สวัสดีพี่ๆเพื่อนๆ นะครับ ผม เรียน comp-sci ครับ ตอนนี้อยู่ ปี.1
ผมขอแยกคำถามก่อนนะครับ
1. อย่างที่บอกผมเรียน CS แต่ไม่มีโน้ตบุ้ค มีแต่ PC เก่าๆตั้งในหอ ผมเลยกะจะเก็บเงินซื้อ notebook กำลังคิดว่าจะซื้อ Mac หรือ notebook ดีครับ เห็นว่า Mac มันเหมาะกับ coding หรือพวกตัดต่อต่างๆอยู่แล้ว แต่ราคาสูง ผมจะเอามาทำงานหน่ะครับ เกมเล่นบน PC ได้เพราะผมไม่ค่อยเล่นเกมเท่าไหร่ เลยคิดว่า notebook ไม่น่าจำเป็น แต่ปัญหาคือ mac ราคาค่อนข้างสูง ผมเลยอยากจะถามคนที่มีประสบการณ์ว่า ระหว่างเก็บเงินซื้อ mac กับซื้อ notebook ละลง VMware อันนั้นมันจะดีคุ้มค่ากว่ากันครับ อ้อ แล้วก็ spec ขั้นต่ำควรจะเท่าไหร่เหรอครับ ถึงจะทนอยู่ได้ 4-5 ปี แล้วก็เขียนโค้ดลื่นๆ
2. ผมอยากจะได้พวก ipad หรือ tablet ด้วย คือกะจะเอามาไว้สำหรับเขียนงาน วางแผนอะไรงี้ แล้วก็เอาไว้วาดรูปเล่น (ผมชอบวาดรูปเล่นไปมั่วๆเวลาสมองตื้อหรือคิดอะไรไม่ออก 5555) แบบสามารถหยิบมาเขียนได้เลย เพราะมันกว้างดี หรือจะซื้อกระดานไวท์บอร์ดขนาดเล็กมาใช้แก้ขัดดีครับ เพราะปกติเวลาอยู่ในห้องแล้วทำงาน ผมจะต้องหากระดาษ A4 หรือกระดาษเปล่ามานั่งเขียนแบบแผน หรือเขียนอะไรต่างๆ ซึ่งผมไม่ค่อยชอบเท่าไหร่
3. ตอนนี้ผมยังปี 1 อยู่ ไม่ทราบว่า ถ้าผมเรียนถึงปี 4 การที่ผมจะหาทุนต่อไปยังต่างประเทศยากมากไหมครับ ขอแยกคำถามในข้อนี้เป็นข้อย่อยนะครับ
3.1 มหาวิทยาลัยต่างประเทศเขาจะดูเกรดตามมหาลัยไหมครับ เพราะจากที่ผมศึกษามา ถ้ามหาลัยไหนปล่อยเกรด มหาลัยไหนแข็ง ก็มีผลต่อการสมัครเรียนต่อป.โทต่างประเทศ จริงไหมครับ?
3.2 ต้องสอบอะไรบ้างไหมครับ ? หรือว่าสอบแค่ ielts หรือว่าตามกฏเกณฑ์ของมหาลัยตปท. นั้นๆ
3.3 ใครเคยเรียนต่อป.โทต่างประเทศ ถามหน่อยว่าเขาสัมภาษณ์โหดไหมครับ
3.4 ถ้าชิงทุนได้ จะสบายไหมครับ? เพราะฐานะผมค่อนข้างจน จึงค่อนข้างกลัว
4. มีวิธีให้หายขี้ลืมกันไหมครับ ผมขี้ลืมขนาดล่าสุดผมยังลืมหยิบลองเท้าแต่เดินจนลงไปหน้าหอ ลืมกุญแจไว้ในตู้แต่ล็อคตู้แล้ว ลืมจนน่าเกลียด ผมเลยต้องมี post-it หรือมีอะไรบอกตัวเองเสมอ บางทีผมยังนั่งคุยคนเดียวว่ามีอะไรที่ต้องทำบ้าง 5555
5. เป็นคนขี้ซุ่มซ่ามครับ ชอบสะดุดนู่น ชนนี้ อายมาก 555
6. ผมเป็นคนสายตาสั้นตั้งแต่เล็กๆครับ แต่รู้ตัวว่าสั้นจริงๆ ตอน ม.1 ซึ่งวัดแล้วสั้นถึง 300++ ปกติตอนเด็กๆ ผมมองอะไรไม่ค่อยชัด แต่ผมไม่รู้ว่าคนอื่นมองชัด เพราะตอนประถมผมนั่งหน้าแทบตลอด เลยมองเห็นกระดาน แต่พอมัธยมผมเพิ่งรู้ว่าอ้าว มองไม่ชัดนี่หว่า แล้วที่นี้มันทำให้บุคลิกผมเสียเพราะว่าผมชอบมองพื้นครับ เพราะผมมองอะไรไม่ค่อยเห็นจึงชอบมองพื้น + กลับเป็นคนซุ่มซ่าม เวลาเดินเลยกลัวสะดุด ต้องมองพื้นตลอด แล้วที่นี้พอโตมา ผมติดการมองพื้นเลยทำให้เวลาไปไหนมาไหนบางทีชอบเผลอมองแต่พื้น ; - ; มีวิธีแก้ไหมมม
7. รู้สึกว่าตัวเองน่าจะสมาธิสั้นครับ 5555 ผมว่าจะไปหาเวลาฝึกสมาธิสักหน่อย
เอ่ออออ ผมรู้สึกว่ามันไม่ใช่กระทู้คำถามอย่างเดียวแล้วอะครับ 555555 ใครไม่อยากอ่านข้ามไปเลยนะ
( อันนี้ผมบ่นนะครับ ไม่อยากฟังข้ามเลยยย 5555) ผมอยู่หอใน อยู่ 4 คนกับรูมเมท ตอนนี้อยู่มา 3 เดือนกว่าละครับ ผมพยายามเป็นคนเฟรนลี่ รักเพื่อนทุกคนหนะครับ เพราะไม่อยากมีปัญหา แต่การที่เปลี่ยนสังคมกระทันหัน มันทำให้ผมรับสภาพสังคมที่เปลี่ยนไปได้ยาก ซึ่งขอแยกเป็นย่อยๆคือ
รูมเมทผมคนนึงเรียนสาขาเดียวกันและเรียนเซคเดียวกัน ที่นี้ปัญหาคือ ผมมักจะตื่นก่อนเวลาเข้าเรียน 2-3 ชั่วโมง ช้าสุดคือ 2 ชั่วโมง และใช้เวลาจัดการตัวเองราวๆ 1 ชั่วโมงครึ่ง จากนั้นก็เช็คงานเช็คเวลาว่ามีอะไรที่ต้องทำ และจะไปเข้าคลาสก่อน 15 นาที ผมติดนิสัยว่าต้องจัดการอะไรให้เรียบร้อย เพราะผมเป็นคนขี้ลืม ดังนั้นถ้ามีเวลาเหลือมาก ต่อให้ผมลืมอะไร ผมก็สามารถกลับมาเอาก่อนไปเรียนได้เสมอ ที่นี้ปัญหามันก็เกิดขึ้น เพราะผมตั้งใจว่าจะเข้าคลาสก่อนเสมอ แต่เจ้ารูมเมทตัวดีดันตื่นก่อนไปเรียน 1 ชม. เท่านั้น พี่แกตั้งนาฬิกาก่อนเรียน 1 ชม. เป๊ะๆ แล้วพอนาฬิกาปลุก แกก็ไม่ตื่น ถ้าวันไหนตืนก็คือ ไม่ยอมลุก แค่กดปิด แล้วอาบน้ำช้ามากกกกก แล้วผมก็นั่งรอ คือผมไม่อยากไปก่อนครับ มันดูเหมือนไม่รอเพื่อนอะไรงี้ ผมขี้เกรงใจด้วย ผมก็รอ แล้วเราสองคนก็จะไปสายกัน 10-15 นาทีเสมอ ซึ่งนั้นทำให้ผมหัวเสียมาก เพราะผมเกลียดคนไม่ตรงต่อเวลาเป็นที่สุด แต่ผมกลับต้องมาทำเอง ; - ; แล้วก็ พอสายแล้ว หน้าหอจะมีวิน ซึ่งเสีย 10 บาทก็วิ่งได้ทั้งมอครับ ผมเองไม่ขึ้นถ้าไม่สาย แต่ทีนี้พอไปสาย รูมเมทผมแกบอกแกไม่ขึ้น เปลืองตัง แกบอก ค่าน้ำมันเท่าไหร่ กำไรโครตๆ ไม่อยากขาดทุน แต่!!!! ผมไปซื้อหูฟังคอมมาใช้ เพราะผมรำคาญรูมเมทเปิดเพลงมาก ผมก็บอกว่าจะออกไปซื้อนะ แกบอกผมว่าจะซื้อเท่าไหร่ ผมบอก 300-400 แกบอก ของแบบนั้นใช้แป้ปๆ ก็พัง แนะนำให้ซื้อ 700+ ผมก็แบบ เอ่ออออ คือผมเคยซื้อ 299 ใช้มา 1 ปีเต็มยังไม่พังเลยอะครับ แล้วตังผม ณ ตอนนั้นก็ไม่มากพอจะซื้อของแพง แล้วแบบแกบอก 10 บาทแพง แต่โน้ตบุคแกเป็น gaming คียร์บอร์ดก็ gaming คือ gaming ยกเซต ในขณะที่ผมใช้ PC กากๆ 555+ คือผมไม่เข้าใจกับเขาาาาาาาาาา แต่ผมไม่อะไรนะ เพราะของแบบนี้เงินใครเงินมัน แค่มาเล่าให้ฟังเฉยๆ 555+ แล้วก็มีเรื่องแย่อีก นิดๆหน่อยๆน่ะครับ ที่ผมรับไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้ส่งผลอะไรกับผมมากเลยไม่อยากเล่า อ้อ แล้วก็รูมเมทอีก 2 คน มี คนนึง ผมหาข้อเสียไม่ได้เลย ข้ามไปเลยละกัน ทีนี้มีคนสุดท้ายที่อีก 2 คน ไม่ชอบ และเรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้เกิดขึ้นใน 1 อาทิตย์แรก!! เรื่องแรกคือแกชอบพาเพื่อนมาห้อง ละมีวันนึง แกก็พาเพื่อนมา ละเพื่อนไปนอนเตียงผมเฉย ผมรู้เพราะผมกลับมาเห็นพอดี ละมันก็ลงมา รูมเมทมันก็ถามผมว่า โทษนะ เพื่อนขึ้นไปนอน .... เอ่อออ คือแบบบ เอาจริงๆ ผมไม่ซีเรียสนะ แต่ของแบบนี้มันควรบอกกันก่อนปะ ไม่ใช่อยากทำอะไรก็ทำแล้วค่อยขอโทษ แล้วก็วันนั้นผมกับรูมเมทอีก 2 คนกลับบ้าน เหลือไอ้คนเนี้ยะอยู่หอ ละผมลืมล็อคตู้( ขี้ลืมของแท้ )ผมก็ไม่คิดมากหรอก เพราะในตู้มันก็ไม่มีของมีค่า แถมเขาคงไม่ขโมยเกงในผมหรอก 555+ แต่!!! พอผมกลับมา เห้ยยยยย!!! คือ ในตู้ผมอะ ผมมีผงซักฟอก 5 ถุง ผมกลับมามันเหลือ 1 ถุง เท่านั้นไม่พอนะครับ ทิชชู่บนโต๊ะผมมันหายไปหมดเกลี้ยง! คือมันจะหมดเร็วไปไหม และก็ยังไม่หมดครับ โรออลทารักแร้ผมอะ 3 อัน

เหลือ 1 อันคืออันที่ผมใช้ ยาสระผมของผมเหลือแค่ก้นขวด แบบเศร้ามาก ผมก็ไม่อยากถามพี่แกตรงๆ คือแบบ มันจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากพี่แก เพราะอีก 2 คนกลับบ้านหมด แถมผมกลับมาคนแรก ; - ; ผมก็ได้แต่ซื้อใหม่ คือแบบจริงๆผมไม่ซีเรียสมากนะ แต่ผมอยากให้มาขอก่อนไง.... เอ่อ แล้วก็ แกชอบมาขอยืมตังผมด้วยนะ 555+ เหมือนแกจะรู้ตัวว่าอีก 2 คน ไม่ชอบ เลยมาพึ่งผม (ป.ล. พี่แกนี่แหละชอบเปิดเพลงเสียงดัง) แถมผมเฟรนลี่ไง ผมรู้ตัวนะว่าทำตัวดีเกินไปจนบางทีมันกลับมาทำร้ายตัวเอง ซึ่งตอนแรกพี่แกบอก แม่ยังไม่ส่งตัง ตังแกหมด แกบอกมีปัญหาการโอนตังอะไรนักหนาไม่รู้ผมก็ไม่เข้าใจแก แกก็ยืมไป 100 แกบอกส่งเลขบัญชีมานะ ผ่านไป 4-5 วันแกก็ไม่คืน อย่างที่บอก ผมก็ไม่ซีเรียสนะ แต่คนเรายืมตังก็น่าจะรีบคืนนะ 5555 ผมก็ไม่ทวงอะ แต่พอวันที่ 6 แกไปซ้อมกีฬาพอดีผมก็ส่งเลขบัญชีไปในไลน์ บอกแกว่า นี่เลขบัญชีเรานะ ถ้าจะโอนมา แกก็อ่าน แล้วแกก็ไม่ตอบ จากนั้นแกก็ถามเรื่องการกู้กยศ จนหน้าแชทหน้านั่นมันหายไปละ และแกก็ยังไม่โอนคืน ล่าสุด อาทิตย์ก่อน แกบอกแกตังหมดละ มีเงินให้ยืมไหม ซึ่งผมเหลือติดตัว 500 ผมก็บอกแกมีแค่ 500 ผมต้องจ่ายค่านู่นนี่นั้น ( จริงๆไม่ได้จ่าย แต่ผมแค่ไม่อยากให้อะ ) แกบอกแกต้องจ่ายค่าเสื้อคณะอะไรไม่รู้ แกไม่มีเงินแล้ว แล้วเราก็ใจอ่อนบอกเดี๋ยวจะให้ยืมก่อนละกัน แล้วแกก็บอกโอเค เดี๋ยวค่อยให้พรุ่งนี้ ละวันต่อมาผมดันต้องกลับบ้านไปเอาเอกสาร ซึ่งเสียค่ารถค่าจิปาถะก็เหลือเงินเพียง 200-300 ผมเลยบอกพี่แกว่าไม่มีแล้วอะ ต้องกลับบ้าน แกก็เครียดใหญ่ (ดีนะ แกไม่บีบผม ผมจะได้บอกว่า 100 อะ ยังไม่ได้คืนเลยนะ 55555) และหลังจากผมกลับบ้านจนกลับหอ ผมก็ไม่เห็นแกจะมีปัญหาอะไร อ้อ แล้วก็ เน็ตโทรศัพท์แกยังยืมผมเลยยย แกบอกแกสมัครไม่ได้ เหตุผลอะไรไม่รู้มันฟังไม่ขึ้นอะ แต่ผมก็เข้าใจก็เลยปล่อยไวไฟให้เขาเล่น ละบางทีผมเบื่อๆ ขี้เกียจเรียน ทบทวนบทเรียนผมก็นั่งเล่น DotA2 ซึ่งเล่นอยู่แค่เกมเดียวบน Steam 555+ กะว่าจะเล่นซักเกม กำลังไปได้ครึ่งทางอะ พอเข้าใจอารมณ์ไหม จู่ๆพี่แกก็กลับมา ละเชื่อมไวไฟผม แล้ว ping พุ่งอะ ผมแทบบ้า แต่ผมก็บอกว่าเลิกเชื่อมก่อนได้ไหม เดี๋ยวเล่นเกมจบละค่อยเชื่อม แกก็เชื่อฟังนะ ละหลังจากวันนั้น ผมก็แทบไม่ได้เล่นเกมเลย ; - ; เศร้ามาก อ้อ เนตหอก็มีนะ แต่ไอ้รูมเมทที่เป็นสาย gaming มันเอา สาย lan ผมไปเสียบเล่นคนเดียวแล้ว555+ ผมไม่ซีเรียสด้วย เพราะถ้าปล่อยเป็น wifi มันช้ากว่าเน็ตโทรศัพท์อีก แต่ถ้าอีก 2 คนบ่น ไอ้ gaming มันก็จะถอดเสียบ rounter ให้ วันไหน พี่แกเชื่อมไวไฟหอผมก็โชคดีไป แต่วันดีคืนดีจู่ๆแกก็เชื่อมของผมเฉย จะไปบอก เฮ้ย เลิกเชื่อมที มันช้า ผมก็ไม่กล้า
ต่อไปจะเป็นช่วงบอกเกี่ยวกับตัวเองครับ 555 ใครไม่อยากรู้ข้ามไปเลยยย
1. ผมรู้ตัวเองแล้วนะครับว่าชอบสายนี้ ดังนั้นไม่ต้องห่วงครับ)
2. ผมไม่เก่งครับ ผมเรียนโรงเรียนนึง มีนร. ไม่ถึง 200 ครับ พื้นฐานจากมัธยมน้อยมาก ถ้าพูดตรงๆคือระบบการศึกษาล้มเหลวครับ ผมจะขอแซวง่ายๆว่า " ถ้าเช็คชื่อเข้าสอนของครูได้ ครูคงหมดสิทธิ์สอบ" ผมไม่ขอแสดงความคิดเห็นเยอะ ก็แล้วกันเดี๋ยวจะกลายเป็นดราม่า 5555 ส่วนเหตุผลที่ผมต้องเรียน เพราะเป็นโรงเรียนรัฐ ไม่เสียค่าเทอม ซึ่งฐานะบ้านผมค่อนข้างจนครับ)
3. ผมไม่คิดจะโทษโรงเรียนอย่างเดียวครับ เพราะการเรียนรู้มันอยู่ที่ตัวเรา และผมก็พยายามด้วยตัวเองอย่างเต็มที่ครับ ทั้งศึกษาในเน็ตหรือถามเพื่อนๆที่เรียนต่างโรงเรียน)
4. ภาษาผมค่อนข้างอ่อนครับ ในสมัยมัธยม อาจารย์สอนเรื่องที่ผมทราบอยู่แล้ว ผมเลยปรึกษาถามอาจารย์ว่า สอนยากกว่านี้ได้ไหม อาจารย์แกตอบกลับว่า เพื่อนๆในห้องเธออ่อนกันหมด ถ้าสอนยากก็จะไม่มีใครเข้าใจ แต่ผมก็พยายามหาแบบฝึกหัดหรือคลิปทาง youtube มาดูตลอดครับ ซึ่งตอนนี้ถามว่าอ่อนขนาดไหน คือเวลาเข้าคลาสอิ้งอาจารย์จะพูดอิ้ง ซึ่งผมแปลจับใจความได้หมด แต่อาจจะมีบางคำที่เอ๊ะ มันแปลว่าอะไร แต่ผมจะแย่ตรงการเลือกคำให้ตรงบริบท หรือ grammar ซะมากกว่า ซึ่งผมก็จะฝึกต่อไปครับ
5. การที่ผมถามถึงการเรียนต่อที่ตปท. ทั้งๆที่ตอนนี้ผมไม่มีปัญญา เป็นเพราะผมอยากได้แนวทางไว้เนิ่นๆ จะได้วางแผนถูกครับ ดังนั้น ถึงตอนนี้มันจะเป็นไปไม่ได้สำหรับผม แต่ผมก็คิดว่าจะพยายามก้าวผ่านมันไปให้ได้ครับ
สุดท้ายนี้ผมขอขอบคุณทุกท่านที่เสียสละเวลามาอ่านกระทู้ไร้สาระของผม ผมอาจจะพิมพ์เยอะเกินทำให้อ่านแล้วงงก็ขอโทษด้วย และขอบคุณทุกท่านที่ตอบคำถามของผม และถ้ามีอะไรที่ผมพิมพ์ผิด หรือเข้าใจผิดอะไรก็ขอให้แนะนำมาได้เลยครับ ผมจะนำไปปรับปรุง
หลังจากพิมพ์มาอย่างเยอะ ผมรู้สึกว่าผมยังทำงานไม่เสร็จเลย ขออนุญาติไปทำงานละน้าคร้าบบบบบ
เรื่องขำๆของรูมเมท และ เรื่องราวของผมที่อยากให้คุณช่วยตอบ
ผมขอแยกคำถามก่อนนะครับ
1. อย่างที่บอกผมเรียน CS แต่ไม่มีโน้ตบุ้ค มีแต่ PC เก่าๆตั้งในหอ ผมเลยกะจะเก็บเงินซื้อ notebook กำลังคิดว่าจะซื้อ Mac หรือ notebook ดีครับ เห็นว่า Mac มันเหมาะกับ coding หรือพวกตัดต่อต่างๆอยู่แล้ว แต่ราคาสูง ผมจะเอามาทำงานหน่ะครับ เกมเล่นบน PC ได้เพราะผมไม่ค่อยเล่นเกมเท่าไหร่ เลยคิดว่า notebook ไม่น่าจำเป็น แต่ปัญหาคือ mac ราคาค่อนข้างสูง ผมเลยอยากจะถามคนที่มีประสบการณ์ว่า ระหว่างเก็บเงินซื้อ mac กับซื้อ notebook ละลง VMware อันนั้นมันจะดีคุ้มค่ากว่ากันครับ อ้อ แล้วก็ spec ขั้นต่ำควรจะเท่าไหร่เหรอครับ ถึงจะทนอยู่ได้ 4-5 ปี แล้วก็เขียนโค้ดลื่นๆ
2. ผมอยากจะได้พวก ipad หรือ tablet ด้วย คือกะจะเอามาไว้สำหรับเขียนงาน วางแผนอะไรงี้ แล้วก็เอาไว้วาดรูปเล่น (ผมชอบวาดรูปเล่นไปมั่วๆเวลาสมองตื้อหรือคิดอะไรไม่ออก 5555) แบบสามารถหยิบมาเขียนได้เลย เพราะมันกว้างดี หรือจะซื้อกระดานไวท์บอร์ดขนาดเล็กมาใช้แก้ขัดดีครับ เพราะปกติเวลาอยู่ในห้องแล้วทำงาน ผมจะต้องหากระดาษ A4 หรือกระดาษเปล่ามานั่งเขียนแบบแผน หรือเขียนอะไรต่างๆ ซึ่งผมไม่ค่อยชอบเท่าไหร่
3. ตอนนี้ผมยังปี 1 อยู่ ไม่ทราบว่า ถ้าผมเรียนถึงปี 4 การที่ผมจะหาทุนต่อไปยังต่างประเทศยากมากไหมครับ ขอแยกคำถามในข้อนี้เป็นข้อย่อยนะครับ
3.1 มหาวิทยาลัยต่างประเทศเขาจะดูเกรดตามมหาลัยไหมครับ เพราะจากที่ผมศึกษามา ถ้ามหาลัยไหนปล่อยเกรด มหาลัยไหนแข็ง ก็มีผลต่อการสมัครเรียนต่อป.โทต่างประเทศ จริงไหมครับ?
3.2 ต้องสอบอะไรบ้างไหมครับ ? หรือว่าสอบแค่ ielts หรือว่าตามกฏเกณฑ์ของมหาลัยตปท. นั้นๆ
3.3 ใครเคยเรียนต่อป.โทต่างประเทศ ถามหน่อยว่าเขาสัมภาษณ์โหดไหมครับ
3.4 ถ้าชิงทุนได้ จะสบายไหมครับ? เพราะฐานะผมค่อนข้างจน จึงค่อนข้างกลัว
4. มีวิธีให้หายขี้ลืมกันไหมครับ ผมขี้ลืมขนาดล่าสุดผมยังลืมหยิบลองเท้าแต่เดินจนลงไปหน้าหอ ลืมกุญแจไว้ในตู้แต่ล็อคตู้แล้ว ลืมจนน่าเกลียด ผมเลยต้องมี post-it หรือมีอะไรบอกตัวเองเสมอ บางทีผมยังนั่งคุยคนเดียวว่ามีอะไรที่ต้องทำบ้าง 5555
5. เป็นคนขี้ซุ่มซ่ามครับ ชอบสะดุดนู่น ชนนี้ อายมาก 555
6. ผมเป็นคนสายตาสั้นตั้งแต่เล็กๆครับ แต่รู้ตัวว่าสั้นจริงๆ ตอน ม.1 ซึ่งวัดแล้วสั้นถึง 300++ ปกติตอนเด็กๆ ผมมองอะไรไม่ค่อยชัด แต่ผมไม่รู้ว่าคนอื่นมองชัด เพราะตอนประถมผมนั่งหน้าแทบตลอด เลยมองเห็นกระดาน แต่พอมัธยมผมเพิ่งรู้ว่าอ้าว มองไม่ชัดนี่หว่า แล้วที่นี้มันทำให้บุคลิกผมเสียเพราะว่าผมชอบมองพื้นครับ เพราะผมมองอะไรไม่ค่อยเห็นจึงชอบมองพื้น + กลับเป็นคนซุ่มซ่าม เวลาเดินเลยกลัวสะดุด ต้องมองพื้นตลอด แล้วที่นี้พอโตมา ผมติดการมองพื้นเลยทำให้เวลาไปไหนมาไหนบางทีชอบเผลอมองแต่พื้น ; - ; มีวิธีแก้ไหมมม
7. รู้สึกว่าตัวเองน่าจะสมาธิสั้นครับ 5555 ผมว่าจะไปหาเวลาฝึกสมาธิสักหน่อย
เอ่ออออ ผมรู้สึกว่ามันไม่ใช่กระทู้คำถามอย่างเดียวแล้วอะครับ 555555 ใครไม่อยากอ่านข้ามไปเลยนะ
( อันนี้ผมบ่นนะครับ ไม่อยากฟังข้ามเลยยย 5555) ผมอยู่หอใน อยู่ 4 คนกับรูมเมท ตอนนี้อยู่มา 3 เดือนกว่าละครับ ผมพยายามเป็นคนเฟรนลี่ รักเพื่อนทุกคนหนะครับ เพราะไม่อยากมีปัญหา แต่การที่เปลี่ยนสังคมกระทันหัน มันทำให้ผมรับสภาพสังคมที่เปลี่ยนไปได้ยาก ซึ่งขอแยกเป็นย่อยๆคือ
รูมเมทผมคนนึงเรียนสาขาเดียวกันและเรียนเซคเดียวกัน ที่นี้ปัญหาคือ ผมมักจะตื่นก่อนเวลาเข้าเรียน 2-3 ชั่วโมง ช้าสุดคือ 2 ชั่วโมง และใช้เวลาจัดการตัวเองราวๆ 1 ชั่วโมงครึ่ง จากนั้นก็เช็คงานเช็คเวลาว่ามีอะไรที่ต้องทำ และจะไปเข้าคลาสก่อน 15 นาที ผมติดนิสัยว่าต้องจัดการอะไรให้เรียบร้อย เพราะผมเป็นคนขี้ลืม ดังนั้นถ้ามีเวลาเหลือมาก ต่อให้ผมลืมอะไร ผมก็สามารถกลับมาเอาก่อนไปเรียนได้เสมอ ที่นี้ปัญหามันก็เกิดขึ้น เพราะผมตั้งใจว่าจะเข้าคลาสก่อนเสมอ แต่เจ้ารูมเมทตัวดีดันตื่นก่อนไปเรียน 1 ชม. เท่านั้น พี่แกตั้งนาฬิกาก่อนเรียน 1 ชม. เป๊ะๆ แล้วพอนาฬิกาปลุก แกก็ไม่ตื่น ถ้าวันไหนตืนก็คือ ไม่ยอมลุก แค่กดปิด แล้วอาบน้ำช้ามากกกกก แล้วผมก็นั่งรอ คือผมไม่อยากไปก่อนครับ มันดูเหมือนไม่รอเพื่อนอะไรงี้ ผมขี้เกรงใจด้วย ผมก็รอ แล้วเราสองคนก็จะไปสายกัน 10-15 นาทีเสมอ ซึ่งนั้นทำให้ผมหัวเสียมาก เพราะผมเกลียดคนไม่ตรงต่อเวลาเป็นที่สุด แต่ผมกลับต้องมาทำเอง ; - ; แล้วก็ พอสายแล้ว หน้าหอจะมีวิน ซึ่งเสีย 10 บาทก็วิ่งได้ทั้งมอครับ ผมเองไม่ขึ้นถ้าไม่สาย แต่ทีนี้พอไปสาย รูมเมทผมแกบอกแกไม่ขึ้น เปลืองตัง แกบอก ค่าน้ำมันเท่าไหร่ กำไรโครตๆ ไม่อยากขาดทุน แต่!!!! ผมไปซื้อหูฟังคอมมาใช้ เพราะผมรำคาญรูมเมทเปิดเพลงมาก ผมก็บอกว่าจะออกไปซื้อนะ แกบอกผมว่าจะซื้อเท่าไหร่ ผมบอก 300-400 แกบอก ของแบบนั้นใช้แป้ปๆ ก็พัง แนะนำให้ซื้อ 700+ ผมก็แบบ เอ่ออออ คือผมเคยซื้อ 299 ใช้มา 1 ปีเต็มยังไม่พังเลยอะครับ แล้วตังผม ณ ตอนนั้นก็ไม่มากพอจะซื้อของแพง แล้วแบบแกบอก 10 บาทแพง แต่โน้ตบุคแกเป็น gaming คียร์บอร์ดก็ gaming คือ gaming ยกเซต ในขณะที่ผมใช้ PC กากๆ 555+ คือผมไม่เข้าใจกับเขาาาาาาาาาา แต่ผมไม่อะไรนะ เพราะของแบบนี้เงินใครเงินมัน แค่มาเล่าให้ฟังเฉยๆ 555+ แล้วก็มีเรื่องแย่อีก นิดๆหน่อยๆน่ะครับ ที่ผมรับไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้ส่งผลอะไรกับผมมากเลยไม่อยากเล่า อ้อ แล้วก็รูมเมทอีก 2 คน มี คนนึง ผมหาข้อเสียไม่ได้เลย ข้ามไปเลยละกัน ทีนี้มีคนสุดท้ายที่อีก 2 คน ไม่ชอบ และเรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้เกิดขึ้นใน 1 อาทิตย์แรก!! เรื่องแรกคือแกชอบพาเพื่อนมาห้อง ละมีวันนึง แกก็พาเพื่อนมา ละเพื่อนไปนอนเตียงผมเฉย ผมรู้เพราะผมกลับมาเห็นพอดี ละมันก็ลงมา รูมเมทมันก็ถามผมว่า โทษนะ เพื่อนขึ้นไปนอน .... เอ่อออ คือแบบบ เอาจริงๆ ผมไม่ซีเรียสนะ แต่ของแบบนี้มันควรบอกกันก่อนปะ ไม่ใช่อยากทำอะไรก็ทำแล้วค่อยขอโทษ แล้วก็วันนั้นผมกับรูมเมทอีก 2 คนกลับบ้าน เหลือไอ้คนเนี้ยะอยู่หอ ละผมลืมล็อคตู้( ขี้ลืมของแท้ )ผมก็ไม่คิดมากหรอก เพราะในตู้มันก็ไม่มีของมีค่า แถมเขาคงไม่ขโมยเกงในผมหรอก 555+ แต่!!! พอผมกลับมา เห้ยยยยย!!! คือ ในตู้ผมอะ ผมมีผงซักฟอก 5 ถุง ผมกลับมามันเหลือ 1 ถุง เท่านั้นไม่พอนะครับ ทิชชู่บนโต๊ะผมมันหายไปหมดเกลี้ยง! คือมันจะหมดเร็วไปไหม และก็ยังไม่หมดครับ โรออลทารักแร้ผมอะ 3 อัน
ต่อไปจะเป็นช่วงบอกเกี่ยวกับตัวเองครับ 555 ใครไม่อยากรู้ข้ามไปเลยยย
1. ผมรู้ตัวเองแล้วนะครับว่าชอบสายนี้ ดังนั้นไม่ต้องห่วงครับ)
2. ผมไม่เก่งครับ ผมเรียนโรงเรียนนึง มีนร. ไม่ถึง 200 ครับ พื้นฐานจากมัธยมน้อยมาก ถ้าพูดตรงๆคือระบบการศึกษาล้มเหลวครับ ผมจะขอแซวง่ายๆว่า " ถ้าเช็คชื่อเข้าสอนของครูได้ ครูคงหมดสิทธิ์สอบ" ผมไม่ขอแสดงความคิดเห็นเยอะ ก็แล้วกันเดี๋ยวจะกลายเป็นดราม่า 5555 ส่วนเหตุผลที่ผมต้องเรียน เพราะเป็นโรงเรียนรัฐ ไม่เสียค่าเทอม ซึ่งฐานะบ้านผมค่อนข้างจนครับ)
3. ผมไม่คิดจะโทษโรงเรียนอย่างเดียวครับ เพราะการเรียนรู้มันอยู่ที่ตัวเรา และผมก็พยายามด้วยตัวเองอย่างเต็มที่ครับ ทั้งศึกษาในเน็ตหรือถามเพื่อนๆที่เรียนต่างโรงเรียน)
4. ภาษาผมค่อนข้างอ่อนครับ ในสมัยมัธยม อาจารย์สอนเรื่องที่ผมทราบอยู่แล้ว ผมเลยปรึกษาถามอาจารย์ว่า สอนยากกว่านี้ได้ไหม อาจารย์แกตอบกลับว่า เพื่อนๆในห้องเธออ่อนกันหมด ถ้าสอนยากก็จะไม่มีใครเข้าใจ แต่ผมก็พยายามหาแบบฝึกหัดหรือคลิปทาง youtube มาดูตลอดครับ ซึ่งตอนนี้ถามว่าอ่อนขนาดไหน คือเวลาเข้าคลาสอิ้งอาจารย์จะพูดอิ้ง ซึ่งผมแปลจับใจความได้หมด แต่อาจจะมีบางคำที่เอ๊ะ มันแปลว่าอะไร แต่ผมจะแย่ตรงการเลือกคำให้ตรงบริบท หรือ grammar ซะมากกว่า ซึ่งผมก็จะฝึกต่อไปครับ
5. การที่ผมถามถึงการเรียนต่อที่ตปท. ทั้งๆที่ตอนนี้ผมไม่มีปัญญา เป็นเพราะผมอยากได้แนวทางไว้เนิ่นๆ จะได้วางแผนถูกครับ ดังนั้น ถึงตอนนี้มันจะเป็นไปไม่ได้สำหรับผม แต่ผมก็คิดว่าจะพยายามก้าวผ่านมันไปให้ได้ครับ
สุดท้ายนี้ผมขอขอบคุณทุกท่านที่เสียสละเวลามาอ่านกระทู้ไร้สาระของผม ผมอาจจะพิมพ์เยอะเกินทำให้อ่านแล้วงงก็ขอโทษด้วย และขอบคุณทุกท่านที่ตอบคำถามของผม และถ้ามีอะไรที่ผมพิมพ์ผิด หรือเข้าใจผิดอะไรก็ขอให้แนะนำมาได้เลยครับ ผมจะนำไปปรับปรุง
หลังจากพิมพ์มาอย่างเยอะ ผมรู้สึกว่าผมยังทำงานไม่เสร็จเลย ขออนุญาติไปทำงานละน้าคร้าบบบบบ