วิธีหาหุ้นซิ่ง ด้วย Parabolic Curve Pattern และพื้นฐาน

โดย fb.com/zyoit  และ zyo71.com

ในตลาดบ้านเรา หุ้นซิ่ง มีที่มาหลายรูปแบบ
ไม่ว่าจะเป็น ซิ่งแบบไร้เหตุผล
หรือไม่ก็มีที่มา โดยเฉพาะพื้นฐาน
โดยแบบแรกเราคงหาเบาะแสยาก แต่แบบหลังพอมีแนวทางจับได้อยู่
คือบางตัวดูได้ทั้งพื้นฐาน ประกอบกับรูปแบบกราฟครับ

เริ่มที่ภาคของพื้นฐาน‬ก่อน
ไปเจอบท A spotting the points when a stock can go parabolic
จากหนังสือ Big Trends In Trading: Strategies to Master Major Market Moves ที่เขาเขียนถึงอยู่เยอะพอสมควร แต่มีส่วนที่พอเข้าใจได้ ดังนี้

เขาบอกว่า นักเก็งกำไรทุกคนเมื่อซื้อหุ้นสักตัวก็คาดหวังว่าหุ้นตัวนั้นจะซิ่งแรงทันที ถ้าซิ่งจนลิ่งก็ยิ่งสุดยอดไปเลย จากประสบการณ์ของผู้เขียนซึ่งเคยซื้อหุ้นที่แนวรับไปขายที่แนวต้านมายาวนาน พบว่าหุ้นผู้ชนะที่ยิ่งใหญ่เมื่อทะลุทะลวงแนวต้านขึ้นไปได้แล้วมักจะไม่ให้โอกาสซ้ำที่จะซื้อหุ้นที่แนวรับ (วิ่งขึ้นเป็นจรวดรวดเดียวจบ ไม่พักตัว) ที่เขาเรียกว่า parabolic stock moves. เขาบอกว่ามีวิธีที่จะเข้าซื้อที่ต้นเทรนด์ได้ โดยเขาพบเบาะแสว่า

- สภาพคล่องหุ้นนั้นต้องน้อย เช่น free float 20-30% เจ้าของถือเกิน 70%
- หุ้นต้องอยู่ในอุตสาหกรรมที่กำลังเติบโต
- กำไรมักจะโตในอัตราที่เร็วมาก เช่น 25% หรือมากกว่านั้น และบางตัวก็ทำได้ 100% ขึ้นไป
- มีสื่อบางแห่งออกบทวิเคราะห์เกี่ยวกับอนาคตของบริษัท เขาแนะให้เลือกบริษัทที่สื่อบอกว่ามัน overvalued เพราะเขาพบว่าหุ้นพวกนี้จะถูกให้ค่าว่า "แพงเกินไปแล้ว" จนกระทั่งมหาชนรับรู้ว่าหุ้นตัวนั้นเป็นผู้ชนะที่ใสสะอาด

- หุ้นตัวนั้นมักจะ breakout ทำนิวไฮ สูงกว่า 50 แท่ง (Usually there is a breakout to a new high over the prior 50-bar high) นักลงทุนส่วนใหญ่ชอบซื้อหุ้นที่ทำราคาต่ำสุดในรอบ 52 week low แล้วคาดหวังว่าจะไปรอขายที่ราคาทำ 52 week high จากการศึกษกเก็บข้อมูลของเขาพยบว่า หุ้นจำนวนมากกว่า 80% ที่เป็นตัวนำตลาดใน 12 เดือนข้างหน้านั้น โดยทั่วไปแล้ว ร่วมๆ 15% ของผู้นำจะเริ่มต้นจากการ breakout 52 week high ขึ้นไปได้


ส่วนทางด้าน ‪Technical‬ ก็มี
มาจาก Trading the Parabolic Curve Pattern

เขาบอกว่าการที่หุ้นมันทำ Parabolic Curve Pattern นั้น มันเป็นช่วงไกล้จบรอบของมัน

คาแรกเตอร์ของหุ้นประเภทนี้คือการทำองศาของการขึ้นหลายระดับ โดยความชันของ trendline จะชันขึ้นเรื่อยๆ ส่วนใหญ่มักจะทำได้อย่างน้อย 3 ระดับ

การซื้อที่ดีคือเข้าตั้งแต่ต้นเทรนด์ ตอนที่ราคามันพักตัวทำฐานราคาเป็นเวลานาน หลังจากที่ราคา breakout ออกจากฐานที่ยาวนานได้ก็วิ่งขึ้นอย่างรุนแรงด้วนแท่งราคายาว วันต่อมาก็วิ่งต่อแบบไม่หยุด ทำให้ trendline ชันมากๆ

("ฐานที่ยาวนาน หรือ long base" เช็คได้ด้วยการดูกราฟ หรือแบบง่ายๆคือการดูสัญญาณ 52 week higher ก็ได้)


วิธีการทำเงินกับหุ้นประเภทนี้คือ
- หาช่วงที่มันสร้างฐานให้ได้ โดยการดูกราฟ
- ค้นหาพื้นที่ที่มันทำฐานราคาแบบพาราโบลา (องศาของเทรนด์ไลน์ปรับเพิ่มขึ้นสองครั้ง)
- เข้าซื้อตอนที่ราคาพักตัวระยะสั้น


จุดเข้าซื้อที่ดีคือเข้าตอนที่เทรนด์ไลน์มีความชันน้อยสุด
จุดที่ราคาสร้างฐานนั้น มันจะ sideway ดูหงอยเหงามากๆ กระทั่งมัน breakout ขึ้นไปได้ความคึกคักในการซื้อขายก็เข้ามาแทนที่ มีการไล่ราคาอย่างเมามันส์เหมือนหุ้นคนละตัว วอลุ่มการซื้อขายจึงพุ่งสูงปรี๊ดและหนาแน่น ช่วงนี้แหละน่าเข้าซื้อที่สุด

keyword: เทรนด์ไลน์เปลี่ยนความชัน + แท่งวอลุ่มสูงๆ = จุดเข้าซื้อ

หลังจากเข้าซื้อแล้วคุณต้องเฝ้าดูอย่าให้คลาดสายตาเพราะถ้าใช่พาราโบลาจริง-ราคาจะซิ่งแหลก ความที่มันเก็งกำไรกันแรง เมื่อขึ้นแรงก็ลงแรงได้ทันที-ตลอดเวลาเหมือนกัน ให้คอยลากเทรนด์ไลน์ตามราคาขึ้นไป รีบออกเมื่อราคาหลุดเทรนด์ไลน์ลงไปและไม่สามารถกลับขึ้นไปได้ โดยใช้กราฟ รายชั่วโมง หรือรายนาที เพราะถ้าราคาหลุดเทรนด์แล้วมันจะลงแรงมากๆ


กฎของการเทรด parabolic curve
การเทรดหุ้นแบบบนี้จะไม่ต้องใช้อินดิเคเตอร์อะไรช่วยทั้งสิ้น ใช้เทรนด์ไลน์อย่างเดียว
การทำเทรนด์ไลน์แบบพาราโบลา-ต้องลากให้เส้นชนโลว์อย่างน้อย 2 จุด ถ้าให้ดีต้องได้ถึง 3

ข้อดีของการเทรด parabolic curve
- ราคาวิ่งเร็วและแรงทำกำไรได้มากๆได้ในเวลาอันสั้น
- มันให้จุดเข้าซื้อและขายที่ล้ำค่า
- ถ้าเห็นทรงแล้วใช่ สามารถรอตอนที่มันพักเหนื่อยได้


ข้อเสีย
- เข้าช้า จ่ายรอบวง (เสี่ยงสูงมาก)
รู้ได้ไงว่าเข้าช้า - คือเข้าตอนที่ราคาวิ่งขึ้นจนแทบจะเป็นแนวตั้ง(ทำเกือบ 90 องศากับพื้น) ถือว่าอันตรายมากๆ
- ระบุช่วงต้นเทรนด์ยาก มักจะเจอแล้วเมื่อราคามันไกล้จบแล้ว


สรุป หุ้นที่มีสิทธิ์วิ่งแบบ parabolic ได้คือ
- หุ้นที่ sideway เป็นระยะเวลานานๆ เป็นปีหรือมากกว่าปีได้ยิ่งดี
- ช่วงที่ราคาเบรคแนวต้านของกรอบ sideway ได้ วอลุ่มจะเข้ามหาศาล
- ราคาจะขึ้นเป็นแท่งยาวต่อเนื่อง พักตัวไม่กี่วันก็ไปต่อ
- มี EMA5 เป็นแนวรับ
- สามารถลากเทรนด์ไลน์แบบเส้นตรงได้ความชันหลายระดับ โดยยิ่งสูงความชันยิ่งสูงตาม
- เทรนด์ไลน์อีกแบบคือแบบพาราโบลา แตะอย่างน้อย 2 จุด
- จุดเข้าซื้อที่ดีคือตอนที่ราคาเพิ่งทะลุกรอบขึ้นไป เพราะการที่มันถูกไล่ซื้อจนทะลุกรอบที่ไม่เคยผ่านขึ้นไปได้ แสดงว่าน่าจะมีอะไรดี หากซื้อไม่ทันก็ให้ไปตามที่มันพักตัว
- จุดออกคือตอนที่ราคามันหลุดเทรนด์ไลน์ที่เราลากไว้ โดยที่มันอาจจะหลุดได้ตลอดเวลา ดังนั้นต้องเฝ้าดูตลอด อย่าให้คลาดสายตาเด็ดขาด