เพิ่งแต่งงานเมื่อเดือนเมษาที่ผ่านมาแต่รู้สึกไม่มีความสุขเลย ควรหยุดหรือไปต่อดี??

กระทู้คำถาม
เรากับแฟน(สามีปัจจุบัน)คบกันมา 5 ปี ลองใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน 2 ปี ชีวิตการเป็นแฟนก็ราบรื่นดีเสมอมา  เรามีแพลนว่าจะแต่งงานกันเมื่อเราสอบบรรจุเป็นข้าราชการได้ พอเราสอบได้ปุ๊ปเราก็แต่งงานกันในปีที่ 8 ทันที เหมือนทุกอย่างจะเป็นไปได้ดี แต่เราไม่มีความสุขเลย เรากลับเหนื่อย ที่ต้องเป็นฝ่ายทำทุกอย่างให้สามี โดยที่สามีไม่ยอมทำอะไรใดๆทั้งสิ้นในบ้านและจะอ้างว่าเหนื่อยจากงาน แต่ที่เราเห็นคือ นั่งเล่นเกมส์ ล่ะแบบติดมากกกกกกก ขนาดเรียกกินข้าวยังไม่ยอมกิน ที่ทำงานเราอยู่ไกลกับสามีมากขับรถไป-กลับร่วมๆ 200+กิโล (ไปกลับเหนื่อยมาก) แต่ก็ดูสามีจะไม่แคร์ใดๆทั้งสิ้น กลับทำตัวแบบเดิม บางทีกลับบ้านมาจานเน่าเต็มอ่างล้างจาน ผ้ายังอยู่ในเครื่องซักผ้า ขวดน้ำกระจายเต็มบ้าน ยิ่งถ้าวันไหนเค้าทำงาน กระดาษเอกสารจะกระจายเต็มห้องนอน เรากลับมาถึงก็ต้องเก็บ (เราเคยลองทำตัวนิ่งๆไม่เก็บไม่ทำอะไรเลยยอมนอนรกๆล้างจานข้าวใบเดียวแล้วนั่งกินคนเดียว สามีก็ไม่สนใจใดๆ) พอพูดตรงๆอธิบายด้วยเหตุผล สามีก็จะชิงโกรธเราก่อนเลย แบบโกรธแล้วไม่พูดเงียบใส่ละทิ้งความกดดัน ความอึดอัดมาที่เรา เราเบื่อหน่ายมาก ควรหยุดหรือไปต่อดี
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
จากที่อ่านที่ จขกท เขียนมาทั้งหมดในเนื้อหากระทู้ และ ใน คห ต่างๆ

มีความเห็นว่า เขาเห็นแก่ตัวมาก เหมือนมาหลอกใช้คุณ หลอกหาผลประโยชน์จากคุณนะ

เลิกตอนนี้ยังไม่สายนะ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ยังไม่มีลูกด้วยกัน

อย่าอยู่กับคนแบบนี้นะ เพราะมันจะบั่นทอนจิตใจของคุณ เสียสุขภาพจิตไปตลอดชีวิตนะ
แล้วคุณจะมีแต่ความทุกข์

แต่ระวังเขาไม่ยอมหย่านะ หรือ ถ้าหย่าแล้ว อาจจะมาวนเวียนในชีวิตคุณ ไม่เลิกรา  
เพราะอยู่กับคุณเขามีแต่ได้กับได้นะ มีทั้งคนที่ทำงานบ้านให้ หาเงินให้ มีคนให้เอาไว้ซั่มด้วย
แล้วการที่คุณเป็นข้าราชการ เงินเดือนอาจจะไม่มาก แต่สวัสดิการหลายๆ อย่างก็มี
เขามีแต่ได้กับได้ ส่วนคุณ จขกท มีแต่เสีย เสียตัว เสียเงิน เสียเวลา เสียใจ เสียสุขภาพจิตนะ
ความคิดเห็นที่ 4
คะคงต้องแยกตัวออกแล้วกลับไปอยู่บ้านตัวเองเพราะเหนื่อยมาก แรกๆพยายามทำความเข้าใจ เพราะอยากเป็นผญ.ที่ทำงานได้ทั้งในบ้านและนอกบ้าน แต่พอเอาเข้าจริงๆคือมันเหนื่อยมาก แอบคิดแว้บนึงเหมือนสามีเป็นภาระ
  ตอนแรกที่เค้าเอาเงินให้ญาติก็แอบเห็นใจสามีอยู่นะคะเพราะพ่อแม่สามีเสียหมดตั้งแต่สามียังเด็ก แล้วเค้าอยู่และโตมากับยาย โดยแวดล้อมด้วยน้าชายอีก 3 คน เลยมองว่าสามีกตัญญูดีจัง  แต่พอมาแต่งงาน รู้เลยว่าน้าๆเค้ามาหวังผลประโยชน์กับสามี ยืมเงินบ้าง ให้ค้ำนู้นนี่นั่นบ้าง ที่ดินของแม่สามีที่เคยซื้อไว้ก่อนแม่เสีย น้าๆก็เอาไปจำนอง เตือนสามีเค้าก็ไม่ฟังเรา เราพูดสามีก็มองว่าเราไปดูถูกญาติเค้า บางทีเราก็รู้สึกเสียใจไม่น่าแต่งงานเลย ไม่คิดว่าคนที่เรารู้จักมา 7 ปี จะเปลี่ยนไปในเวลาแค่ไม่กี่เดือนที่เราแต่งงานเป็นสามีภรรยากัน
ความคิดเห็นที่ 51
จาก คห ที่ 7 ที่ข้างบนนะฮะ

______

จขกท ต้องเข้มแข็งเด็ดเดี่ยวให้มากๆ นะ อย่าอ่อนแอเด็ดขาด

คุณต้องพาชีวิตของตนเองออกมาจากการจมอยู่กับคนแบบนี้

คุณไม่ต้องแอบเศร้าแบบที่บอกใน คห 49 หรอกนะ

แต่คุณควรจะดีใจมากกว่า ที่จะได้หลุดพ้น

เวลาจะช่วยคุณเอง จงไปออกกำลังกาย ทำสมาธิ บำเพ็ญประโยชน์ให้สังคม และ ผู้ที่ด้อยโอกาส
หรือ ออกท่องเที่ยว พักผ่อนหย่อนใจ

หรือ หางานอดิเรกที่เป็นงานฝีมือทำแจกทำขาย หรือ ทำอาหาร ทำขนมแจกทำขาย
มันจะช่วยให้คุณมีเป้าหมายอื่นๆ ในชีวิต มีงานยุ่งที่ต้องทำจนไม่มีเวลามาเศร้า
และ มีรายได้เพิ่มพูนด้วย หรือ มีคนมาชื่นชมยินดีที่คุณทำงานฝีมือเก่ง ทำอาหารเก่ง ทำขนมเก่ง

หาสิ่งดีๆ ที่ทำให้ตนเองมีแต่ความก้าวหน้า ความภาคภูมิใจทำนะ มันจะเป็นยาชูกำลังใจชั้นดีเลยแหละ

คนเราหน่ะ จิตใจสำคัญมากนะ ใจต้องดี จิตต้องคิดดี ต้องมีเมตตา
เมื่อจิตใจดี หน้าตาจะผ่องใส สวยงาม แววตามีความสุข

คนเราต้องมองโลกในแง่ดีเสมอ แต่ห้ามโลกสวยเด็ดขาดนะ ต้องมองโลกอย่างมีสมอง ใช้เหตุผลมอง
ความคิดเห็นที่ 2
ไม่คะ 2 ปีที่อยู่ด้วยกัน เค้าช่วยเราทำทุกอย่าง พอหลังแต่งงานเค้าไม่ทำอะไรเลย เงินเดือนเค้าก็เอาไปให้ญาติพี่น้องเค้าหมด ปัจจุบันใช้เงินเดือนเราฝ่ายเดียว
ความคิดเห็นที่ 28
อยากบอกให้คุยกันแต่เหมือนคุณก็พยายามคุยแล้วแต่เขาไม่สน เขาอยู่กับคุณมีแต่ได้ คุณมีแต่เสีย ถ้าเขาไม่ยอมปรับก็ออกมาดีกว่าค่ะ
ค่อยเฟดๆตัวออกมาก็ได้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ขอให้เรื่องแก้ไขได้ไม่มีปัญหาอะไรนะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่