ไม่ใช่นักรีวิวครับ ไม่ใช่แฟนพันธุ์แท้เพรดเดเตอร์ด้วย
แค่เป็นคนชอบดูหนัง และแค่เป็นคนที่เคยดูหนังเพรดเดเตอร์มาทุกเรื่องเท่านั้นเอง
The Predator 2018 สำหรับผม ผมชอบมากกว่าทุกภาคที่เคยดูมาเลย และผมรู้เหตุผลว่าทำไมผมถึงชอบมัน
เพราะในแต่ละภาคที่ผ่านมาเนื้อเรื่องแทบจะไม่มีอะไรเลยนอกจากการล่า หรือหนีการไล่ล่า การโดนฆ่า การโดนฆ่าแบบโง่ๆของฝ่ายมนุษย์ กับตัวละคร 2-3ตัวที่วิ่งหนีตาย
แต่ภาคนี้มันมีอะไรมากกว่านั้นมากมายให้เราเห็น ให้เราได้ฟินกับอะไรหลายๆอย่าง และตัวหนังตอบสนองต่อมความอยากรู้อยากเห็น เปิดกว้าง หรือมีความ Open world มากกว่าภาคก่อนๆเยอะ ซึ่ง
(ต่อไปจะมีส่วนที่เอ่ยถึงฉากในหนัง แต่ไม่มีผลกับเนื้อเรื่อง)
-เราได้เห็นยานเอเลี่ยนไล่ยิงกัน
-ได้เห็นเครื่องบินขับไล่ F22 หรือ F35 ไล่ยิ่งยานเอเลี่ยน
-ได้เห็นมนุษย์จับเพรดเดเตอร์มาศึกษา
-ได้เห็นสิ่งของจากภาคก่อน
-ได้เห็นเพรดเดเตอร์ใช้อาวุธปืนของมนุษย์
-ได้สัมผัสและเห็นรายละเอียดอุปกรณ์ของเพรดเดเตอร์
-ได้เห็นภายในยานของเพรดเดเตอร์
-ได้เห็นการขับยาน
-ได้เห็นฟังชั่นต่างๆของยาน
-และได้เห็นการสื่อสารระหว่างมนุษย์กับเพรดเดเตอร์
และอื่นๆอีกมาก
ซึ่งสิ่งพวกนี้แหละครับที่ผมว่ามันสร้างความฟินให้คนดูแบบผมได้มากเลย
เนื้อเรื่องเดินไว ไม่ยืดเยื้อ ไม่น่าเบื่อเลยซักตอน พร้อมกับฉากแอ็คชั่นที่มีให้เห็นแบบจุใจมาก
รวมถึงมุขตลกที่บางมุขอาจจะไม่เข้าใจ(ส่วนน้อย) แต่ส่วนมากมุขก็เล่นเอาขำกันลั่นโรง
ข้อเสียเรื่องเดียวที่น่าติคือ ความชัดเจนของตัวหนัง ว่าหนังกำลังจะสื่ออะไร มันทำให้เราคิดเอาเอง มโนเองกันไปว่าอาจจะใช้ แต่ก็ไม่แน่ใจเพราะไม่มีใครมาบอกอะไรแบบชัดเจนในบางเรื่อง
ส่วนเหตุผลและการกระทำของตัวละครที่ถูกวิจารณ์กันในหลายๆรีวิว สำหรับผมไม่เห็นว่าจะขัดหูขัดตาตรงไหน
รับรองว่าไม่เสียดายตังแน่นอน
--------------------------
บางคนอาจจะสงสัยว่าผมมีทัศนคติกับการดูหนังยังไง ดูอะไรก็สนุกรึเปล่า งั้นผมจะเอา The Nun มาเทียบละกัน ซึ่งผมติดตามจรักวาลของคอนจูริ่งมสทุกภาค แต่ The Nun นี่ผมให้ 5/10 พอ
The Predator 2018 อย่าสนรีวิวที่ยึดติดอะไรเดิมๆ หนังสนุกมากครับ 7.5/10
แค่เป็นคนชอบดูหนัง และแค่เป็นคนที่เคยดูหนังเพรดเดเตอร์มาทุกเรื่องเท่านั้นเอง
The Predator 2018 สำหรับผม ผมชอบมากกว่าทุกภาคที่เคยดูมาเลย และผมรู้เหตุผลว่าทำไมผมถึงชอบมัน
เพราะในแต่ละภาคที่ผ่านมาเนื้อเรื่องแทบจะไม่มีอะไรเลยนอกจากการล่า หรือหนีการไล่ล่า การโดนฆ่า การโดนฆ่าแบบโง่ๆของฝ่ายมนุษย์ กับตัวละคร 2-3ตัวที่วิ่งหนีตาย
แต่ภาคนี้มันมีอะไรมากกว่านั้นมากมายให้เราเห็น ให้เราได้ฟินกับอะไรหลายๆอย่าง และตัวหนังตอบสนองต่อมความอยากรู้อยากเห็น เปิดกว้าง หรือมีความ Open world มากกว่าภาคก่อนๆเยอะ ซึ่ง
(ต่อไปจะมีส่วนที่เอ่ยถึงฉากในหนัง แต่ไม่มีผลกับเนื้อเรื่อง)
-เราได้เห็นยานเอเลี่ยนไล่ยิงกัน
-ได้เห็นเครื่องบินขับไล่ F22 หรือ F35 ไล่ยิ่งยานเอเลี่ยน
-ได้เห็นมนุษย์จับเพรดเดเตอร์มาศึกษา
-ได้เห็นสิ่งของจากภาคก่อน
-ได้เห็นเพรดเดเตอร์ใช้อาวุธปืนของมนุษย์
-ได้สัมผัสและเห็นรายละเอียดอุปกรณ์ของเพรดเดเตอร์
-ได้เห็นภายในยานของเพรดเดเตอร์
-ได้เห็นการขับยาน
-ได้เห็นฟังชั่นต่างๆของยาน
-และได้เห็นการสื่อสารระหว่างมนุษย์กับเพรดเดเตอร์
และอื่นๆอีกมาก
ซึ่งสิ่งพวกนี้แหละครับที่ผมว่ามันสร้างความฟินให้คนดูแบบผมได้มากเลย
เนื้อเรื่องเดินไว ไม่ยืดเยื้อ ไม่น่าเบื่อเลยซักตอน พร้อมกับฉากแอ็คชั่นที่มีให้เห็นแบบจุใจมาก
รวมถึงมุขตลกที่บางมุขอาจจะไม่เข้าใจ(ส่วนน้อย) แต่ส่วนมากมุขก็เล่นเอาขำกันลั่นโรง
ข้อเสียเรื่องเดียวที่น่าติคือ ความชัดเจนของตัวหนัง ว่าหนังกำลังจะสื่ออะไร มันทำให้เราคิดเอาเอง มโนเองกันไปว่าอาจจะใช้ แต่ก็ไม่แน่ใจเพราะไม่มีใครมาบอกอะไรแบบชัดเจนในบางเรื่อง
ส่วนเหตุผลและการกระทำของตัวละครที่ถูกวิจารณ์กันในหลายๆรีวิว สำหรับผมไม่เห็นว่าจะขัดหูขัดตาตรงไหน
รับรองว่าไม่เสียดายตังแน่นอน
--------------------------
บางคนอาจจะสงสัยว่าผมมีทัศนคติกับการดูหนังยังไง ดูอะไรก็สนุกรึเปล่า งั้นผมจะเอา The Nun มาเทียบละกัน ซึ่งผมติดตามจรักวาลของคอนจูริ่งมสทุกภาค แต่ The Nun นี่ผมให้ 5/10 พอ