สวัสดีพี่ ป้า น้า อา และเพื่อนๆชาวพันทิพด้วยนะครับ ถ้ายังจำกันได้ผมเคยมาเขียนรีวิวแล้วหลายครั้งแล้ว ไปญี่ปุ่นบ้าง เกาหลีบ้าง ก็ยังชิวๆ เขียนได้สนุกๆ แต่ความมันส์ของจริงกำลังจะเริ่มขึ้น เมื่อประเทศที่กำลังจะไปนี้ ไม่ใช่เกาหลี หรือ ญี่ปุ่นแล้วสิ...
เมื่อไม่นานนี้ผมได้มีวันหยุดสั้นๆ 3 วัน แล้วก็รู้สึกเซ็งกับชีวิตดีๆที่ลงตัวในเมืองหลวงมากๆ เพราะชีวิตในเมืองหลวงมันสโลวไลฟ์เกินไป รถไฟฟ้าก็วิ่งแบบชิวๆ วิ่งบ้างหยุดพักบ้าง รถก็ขับกันสบายๆ ทางสิบกิโลวิ่งซะ 2 ช.ม. อะไรแบบนี้ (กัดเก่งงง) ก็เลยนึกครึ้มว่า เอาวะ ลองไปหาอะไรที่มันสโลวไลฟ์แบบแท้จริงดีกว่า ก็ไปเจอกับ ฮอยอัน-ดานัง ครับ เป็นเมืองของทางประเทศเวียดนาม แล้วในรีวิวพันทิพที่เคยเห็นก็เป็นบรรยากาศชิวๆ จิบกาแฟนั่งดูเมืองเก่า เฮ้ย มันเป๊ะมากอะแกร !! นี่ละเมืองในฝัน ว่าแล้วก็จัดแจงทริปเสร็จสรรพ แล้วก็หนีจากเมืองหลวงอุณหภูมิ 30 ไปเจอกับเมืองอุณหภูมิ 35 (เฮ้ย ร้อนกว่าเดิมอีก) ความชิวในฝันก็ได้เริ่มขึ้น....
ดูวีดีโอเรียกน้ำจิ้มกันก่อนครับ
แลนดิ้งปุ๊ป ก็เรียกแกร่บเลยจากสนามบินดานังไปยังฮอยอัน
(เราจะไปเที่ยวฮอยอันก่อนแล้วย้อนกลับมาดานังเนื่องจากฮอยอันไกลกว่าครับ)
เบ็ดเสร็จโดนค่าเสียหายไป 350,000 สามแสนห้าดองเวียดนาม หรือประมาณ 500 บาทไทย
ลงจากรถปุ๊ป ก็เจอกับความสโลวไฟล์แรกเลย
.... ‘ ปี้นนนนนนน ‘ วอท เดอะฟัค มาเทอฟัคเกอ เฮ้ย บีบแตรทำไมวะ แล้วบีบกันแบบรัวๆ เรียกว่าถ้าคนหัวร้อนจากไทยไปเที่ยวนี่คงระเบิดศึกเวทีมวยลุมพินีแน่นอน แต่ว่าอย่าโมโหไปครับ ความจริงก็คือการบีบแตรที่เวียดนามเป็นการบีบเพื่อให้รู้ว่าเค้าขับรถอยู่ตรงนี้ อย่ามาชนนะ เพราะเค้าไม่มีไฟแดง ไม่มีรถติด รถวิ่งกันตลอดแต่จำกัดความเร็วไว้ (ไม่แน่ใจคิดว่า 80) ทำให้ต้องคอยบีบกันตลอด แล้วก็ข้ามถนน รถไม่หยุดให้นะครับ ต้องกะจังหวะกันเอาเอง ใครข้ามถนนไม่เป็นแนะนำว่าอย่าไปคนเดียว ให้หาแฟนไปด้วย (จขกท ก็ข้ามไม่ค่อยเก่งนะ หาคนพาข้ามครับ)
นอกเรื่องมาก็ยาว มาพบกับไฮไลท์แรกกันเลย สะพานญี่ปุ่นครับ !!! .... ครับ แล้วยังไง.....

เดินข้ามได้ด้วย ขณะกำลังจะข้าม
จนท : เฮ้ ยูว !
นี่ : โอ้ ไฮ เฮลโหลว ไนซ์ทูมีทยูท (กำลังจะเดินผ่านไป)
จนท : โน ทิกเกท ทิกเกท !!!
นี่ : เดินถอยหลังแบบมูนวอล์คออกไป ข้ามสะพานนี่ต้องมีตั๋วด้วยนะครับ ไม่ใช่ว่าใครก็ข้ามได้ ไม่เป็นไรงั้นขอยืนมองเทออยู่ห่างๆก็พอ


ที่เมืองเก่าในฮอยอัน นักท่องเที่ยวจะนิยมนั่งรถคนลาก รถสามล้อ เรียกว่าอะไรหว่า วอทเอฟเวอร์ เป็นแบบในรูปครับ เค้าจะพาเราชมทั่วๆเมือง อ้อ ใครไปฮอยอันถ้าเจอคนเกาหลีเยอะไม่ต้องแปลกใจนะครับ เหมือนเกาหลีเริ่มมาลงทุนในเวียดนามกันทำให้นักท่องเที่ยวเค้ามาเยอะมากๆครับ อย่างในภาพก็มีอปป้า

ในเมืองก็จะมีโคมไฟแขวนไว้ประดับๆเป็นระยะๆครับ สวยงามให้บรรยากาศไปอีกแบบ

บรรยากาศร้านกาแฟ faito (ซึ่งได้มาจากเพื่อนๆในพันทิพนี่ละ) มีสามชั้นครับ ขึ้นไปถ่ายรูปเมืองแบบสวยๆ จิบกาแฟชิวๆ ได้

จิบๆ จิบไป 3 ! ตาค้างไหมถามใจเธอดู

ที่เวียดนามนี่ส่วนมากจะไม่ค่อยสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษนะครับ ทำให้การสื่อสารลำบากนิดนึง ผมเลยเน้นจิ้มที่รูปเอา แล้วก็ต้องระวังนิดนึงครับ อาจโดนโกงได้ แต่ก็ไม่เยอะมากอาจจะ 10000 ดองอะไรแบบนี้ (15-20บาท) ถ้าไม่ซีเรียสก็ไม่เป็นไรครับ
แต่ !! ถ้ามีคนมาถ่ายรูปให้หรือเสนอให้ลองถืออะไรถ่ายรูปสวยๆ อย่ารับเชียวนะครับ เพราะนางจะกึ่งบังคับให้เราซื้อของนางทันที และถ้าไม่ซื้อก็จะมีการเรียกพวกมากดดัน อันนี้เจอมากับตัว โชคดีรอดมาได้แต่ก็เสียเงินไปสามสิบบาทอยู่ดีครับ บ่นเสร็จแล้วไปดูบรรยากาศยามค่ำคืนกันต่อ (สะพานญี่ปุ่นอันเดิม เพิ่มเติมคือตอนกลางคืน และ ข้ามสะพานฟรีแล้วครับ วอท !? )

ก็จะมีพวกไนท์มาเก็ตต่างๆกับโชว์รอบๆเมืองเก่าฮอยอันครับ แต่ส่วนตัวผมไม่ตื่นเต้นเท่าไรเพราะมันก็เหมือนๆกับแถวข้าวสารที่ไทยเลยครับ เอิ่ม เพียงแต่คนเยอะกว่าแค่นั้นเอง อ้อ แล้วก็จะมีให้ลงไปนั่งเรือเล่นที่คลองด้วยครับ บรรยากาศสวยดี (ลองดูเป็นคลิปได้ที่เพจผมนะครับ)

นอนที่โรงแรม Venus hotel ถือว่าดีเลยครับ ห้องสองเตียงใหญ่ มีอ่างแช่น้ำด้วย ราคาเพียงแค่ 1000 บาทจองจากบุ๊คกิ้ง โอ้โหว อะไรมันจะถูกเบอร์นั้น ดีใจได้ไม่นาน พอกดดูในอโกด้า ดันถูกกว่าอีกครับ

เวรกำ (รรเดียวกัน) แต่ไม่เป็นไรจองไปแล้วชิวๆ
เช้ามาต้องรีบกลับไปดานังครับ เพราะเรามีจุดหมายทีเมืองสไตล์ยุโรปบนยอดเขาอย่าง บาน่าฮิลล์ !!
การเดินทางไปบาน่าฮิลล์ก็เหมือนเดิมครับ เรียกแกรบจากในตัวเมืองแล้วนางจะพาไปซื้อตั๋วก่อน (ซึ่งตั๋วที่นางพาไปซื้อจะเป็นเหมือนร้านข้างนอกขายครับ แพงกว่าซื้อที่ทางขึ้นกระเช้าประมาณ 50000 ดอง ฮ่วย แต่ดีตรงที่ไม่ต้องต่อคิวครับ พยายามบอกนางว่าไม่เอาจะซื้อที่ทางเข้าแต่นางฟังอังกฤษไม่ออกก็เลยต้องจำยอม -*-)
บ่นเยอะแล้ว ชมภาพ บรรยากาศกันเลย

ให้ความรู้สึกเหมือนแฮร์รี่ตอนเห็นฮอกวอทครั้งแรกครับ ตื่นเต้นอเมซซิ่ง เหมือนนั่งรถไฟมาจากชานชลา 9 ¾ แต่อันนี้เป็นกระเช้าแทน เห็นแล้วอย่างร่ายมนต์เลยครับ มนต์อันใดจะทำให้เธอไม่ไปจากฉัน เอ่อะ อย่าสนใจครับ ท่อนสร้อยไปเรื่อย.

นางแบบใครไม่รู้ ขอยืมด้วยคนครับ บนบาน่าฮิลล์ก็จะเป็นเมืองสไตล์ฝรั่งเศส เป็น รร ด้วยครับ แนะนำให้นอนบนนี้สักคืนเพราะตอนกลางวันคุณจะถ่ายรูปเมืองสวยๆได้ยากหน่อยเนื่องจากคนเยอะมาก เยอะจริงจัง ถ่ายได้แต่มุมเสยครับ 55

แย่งซีนกันแบบซึ่งๆหน้า ไม่แคร์สิ่งใดๆ

หลังจากบาน่าฮิลล์แล้วก็ลงมาที่เมืองดานัง ซึ่งมีสะพานมังกร (อันนี้สวยครับ) แล้วก็ตลาดฮาน (เหมือนตลาดแฮปปี้แลนด์เป๊ะๆ) ส่วนรอบๆเมืองโดยส่วนตัวผมว่าไม่ค่อยมีอะไรครับ ถ้ามาแนะนำว่าแค่เป็นทางผ่านๆก็พอครับ (รีวิวกันตรงๆดีก็ว่าดี ไม่มีไรก็ไม่อยากให้ไปเสียเที่ยวครับ)

อ้อ ... แล้วก็มีสิ่งที่น่าสนใจประจำทริปมาให้ชมครับ
น้องแอร์บนไฟลท์ 555

ปล.น้องยังโสดนะครับ น้องเส้นตื้นมากด้วย อ่านหนังสือท่องเที่ยวยังขำ ใครสนใจวาปขอได้จากในเพจผมนะครับ (หลอกล่อๆ)
เพจ
>>>
https://www.facebook.com/GoTravelYourself/?ref=bookmarks <<< เพจผมเองครับ รักกันฝากกดไลค์ด้วยนะครับ จะได่มีทริปขำๆมาเล่าสู่กันฟังอีก
ปล.2 ไอ้ที่บอกครั้งเดียวพอคือ มาคนเดียวครั้งเดียวพอนะครับ ถ้ามาอีกอยากมีคนให้ถ่ายรูปให้ครับ (หยอดไปอีกกก)
ถูกใจช่วยแชร์เป็นกำลังใจให้ด้วยนะคร้าบ

[CR] ฮอยอัน-ดานัง ครั้งเดียวพอ !
เมื่อไม่นานนี้ผมได้มีวันหยุดสั้นๆ 3 วัน แล้วก็รู้สึกเซ็งกับชีวิตดีๆที่ลงตัวในเมืองหลวงมากๆ เพราะชีวิตในเมืองหลวงมันสโลวไลฟ์เกินไป รถไฟฟ้าก็วิ่งแบบชิวๆ วิ่งบ้างหยุดพักบ้าง รถก็ขับกันสบายๆ ทางสิบกิโลวิ่งซะ 2 ช.ม. อะไรแบบนี้ (กัดเก่งงง) ก็เลยนึกครึ้มว่า เอาวะ ลองไปหาอะไรที่มันสโลวไลฟ์แบบแท้จริงดีกว่า ก็ไปเจอกับ ฮอยอัน-ดานัง ครับ เป็นเมืองของทางประเทศเวียดนาม แล้วในรีวิวพันทิพที่เคยเห็นก็เป็นบรรยากาศชิวๆ จิบกาแฟนั่งดูเมืองเก่า เฮ้ย มันเป๊ะมากอะแกร !! นี่ละเมืองในฝัน ว่าแล้วก็จัดแจงทริปเสร็จสรรพ แล้วก็หนีจากเมืองหลวงอุณหภูมิ 30 ไปเจอกับเมืองอุณหภูมิ 35 (เฮ้ย ร้อนกว่าเดิมอีก) ความชิวในฝันก็ได้เริ่มขึ้น....
ดูวีดีโอเรียกน้ำจิ้มกันก่อนครับ
แลนดิ้งปุ๊ป ก็เรียกแกร่บเลยจากสนามบินดานังไปยังฮอยอัน
(เราจะไปเที่ยวฮอยอันก่อนแล้วย้อนกลับมาดานังเนื่องจากฮอยอันไกลกว่าครับ)
เบ็ดเสร็จโดนค่าเสียหายไป 350,000 สามแสนห้าดองเวียดนาม หรือประมาณ 500 บาทไทย
ลงจากรถปุ๊ป ก็เจอกับความสโลวไฟล์แรกเลย
.... ‘ ปี้นนนนนนน ‘ วอท เดอะฟัค มาเทอฟัคเกอ เฮ้ย บีบแตรทำไมวะ แล้วบีบกันแบบรัวๆ เรียกว่าถ้าคนหัวร้อนจากไทยไปเที่ยวนี่คงระเบิดศึกเวทีมวยลุมพินีแน่นอน แต่ว่าอย่าโมโหไปครับ ความจริงก็คือการบีบแตรที่เวียดนามเป็นการบีบเพื่อให้รู้ว่าเค้าขับรถอยู่ตรงนี้ อย่ามาชนนะ เพราะเค้าไม่มีไฟแดง ไม่มีรถติด รถวิ่งกันตลอดแต่จำกัดความเร็วไว้ (ไม่แน่ใจคิดว่า 80) ทำให้ต้องคอยบีบกันตลอด แล้วก็ข้ามถนน รถไม่หยุดให้นะครับ ต้องกะจังหวะกันเอาเอง ใครข้ามถนนไม่เป็นแนะนำว่าอย่าไปคนเดียว ให้หาแฟนไปด้วย (จขกท ก็ข้ามไม่ค่อยเก่งนะ หาคนพาข้ามครับ)
นอกเรื่องมาก็ยาว มาพบกับไฮไลท์แรกกันเลย สะพานญี่ปุ่นครับ !!! .... ครับ แล้วยังไง.....
เดินข้ามได้ด้วย ขณะกำลังจะข้าม
จนท : เฮ้ ยูว !
นี่ : โอ้ ไฮ เฮลโหลว ไนซ์ทูมีทยูท (กำลังจะเดินผ่านไป)
จนท : โน ทิกเกท ทิกเกท !!!
นี่ : เดินถอยหลังแบบมูนวอล์คออกไป ข้ามสะพานนี่ต้องมีตั๋วด้วยนะครับ ไม่ใช่ว่าใครก็ข้ามได้ ไม่เป็นไรงั้นขอยืนมองเทออยู่ห่างๆก็พอ
ที่เมืองเก่าในฮอยอัน นักท่องเที่ยวจะนิยมนั่งรถคนลาก รถสามล้อ เรียกว่าอะไรหว่า วอทเอฟเวอร์ เป็นแบบในรูปครับ เค้าจะพาเราชมทั่วๆเมือง อ้อ ใครไปฮอยอันถ้าเจอคนเกาหลีเยอะไม่ต้องแปลกใจนะครับ เหมือนเกาหลีเริ่มมาลงทุนในเวียดนามกันทำให้นักท่องเที่ยวเค้ามาเยอะมากๆครับ อย่างในภาพก็มีอปป้า
ในเมืองก็จะมีโคมไฟแขวนไว้ประดับๆเป็นระยะๆครับ สวยงามให้บรรยากาศไปอีกแบบ
บรรยากาศร้านกาแฟ faito (ซึ่งได้มาจากเพื่อนๆในพันทิพนี่ละ) มีสามชั้นครับ ขึ้นไปถ่ายรูปเมืองแบบสวยๆ จิบกาแฟชิวๆ ได้
จิบๆ จิบไป 3 ! ตาค้างไหมถามใจเธอดู
ที่เวียดนามนี่ส่วนมากจะไม่ค่อยสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษนะครับ ทำให้การสื่อสารลำบากนิดนึง ผมเลยเน้นจิ้มที่รูปเอา แล้วก็ต้องระวังนิดนึงครับ อาจโดนโกงได้ แต่ก็ไม่เยอะมากอาจจะ 10000 ดองอะไรแบบนี้ (15-20บาท) ถ้าไม่ซีเรียสก็ไม่เป็นไรครับ
แต่ !! ถ้ามีคนมาถ่ายรูปให้หรือเสนอให้ลองถืออะไรถ่ายรูปสวยๆ อย่ารับเชียวนะครับ เพราะนางจะกึ่งบังคับให้เราซื้อของนางทันที และถ้าไม่ซื้อก็จะมีการเรียกพวกมากดดัน อันนี้เจอมากับตัว โชคดีรอดมาได้แต่ก็เสียเงินไปสามสิบบาทอยู่ดีครับ บ่นเสร็จแล้วไปดูบรรยากาศยามค่ำคืนกันต่อ (สะพานญี่ปุ่นอันเดิม เพิ่มเติมคือตอนกลางคืน และ ข้ามสะพานฟรีแล้วครับ วอท !? )
ก็จะมีพวกไนท์มาเก็ตต่างๆกับโชว์รอบๆเมืองเก่าฮอยอันครับ แต่ส่วนตัวผมไม่ตื่นเต้นเท่าไรเพราะมันก็เหมือนๆกับแถวข้าวสารที่ไทยเลยครับ เอิ่ม เพียงแต่คนเยอะกว่าแค่นั้นเอง อ้อ แล้วก็จะมีให้ลงไปนั่งเรือเล่นที่คลองด้วยครับ บรรยากาศสวยดี (ลองดูเป็นคลิปได้ที่เพจผมนะครับ)
นอนที่โรงแรม Venus hotel ถือว่าดีเลยครับ ห้องสองเตียงใหญ่ มีอ่างแช่น้ำด้วย ราคาเพียงแค่ 1000 บาทจองจากบุ๊คกิ้ง โอ้โหว อะไรมันจะถูกเบอร์นั้น ดีใจได้ไม่นาน พอกดดูในอโกด้า ดันถูกกว่าอีกครับ
เช้ามาต้องรีบกลับไปดานังครับ เพราะเรามีจุดหมายทีเมืองสไตล์ยุโรปบนยอดเขาอย่าง บาน่าฮิลล์ !!
การเดินทางไปบาน่าฮิลล์ก็เหมือนเดิมครับ เรียกแกรบจากในตัวเมืองแล้วนางจะพาไปซื้อตั๋วก่อน (ซึ่งตั๋วที่นางพาไปซื้อจะเป็นเหมือนร้านข้างนอกขายครับ แพงกว่าซื้อที่ทางขึ้นกระเช้าประมาณ 50000 ดอง ฮ่วย แต่ดีตรงที่ไม่ต้องต่อคิวครับ พยายามบอกนางว่าไม่เอาจะซื้อที่ทางเข้าแต่นางฟังอังกฤษไม่ออกก็เลยต้องจำยอม -*-)
บ่นเยอะแล้ว ชมภาพ บรรยากาศกันเลย
ให้ความรู้สึกเหมือนแฮร์รี่ตอนเห็นฮอกวอทครั้งแรกครับ ตื่นเต้นอเมซซิ่ง เหมือนนั่งรถไฟมาจากชานชลา 9 ¾ แต่อันนี้เป็นกระเช้าแทน เห็นแล้วอย่างร่ายมนต์เลยครับ มนต์อันใดจะทำให้เธอไม่ไปจากฉัน เอ่อะ อย่าสนใจครับ ท่อนสร้อยไปเรื่อย.
นางแบบใครไม่รู้ ขอยืมด้วยคนครับ บนบาน่าฮิลล์ก็จะเป็นเมืองสไตล์ฝรั่งเศส เป็น รร ด้วยครับ แนะนำให้นอนบนนี้สักคืนเพราะตอนกลางวันคุณจะถ่ายรูปเมืองสวยๆได้ยากหน่อยเนื่องจากคนเยอะมาก เยอะจริงจัง ถ่ายได้แต่มุมเสยครับ 55
แย่งซีนกันแบบซึ่งๆหน้า ไม่แคร์สิ่งใดๆ
หลังจากบาน่าฮิลล์แล้วก็ลงมาที่เมืองดานัง ซึ่งมีสะพานมังกร (อันนี้สวยครับ) แล้วก็ตลาดฮาน (เหมือนตลาดแฮปปี้แลนด์เป๊ะๆ) ส่วนรอบๆเมืองโดยส่วนตัวผมว่าไม่ค่อยมีอะไรครับ ถ้ามาแนะนำว่าแค่เป็นทางผ่านๆก็พอครับ (รีวิวกันตรงๆดีก็ว่าดี ไม่มีไรก็ไม่อยากให้ไปเสียเที่ยวครับ)
อ้อ ... แล้วก็มีสิ่งที่น่าสนใจประจำทริปมาให้ชมครับ
น้องแอร์บนไฟลท์ 555
ปล.น้องยังโสดนะครับ น้องเส้นตื้นมากด้วย อ่านหนังสือท่องเที่ยวยังขำ ใครสนใจวาปขอได้จากในเพจผมนะครับ (หลอกล่อๆ)
เพจ
>>> https://www.facebook.com/GoTravelYourself/?ref=bookmarks <<< เพจผมเองครับ รักกันฝากกดไลค์ด้วยนะครับ จะได่มีทริปขำๆมาเล่าสู่กันฟังอีก
ปล.2 ไอ้ที่บอกครั้งเดียวพอคือ มาคนเดียวครั้งเดียวพอนะครับ ถ้ามาอีกอยากมีคนให้ถ่ายรูปให้ครับ (หยอดไปอีกกก)
ถูกใจช่วยแชร์เป็นกำลังใจให้ด้วยนะคร้าบ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น