[หนังโรงเรื่องที่ 242] Destination Wedding: ร้ายนะ แต่ก็น่ารักดี by ตั๋วหนังมันแพง


[หนังโรงเรื่องที่ 242] Destination Wedding: ร้ายนะ แต่ก็น่ารักดี
คะแนนความชอบ : A (จากสเกล D-A)

(Victor Levin, 2018)
by ตั๋วหนังมันแพง

*ไม่มีการสปอยล์เนื้อเรื่องสำคัญ

เรื่องย่อ: เมื่อหนุ่มสาวนิสัยโคตรขวางโลกสองคนอย่าง "แฟรงค์" (Keanu Reeves) และ "ลินซีย์" (Winona Ryder) ต้องไปร่วมงานแต่งงานเดียวกัน ณ บ้านนอกอันไกลโพ้นเพื่อสนองนี้ดของบ่าวสาว

แฟรงค์ต้องไปเผชิญหน้ากับครอบครัวที่เขาไม่สะดวกใจที่จะพบ และลินซีย์ก็ต้องทำใจไปแสดงความยินดีอดีตคู่หมั้นที่เคยทิ้งเธอไปเมื่อหลายปีก่อน การเดินทางสุดกระอักกระอ่วนจึงเริ่มขึ้น กลายเป็นความโรแมนติกฉบับเพี้ยนๆ ของทั้งสองคน

👍  จุดที่ชอบ 👍


1.จุดขายของหนังคือ "ความตลกร้าย" และ "มุกเสียดสี-ดัน" แบบอเมริกันที่มาแบบจัดหนักมากกกกกกกกกก อาจจะพูดได้ว่ามากเกินไปนิดด้วยซ้ำ

คือต้องเข้าใจก่อนว่าหนังเรื่องนี้มันแทบไม่มีอะไรเลยนะ นอกจากฉากที่พระเอกกับนางเอกคุยกันสองคนเท่านั้น มีแค่นี้จริงๆ กล้องจะไม่โฟกัสสิ่งแวดล้อมหรือคนอื่นเลย มันจึงเป็นหนังพูดส่งอารมณ์ล้วนๆ ที่ค่อนข้างเก๋ในสไตล์ของมัน

2.จังหวะของการเดินเรื่องมาในลักษณะ "ช้าแต่ชัวร์" ด้วยเทคนิคเหมือนแบ่งเป็นบทในหนังสือ หนังจะค่อยๆ ใช้เวลาพาเราไปรู้จักกับตัวเอกทั้งสองผ่านบทพูดโคตรเยอะเหมือนดังที่กล่าวไว้ข้างต้นโดยมีนิสัยขวางโลกสุดโต่งของทั้งคู่มันเป็นเงื่อนไขพิเศษ

ดังนั้นผมเลยคิดว่า relationship ของสองคนนี้มันเป็นอะไรที่เราไม่คุ้นเคยพอสมควร มันเป็นการ match ในลักษณะ "ผีเน่ากับโลงผุ" ที่โคตรจะน่ารักเลย

3.ความฮาที่แท้จริงมันแฝงอยู่ในบทพูดนี่แหละ ขอนับถือเลยที่คนเขียนบทสรรหา Sarcasm มาร้อยเรียงเป็นบทพูดยาวยืดขนาดนี้ได้ยังไง แถมการแฝงความหมายเชิงสัญลักษณ์ (Symbolic) ก็ยังเพียบ ชนิดที่ว่าแทบจะทุกฉาก ทุกนาทีล้วนมีความหมายแฝงหมด (เอาจริงๆ ผมก็เก็บไม่หมดหรอก)

4.ในฐานะที่เป็นแฟนของคีอานู รีฟส์ก็ต้องขอบอกว่าเป็นภาพที่เซอร์ไพรส์พอสมควร คือสภาพพี่แกเหมือนใน John Wick เดี๊ยะ (คาดว่าคงถ่ายพร้อมๆ กัน)

แต่ไอ้ตัวพฤติกรรมถ่อยๆ ฮาๆ ของตัวละครที่มันขัดกับความทรงจำของเรามันก็ฮาเอาเรื่อง เราจะได้เห็น "จอห์น วิก" ใส่บอกเซอร์นั่งดูทีวีพลางขากเสมหะในลำคองี้ เป็นการฉีกบทบาทที่น่าสนใจเหมือนกัน

👎 จุดที่ไม่ชอบ 👎


1.ก็อย่างที่พูดไปแต่แรกว่าหนังมันพูดเยอะ พูดอย่างเดียว มันเลยมีบางช่วงที่เกิดความรู้สึก "อืด" พอสมควร คือมันก็ยากแหละที่จะให้ dialog เพียวๆ แบกหนังได้ทั้งเรื่องให้หมดจดขนาดนั้น ถ้ามีซีนให้พักอารมณ์บ้างก็คงดีไม่น้อย

2.มุกตลกร้ายแบบอเมริกันก็อาจจะเป็นดาบสองคม เพราะมุกหลายอันมันเป็นมุกภาษาอังกฤษที่อาจไม่ friendly กับผู้ดูทุกกลุ่ม

แถมซับไตเติ้ลมันยังรันโคตรเร็ว ขนาดผมว่าชินๆ แล้วยังมีตาลายบ้าง แถมบางมุกมันก็เป็น Pun ที่ทำงานไม่ได้ในฉบับภาษาไทยด้วย ต้องเตรียมตัวเตรียมใจไปให้พร้อมเลย

✔ สรุป ✔


Destination Wedding เป็นหนังที่มีสไตล์ตัวเองเด่นชัดมากๆ เป็นการดำเนินเรื่องที่โคตรตามใจฉัน และด้วยความสุดโต่งนี้คุณอาจจะชอบหนังเรื่องนี้หรือาจจะเกลียดไปเลยก็ได้

แต่ก็โชคดีที่ในสัปดาห์นี้มันไม่มีหนังแรงๆ มาเป็นคู่แข่งเลย เอาเป็นว่าถ้าคุณมีเวลาว่างอยากเข้าโรงหนังก็ขอแนะนำให้ไปสัมผัสความร้ายๆ ของพระนางคู่นี้กันครับ

#ตั๋วหนังมันแพง

ถูกใจรีวิวก็สามารถมาแสดงความคิดเห็นและกดไลค์ + แชร์ เพื่อสนับสนุนเพจได้ครับ: https://www.facebook.com/expensivemovie/
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่