แอร์โฮสเตสเป็นไม่ยากแต่ไม่ง่าย...

สวัสดีค่ะชาวพันทิปทุกท่าน หลังจากได้อ่านหลายๆเรื่องราวแล้ว เราก็เลยอยากมาแชร์เรื่องของตัวเองบ้าง
กับงานที่สาวๆหลายคนสนใจ...แอร์โฮสเตส

เรื่องเกิดเมื่อ 14 ปีที่แล้ว (เออ! ตั้งแต่วัยละอ่อนนั่นแหละ)

งานก่อนเรานั้น ก็ถือว่าดีทีเดียว พบปะผู้คนหลากหลาย ออกงาน ออกอีเว้นท์ เป็นพิธีกรงานสารพัด เจอดารา ศิลปิน เรียกว่าคลุกคลีวงในพอสมควร ตอนนั้นยังเด็กๆ การได้งานทันทีหลังจากเรียนจบ คือดีมาก และเราก็สนุกกับงานนั้นด้วย เจ้านายทุกท่านน่ารักและเอ็นดูมากมาย แต่อยู่ดีๆวันหนึ่ง ก็ได้รับคำเชิญให้ไปร่วมงานกับสายการบินของไทยสายหนึ่ง (เนื่องด้วยเราเจอกันตามงานบ่อย สายการบินนั้นเป็นสปอนเซอร์กับหลายๆอีเว้นท์ของบริษัทที่เราทำอยู่)

คุณเจอร์ (manager) :นี่ๆ พี่อยากให้เรามาเป็นแอร์ฯที่สายการบินพี่ สนใจเป็นแอร์มั้ย
เรา : โห...อย่างหนูเป็นไม่ได้มั้งพี่ เดี๋ยวเผลอเอาถาดตีผู้โดยสารทำไงอ่ะ
คุณเจอร์ : เอาน่า เอางี้ไปถ่ายรูป แล้วลองสอบ โทอิค (Toeic) ให้พี่หน่อยนะ
**ไม่อธิบายสอบโทอิคเนาะ อยากรู้ว่าเป็นอะไรเปิดกูเกิ้ลเลย**

วันนั้นก็กลับไปคิดนะ อย่างเราอ่ะนะ ตอนสมัยเด็กๆ เวลาใครถามโตขึ้นอยากเป็นอะไร หวยไม่เคยตกที่ "แอร์โฮสเตส" เลยนะเว้ย...ทีนี้ก็เลยถามแฟนตอนนั้น...(ส่วนตอนนี้เค้าแต่งงานไปละ ฮ่าๆๆๆ) คุณเค้าก็บอกว่า ลองดูดิ ไม่เสียหายนี่นา ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร มีงานทำอยู่แล้วนี่นา

จากคำพูดตอนนั้น ผ่านไปอาทิตย์นึง เราก็เลยไปถ่ายรูปสมัครงานแอร์ฯ แถวๆ โชคชัย4 (อ่ะ ใครอยากเป็นแอร์ฯ ร้านนี้เค้าดังอยู่นะ ไปแต่ตัวจริงๆ ทุกอย่างร้านมีให้ใช้หมดเลย สอนท่าทางการถ่ายรูปด้วย เอากะเค้าสิ)

รูปมีแล้ว ทีนี้ก็ลองสอบโทอิคดู ผลออกมาได้หกร้อยกว่าๆ ตอนนั้นคือดีใจมากกกกก เพราะสายการบินส่วนใหญ่เอาโทอิค 550ขึ้นไป พอได้ผลก็เอาไปให้คุณเจอร์ค่ะ นางดีใจมาก บอกว่า เดี๋ยวพี่จัดการที่เหลือให้นะ รอหน่อย...

ระหว่างรอทำไรล่ะ....รูปมีเหลืออีก 10 ใบเนาะ

เปิดเวปเลยค่า หาสายการบินอื่นด้วย ใช้รูปให้หมด...ถ่ายมาตั้งแพง

สรุปตอนนั้น มีสายการบินของไทยเราเปิดอยู่หนึ่งสาย และอีกสายหนึ่งของตะวันออกกลาง

หย่อนคู่ค่ะ (บอกแล้ว อยากใช้รูปให้หมด)

ผลประกาศออกมาคือ ติดทุกสายการบินที่ส่งไป 》》 อูยยยย!เอาไงอ่ะ ความงกไม่เข้าใครออกใคร เราก็บอกคุณพี่เจอร์ไปตรงๆนะ ว่าตอนนี้เราติดอีกสองสายการบิน และอยากไปลองดู ต้องขอกราบขอบพระคุณคุณพี่เจอร์ท่านนั้นด้วย น่ารักมาก เค้าบอกว่า ไปเลย ลองดู โอกาสมาแล้ว

ตอนนั้นฮึกเหิมมากบอกเลย สรุปก็ไปลองสอบสัมภาษณ์ของทั้งสองสายการบินค่ะ

สายของไทย ประกาศผลแล้ว ติดเรียบร้อย เหลือแค่สอบว่ายน้ำ

ส่วนสายของแขกนั้น....วันสัมภาษณ์ก็มาถึง, ตอนนั้นแฟนใจดีอ่ะ เปิดห้องโรงแรมที่จะมีการสอบสัมภาษณ์ให้นอนเลยจ้า บอกว่าจะได้ไม่ต้องตื่นเช้า

ด้วยความที่ติดสองสายข้างต้นไปแล้ว การไปสัมภาษณ์กับสายแขกจึงเป็นอะไรที่ชิลล์สุด...แต่เลือกที่จะไปเพราะจะได้รู้ว่า สายการบินต่างชาติเค้ามีวิธีการอย่างไรบ้าง

วันนั้นรอบเช้า มีผู้หญิงสวยๆงามๆ ประมาณห้าร้อยคนได้ คือทุกคน หน้าเป๊ะ ผมเป๊ะ แบบมาจากร้านเลย
หันมามองตัวเอง, ชุดสูทซื้อจากแพลตินั่ม หน้าก็แต่งเอง ผมก็ทำเอง รองเท้าก็รองเท้าตอนปีหนึ่ง (ตอนใช้รายงานตัว)
ปลอบตัวเองสุดๆ ว่าแบบ มาหาประสบการณ์ ท่องไว้ แต่ตอนนั้นใจนี่แบบ...ตื่นเต้นมาก

ระหว่างนั่งรอ ก็จะเห็นผู้สมัครเข้าไปในห้องเชือดทีละคน (ห้องเชือด เพราะว่า ใครที่เข้าไปแล้ว ออกมาตัวเปล่า แปลว่าไม่ผ่าน. ใครที่ออกมาแล้วมีแฟ้มสีขาวออกมาด้วยคือ ผ่านเลย simple แบบนั้นเลยคร่า)

เห็นคนแล้วคนเล่า ใครออกมามีแฟ้มก็แบบ มีเสียงแบบ ดีใจด้วยนะ ปรบมือ, ใครที่ออกมาตัวเปล่าก็จะมีเสียงของการปลอบใจ

แต่ทั้งหมดแล้ว ไม่มีใครรู้ว่าเค้าถามอะไร ยังไงแบบไหน เพราะมีเจ้าหน้าที่กันคนที่สัมภาษณ์แล้วออกไปอีกทางเลย

พอมาถึงคิวเรา...สูดหายใจลึกมากแล้วเดินก้าวเท้าซ้ายเข้าห้องไป (สูตรนี้ใครคิดไม่รู้ รู้แต่ว่าถ้าก้าวเท้าซ้ายเข้าก่อนจะโชคดี นี่ใช้มาตลอดตั้งแต่ตอนสอบนะเออ...แม้กระทั่งตอนไปบินก็เท้าซ้ายก่อนซะส่วนใหญ่ ไอ้ส่วนที่จำไม่ได้นี่ คงเพราะเม้าท์ขึ้นเครื่อง เลยลืมมี สติ ฮ่าๆๆๆ)

อ่ะ กลับเข้ามา ตัดภาพมาในห้องเลยจ้า

มีกรรมการทั้งหมด 5 ท่าน และมีผู้หญิงอีกคนยืนอยู่ เป็นต่างชาติที่สวยมาก
มารู้ทีหลังว่า กรรมการทั้ง 5 ท่านประกอบด้วย หัวหน้าใหญ่ของฝ่ายการบิน, หัวหน้าใหญ่แผนกบุคคล, หัวหน้าใหญ่แผนกการเงิน,ชีฟโฮสเตส (หัวหน้าผู้ดูแลลูกเรือทั้งหมด), เมเนจเม้นท์จากออฟฟิศในประเทศไทย และคนที่ยืนอยู่คือ ผู้ช่วยชีฟโฮสเตส...

กรรมการคนหนึ่ง : สวัสดี แนะนำตัวหน่อย
เรา : (English ล้วน) สวัสดีค่ะ เราชื่อ......... เรียนจบจากสถาบันนี้ สาขานี้ค่ะ
กรรมการคนสอง : มาสมัครสายการบินนี้ รู้อะไรเกี่ยวกับสายการบิน หรือประเทศนี้บ้าง
เรา : เอ่อ รู้ว่าเป็นสายการบินแห่งชาติ และรู้ว่ามีเมือง........นี้เป็นเมืองหลวงค่ะ
กรรมการคนสอง : แค่นั้นหรอ?
เรา : ค่ะ แค่นี้ แต่ถ้าได้ไปทำงาน ก็จะมีโอกาสได้ศึกษาเพิ่มเติมค่ะ (อันนี้ไม่แนะนำกับน้องๆนะคะ เราควรจะศึกษาไปก่อน)
กรรมการคนสาม : ร้องเพลงเป็นป่าว

ความเงียบที่ในห้องมันเงียบอยู่แล้ว พอเจอคำถามนี้ไป เงียบหนักกว่าเดิม.....

เรา : ร้องเพลงหรอคะ พอร้องได้ค่ะ
กรรมการคนสาม : งั้นร้องให้ฟังหน่อยตอนนี้เลย
เรา :แต่เราเสียงไม่ดีนะคะ
กรรมการคนสี่ : ไม่เป็นไร พวกเราจะพยายามฟัง

  มาถึงตอนนี้คงกำลังคิดกันใช่ป่าวว่าเราร้องเพลงอะไรไปต่อหน้าคนต่างชาติทั้งหมดแบบนี้ หันไปมองคุณพี่คนไทยที่เป็นหนึ่งในกรรมการนิดนึง คุณพี่ก็น่ารักยิ้มให้แล้วแบบ...ลุยเลยจ้ะน้อง (พี่เค้าคงบอกมาในใจ)

เรา : We wish you a Merry Christmas, we wish you a Merry Christmas, we wish you a Merry Christmas and a Happy New Year.

เงียบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ
เงียบทั้งห้อง เงียบกว่าเดิมอี๊กกกกกกก

กรรมการคนสาม : ปรบมือเป็นคนแรก แล้วที่เหลือเลยปรบมือแบบ แปะๆๆๆ แล้วก็หัวเราะกันทั้งห้อง...

เรานียืนตัวลีบเลย เค้าจะหาว่าเรากวนตรีนป่าวว๊า

กรรมการคนสาม :  ทำไมเลือกเพลงนั้นล่ะ

เรา : ก็เพลงนี้ใครๆก็รู้จัก ชั้นร้องเพลงนี้ พวกยูก็จะได้รู้ว่าชั้นร้องเพลงไม่เพี้ยนไง

กรรมการคนสาม :ปรบมืออีกรอบ แล้วก็บอกว่า ก็จริงของยูนะ เอางี้ ไว้ไปฝึกร้องเพลงอารบิกเพิ่มกันที่นู่นดีกว่าเนาะ (พูดไปพร้อมกับหยิบยื่นแฟ้มสีขาวมาให้)

กรรมการที่เหลือ : Congratulations and welcome to our family.

เรา : ขอบคุณค่ะ (รับแฟ้มมางงๆ แล้วก็เดินถอยมา พร้อมกับได้ยินเสียงพี่คนไทย บอกว่า ดูรายละเอียดเอกสารที่ต้องนำมา ในแฟ้มนะคะ พร้อมวันเวลาที่ระบุ)

เออ...บทจะได้เป็นแอร์ฯ
มันก็ได้พร้อมๆกันทั้งสามสายการบินเลย

คิดกันใช่มั้ยคะว่าเราเลือกสายการบินในไทยแน่ๆ ด้วยชื่อเสียงที่ยาวนานของสายการบิน

เปล่า

เราเลือกไปเมืองแขก เมืองที่เรารู้จักแค่ชื่อเมืองหลวงนั่นแล

ครอบครัวเราก็งง แต่เคารพการตัดสินใจของเรา ส่วนญาติๆนั้นก็มีสองเสียง ที่ไม่เห็นด้วยก็มี ด้วยการที่ต้องไปประจำเบสที่นู่น ก็มีพวกหวังดี (จริงๆ) กับพวกที่แบบไม่หวังดี (แต่แสร้งพูดดี แถมเหน็บหน่อยๆว่าบ้าหรือเปล่า แทนที่จะเลือกสายการบินในไทย)

ทั้งนี้ทั้งนั้น...
ท้ายสุดเราก็ได้บินไปอยู่ที่เมืองแขกเมื่อเดือนเมษายน ปี 2005。。。

จากคนที่ไม่เคยคิดจะเป็นแอร์ฯ
ไม่เคยศึกษา ไม่เคยอ่าน ไม่เคยเรียนรู้อะไรเกี่ยวกับแอร์ฯ
ก็ต้องมาเริ่มต้นครั้งแรกกับประเทศที่ไม่เคยมาแม้แต่ครั้งเดียว
ภาษาอารบิก คนอารบิก วัฒนธรรมต่างๆ

ไว้ค่อยมาเล่าตอนต่อไปเนอะ..
บินมาสิบสี่ปี เพิ่งถอดปีกไม่นาน
ผ่านมาหลากหลายเหตุการณ์เหลือเกิน

ทั้งต้องรับมือคนเมาบนเครื่อง
เครื่องบินโดนลอบยิง
เจอพายุหิมะ พายุทะเลทราย พายุฝน
ตีกับผู้ร่วมงานที่บ้าผู้ชาย
มีคนตายตอนเดินออกจากเครื่องไปไม่ถึงสามนาที
หรือแม้กระทั่งมีคนตายบนเครื่อง

ชีวิตมีสีสันกว่านี้ไม่ได้แล้ว...

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะคะ :)
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  ชีวิตในต่างแดน งานสายการบิน ทำงานต่างประเทศ
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่