คือผมก็เป็นผู้ชายสามัญทั่วไปแต่งงานแล้วแต่ยังไม่มีลูกนะครับ ระยะหลังเรามีปัญหากันค่อนข้างบ่อยบางเรื่องก็เป็นเรื่องไร้สาระ เวลาหงุดหงิดผมก็มักจะหนีเข้าฟิสเนสไปเล่นอะไรหนักๆให้เหงื่อมันออกเป็นการระบายอารมณ์เลยได้รู้จักเพื่อนคนนึงอายุก็รุ่นราวคราวเดียวกันซึ่งเค้าเองก็มีแฟนแล้ว(แฟนเป็นผู้หญิง) เค้าค่อนข้างอัธยาศัยดีเป็นคนติดตลกคือชอบทำอะไรให้ผมขำได้ตลอดเวลามันเลยทำให้เราสนิทกันได้เร็วจนรู้สึกว่าผมสามารถเล่าเรื่องของผมให้เค้าฟังได้ บางครั้งเวลาผมเครียดเค้าก็จะเข้ามาทักมาถามพอผมได้ระบายให้เค้าฟังเค้าก็มักจะมีคำแนะนำดีๆหรือเรื่องอื่นมาเล่าให้ฟังเพื่อเปลี่ยนอารมณ์ผมได้เสมอ มิตรภาพแบบนี้มันถูกพัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆจนเราสนิทกันมาก และผมก็รู้สึกดีมากเวลาได้เจอเค้าคืออยากจะเจอทุกวัน... จนเมื่อไม่นานนี้เค้ามาบอกผมว่าเค้ากำลังจะแต่งงาน ผมก็พูดแสดงความยิมดีกับเค้านะแต่ในใจมันตรงกันข้ามมันรู้สึกหวิวๆแบบบอกไม่ถูกคือถ้าคนเคยอกหักจะเข้าใจมันเป็นความรู้สึกแบบนั้นจริงๆ ผมก็เลยกลับมาคิดว่าผมกำลังชอบหรือรักเค้าอยู่หรือเปล่าแต่ยังไม่คิดถึงขั้นอยากจะมีอะไรกับเค้านะครับ แทนที่จะรู้สึกยินดีแต่ทำไมกลับรู้สึกเหมือนกำลังสูญเสียเค้าไปจะบอกความในใจก็คงไม่กล้ากลัวจะเสียมิตรภาพความรู้สึกมันขัดแย้งกันไปหมด เดี๋ยวนี้เวลาเจอเค้ามันเลยเหมือนมีปฏิกริยาโต้ตอบโดยอัตโนมัติทำให้ผมรู้สึกไม่กล้าที่จะคุยหรือเล่นกันเหมือนเมื่อก่อนทั้งที่อีกใจโคตรจะอยากซึ่งผลเกลียดความรู้สึกแบบนี้มาก...ไม่รู้จะหาทางออกยังไงดี นี้กำลังคิดว่าจะย้ายไปเล่นฟิสเนสอื่นเผื่ออะไรๆมันจะดีขึ้น T_T
แอบรู้สึกดีกับเพื่อนชายในฟิสเนสฯ