แชร์ประสบการณ์หลอนๆแปลกๆในบ้านเช่าหลังนึง

อมยิ้ม01 สวัสดีครับเพื่อนๆผมตั้งกระทู้นี้เป็นกระทู้แรกการเขียนอาจจะแปลกๆไปหน่อยนะครับ เพิ่งรู้เหมือนกันว่าเขียนเล่าจะยากขนาดนี้
เรียบเรียงให้เป็นเรื่องราวๆ อ่านง่ายๆ ยากมาก อ่านอาจจะไม่อินสำหรับบางคนเนื่องจากไม่ได้ปรุงคำเท่าไหร่ครับ
ผมเคยอื่นประสบการณ์เรื่องพวกนี้จากเพื่อนๆพี่ๆคนอื่นๆมาหลายครั้งแล้ว
มีความคิดว่าอยากเล่าเรื่องที่เจอมาเองบ้างมาหลายครั้งเป็นระยะเวลาที่นานก็ยังไมได้เขียนสักที
วันนี้ ฤกษ์งามยามดีมีเวลาแล้วเลยขอเอาสักหน่อยแล้วกัน เหมือนมันคาใจมาตลอด
****ย้ำก่อนว่าเรื่องราวทั้งหมดเป็นเรื่องจริง ไม่แต่งอะไรเพิ่มเติมเลย****

เรื่องราวเกิดขึ้นประมาณ 10 - 15 ปีที่แล้วครับ ตอนนั้นผมอยู่ประถมตอนปลายซึ่งเป็นวัยเด็กที่รับรู้และแยกแยะความจริงได้ระดับนึงแล้ว
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่บ้านหลังหนึ่งครับ ซึ่งเป็นบ้านที่เป็นห้องแถวขนาดใหญ่ 2 ชั้นทำเลค่อนข้างดี ตั้งอยุ่หน้าปากซอย
อยู่ติดถนนที่ใช้สัญจรเลยด้วย [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ท้าวความก่อนเลยก่อนหน้าจะมาอยู่บ้านหลังนี้ผมย้ายมาจากหาดใหญ่ครับ แม่เค้าย้ายกลับมาจังหวัดบ้านเกิด
ตอนนั้นเราหาบ้านใหม่กันจากเพื่อนๆคนรู้จักของแม่ มีบ้านหลังนึงที่ครอบครัวเราสนใจครับ คือบ้านหลังนี้แหละ
เนื่องจากเป็นบ้านหลังใหญ่เพิ่งสร้างใหม่ได้ไม่น่าน ราคาเช่าไม่แพงด้วย แถมในซอยยังมีเด็กๆรุ่นราวคราวเดียวกับผมและน้องอีกต่างหาก

วันที่เราไปดูบ้านก่อนจะย้ายเข้าไปอยู่กัน มองจากหน้าบ้านภายนอกสภาพดีมาก (บ้านเลขที่สวยด้วย เลขที่ 199)
มองเข้าไปในซอยจะมองเห็นเขาเล็กๆลูกนึงอยู่ท้ายหมู่บ้านครับ
หลังบ้านมีสนามเด็กเล่น และ มีต้นไม้ใหญ่ (เรียกชื่อไม่ถูก แต่มันมีลูกแบบเล็กๆ แบนๆ ตรงกลางนูนๆอ่ะครับ)
ข้างบ้านที่เป็นตึกแถวติดๆกันมีประมาณ 5-6 หลัง แต่ที่แปลกคือไม่มีคนอยู่เลย
เหมือนจะไว้เก็บของเท่าที่มองๆส่องไปจะเป็นพวกเก็บกล่องกระเบื้องอ่ะครับ
ซึ่งตอนนั้นเข้าใจว่าเป็นบ้านของคนที่ค่อนข้างมีฐานะ แล้วเค้าไว้เก็บของมากกว่า
พอเข้าไปในบ้านเปิดประตูเข้าไปจะเจอฟอร์นิเจอร์ที่ใหม่ ตกแต่งไว้ค่อนข้างดี แต่ปล่อยให้น้ำซึม (จากห้องน้ำจากท่อน้ำมั้งครับไม่แน่ใจ)
จนข้าวของเครื่องใช้เสียหายไปเยอะ
พื้นที่ปูกระเบื้องอย่างดีน้ำเปียกแบบชื้นๆ เต็มพื้นบ้านทั้งชั้น 1 และ 2 มีตะไคร่เขียวๆ เกาะนิดหน่อย ชั้น 2 หน้าห้องน้ำเจอใบเสร็จค่าตกแต่งด้วย
คือ ด้วยความเป็นเด็กตอนนั้นก็ยังสงสัยว่าทำไมเจ้าของบ้านปล่อยให้ข้าวของที่ราคาแบบนี้เสียหายไปแบบไม่เสียดายเลย
เข้าใจว่าพ่อกับแม่ก็สงสัยเรื่องนี้ แต่ด้วยที่บ้านตอนนั้นไม่เชื่อเรื่องพวกนี้เลย
ก็เลยคิดว่าเค้ามีบ้านอื่นอยู่แล้ว ไม่มีเวลามาอยู่ที่นี่ สร้างไว้เผื่อปล่อยเช่าแล้วไม่ได้ดูแล
พอตกลงเช่าเสร็จเราก็เริ่มทำความสะอาดบ้าน เอาของที่ใช้ไมได้แล้วไปทิ้ง ลงของใช้ใหม่กัน จนกระทั่งพร้อมอยู่

อ่ะเริ่มเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า...
วันที่ย้ายเข้าบ้าน เราจัดงานขึ้นบ้านใหม่กันด้วย มีการเชิญพระมาสวด จัดงานเลี้ยงกินข้าวกันในครอบครัวกับคนสนิท
ในวันนั้นตอนแรกคุณตาของผมจะนอนที่บ้านอยู่ๆ เกิดเปลี่ยนใจอยากกลับไปนอนบ้านซะงั้น เข้าใจว่าคนอายุเยอะแล้วเป็นห่วงบ้านมากกว่า
ในช่วงปีแรกที่อยู่บ้านหลังนี้ทุกอย่างก็ปกติไม่มีอะไรแปลกๆนะครับ
แต่..ช่วงหลังๆผมเริ่มฝันแปลกๆ ฝันว่าตื่นขึ้นมามีผู้หญิงคนนึงผมยาว ใส่ชุดคลุมสีขาวๆ เทาๆ ยาวๆ มานั่งตรงระเบียงดาดฟ้าหลังบ้าน
(หน้าต่างห้องผมจะอยุ่ทางซ้ายมือของเตียงนอน ซึ่งมองเห็นระเบียงดาดฟ้าพอดีครับ มีแสงจากเสาไฟในซอยทำให้สว่าง)
แล้วพอผมมองผู้หญิงคนนั้นผมก็กลัวนะ ก็เลย ล้มตัวลงนอนเพื่อหลบไม่ให้มองเห็นเค้า แต่เหมือนมีความรู้สึกว่าเตียงมันขยับ
ลืมตามาดูช้าๆ ปรากฎว่าเจอผู้หญิงคนนั้นแหละ อยู่ปลายเท้าพอผม นั่งหันหลังให้ผม ผมเห็นผมเค้ายาวจากหัวถึงเตียงผมเลย
ความรู้สึกตอนนั้นกลัวมาก ตกใจแบบสุดขีด ปิดตาแบบแรงๆ จากนั้นก็ลุกขึ้นมานั่งใหม่ โดยที่ไม่เห็นอะไร และไม่มีอะไรเกิดขึ้น
มีอาการกลัวแบบใจสั่นๆ ซึ่งเข้าใจว่ามันเป็นความฝัน ก็เลยหายกลัวแล้วก็นอนต่อ หลังจากนั้นฝันแบบนี้อาการแบบนี้ตลอดอาทิตย์ละ 1 - 2 ครั้ง

บางวันน้องผมมานอนห้องเดียวกับผม น้องเล่าว่าเมื่อคืนฝันร้าย ฝันว่าเจอผี ผมก็ฟังนะแต่ด้วยความเป็นเด็กในตอนนั้นคิดว่าฝันแบบนั้นเป็นเรื่องปกติ
และผมกับน้องอายุห่างกัน 4 ปีด้วย เลยไม่ได้ใส่ใจอะไรมากมาย

แต่...วันนั้น วันที่เป็นที่สงสัยสำหรับผมมาก เริ่มฉุกคิดขึ้นมา คุณยายผมมานอนด้วย คุณยายเล่าเรื่องที่ฝันให้แม่ฟังซึ่งตอนนั้นผมก็นั่งฟังอยู่ด้วย
ผมตอบสวนกลับไปในทันทีหลังจากที่ยายเล่าให้แม่ฟังเสร็จ "ฝันเหมือนผมเลยยาย ฝันแบบนี้หลายครั้งแล้ว"
ทั้ง 2 คนก็เงียบกันไปไม่ได้คุยอะไรกันต่อ ตอนนั้นผมได้แค่คิดใจในประมาณว่า เค้าไม่ได้สนใจอะไรที่เราเล่าให้เค้าฟังเพราะเป็นเรื่องปกติ
ผมปล่อยเรื่องนี้ไป แต่แค่มีความสงสัยว่า เวลาคนฝันเรื่องผีนี่จะฝันทำนองแบบนี้ตลอดเลยหรอ แต่จะถามใครหละ เอ้อ..

ระยะเวลาผ่านไป 2 ปี ทุกอย่างเป็นไปแบบปกติครับ ไม่ได้มีเรื่องแปลกๆ แบบทุกวันแต่ก็จะมีมาบ้างเวลาฝัน
แต่..วันนั้น ยังจำได้ดี วันที่ผมเริ่มคิดว่าทุกอย่างไม่ปกติแล้ว เริ่มกลัวและไม่ไว้ใจเวลาอยู่บ้านหลังนี้คนเดียว หรือ ตอนมืดๆ
ตอนนั้นประมาณ 2 ทุ่ม เป็นวันที่พ่อกับแม่ไม่อยู่ อยู่กับน้อง 2 คน ผมกับน้องทะเลาะกันตามประสาเด็กๆผู้ชาย น้องวิ่งออกจากห้องผมลงไปชั้นล่าง แล้วเคาะอะไรสักอย่าง เสียงดังมาก
ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง เสียงดังอยู่อย่างนั้นเหมือนกวนประสาทผม ด้วยความคิดที่จะไปแกล้งกลับให้ได้จึงเดินลงบันไดตามไป
มองไปในครัวที่มาของต้นเสียงนั้นปิดไฟอยู่ แต่ไฟจากถนนหน้าบ้านเข้ามาทำให้มองเห็นได้อย่างชัดเจนพอดี
เสียงดังมากจากตู้เย็นครับ คาดว่าน้องผมน่าจะแอบอยู่ฝั่งนึงของตู้เย็นแล้วเคาะดังๆ เลยคิดในใจว่าจะแบบ จะย่องไปจ๊ะเอ๋ให้ตกใจเล่นๆ
ผมค่อยๆย่องไปช้าๆ ในความคิดสลัวๆ นั่นแหละ น้องยังเคาะตู้เย็นต่อไป ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง แล้วดังขึ้นเรื่อยๆ ผมยังจำเสียงได้อยู่เลย
พอได้จังหวะเหมาะๆ ผมเลยกระโดดเข้าไปแล้วจ๊ะเอ๋ดังๆ เพื่อให้ตกใจ แต่ปรากฎภาพที่ผมเห็นคือความว่างเปล่า ไม่มีน้องผม
และเสียง ปังๆ ดังๆ นั้น หายเงียบไป ทุกอย่างเงียบ เงียบไปหมด เงียบจนผม งง และ เริ่มได้สติ จากนั้นผมตกใจมากด้วยความกลัวจากสัญชาตญาณ
รีบวิ่งขึ้นไปข้างบน กลับเข้าห้องไป ภาพที่เห็นคือน้องผมเดินออกจากห้องน้ำ ถามว่าผมจะรีบไปไหน
ผมถามไปอย่างเร็ว "เมือกี้ไมได้ลงข้างล่างหรอ" น้องตอบกลับมา "มาเข้าห้องน้ำ ไม่ได้ลงไป " น่าท่าทางที่มองผมด้วยความสงสัย แล้วเดินเข้าห้องผมไปต่อ
ผมเดินเข้าห้องตามด้วยความกลัวแบบแปลกๆ อธิบายไม่ถูก แต่ผมรู้แล้วว่ามันคือความไม่ปกติอย่างแน่นอน

หลังจากวันนั้นเกิดเรื่องแปลกๆ เกิดขึ้นมากมาย ที่เกิดขึ้นกับตัวผมและคนในบ้าน เด๊ยวจะทะยอยเล่าทีละเรื่องนะครับ นึกตอนนี้นึกไม่หมด
เอาเรื่องเบาๆ ก่อน  เริ่มจากของผมแล้วกัน
วันนั้น 3 ทุ่มได้ผมลงมาในครัวเพื่อหาน้ำกิน ระหว่างเดินผ่านบันไดลงมา มองไปหน้าบ้าน เจอรถจอดอยู่ มีแม่นั่งอยู่ในรถตรงข้างคนขับ
มองเดินจนถึงตู้เย็นเปิดเอาขวดน้ำออกมา ระหว่างเอาขวดน้ำไปวางบนเคาวเต้อร์ (เขียนไงวะ - -*) นั้น เสียงโทรศัพท์บ้านก็ดังขึ้นมา (สมัยนั้นใครๆก็ใช้โทรศัพท์บ้านกันทั้งนั้นแหละ)
ผมวางแก้วลง แล้วเดินไปรับสาย เสียงแม่โทรเข้ามา "ปิดบ้านล็อคประตูให้เรียบร้อยนะ คืนนี้พ่อกับแม่กลับดึก" สิ้นเสียงก็วางสายไป
ผมยืนมองโทรศัพท์ด้วยความ งง อ้าว แม่อยู่หน้าบ้านแล้วนี่ แล้วทำไมถึงโทรบอกว่ายังไม่กลับ หรือแม่มาแล้วไม่เข้าบ้าน ออกไปก่อนอีกรอบ
แต่ตอนนั้นรู้อยุ่แก่ใจแล้วว่ามันไม่ปกติ เลยมีความกลัวๆนิดหน่อย วางโทรศัพท์กลับไป แล้วรีบเดินขึ้นกลับมาข้างบนทั้งๆที่ยังไม่ได้กินน้ำ
ระหว่างเดิน มองออกไปหน้าบ้าน เห็นรถ แต่ไม่เห็นคนอยู่ในรถแล้ว กลับขึ้นไปนอนบนเตียงด้วยอาการไตร่ตรองและคิดกลัวๆ อยู่ตลอด
**ไม่ใช่แค่ผมที่เจอเหตุการณ์แบบนั้น พ่อผมเล่าให้แม่ฟังบนโต๊ะกินข้าว
ว่า"วันนั้นพ่อกลับมาจากเข้าเวรที่กองร้อยตอนดึกๆ เดินผ่านรถเจอแม่นั่งอยู่ในรถ เลยเดินเข้าไปเปิดประตู
ประตูล็อค พ่อเลยก้มหน้ามองที่จับประตูแล้วโยก มองเข้าไปในรถใหม่อีกรอบ ไม่มีใครอยุ่ในรถแล้ว" ซึ่งพ่อคิดว่าง่วงนอนแล้วอาจจะเบลอ ผมได้ยินแบบนั้นนึกในใจเลยว่าทำไมเจอคล้ายๆผม
แต่ผมก็ไมได้บอกอะไรไปตอนนั้นนะ นั่งฟังเงียบๆ แล้วกินข้าวไป

ข้ามๆ ขอข้ามเรื่องเบาๆดีกว่านึกไม่ออก เดี๊ยวนึกออกจะมาเล่าเพิ่มให้นะครับ
เล่าข้ามไป เหตุการณ์ที่ทำให้พ่อและแม่ผมเริ่มคิด และ รับรู้เหตุการณ์เหมือนผมบ้างดีกว่า
วันนั้นพ่อกับแม่นอนอยุ่ในห้องครับ ช่วงบ่ายโมงกว่าๆ ย้ำบ่ายกว่าๆ ยังสว่างเปรี้ยงๆ
พ่อแม่เล่าว่า อยู่ๆ ได้ยินเสียงลูกบิดประตูเปิดประตูเข้ามา แม่มองไปที่ประตูไม่มีใคร คิดว่าลมพัดจนประตูเปิด แต่........................
ได้ยินเสียงเท้า แบบเดินกระแทกเท้าแต่ไม่ดังมากค่อยๆเดินตรงมายังที่นอน ที่พ่อกับแม่นอนอยู่
วันนั้นพ่อกับแม่กลัวกันมากแบบมันชัดเจนมากๆ ชัดแบบไม่ต้องคิดมโนอะไรไปเองเลย

ก็อยู่ต่อไปแบบไมได้ย้ายออกนะครับ แค่ทุกคนรู้ว่าที่บ้านเรามีอะไรแปลกๆ แน่นอนทำบุญบ้านทุกปีด้วย
แต่เศษฐกิจของที่บ้านแย่ลง เหมือนทำอะไรไม่ค่อยขึ้น ปัญหาครอบครัวก็มีมากขึ้น เดี๊ยวนั่นเดี๊ยวนี่ไม่หยุด (อันนี้ไม่แน่ใจว่าเกี่ยวมั้ยนะครับ)
จะย้ายบ้านก็ย้ายไม่ได้ เพราะไปที่ไหนก็แพง ค่าใช้จ่ายก็คงไม่ไหว
แถมเหตุการณ์แปลกๆ เกิดหนักขึ้นๆ หนักขึ้นแบบผมเคยได้รับอันตรายด้วย ยังจำได้ดีเลย
เดี๊ยวจะมาเล่าให้ฟังต่อนะครับ รบกวนอ่านแล้วช่วยคอมเม้นหน่อยว่า อ่านเข้าใจรึเปล่า ผมต้องเพิ่มอะไรอีก หรือ ติชมกันได้ครับ
จะได้ลองปรับปรุงเปลี่ยนแปลงการเขียนครั้งต่อไป

อัพเดท อมยิ้ม03
05/09 เขียนต่อแล้วนะครับ ในคอมเม้นท์ข้างล่าง
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่