ออกตัวก่อนว่าเราทำงานบริษัทที่ให้เช่า Pocket WiFi อยู่บริษัทหนึ่ง และคำถามนี้เป็นคำถามที่ลูกค้าถามเข้ามากันเยอะมาก "ไปญี่ปุ่นใช้ Pocket WiFi หรือ ซิมการ์ด ดีกว่ากัน?" ช่วยพี่เลือกหน่อย ช่วยพี่ตัดสินใจหน่อย กระทู้นี้เลยอยากถามความคิดเห็นของคนที่เคยใช้ Pocket หรือ Simcard คุณคิดว่าอะไรดีกว่ากันคะ? ใช้แล้วมีข้อดี ข้อเสียยังไง แสดงความคิดเห็นกันเข้ามาได้นะคะ ซึ่งข้อมูลในส่วนนี้เราอยากเก็บไว้เพื่อพัฒนาการให้บริการของเรา หรือ บริษัทอื่นต่อไป
และนี่คือความคิดเห็นส่วนตัวจากประสบการณ์ตรงที่เคยเอาไปใช้ทั้ง 2 แบบ เอาลงไว้ เผื่อจะมีประโยชน์สำหรับคนที่กำลังเดินทางไปแต่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกใช้อะไรดี
Pocket WiFi จะเด่นกว่าตรงที่ความเร็ว คือต้องยอมรับว่าของเค้าแรงจริงๆ ดูหนัง ฟังเพลง Call LINE กลับไทย ไม่มีสะดุด พระเอกสำหรับคนที่เดินทางเป็นกรุ๊ปตลอดกาล เพราะเครื่องเดียวแชร์ใช้งานกันได้หลายคน แถมไม่ต้องตั้งค่าอะไร พอไปถึง เปิดเครื่อง ใส่รหัสผ่าน ก็ใช้งานได้เลย (นึกไม่ออก ให้นึกถึงตอนเชื่อมต่อ wifi บ้านนะคะ) ระยะห่างที่สัญญาณครอบคลุมก็ประมาณ 10 เมตร ห่างกว่านั้น สัญญาณหายค่ะ แชร์ใช้ข้ามห้องไม่ได้
ข้อเสียของ pocket ก็มี เช่น ในเรื่องของการยืม - คืน ต้องให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่แบบชัดเจนพอสมควร ให้ข้อมูลพลาด จำวันเดินทางผิด ชีวิตเปลี่ยนเลยนะคะ อีกเรื่องที่สำคัญคือเวลาพกออกไปข้างนอกเท่ากับพกทอง 1 บาท ถ้าทำหาย หรือ ทำตกน้ำ ตกพื้น และไม่ได้ทำประกันไว้ จ่ายหนักเอาเรื่องเหมือนกัน
อีกอย่างที่รู้สึกว่ามันเป็นปัญหามากสำหรับเรา คือ Pocket WiFi ถึงแบตจะอึดก็จริง แต่เวลาที่แบตใกล้หมด เราก็ต้องชาร์ท ไหนจะมือถือเราอีก เกิดหมดพร้อมกันขึ้นมาแล้ว Power Bank มีแค่อันเดียวเนี่ย ปัญหาชีวิตมาก อารมณ์อยากเก็บเธอไว้ทั้งสองคนก็มา.... มี wifi ไม่มีมือถือ มีมือถือไม่มี wifi ก็เหมือนชีวิตขาดอะไรไป
……………………………………………………………………………………..
Simcard เหมาะกับคนที่อยู่แบบพอเพียง (555) เพราะถึงบาง package เน็ตจะ Unlimit แต่ไม่ใช่ว่าจะใช้ได้ตามใจอยาก คนที่เคยใช้ Pocket และลองเปลี่ยนมาใช้ซิมจะเข้าใจความรู้สึกนี้ดี คือไม่ช้ามากแต่ก็ไม่เร็วแบบว๊าววววว ความรู้สึกจะแตกต่างจากตอนใช้ Pocket แบบชัดเจน upload file ก็แบบ…..มีนั่งท้าวคางรอแป๊ปนึง ยิ่งเวลาช่วงเช้าไปทำงาน พักเที่ยงคนเบรค เลิกงานคนกลับบ้าน พูดง่ายๆว่า เวลาที่มีคนใช้พร้อมกันเยอะๆนี่ บางทีก็มีหงุดหงิดบ้างเหมือนกัน แต่หลังสี่ทุ่มครึ่งไปแล้ว ดูหนัง ดูละคร โทรหาที่บ้าน ได้แบบลื่นนนนมากกกก
พูดถึงข้อเสียมาเยอะแล้ว มาที่ข้อดีของซิมกันบ้าง ก็อย่างที่บอกซิมการ์ดเหมาะกับคนที่ เน้นความคล่องตัว ไม่ได้ต้องการความเร็วแบบว๊าววววว เล่น Socail บ้าง โทร LINE กลับไทยบ้าง และไม่มีความจำเป็นต้องดาวโหลดไฟล์หนักๆ ใช้ค้นหาเส้นทาง ค้นหาข้อมูล Google Map, Google Translate บอกเลยว่าเลือกใช้ซิมเถอะ คุณคิดไม่ผิดหรอก เพราะคุณจะไม่ต้องพกอุปกรณ์เยอะ แบตมือถือหมดก็ใช้ Power bank กับมือถือของคุณอย่างเดียว ดูแลแค่มือถือคุณอย่างเดียว ทำเครื่องหายอย่างมากก็เจ็บใจตัวเอง แต่ไม่ต้องจ่ายค่าปรับให้ใคร
สำหรับคนที่อยากแชร์เน็ตให้คนข้างๆใช้ คือต้องอธิบายก่อนว่า Spec Sim สามารถแชร์ได้ แต่ Spec เครื่องลูกค้า คงไม่กล้าการันตี พูดง่ายๆว่าปกติแชร์ได้ค่ะ แต่ถ้าเกิดแชร์ไม่ได้ขึ้นมา ทางบริษัท(ที่เราทำงานอยู่)จะไม่รับผิดชอบในส่วนนี้
มาเรื่องตั้งค่าซิมกันบ้าง คือจะบอกว่าง่ายก็ง่าย จะบอกว่ายากก็ยาก อยู่ที่เรามองว่ามันง่ายหรือยาก เอาจริงๆ สำหรับเรา ขั้นตอนอาจจะเยอะกว่า Pocket แต่ในโลกนี้มี….คู่มือและ Support อยู่ ดังนั้นก็เลยไม่ใช่ปัญหาสำหรับเรา และจากประสบการณ์ขายตรง มีลูกค้า 1% เท่านั้นที่ซิมหรือมือถือลูกค้ามีปัญหาจริงๆ นอกนั้นจะเป็นการพิมพ์ username กับ password ผิด หรือ APN ชนทำให้จับสัญญาณไม่ได้ แก้ได้โดยการลบ APN ตัวอื่นออกให้หมด ปัญหานี้เกิดเยอะมาก และทาง Support ก็โดนโวยประจำ ซิมคุณเป็นอะไร !@#$% ซึ่งในส่วนนี้คู่มือมีแจ้งอย่างชัดเจน ถ้าลูกค้าอ่านค่ะ ^-^
**** และข้อดีที่สุดของซิม เราไม่ต้องตัวติดกันตลอดค่ะ อยากเดินแยกเที่ยวบ้าง เดินดูอะไรที่ตัวเองชอบบ้าง ก็แยกกันไปแล้วค่อยนัดเจอกัน หรือถ้าหลงกัน อย่างน้อยก็ยังติดต่อกันได้ ถ้า pocket เกิดเดินหลงกับคนที่ถือเครื่อง แถมคนที่หลงก็เป็นคนที่ไม่รู้ทาง ไม่รู้จะติดต่อกันยังไงเลยทีนี้ อันนี้แหละค่ะปัญหาหนักสุดของ pocket ค่ะ
ส่วนเรื่องสัญญาน ซิม หรือ Pocket อันไหนดีกว่า ตอบแบบไม่ได้ขายของเลยค่ะว่า ดีทั้งคู่ ครอบคลุมพื้นที่ 99% เหมือนกัน แล้วแต่ลูกค้าตัดสินใจแล้วค่ะ ว่าจะเลือกใช้อะไร?
ถ้าถามว่าถ้าให้เลือก จะเลือกใช้อะไร สำหรับเรา ตอบแบบชัดถ้อยชัดคำเลยว่า ถ้าไปเองซิมเหมาะกับการใช้ชีวิตเรามากกว่า ^-^ แต่ถ้าไปในนามบริษัทมีความจำเป็นต้องพก pocket ค่ะ เพราะต้อง upload file งานค่อนข้างเยอะ ถึงแม้จะไม่อยากพกก็ตาม T^T แย่สุดเคยไปทำเครื่องหายที่โอกินาว่ามาแล้ว เกือบโดนทางบริษัทคิดค่าปรับ ถ้าไม่เจอพี่คนไทยใจดี ติดต่อกลับมาว่าพี่เก็บเครื่องของน้องได้... ถ้าพี่อ่านบทความนี้อยู่ “ขอบคุณจากใจเลยค่ะ”
1. ไปญี่ปุ่น ใช้ Pocket WiFi หรือ ซิมการ์ด ดีกว่ากัน?
คุณลืมตอบคำถามที่ * จำเป็นต้องตอบ
ไปญี่ปุ่น ใช้ Pocket WiFi หรือ ซิมการ์ด ดีกว่ากัน?
และนี่คือความคิดเห็นส่วนตัวจากประสบการณ์ตรงที่เคยเอาไปใช้ทั้ง 2 แบบ เอาลงไว้ เผื่อจะมีประโยชน์สำหรับคนที่กำลังเดินทางไปแต่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกใช้อะไรดี
Pocket WiFi จะเด่นกว่าตรงที่ความเร็ว คือต้องยอมรับว่าของเค้าแรงจริงๆ ดูหนัง ฟังเพลง Call LINE กลับไทย ไม่มีสะดุด พระเอกสำหรับคนที่เดินทางเป็นกรุ๊ปตลอดกาล เพราะเครื่องเดียวแชร์ใช้งานกันได้หลายคน แถมไม่ต้องตั้งค่าอะไร พอไปถึง เปิดเครื่อง ใส่รหัสผ่าน ก็ใช้งานได้เลย (นึกไม่ออก ให้นึกถึงตอนเชื่อมต่อ wifi บ้านนะคะ) ระยะห่างที่สัญญาณครอบคลุมก็ประมาณ 10 เมตร ห่างกว่านั้น สัญญาณหายค่ะ แชร์ใช้ข้ามห้องไม่ได้
ข้อเสียของ pocket ก็มี เช่น ในเรื่องของการยืม - คืน ต้องให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่แบบชัดเจนพอสมควร ให้ข้อมูลพลาด จำวันเดินทางผิด ชีวิตเปลี่ยนเลยนะคะ อีกเรื่องที่สำคัญคือเวลาพกออกไปข้างนอกเท่ากับพกทอง 1 บาท ถ้าทำหาย หรือ ทำตกน้ำ ตกพื้น และไม่ได้ทำประกันไว้ จ่ายหนักเอาเรื่องเหมือนกัน
อีกอย่างที่รู้สึกว่ามันเป็นปัญหามากสำหรับเรา คือ Pocket WiFi ถึงแบตจะอึดก็จริง แต่เวลาที่แบตใกล้หมด เราก็ต้องชาร์ท ไหนจะมือถือเราอีก เกิดหมดพร้อมกันขึ้นมาแล้ว Power Bank มีแค่อันเดียวเนี่ย ปัญหาชีวิตมาก อารมณ์อยากเก็บเธอไว้ทั้งสองคนก็มา.... มี wifi ไม่มีมือถือ มีมือถือไม่มี wifi ก็เหมือนชีวิตขาดอะไรไป
……………………………………………………………………………………..
Simcard เหมาะกับคนที่อยู่แบบพอเพียง (555) เพราะถึงบาง package เน็ตจะ Unlimit แต่ไม่ใช่ว่าจะใช้ได้ตามใจอยาก คนที่เคยใช้ Pocket และลองเปลี่ยนมาใช้ซิมจะเข้าใจความรู้สึกนี้ดี คือไม่ช้ามากแต่ก็ไม่เร็วแบบว๊าววววว ความรู้สึกจะแตกต่างจากตอนใช้ Pocket แบบชัดเจน upload file ก็แบบ…..มีนั่งท้าวคางรอแป๊ปนึง ยิ่งเวลาช่วงเช้าไปทำงาน พักเที่ยงคนเบรค เลิกงานคนกลับบ้าน พูดง่ายๆว่า เวลาที่มีคนใช้พร้อมกันเยอะๆนี่ บางทีก็มีหงุดหงิดบ้างเหมือนกัน แต่หลังสี่ทุ่มครึ่งไปแล้ว ดูหนัง ดูละคร โทรหาที่บ้าน ได้แบบลื่นนนนมากกกก
พูดถึงข้อเสียมาเยอะแล้ว มาที่ข้อดีของซิมกันบ้าง ก็อย่างที่บอกซิมการ์ดเหมาะกับคนที่ เน้นความคล่องตัว ไม่ได้ต้องการความเร็วแบบว๊าววววว เล่น Socail บ้าง โทร LINE กลับไทยบ้าง และไม่มีความจำเป็นต้องดาวโหลดไฟล์หนักๆ ใช้ค้นหาเส้นทาง ค้นหาข้อมูล Google Map, Google Translate บอกเลยว่าเลือกใช้ซิมเถอะ คุณคิดไม่ผิดหรอก เพราะคุณจะไม่ต้องพกอุปกรณ์เยอะ แบตมือถือหมดก็ใช้ Power bank กับมือถือของคุณอย่างเดียว ดูแลแค่มือถือคุณอย่างเดียว ทำเครื่องหายอย่างมากก็เจ็บใจตัวเอง แต่ไม่ต้องจ่ายค่าปรับให้ใคร
สำหรับคนที่อยากแชร์เน็ตให้คนข้างๆใช้ คือต้องอธิบายก่อนว่า Spec Sim สามารถแชร์ได้ แต่ Spec เครื่องลูกค้า คงไม่กล้าการันตี พูดง่ายๆว่าปกติแชร์ได้ค่ะ แต่ถ้าเกิดแชร์ไม่ได้ขึ้นมา ทางบริษัท(ที่เราทำงานอยู่)จะไม่รับผิดชอบในส่วนนี้
มาเรื่องตั้งค่าซิมกันบ้าง คือจะบอกว่าง่ายก็ง่าย จะบอกว่ายากก็ยาก อยู่ที่เรามองว่ามันง่ายหรือยาก เอาจริงๆ สำหรับเรา ขั้นตอนอาจจะเยอะกว่า Pocket แต่ในโลกนี้มี….คู่มือและ Support อยู่ ดังนั้นก็เลยไม่ใช่ปัญหาสำหรับเรา และจากประสบการณ์ขายตรง มีลูกค้า 1% เท่านั้นที่ซิมหรือมือถือลูกค้ามีปัญหาจริงๆ นอกนั้นจะเป็นการพิมพ์ username กับ password ผิด หรือ APN ชนทำให้จับสัญญาณไม่ได้ แก้ได้โดยการลบ APN ตัวอื่นออกให้หมด ปัญหานี้เกิดเยอะมาก และทาง Support ก็โดนโวยประจำ ซิมคุณเป็นอะไร !@#$% ซึ่งในส่วนนี้คู่มือมีแจ้งอย่างชัดเจน ถ้าลูกค้าอ่านค่ะ ^-^
**** และข้อดีที่สุดของซิม เราไม่ต้องตัวติดกันตลอดค่ะ อยากเดินแยกเที่ยวบ้าง เดินดูอะไรที่ตัวเองชอบบ้าง ก็แยกกันไปแล้วค่อยนัดเจอกัน หรือถ้าหลงกัน อย่างน้อยก็ยังติดต่อกันได้ ถ้า pocket เกิดเดินหลงกับคนที่ถือเครื่อง แถมคนที่หลงก็เป็นคนที่ไม่รู้ทาง ไม่รู้จะติดต่อกันยังไงเลยทีนี้ อันนี้แหละค่ะปัญหาหนักสุดของ pocket ค่ะ
ส่วนเรื่องสัญญาน ซิม หรือ Pocket อันไหนดีกว่า ตอบแบบไม่ได้ขายของเลยค่ะว่า ดีทั้งคู่ ครอบคลุมพื้นที่ 99% เหมือนกัน แล้วแต่ลูกค้าตัดสินใจแล้วค่ะ ว่าจะเลือกใช้อะไร?
ถ้าถามว่าถ้าให้เลือก จะเลือกใช้อะไร สำหรับเรา ตอบแบบชัดถ้อยชัดคำเลยว่า ถ้าไปเองซิมเหมาะกับการใช้ชีวิตเรามากกว่า ^-^ แต่ถ้าไปในนามบริษัทมีความจำเป็นต้องพก pocket ค่ะ เพราะต้อง upload file งานค่อนข้างเยอะ ถึงแม้จะไม่อยากพกก็ตาม T^T แย่สุดเคยไปทำเครื่องหายที่โอกินาว่ามาแล้ว เกือบโดนทางบริษัทคิดค่าปรับ ถ้าไม่เจอพี่คนไทยใจดี ติดต่อกลับมาว่าพี่เก็บเครื่องของน้องได้... ถ้าพี่อ่านบทความนี้อยู่ “ขอบคุณจากใจเลยค่ะ”