มันคือการถ่ายแบบไหนอะครับ ใช่ handheld รึเปล่า ส่ายไปมา ทำเอางงไปหมด ไม่ก็ตัดต่อภาพไวมากๆ เช่นฉากพระเอกบู๊กับตัวร้ายดูแทบไม่ทันว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ตัวอย่างหนังที่ถ่ายแบบนี้ ก็ The Bourne Ultimatum (2007) เป็นทั้งเรื่อง แต่ทำแล้วเวิร์ค แรกๆดูแล้วอาจงง แต่มาดูรอบหลังๆเริ่มชิน, Taken 3 (2015) ตัดต่อภาพคัทเป็นสิบในฉากเดียว เนื้อเรื่องก็ใช้ได้ แต่ฉากบู๊ถ้าถ่ายแบบสองภาคแรกจะดูง่ายกว่านี้, Jack Reacher Never Go Back (2016) เฉพาะฉากสู้กัน ตัดไวมาก พอๆกับหนังตระกูลเจสัน บอร์น แต่ไม่ได้ถึงขนาดดูแล้วเวียนหัว แต่ภาคแรกเวิร์คกว่า, Safe House (2012) ดูแล้วมึนงงกับมุมกล้องมากๆ โทนหนังกับฉากแอ็คชั่นเหมือนก๊อปความเป็นบอร์นแทบหมด แต่ทนดูได้จบเพราะสองพระเอกแค่นั่น และเรื่องล่าสุด
Mile 22 (2018) อันนี้ดูแล้วมุมกล้องปวดหัวมาก แถมตัดภาพไวมากๆ ฉากบู๊มีทั้งเรื่องแต่ดูแทบไม่ทันว่า ไหนวะ พระเอกยิงโดนใครไปบ้าง ใครวิ่งตามหลัง เห้ย คนนี้โดนอะไรตาย เพราะ มุมกล้องมีปัญหาจริงๆ เป็นหนึ่งในผลงานที่แย่สุดๆของ Peter Berg เลยก็ว่าได้
ถามกูรูหน่อยว่า เขาทำแบบนี้เพื่อ ตัวผู้กำกับหนังกับตากล้องถ่าย เพื่อให้หนังดูสมจริงขึ้นหรือว่ายังไง
หนังแอ็คชั่นหลายๆเรื่องฝั่งฮฮลลีวู้ด ทำไมต้องถ่ายภาพส่ายไปสายมา
Mile 22 (2018) อันนี้ดูแล้วมุมกล้องปวดหัวมาก แถมตัดภาพไวมากๆ ฉากบู๊มีทั้งเรื่องแต่ดูแทบไม่ทันว่า ไหนวะ พระเอกยิงโดนใครไปบ้าง ใครวิ่งตามหลัง เห้ย คนนี้โดนอะไรตาย เพราะ มุมกล้องมีปัญหาจริงๆ เป็นหนึ่งในผลงานที่แย่สุดๆของ Peter Berg เลยก็ว่าได้
ถามกูรูหน่อยว่า เขาทำแบบนี้เพื่อ ตัวผู้กำกับหนังกับตากล้องถ่าย เพื่อให้หนังดูสมจริงขึ้นหรือว่ายังไง