมาหาดูว่าเราควรเกษียณตัวเองเมื่ออายุกี่ปี
อายุขัยเฉลี่ยคนไทยอยู่ที่ 74 ปี (อ้างอิงตารางมรณะไทย 2560) ถ้าเรานำ 1.618 มาหาร
จะได้ออกมาประมาณ 45ปี ดังนั้น เราควรเกษียณเมื่ออายุ 45ปี ใครกำหนดให้คุณต้องเกษียณตอน 60ปี อย่างที่เป็นอยู่
ธรรมชาติมิได้กำหนดแน่นอน
หากเราเกษียณตัวเองที่ 60 ปี เหลือเวลาอีก 10กว่าปี การใช้ชีวิตในวัยชรา มันคงมิน่าอภิรมย์สักเท่าไหร่ว่าไหมครับ
ดังนั้นโดยส่วนตัวผมเองเลย 45ปี เกษียณ จึงน่าเป็นตัวเลขที่สวยงามที่สุดเพราะคุณจะได้มีเวลาใช้ชีวิตอย่างที่ควรจะเป็น
เมื่อคุณตั้งเป้าจะเกษียณตอนอายุ 45ปีเป็น Mind Map ดังนั้นคุณควรมี Mile Stoneดังนี้
อายุ 23 ปีคุณเรียนจบปริญาตรีแล้วทำงาน ภายใน12ปี จนถึงอายุ 35 ปี คือช่วงเวลาที่คุณจะต้องลงหลักปักฐานสร้างความมั่นคง
ให้กับชีวิต และหลังจากนั้นอีก 10 ปี จนถึงอายุ 45 ปี คือช่วงเวลาที่คุณควรสร้างความมั่งคั่งให้กับชีวิต
หลังจากนั้นช่วงเวลา 45 ปี ถึงบั้นปลายชีวิต คือช่วงเวลาที่คุณควรจะเสพสุขกับเวลาที่เหลืออยู่
สรุปว่า ถ้าคุณต้องการเกษียณตอนอายุ45ปี นั่นคือ Mind Map คุณจะต้องมี Mile Stone Point หลักๆนับจากจบปริญาตรี สำคัญสามจุด
จุดที่หนึ่งคือ อายุ 23 ปี คุณต้องจบปริญญาตรี พร้อมกางปีก ออกทำงาน จุดที่สองคือ อายุ35 ปี คุณต้องมีความมั่นคงในชีวิตแล้ว
และจุดที่สาม คือ 45ปีที่คุณจะต้องมีความมั่งคั่ง มีอิสระทางการเงิน และมีความพร้อมที่จะเกษียณตัวเอง
ซึ่งผมเองก็ถึงจุดนี้ตอนอายุ 40ปี เศษๆ ยังไม่ถึง 41 ปี ด้วยซ้ำ
ช่วงตอนอายุ35 ปี หากคุณมีความมั่นคง คุณจะได้ใช้ความมั่นคงนั้นต่อยอดและใช้เงินต่อเงิน ให้เงินมันเริ่มทำงานช่วยคุณอีกแรงหนึ่ง
เงินเมื่อมันอยู่ถูกที่ถูกเวลา มันจะยิ่งเป็นเหมือน Money Machine ที่จะปั๊มเงินให้คุณก้าวสู่ความมั่งคั่ง ได้ภายใน ไม่เกิน 10ปี แน่นอน
ผมเชื่ออย่างนั้น
ถ้าคุณได้อ่านมาถึงตรงนี้ คุณจะพบว่า ตัวเลขต่างๆที่ผมคำนวณมาให้ดู จากการใช้ สัดส่วนทองคำ กับช่วงเวลาทำงานของชีวิต
มันดูเหมาะเจาะสมดุล มันดูลงตัวสวยงามอย่างที่ควรจะเป็นตามธรรมชาติ
ส่วนคุณจะเห็นด้วยกับผมหรือไม่นั้น อันนี้เป็นสิทธิของคุณ ผมเป็นเพียงผู้สังเกตุผ่านความคิด ประสบการณ์และเอาความคิดประสบการณ์
ส่วนตัวที่ผ่านนั้นมาบอกกล่าวเล่าสู่กันฟัง…
…หากชีวิตเราหากจะต้องติดกรอบก็ขอให้มันติดอยู่ในกรอบของธรรมชาติของจักรวาล…
…หากสรรพสิ่งเป็นดั่งตัวโน๊ต และธรรมชาติกำลังบรรเลงเสียงเพลงแห่งจักรวาล คุณจงเป็นตัวโน๊ตที่ไม่คร่อมจังหวะ…
…หากคุณจะใช้ชีวิตให้มีความสุข ควรใช้ชีวิตมิฝืนกฏธรรมชาติ…
และสุดท้ายที่อยากจะบอก
…ชีวิตมักจะไม่ลงตัว หากจะมีจุดทศนิยมขอให้เป็นจุดทศนิยม 0.618
:
:
:
—-ผลึกหิน—-
@@@สัดส่วนทองคำกับสัดส่วนชีวิต@@@ —-ผลึกหิน—-
การถ่ายภาพ หรือการวาดรูปเพื่อให้งานหรือรูปที่ถ่ายหรือภาพวาด ออกมาได้มีสัดส่วนที่สวยงาม นัยว่า รูปวาด The Last Supper
ของจิตรกรเอกของโลกลีโอนาโด ดาวินซี่ ก็ใช้สัดส่วนทองคำนี่แหละในการจัดสัดส่วนวางองค์ประกอบของรูปภาพ
ตัวเลข 1 : 1.618 นี่แหละครับ ที่เขาเรียกว่า Golden Ratio หรือ สัดส่วนทองคำ นั่นเอง
ซึ่งชาวกรีกแต่โบราณ ยกให้เป็นสัดส่วน ที่สวยงามและสมบูรณ์ที่สุด มันเป็นสัดส่วนพื้นฐานของความงามของสรรพสิ่งในจักรวาล
และเป็นสัดส่วนแห่งกฏธรรมชาติเลยทีเดียว
ซึ่งเชื่อกันว่า ปิรามิดอียิปต์ก็สร้างด้วยสัดส่วนนี้ และนักออกแบบหลายคนก็ใช้สัดส่วนนี้ในการออกแบบ ไม่ว่าจะออกแบบโลโก้
เช่น โลโก้ของแอปเปิ้ล โลโก้ Google โลโก้โตโยต้า โลโก้แป๊บซี่ และอีกหลายโลโก้ดังๆ ล้วนออกแบบภายใต้สัดส่วนทองคำนี้
ทีนี้มาเข้าเรื่องที่ผมจะเขียน ซึ่งผมเชื่อว่ายังไม่เคยมีใครใช้ สัดส่วนทองคำนี้ กับ ช่วงชีวิตของคนเรา ว่าเราควรทำงานกี่วันในสัปดาห์
วันละกี่ชั่วโมง และคุณควรเกษียณเมื่ออายุเท่าไหร่จึงจะเหมาะสม หรือจะนอนวันละกี่ชั่วโมงจึงจะพอดี
ผมคิดว่าคุณคงมิเคยได้ยิน ได้อ่านที่ไหน นอกจากที่นี่วันนี้
หากสัดส่วนทองคำ 1 : 1.618 เป็นสัดส่วนพื้นฐานของสรรพสิ่ง และสรรพสิ่งย่อมเชื่อมโยงกันภายใต้กฏเดียวกันในจักรวาล
ผมก็จะลองใช้มันมาคำนวณหาช่วงเวลาทำงาน ช่วงชีวิตที่สวยงามของคนกันดูว่า มันควรจะออกมาในรูปแบบใด
หากเราจะหาว่า ในหนึ่งสัปดาห์เราควรทำงานกี่วัน โดยใช้ตัวเลขสัดส่วนทองคำมากำหนด
เราเอา 7 วันหารด้วย 1.618 จะได้ออกมประมาณ 4วัน (ปัดเศษทิ้ง) 4 วันทำงาน ช่างเป็นตัวเลขที่พอเหมาะว่าไหมครับ
หากตอนนี้ที่เราทำงาน วันจันทร์ถึงวันศุกร์ เป็นเวลา 5วัน จะลดลงเหลือเพียง 4วัน คุณว่าดีไหมครับหากวันศุกร์อนุญาติ
ให้คุณกลับบ้านได้ไว เลิกงานบ่ายและวันจันทร์ให้คุณมาทำงานสายได้ เข้างานบ่าย เพื่อลดเวลาทำงานจาก5 วัน เหลือเพียง 4วัน
ผมคิดว่านี่ควรเป็นเวลาทำงานของอนาคต หากมีพรรคไหนจะเสนอเป็นนโยบาย ผมเชื่อว่า ปฏิวัติวงการการทำงานแน่นอน
ทุกวันนี้ ผมเชื่อว่าคนทำงานจะเกลียดวันจันทร์และพอถึงวันศุกร์ใจก็อยากกลับบ้านไวๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ทีนี้เรามาดูกันต่อว่า ในหนึ่งวันเราควรทำงานกี่ชั่วโมง นอนกี่ชั่วโมง กันถึงจะเหมาะ เราจะมาลองใช้สัดส่วนทองคำกำหนดดู
ในหนึ่งวันมี 24 ชั่วโมง หากนับจำนวนชั่วโมงที่ตื่น ไม่หลับนั่นแหละครับ จำนวนที่เหมาะสมก็น่าจะเป็น 24 ชั่วโมงหารด้วย 1.618
จำนวนชั่วโมง จะได้ออกมาเท่ากับ 14.8 ชั่วโมง เอาตัวเลขเต็มๆก็ประมาณ 15ชั่วโมง ดังนั้นเวลาที่เหลือ
หลังจากเอา 24ชั่วโมงมาหักออก 15 ชั่วโมง คือ 9ชั่วโมงจาก 24 ชั่วโมง ควรเป็นเวลาพักผ่อนนอนหลับ
หาก3ทุ่ม คุณเริ่มเข้านอน ตื่นนอน 6 โมงเช้า นับได้ 9 ชั่วโมง ผมคิดว่าคุณนอนได้เต็มอิ่มแน่
พลังชีวิตฟื้นฟูมาเต็มขีดแน่นอนหากคุณหลับสนิท
ทีนี้เรามาดู 15 ชั่วโมงที่ตื่นในแต่ละวัน เราควรใช้กี่ชั่วโมงสละให้แก่การทำงานดีเราเอา 15 ชั่วโมงหารด้วย 1.618
คุณจะได้ประมาณ 9 ชั่วโมง นั่นเป็นเวลาที่คุณควรอยู่ในที่ทำงานหรือเวลาทำงานนั่นแหละครับ
และ 6 ชั่วโมงที่เหลือ จาก 15 ชั่วโมงหักออก 9 ชั่วโมง คือ Free Time ที่คุณจะเอาไว้เป็นเวลาทำกิจกรรมส่วนตัว
เช่น อาบน้ำแต่งตัว ทานข้าว ออกกำลังกาย เวลาเดินทาง หรืออื่นๆ ก็แล้วแต่กิจวัตรประจำวันของคุณ
คุณว่ามันเหมาะเจาะลงตัวไหมครับ
หากปัจจุบัน เวลาทำงานคุณ 8.00 -17.00 ก็ 9 ชั่วโมงรวมเวลาพักเที่ยง ถือว่ากำลังดี ในแต่ล่ะวัน
ไม่ว่าคุณจะทำงานอะไรทำงานออฟฟิส ทำไร่ ทำนา ทำสวน ผมคิดว่า ช่วงเวลา 8.00-17.00 จำนวน 9 ขั่วโมง
คือช่วงเวลาแห่งการทำงานที่ดีที่สุด
ทีนี้หลังจากทำงานกันจนเพลิน เราจะเริ่มมาหาดูว่าเราควรเกษียณตัวเองเมื่ออายุกี่ปี
อายุขัยเฉลี่ยคนไทยอยู่ที่ 74 ปี (อ้างอิงตารางมรณะไทย 2560) ถ้าเรานำ 1.618 มาหาร
จะได้ออกมาประมาณ 45ปี ดังนั้น เราควรเกษียณเมื่ออายุ 45ปี ใครกำหนดให้คุณต้องเกษียณตอน 60ปี อย่างที่เป็นอยู่
ธรรมชาติมิได้กำหนดแน่นอน
หากเราเกษียณตัวเองที่ 60 ปี เหลือเวลาอีก 10กว่าปี การใช้ชีวิตในวัยชรา มันคงมิน่าอภิรมย์สักเท่าไหร่ว่าไหมครับ
ดังนั้นโดยส่วนตัวผมเองเลย 45ปี เกษียณ จึงน่าเป็นตัวเลขที่สวยงามที่สุดเพราะคุณจะได้มีเวลาใช้ชีวิตอย่างที่ควรจะเป็น
เมื่อคุณตั้งเป้าจะเกษียณตอนอายุ 45ปีเป็น Mind Map ดังนั้นคุณควรมี Mile Stoneดังนี้
อายุ 23 ปีคุณเรียนจบปริญาตรีแล้วทำงาน ภายใน12ปี จนถึงอายุ 35 ปี คือช่วงเวลาที่คุณจะต้องลงหลักปักฐานสร้างความมั่นคง
ให้กับชีวิต และหลังจากนั้นอีก 10 ปี จนถึงอายุ 45 ปี คือช่วงเวลาที่คุณควรสร้างความมั่งคั่งให้กับชีวิต
หลังจากนั้นช่วงเวลา 45 ปี ถึงบั้นปลายชีวิต คือช่วงเวลาที่คุณควรจะเสพสุขกับเวลาที่เหลืออยู่
สรุปว่า ถ้าคุณต้องการเกษียณตอนอายุ45ปี นั่นคือ Mind Map คุณจะต้องมี Mile Stone Point หลักๆนับจากจบปริญาตรี สำคัญสามจุด
จุดที่หนึ่งคือ อายุ 23 ปี คุณต้องจบปริญญาตรี พร้อมกางปีก ออกทำงาน จุดที่สองคือ อายุ35 ปี คุณต้องมีความมั่นคงในชีวิตแล้ว
และจุดที่สาม คือ 45ปีที่คุณจะต้องมีความมั่งคั่ง มีอิสระทางการเงิน และมีความพร้อมที่จะเกษียณตัวเอง
ซึ่งผมเองก็ถึงจุดนี้ตอนอายุ 40ปี เศษๆ ยังไม่ถึง 41 ปี ด้วยซ้ำ
ช่วงตอนอายุ35 ปี หากคุณมีความมั่นคง คุณจะได้ใช้ความมั่นคงนั้นต่อยอดและใช้เงินต่อเงิน ให้เงินมันเริ่มทำงานช่วยคุณอีกแรงหนึ่ง
เงินเมื่อมันอยู่ถูกที่ถูกเวลา มันจะยิ่งเป็นเหมือน Money Machine ที่จะปั๊มเงินให้คุณก้าวสู่ความมั่งคั่ง ได้ภายใน ไม่เกิน 10ปี แน่นอน
ผมเชื่ออย่างนั้น
ถ้าคุณได้อ่านมาถึงตรงนี้ คุณจะพบว่า ตัวเลขต่างๆที่ผมคำนวณมาให้ดู จากการใช้ สัดส่วนทองคำ กับช่วงเวลาทำงานของชีวิต
มันดูเหมาะเจาะสมดุล มันดูลงตัวสวยงามอย่างที่ควรจะเป็นตามธรรมชาติ
ส่วนคุณจะเห็นด้วยกับผมหรือไม่นั้น อันนี้เป็นสิทธิของคุณ ผมเป็นเพียงผู้สังเกตุผ่านความคิด ประสบการณ์และเอาความคิดประสบการณ์
ส่วนตัวที่ผ่านนั้นมาบอกกล่าวเล่าสู่กันฟัง…
…หากชีวิตเราหากจะต้องติดกรอบก็ขอให้มันติดอยู่ในกรอบของธรรมชาติของจักรวาล…
…หากสรรพสิ่งเป็นดั่งตัวโน๊ต และธรรมชาติกำลังบรรเลงเสียงเพลงแห่งจักรวาล คุณจงเป็นตัวโน๊ตที่ไม่คร่อมจังหวะ…
…หากคุณจะใช้ชีวิตให้มีความสุข ควรใช้ชีวิตมิฝืนกฏธรรมชาติ…
และสุดท้ายที่อยากจะบอก
…ชีวิตมักจะไม่ลงตัว หากจะมีจุดทศนิยมขอให้เป็นจุดทศนิยม 0.618
:
:
:
—-ผลึกหิน—-