สวัสดีค่า มีเวลาได้อ่านธรรมบทเรื่องนี้แล้วอยากเอามาแชร์ต่อให้เพื่อนๆชาวพันทิปได้อ่านด้วยค่ะ
เนื่อหาอาจจะยาวหน่อยนะคะ
อานิสงส์การบูชาด้วยดอกมะลิ
เรื่องของพระเถระรูปหนึ่งที่ชื่อขัณฑสุมนะ ผู้โชคดีได้เกิดในบวรพระพุทธศาสนา ย้อนไปเมื่อแสนกัปปีที่แล้ว ท่านเป็นชายหนุ่มรูปงามเกิดมาในช่วงหลังพุทธปรินิพพานของพระ-ปทุมุตตรพุทธเจ้า มหาชนช่วยกันสร้างพระสถูปที่ทำด้วยทองคำเพื่อเป็นเครื่องระลึกนึกถึงพระรัตนตรัย ส่วนตัวท่านมีโอกาสสร้างกำแพงทำด้วยไม้แก่นจันทน์ซึ่งเป็นไม้เนื้อหอมล้อมรอบพระสถูปอีกชั้นหนึ่ง ทำให้พระสถูปซึ่งนอกจากจะมีสีเหลืองอร่ามเหมือนทองคำแล้ว ยังมีกลิ่นหอมที่เกิดจากไม้แก่นจันทน์อีกด้วย ทำให้ผู้ไปนมัสการพระสถูประลึกถึงพระรัตนตรัยด้วยใจที่สบายและไปเกิดในสุคติโลกสวรรค์กันนับไม่ถ้วน
คนในสมัยก่อน เมื่อเกิดศรัทธาก็ไม่รอช้า จะรีบทำความดีทันที และจะไม่ให้สิ่งใดมาเป็นอุปสรรค ข้อแม้ ข้ออ้าง หรือเงื่อนไขในการทำความดี ความรู้สึกเช่นนั้นไม่เกิดขึ้นกับนักสร้างบารมีในสมัยก่อนเลย เมื่อใจเปี่ยมด้วยศรัทธาปัญญาก็เจริญ เมื่อมีปัญญา ปัญหาก็ไม่มี กลายเป็นคนที่ไม่มีปัญหา มีแต่ปัญญาขวนขวายหาช่องทางในการทำความดีนั้นให้สำเร็จจนได้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ด้วยผลบุญที่ได้ทำในครั้งนั้น ทำให้ท่านไปเสวยทิพยสมบัติในสุคติโลกสวรรค์ เป็นผู้มีกลิ่นจันทน์หอมออกจากสรีระฟุ้งขจรขจายใครได้กลิ่นก็ชื่นใจและอยากเข้าใกล้ ท่านเสวยทิพยสมบัติเป็นเวลายาวนานมาก เมื่อลงมาเกิดเป็นมนุษย์ ก็ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิพระนามว่า “สมัตตะ” ท่านเป็นพระเจ้าจักรพรรดิที่มีชื่อเดิมอยู่ถึง ๘ ครั้ง พอละโลกก็กลับไปเสวยทิพยสมบัติในสวรรค์อีก เวียนว่ายตายเกิดแต่ใน ๒ ภพภูมินี้เท่านั้น
เมื่อมาเกิดในสมัยหลังพุทธปรินิพพานของพระกัสสปพุทธเจ้า มหาชนต่างพากันบูชาพระพุทธองค์ด้วยการสร้างพระเจดีย์ทองสูง ๑ โยชน์ ท่านปรารถนาจะบูชาพระเจดีย์ด้วยดอกไม้ ไปเที่ยวตระเวนหาซื้อที่ไหนก็ไม่ได้ จึงลองเดินเข้าไปในสวนดอกไม้ เห็นดอกมะลิกิ่งหนึ่ง จึงขอซื้อมะลิกิ่งนั้นด้วยราคาแพงลิบลิ่วทีเดียว เพราะคนขายโก่งราคาสูงมาก แต่ด้วยจิตที่เลื่อมใสในพระรัตนตรัย ทำให้ท่านตัดสินใจซื้อเพื่อแลกกับการได้บูชาพระรัตนตรัย
ขณะที่เดินถือดอกมะลิไปบูชาพระเจดีย์นั้น ท่านบังเกิดปีติโสมนัสทุก ๆ ย่างก้าว เมื่อไปถึงก็ถือกิ่งมะลิเวียนประทักษิณ ๓ รอบ แล้วทำการบูชานอบน้อมด้วยความเลื่อมใส แค่บูชาด้วยดอกมะลิเท่านั้น บุญส่งผลให้ท่านได้กลับไปบังเกิดในเทวโลกอีกครั้งหนึ่ง และเสวยสุขในสวรรค์อยู่นานถึง ๘๐ โกฏิปี
ครั้นมาในยุคพุทธกาลของเรานี้ ท่านได้มาเกิดเป็นพระราชกุมารในเมืองปาวา แคว้นมัลละเป็นผู้มีกลิ่นกายหอมเหมือนดอกมะลิผิวพรรณวรรณะเปล่งปลั่งผ่องใสมากเป็นพิเศษเมื่อได้ยินข่าวว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้าอุบัติขึ้นในโลกแล้ว และกำลังประทับอยู่ที่สวนอัมพวันของนายจุนทะ ท่านบังเกิดความศรัทธาเลื่อมใสปรารถนาอย่างยิ่งที่จะไปฟังธรรม เหมือนผืนดินที่แห้งแล้งรอคอยฝนจากฟากฟ้ามายาวนานหรือเหมือนปลาในหนองน้ำที่แห้งขอดกำลังรอฝนด้วยใจจดใจจ่อ ท่านรีบชักชวนข้าทาสบริวารไปเข้าเฝ้าพระพุทธองค์เพื่อฟังพระธรรมเทศนา ครั้นได้ฟังแล้วก็ยิ่งศรัทธามากขึ้นจึงตัดสินใจออกบวช ท่านบำเพ็ญเพียรเพียงไม่นานก็บรรลุเป็นพระอรหันต์ผู้ทรงอภิญญา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้จากนั้น ท่านระลึกชาติไปดูบุพกรรมว่าได้ทำบุญอะไรเอาไว้ จึงมีมหาโชคได้มาเจอพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และเป็นผู้ปฏิบัติสะดวกบรรลุอรหัตผลอย่างง่ายดาย เมื่อเห็นแล้วท่านก็ปลื้มปีติและเปล่งอุทานว่า “เราถวายดอกไม้เพียงกิ่งเดียว เราได้เสวยสุขอยู่ในสวรรค์ถึง ๘๐ โกฏิปีในที่สุดได้บรรลุพระนิพพาน เพราะผลบุญที่ได้บูชาพระเจดีย์ด้วยจิตเลื่อมใส”
นี้เป็นตัวอย่างของการบูชาพระเจดีย์ด้วยดอกมะลิ ถ้าหากเรามีความเลื่อมใสศรัทธาจริง ๆ แม้พระบรมศาสดาจะมีพระชนม์ชีพอยู่หรือว่าเสด็จดับขันธปรินิพพานไปแล้วก็ตามอานิสงส์แห่งความเลื่อมใสนั้นก็มีผลเสมอกัน เพราะฉะนั้นแม้พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพานไป ๒,๕๐๐ กว่าปีแล้วก็ตาม แต่ยังมีสิ่งที่เป็นอนุสรณ์แห่งความดี เป็นเครื่องหมายที่ทำให้เราและชาวโลกได้ตรึกระลึกนึกถึงพระพุทธองค์ก็คือ พระเจดีย์ตามสถานที่ต่างๆ อาทิ เช่น พระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร ที่นครปฐม พระมหาเจดีย์ชัยมงคล จังหวัดร้อยเอ็ด
และพระเจดีย์ อีกหลายแห่งที่ไม่ได้กล่าวมา ค่ะ
ตามลิงค์นี้ ก็น่าไปนะคะ
http://www.mettadham.ca/stupa%20in%20thailand.htm
อยากเชิญชวน ทุกท่านถ้ามีเวลาก็ไปสักการะเจดีย์ที่ใกล้บ้านกันนะคะ ส่งเสริมวัดไทยด้วยค่า
@@ อานิสงส์การบูชาด้วยดอกมะลิ @@
เนื่อหาอาจจะยาวหน่อยนะคะ
อานิสงส์การบูชาด้วยดอกมะลิ
เรื่องของพระเถระรูปหนึ่งที่ชื่อขัณฑสุมนะ ผู้โชคดีได้เกิดในบวรพระพุทธศาสนา ย้อนไปเมื่อแสนกัปปีที่แล้ว ท่านเป็นชายหนุ่มรูปงามเกิดมาในช่วงหลังพุทธปรินิพพานของพระ-ปทุมุตตรพุทธเจ้า มหาชนช่วยกันสร้างพระสถูปที่ทำด้วยทองคำเพื่อเป็นเครื่องระลึกนึกถึงพระรัตนตรัย ส่วนตัวท่านมีโอกาสสร้างกำแพงทำด้วยไม้แก่นจันทน์ซึ่งเป็นไม้เนื้อหอมล้อมรอบพระสถูปอีกชั้นหนึ่ง ทำให้พระสถูปซึ่งนอกจากจะมีสีเหลืองอร่ามเหมือนทองคำแล้ว ยังมีกลิ่นหอมที่เกิดจากไม้แก่นจันทน์อีกด้วย ทำให้ผู้ไปนมัสการพระสถูประลึกถึงพระรัตนตรัยด้วยใจที่สบายและไปเกิดในสุคติโลกสวรรค์กันนับไม่ถ้วน
คนในสมัยก่อน เมื่อเกิดศรัทธาก็ไม่รอช้า จะรีบทำความดีทันที และจะไม่ให้สิ่งใดมาเป็นอุปสรรค ข้อแม้ ข้ออ้าง หรือเงื่อนไขในการทำความดี ความรู้สึกเช่นนั้นไม่เกิดขึ้นกับนักสร้างบารมีในสมัยก่อนเลย เมื่อใจเปี่ยมด้วยศรัทธาปัญญาก็เจริญ เมื่อมีปัญญา ปัญหาก็ไม่มี กลายเป็นคนที่ไม่มีปัญหา มีแต่ปัญญาขวนขวายหาช่องทางในการทำความดีนั้นให้สำเร็จจนได้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ขณะที่เดินถือดอกมะลิไปบูชาพระเจดีย์นั้น ท่านบังเกิดปีติโสมนัสทุก ๆ ย่างก้าว เมื่อไปถึงก็ถือกิ่งมะลิเวียนประทักษิณ ๓ รอบ แล้วทำการบูชานอบน้อมด้วยความเลื่อมใส แค่บูชาด้วยดอกมะลิเท่านั้น บุญส่งผลให้ท่านได้กลับไปบังเกิดในเทวโลกอีกครั้งหนึ่ง และเสวยสุขในสวรรค์อยู่นานถึง ๘๐ โกฏิปี
ครั้นมาในยุคพุทธกาลของเรานี้ ท่านได้มาเกิดเป็นพระราชกุมารในเมืองปาวา แคว้นมัลละเป็นผู้มีกลิ่นกายหอมเหมือนดอกมะลิผิวพรรณวรรณะเปล่งปลั่งผ่องใสมากเป็นพิเศษเมื่อได้ยินข่าวว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้าอุบัติขึ้นในโลกแล้ว และกำลังประทับอยู่ที่สวนอัมพวันของนายจุนทะ ท่านบังเกิดความศรัทธาเลื่อมใสปรารถนาอย่างยิ่งที่จะไปฟังธรรม เหมือนผืนดินที่แห้งแล้งรอคอยฝนจากฟากฟ้ามายาวนานหรือเหมือนปลาในหนองน้ำที่แห้งขอดกำลังรอฝนด้วยใจจดใจจ่อ ท่านรีบชักชวนข้าทาสบริวารไปเข้าเฝ้าพระพุทธองค์เพื่อฟังพระธรรมเทศนา ครั้นได้ฟังแล้วก็ยิ่งศรัทธามากขึ้นจึงตัดสินใจออกบวช ท่านบำเพ็ญเพียรเพียงไม่นานก็บรรลุเป็นพระอรหันต์ผู้ทรงอภิญญา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
นี้เป็นตัวอย่างของการบูชาพระเจดีย์ด้วยดอกมะลิ ถ้าหากเรามีความเลื่อมใสศรัทธาจริง ๆ แม้พระบรมศาสดาจะมีพระชนม์ชีพอยู่หรือว่าเสด็จดับขันธปรินิพพานไปแล้วก็ตามอานิสงส์แห่งความเลื่อมใสนั้นก็มีผลเสมอกัน เพราะฉะนั้นแม้พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพานไป ๒,๕๐๐ กว่าปีแล้วก็ตาม แต่ยังมีสิ่งที่เป็นอนุสรณ์แห่งความดี เป็นเครื่องหมายที่ทำให้เราและชาวโลกได้ตรึกระลึกนึกถึงพระพุทธองค์ก็คือ พระเจดีย์ตามสถานที่ต่างๆ อาทิ เช่น พระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร ที่นครปฐม พระมหาเจดีย์ชัยมงคล จังหวัดร้อยเอ็ด
และพระเจดีย์ อีกหลายแห่งที่ไม่ได้กล่าวมา ค่ะ
ตามลิงค์นี้ ก็น่าไปนะคะ
http://www.mettadham.ca/stupa%20in%20thailand.htm
อยากเชิญชวน ทุกท่านถ้ามีเวลาก็ไปสักการะเจดีย์ที่ใกล้บ้านกันนะคะ ส่งเสริมวัดไทยด้วยค่า