1.พื้นที่บ้าน
เช่น ผมอยู่ในห้องของผม มีคนเปิดประตูจากข้างล่าง ผมได้ยินเสียงประตู จิตผมแช่งขึ้นมาว่า ถ้าเปิดประตูเข้ามาตอนนี้ ขอให้........แว่บขึ้นมา ผมกำลังถอนคำสาปแช่ง ปรากฏว่าประตูปิดไปแล้ว ซึ่งผมไม่รู้ว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์จากข้างล่าง บริเวณหลังบ้านที่ปิดประตูไปแล้ว จะรับรู้การถอนคำสาปแช่งนั้นไหม
เพราะ ผมมีความรู้สึกว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในบ้านจะคุ้มครองแต่เฉพาะภายในบ้าน เช่น จิตเราแช่งในบ้านข้างบน เจ้ากรรมนายเวรเราอยู่หลังบ้าน
หรือภายในบ้าน แต่ละพื้นที่ในบ้าน มีจุดบูชาพระพุทธรูป อยู่ชั้นบน พระเครื่องอยู่ในห้องนึง ของขลังอยู่อีกห้อง ความเข้าใจของผมคือ พลังงานการรับรู้ของสิ่งศักดิ์สิทธิ์น่าจะมีความแตกต่างกัน เช่นพระพุทธรูป ที่อยู่ด้านบนนอกห้อง น่าจะมีพลังงานการรับรู้มากกว่าพระเครื่องในห้องที่อยู่ในลิ้นชัก
แล้วพอจิตผมแช่งส่งไป แล้วเจ้ากรรมนายเวรที่เราแช่ง เกิดออกจากห้องมาข้างล่างแล้ว ไปบริเวณส่วนอื่นในบ้านแล้ว แล้วพอผมจะถอนแช่ง ถึงในห้องที่เกิดเหตุการณ์แช่ง ซึ่งมีพระเครื่องอยู่ในห้องนั้น ซึ่งอาจมีพลังรับรู้แค่ในห้องนั้น แต่เจ้ากรรมนายเวรเราไม่อยู่ที่ในห้องนั้นแล้ว เวลาเราถอนคำสาป คำแช่ง เราต้องไปแก้ที่จุดที่เราแช่งโดยไม่ต้องสนใจเจ้ากรรมนายเวรว่าอยู่ตรงไหน หรือต้องรอให้เจ้ากรรมนายเวรไปอยู่ในห้องตำแหน่งเดิม แล้วถอนคำสาปแช่ง
สรุป จากเหตุการณ์ทั้งหมด ถ้าผมต้องการถอนคำสาปแช่งใหม่ ผมสามารถถอนได้เลยที่ห้องของผมที่ผมแช่ง หรือต้องรอให้จังหวะเจ้ากรรมนายเวร มาเปิดประตูอีกทีแล้วถอนใหม่ให้ทันก่อนปิดประตูอีกที
คำถามคือ เจ้ากรรมนายเวรที่เราไปแช่ง อยู่ตำแหน่งไหนในบ้าน มีผลต่อการรับรู้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ว่าให้ผลคำอธิษฐานตรงนั้นไหม
2. โทรทัศน์
เวลาดูโทรทัศน์ กับที่บ้าน แม้ส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยชอบดู แต่ก็ต้องให้เวลากับครอบครัว
เวลาทีวีมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ก็จะเกร็งอย่านะ อย่าหลุดคำแช่งออกมา ก็ทำได้บ้างไม่ได้บ้าง เวลาทำไม่ได้ผม ก็ต้องไปหาคลิปดูทีวีย้อนหลังเซฟมาถอนสาปแช่งใหม่ข้างล่าง หลังๆ ผมใช่วิธีหันหน้าหนี ก็ช่วยได้บ้างไม่ได้บ้าง
มีวิธีการแก้ปัญหาดีกว่านี้ไหมครับ
3. โทรศัพท์
เวลามีคนโทรศัพท์ ทั้งโทรเข้าโทรศัพท์มาหาผมตรงๆ หรือเห็นคนโทรศัพท์คุยกัน ผมมักมีความคิดว่า คนที่ปลายสายอาจอยู่ใกล้สิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือแขวนพระอยู่หรือเปล่า แล้วเวลาได้ยินคนปลายสาย บอกจะวางสาย ผมมักจะมีอาการเกร็งกลัวคำแช่งหลุดออกมา ถ้าถอนสาปแช่งทันก็ดีไป ถ้าไม่ทันนี้จะทำยังไงดีครับ ให้ไม่เครียดกังวลครับ
ใช้วิธีบอกกล่าวผ่านสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ว่าขอถอนคำสาปแช่งคนที่อยู่ปลายสาย คนนั้นได้หรือไม่ครับ
4. ตอนนี้อาการกลัวเริ่มลามมาลามจนถึงไม้กางเขน ตะกรุด คนที่ใส่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไปจนถึงภาพกราฟฟิครูปวัดแล้วครับ ถ้าเป็นภาพนิ่งก็ดีไปถอนสาปแช่งทันแน่ แต่ถ้าเป็นภาพเคลื่อนไหวในทีวี ก็อาจจะมีปัญหาอยู่บ้างครับ
5. ถ้าจิตผมสาปแช่งใคร เวลาถอนสาปแช่งแล้ว ผมต้องไปขออโหสิกรรมคนนั้นไหมครับ แม้ว่าเขาไม่รู้ว่าจิตผมแช่ง ถ้าอยู่ดีๆไปบอกขอโทษเขา คงแปลกๆ ใช้วิธีบอกกล่าวผ่านสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แผ่เมตตาแทนได้ไหมครับ
6. เรื่องที่ผมพิมพ์มาทั้งหมด ผมรู้ครับว่าเป็นเรื่องไร้สาระมาก แต่ผมยังปล่อยวางไม่ได้ครับ ผมหาข้อมูลมามีคนบอกว่าให้เจริญสติ ตอนนี้ผมก็ยังทำไม่ได้อยู่ดี ยังไม่สามารถปล่อยวางให้จิตเป็นผู้ดูอย่างเดียวได้ครับ เพราะ
ผมไม่แน่ใจว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์รับรู้ว่า จิตเราคิดไม่ได้ตั้งใจเป็นแบบนั้นได้หรือไม่ครับ
ผมรู้ครับว่า ผมเป็นโรค ocd ย้ำคิดย้ำทำ และได้ไปโรงพยาบาลแล้วครับ 2 แห่ง ผมก็ได้รับคำตอบที่ให้ปล่อยวาง ออกกำลัง ซึ่งผมก็ทำอยู่ครับ แล้วก็ได้ยามากิน แต่คำตอบนอกเหนือจากนั้น หมอที่ฟังเรื่องของผม ก็ตอบคำถามที่ผมยังติดอยู่ทั้งหมดที่พิมพ์มาไม่ได้ครับ คือเอาจริงๆไปโรงบาลคือได้ยามากินครับ นอกนั้นผมต้องหาทางทำยังไงกับชีวิตต่อดี
ใครพอจะมีคำตอบข้อไหน ที่ช่วยให้ผมสบายใจได้มากขึ้น ผมก็ขอบคุณมากไว้นะโอกาสนี้ ถือว่าช่วยผมเอาบุญนะครับ
ขอบคุณครับ ขอบคุณที่ทนอ่านครับ
เรื่องของ จิต การสาปแช่ง วิตกจริต ผมจะแก้ไขปัญหาจากสถานการณ์ในชีวิตประจำวันเหล่านี้อย่างไรครับ
เช่น ผมอยู่ในห้องของผม มีคนเปิดประตูจากข้างล่าง ผมได้ยินเสียงประตู จิตผมแช่งขึ้นมาว่า ถ้าเปิดประตูเข้ามาตอนนี้ ขอให้........แว่บขึ้นมา ผมกำลังถอนคำสาปแช่ง ปรากฏว่าประตูปิดไปแล้ว ซึ่งผมไม่รู้ว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์จากข้างล่าง บริเวณหลังบ้านที่ปิดประตูไปแล้ว จะรับรู้การถอนคำสาปแช่งนั้นไหม
เพราะ ผมมีความรู้สึกว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในบ้านจะคุ้มครองแต่เฉพาะภายในบ้าน เช่น จิตเราแช่งในบ้านข้างบน เจ้ากรรมนายเวรเราอยู่หลังบ้าน
หรือภายในบ้าน แต่ละพื้นที่ในบ้าน มีจุดบูชาพระพุทธรูป อยู่ชั้นบน พระเครื่องอยู่ในห้องนึง ของขลังอยู่อีกห้อง ความเข้าใจของผมคือ พลังงานการรับรู้ของสิ่งศักดิ์สิทธิ์น่าจะมีความแตกต่างกัน เช่นพระพุทธรูป ที่อยู่ด้านบนนอกห้อง น่าจะมีพลังงานการรับรู้มากกว่าพระเครื่องในห้องที่อยู่ในลิ้นชัก
แล้วพอจิตผมแช่งส่งไป แล้วเจ้ากรรมนายเวรที่เราแช่ง เกิดออกจากห้องมาข้างล่างแล้ว ไปบริเวณส่วนอื่นในบ้านแล้ว แล้วพอผมจะถอนแช่ง ถึงในห้องที่เกิดเหตุการณ์แช่ง ซึ่งมีพระเครื่องอยู่ในห้องนั้น ซึ่งอาจมีพลังรับรู้แค่ในห้องนั้น แต่เจ้ากรรมนายเวรเราไม่อยู่ที่ในห้องนั้นแล้ว เวลาเราถอนคำสาป คำแช่ง เราต้องไปแก้ที่จุดที่เราแช่งโดยไม่ต้องสนใจเจ้ากรรมนายเวรว่าอยู่ตรงไหน หรือต้องรอให้เจ้ากรรมนายเวรไปอยู่ในห้องตำแหน่งเดิม แล้วถอนคำสาปแช่ง
สรุป จากเหตุการณ์ทั้งหมด ถ้าผมต้องการถอนคำสาปแช่งใหม่ ผมสามารถถอนได้เลยที่ห้องของผมที่ผมแช่ง หรือต้องรอให้จังหวะเจ้ากรรมนายเวร มาเปิดประตูอีกทีแล้วถอนใหม่ให้ทันก่อนปิดประตูอีกที
คำถามคือ เจ้ากรรมนายเวรที่เราไปแช่ง อยู่ตำแหน่งไหนในบ้าน มีผลต่อการรับรู้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ว่าให้ผลคำอธิษฐานตรงนั้นไหม
2. โทรทัศน์
เวลาดูโทรทัศน์ กับที่บ้าน แม้ส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยชอบดู แต่ก็ต้องให้เวลากับครอบครัว
เวลาทีวีมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ก็จะเกร็งอย่านะ อย่าหลุดคำแช่งออกมา ก็ทำได้บ้างไม่ได้บ้าง เวลาทำไม่ได้ผม ก็ต้องไปหาคลิปดูทีวีย้อนหลังเซฟมาถอนสาปแช่งใหม่ข้างล่าง หลังๆ ผมใช่วิธีหันหน้าหนี ก็ช่วยได้บ้างไม่ได้บ้าง
มีวิธีการแก้ปัญหาดีกว่านี้ไหมครับ
3. โทรศัพท์
เวลามีคนโทรศัพท์ ทั้งโทรเข้าโทรศัพท์มาหาผมตรงๆ หรือเห็นคนโทรศัพท์คุยกัน ผมมักมีความคิดว่า คนที่ปลายสายอาจอยู่ใกล้สิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือแขวนพระอยู่หรือเปล่า แล้วเวลาได้ยินคนปลายสาย บอกจะวางสาย ผมมักจะมีอาการเกร็งกลัวคำแช่งหลุดออกมา ถ้าถอนสาปแช่งทันก็ดีไป ถ้าไม่ทันนี้จะทำยังไงดีครับ ให้ไม่เครียดกังวลครับ
ใช้วิธีบอกกล่าวผ่านสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ว่าขอถอนคำสาปแช่งคนที่อยู่ปลายสาย คนนั้นได้หรือไม่ครับ
4. ตอนนี้อาการกลัวเริ่มลามมาลามจนถึงไม้กางเขน ตะกรุด คนที่ใส่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไปจนถึงภาพกราฟฟิครูปวัดแล้วครับ ถ้าเป็นภาพนิ่งก็ดีไปถอนสาปแช่งทันแน่ แต่ถ้าเป็นภาพเคลื่อนไหวในทีวี ก็อาจจะมีปัญหาอยู่บ้างครับ
5. ถ้าจิตผมสาปแช่งใคร เวลาถอนสาปแช่งแล้ว ผมต้องไปขออโหสิกรรมคนนั้นไหมครับ แม้ว่าเขาไม่รู้ว่าจิตผมแช่ง ถ้าอยู่ดีๆไปบอกขอโทษเขา คงแปลกๆ ใช้วิธีบอกกล่าวผ่านสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แผ่เมตตาแทนได้ไหมครับ
6. เรื่องที่ผมพิมพ์มาทั้งหมด ผมรู้ครับว่าเป็นเรื่องไร้สาระมาก แต่ผมยังปล่อยวางไม่ได้ครับ ผมหาข้อมูลมามีคนบอกว่าให้เจริญสติ ตอนนี้ผมก็ยังทำไม่ได้อยู่ดี ยังไม่สามารถปล่อยวางให้จิตเป็นผู้ดูอย่างเดียวได้ครับ เพราะ
ผมไม่แน่ใจว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์รับรู้ว่า จิตเราคิดไม่ได้ตั้งใจเป็นแบบนั้นได้หรือไม่ครับ
ผมรู้ครับว่า ผมเป็นโรค ocd ย้ำคิดย้ำทำ และได้ไปโรงพยาบาลแล้วครับ 2 แห่ง ผมก็ได้รับคำตอบที่ให้ปล่อยวาง ออกกำลัง ซึ่งผมก็ทำอยู่ครับ แล้วก็ได้ยามากิน แต่คำตอบนอกเหนือจากนั้น หมอที่ฟังเรื่องของผม ก็ตอบคำถามที่ผมยังติดอยู่ทั้งหมดที่พิมพ์มาไม่ได้ครับ คือเอาจริงๆไปโรงบาลคือได้ยามากินครับ นอกนั้นผมต้องหาทางทำยังไงกับชีวิตต่อดี
ใครพอจะมีคำตอบข้อไหน ที่ช่วยให้ผมสบายใจได้มากขึ้น ผมก็ขอบคุณมากไว้นะโอกาสนี้ ถือว่าช่วยผมเอาบุญนะครับ
ขอบคุณครับ ขอบคุณที่ทนอ่านครับ