เลิกกัน..แต่ไม่มีวันเลิกเจ็บ

สวัสดีครับ ผมชื่อ ท๊อป นะครับ ตอนนี้อายุก็ 32 ปี เป็นคนจังหวัดกาฬสินธุ์
ก่อนอื่นผมขอบอกเลยว่าผมเป็นเกย์ หน้าตาขี้ริ้วขี้เหร่ ตัวดำๆ หัวก็ล้าน ผมไม่คิดว่าชาตินี้ผมจะมีแฟน ตั้งแต่เกิดจาจนอายุ 30 ผมก็ไม่คิดว่าผมจะมีแฟน ได้แต่แอบชอบคนอื่นข้างเดียวอยู่เรื่อย ไม่เคยแสดงออก ไม่กล้าจีบ ด้วยเหตุผลข้างต้นที่ผมกล่าวมาแล้ว ผมจึงคิดว่าผมคงครองตัวเป็นโสดไปจนตาย ทำงาน หาเงินเลี้ยงตัวเองพอ ไม่ต้องมีมันหรอกฟงแฟน

จนเมื่อประมาณปี 2559 ผมได้เดินทางลงไปหางานทำที่สมุทรปราการ ผมได้รู้ๆจักแอพๆนึงที่พอทำให้มีเพื่อนคุย พอหายเหงาได้บ้าง คนโสดทุกคนคงจะรู้ดี ว่าการอยู่คนเดียวมันเหงาแค่ไหน เช้าตื่นไปทำงาน ค่ำๆเลิกงานมาก็ได้แต่นอนเหงาอยู่คนเดียว มีมือถือเครื่องนึงเป็นเพื่อน และแอพนี้เองทำให้ผมรู้จักกับพี่คนนึง

ซึ่งวันนั้นผมพึ่งเลิกงานออกกะมา รู้สึกง่วงๆ กะว่าจะอาบน้ำแล้วนอน แต่ก็มีพี่คนนึงทักมา ผมจึงบอกเค้าไปว่า

“ผมพึ่งเลิกงาน ง่วงขอนอนก่อนนะครับ เดี๋ยวตื่นผมจะทักกลับไป”

หลังจากจบประโยคนี้ผมก็ล้มตัวลงนอน หลับตอนไหนก็ไม่รู้ ตื่นมาจำได้ว่านัดพี่เค้าไว้ว่าจะตอบกลับ ผมจะทักเค้ากลับไป ช่วงบ่ายๆพี่เค้าก็ตอบกลับมา เราก็คุยถามไถ่กันไปซักนิดหน่อย หลังจากวันนั้นเราก็มีคุยๆกันบ้าง แต่ก็ไม่ได้คุยกันเชิงชู้สาว(ชาย) นะครับ เพราะพี่เค้าบอกว่าเค้ามีแฟนอยู่แล้ว พึ่งคบกัน ผมก็โอเค อย่างน้อยก็รู้สึกดีที่มีเพื่อนคุย มีพี่ชายไว้คอยปรึกษาปัญหา จนกระทั่งวันนึง เค้าก็ทักมาชวนไปกินหมูกระทะแหนเค้าก็ไปด้วย ผมก็ตอบไปว่า

“ไม่กล้าไปหรอก อายแฟนพี่”
แต่เค้าก็คะยั้นคะยอจนผมยอมไปจนได้ แต่ผมก็ชวนน้องคนนึงไปเป็นเพื่อนด้วย แก้เขิน คนจะเจอหน้ากันครั้งแรก มันก็ต้องมีประหม่าเป็นธรรมดา พอถึงเวลานัดผมกะน้องอีกคนก็ไปตามร้านที่นัดกันไว้ พี่เค้าก็ทักทาย และเทคแคร์บ้าง เพราะเค้าก็คงเกรงใจแฟนเค้า ต่างคนก็ต่างทำความรู้จักกัน ในระหว่างกินพี่เค้าก็หยอกล้อกับแฟนเค้า ผมก็คุยเล่นกะน้องที่ไปด้วย แอบๆมองพี่เค้าบ้าง จนเห็นสายตาพี่เค้าที่มองมาที่เรา ตาเขม็งเลย ผมก็ไม่สนใจ ก็ทำหน้าล้อเค้า จนกระทั้งกินเสร็จ แยกย้ายกันกลับบ้าน พอถึงบ้านเค้าก็ทักไลน์มา แล้วก็ถามผมว่า ทำไมต้องหยอกล้อกันกับน้องคนนั้นขนาดนั้น ผมก็เลยถามกลับไป

“ทำไมหรอครับ” พี่เค้าก็ตอบกลับมาว่า

“พี่หึง” ห๊าาาา บ้าไปแล้ว พี่จะมาหึงผมทำไม เราไม่ได้เป็นไรกันซักหน่อย แค่พี่น้องกัน แล้วเค้าก็ตอบมาว่า

“พี่รู้สึกถูกชะตา พี่ชอบเรา” ผมก็อึ้งสิครับ “พี่มีแฟนอยู่แล้ว พี่จะมาพูดกับผมแบบนี้ทำไม อีกอย่าง ผมหน้าตาขี้เหร่ขนาดนี้ ใครจะมาชอบผมจริง เกิดมาจนอายุปูนนี้ คนจะเข้ามาจีบผมซักคนยังไม่มี พี่ไม่ต้องมาอำผมหรอก

” เค้าก็ตอบมาว่า “ชอบจริงๆ เพราะรู้สึกประทับใจตั้งแต่วันแรกที่เค้าทักมา เพราะเค้าคิดว่า ผมคงไม่ตอบเค้ากลับไปหรอก ที่เค้าประทับใจเพราะเค้าว่าผมให้ความสนใจ ให้ความสำคัญกับเค้า”
   
  ผมก็โอเคๆ แล้วไงต่อพี่ เค้าก็บอกเค้าอยากจะลองคุยกับผมดู ผมก็ถามกลับว่าแล้วแฟนพี่ละ แต่ผมจำคำตอบที่พี่เค้าตอบมาไม่ได้หรอกนะครับ เพราะว่า ณ เวลานั้นผมเหมือนโดนมนต์สะกด ผมรู้สึกดีกับเค้าขึ้นมาทันที และหลังจากวันนั้นเราก็คุยกันเรื่อยๆ ดึกดื่นเที่ยงคืนก็ยังคุยกัน จนมีวันนึงเค้าบอกให้ผมไปหา ซึ่งผมก็รู้อยู่แล้วว่าถ้าไปแล้วจะเกิดอะไรขึ้น แต่ผมก็ตกลงไป ณ ตอนนั้นผมลืมไปเลยว่าเค้ามีแฟนอยู่ ลืมไปเลยว่าอะไรคือผิด ชอบ ชั่ว-ดี ประมาณตี 4 ผมจึงขอหัวหน้างานกลับบ้าน เพราะเวลาเลิกงานคือตี 4 หลังจากตี 4 - 7 โมงเช้าจะเป็น OT หลังจากหัวหน้าอนุญาตผมก็ขับรถไป ตาม Location พี่ที่เค้าส่งมาให้ ขับรถไปถึงผมก็โทรหาพี่เค้า โทรเป็นสิบๆรอบก็ไม่ยอมรับสาย ฝนก็เริ่มตก แถมตกหนักด้วย ในใจก็คิดว่าเค้าเล่นสนุกอะไร หลอกเราหรอ ใจก็คิดว่า ลองโทรอีก 3 ครั้ง ถ้าไม่รับสายก็จะขับรถฝ่าฝนกลับบ้านแล้ว ปรากฏว่าโทรอีกทีพี่เค้ารับสาย และเดินลงมารับไปที่ห้อง พอถึงห้องคงไม่ต้องถามนะครับว่าจะเกิดอะไรขึ้น หลังจากวันนั้นมาจากความรู้สึกที่แค่รู้สึกดี กลับเปลี่ยนเป็นรักเค้า คิดถึงเค้าตลอดเวลา นี่ผมรักเค้าแล้วใช่มั้ย และหลังจากนั้นมาผมกับเค้าก็แอบนัดเจอกันเรื่อยๆ จนเวลาผ่านพ้นไป แฟนเค้าจับได้ แล้วเค้ากับแฟนก็เลิกกัน เค้าจึงมาขอคบกับผม เพื่อนๆคงจะคิดว่าผมเป็นตัวการที่ทำให้เค้าเลิกกัน ใช่ครับ เพราะผมเอง แต่ความรู้สึกผมมันห้ามไม่ได้แล้ว เพราะมันเป็นความรักครั้งแรกของผม ผมไม่เคยรักใคร จนเราใช้คำว่าแฟนกันมาเรื่อยๆ ก็มีช่วงๆนึงที่พี่เค้าเลิกงานแล้ว เค้าก็จะมาค้างกับผมที่ห้อง เพราะห้องผมกะห้องพี่เค้าห่างกันประมาณ 15 กิโล เช้าผมก็ขับรถไปส่งเค้าขึ้นรถ เย็นผมก็ไปรับ จนกระทั่งวันนึงผมตกงาน เค้าเลยให้ผมย้ายไปอยู่กับเค้า จะได้ลดเรื่องค่าใช้จ่าย ผมก็ตกลงที่จะไปอยู่กับเค้า

จนกระทั่งช่วงสงกรานต์ปี 2560 เค้าก็ขอกลับไปเที่ยวบ้านผมด้วย ผมก็ตกลง เพราะที่บ้านผมรู้อยู่แล้วว่าผมไม่ใช่ผู้ชาย 100% ไปถึงก็ไหว้พ่อไหว้แม่ อยู่กัน 2-3 วันก็เดินทางกลับมาทำงานต่อ แต่สำหรับทางบ้านของพี่เค้าไม่มีใครรู้นะครับ ผมยังเป็นคนในความลับในชีวิตเค้าอยู่ แต่ผมคิดว่าชีวิตผมช่วงนี้มีความสุขที่สุด ผมก็หางานใหม่ไปเรื่อยๆ จนได้งานที่เดียวกับพี่เค้า ซึ่งตลอดระยะเวลาที่คบกันมา ผมไม่รู้เลยว่าเค้าทำงานตำแหน่งอะไร จนวันที่ผมไปสัมภาษณ์งาน เดินขึ้นบันไดไปก็เจอกับบอร์ดติดประกาศ เลยหยุดยืนอ่านอยู่แปปนึง จึงได้รู้ว่าพี่เค้าเป็นถึงระดับหัวหน้าแผนก ผมก็อึ้งอยู่ไม่น้อย และหลังจากสัมภาษณ์งานเสร็จ ออกมาจากห้องก็เจอกับพี่เค้า เค้าก็ทักถามว่ามาทำอะไร ผมก็บอกว่ามาสัมภาษณ์งาน เค้าก็อืมๆ และผมก็ได้เริ่มทำงานที่นั่น ก็หลังจากนั้นเราก็ไปทำงานพร้อมกันทุกวัน เพราะเค้าซื้อรถยนต์แล้ว จากที่ช่วงแรกยังนั่งรถรับ-ส่งพนักงานไปทำงานอยู่ เที่ยงก็กินข้าวพร้อมกัน ส่วนตอนเย็นผมก็กลับก่อน เพราะพี่เค้าเลิกงานดึกตลอดต้องทำรีพอร์ตส่ง ชีวิตผมมีความสุขมาก ก็มีทะเลาะกันบ้าง แต่ก็ไม่ได้หนักหนาอะไร พี่เค้าจะดูแล เทคแคร์ดีมากๆ ทุกเช้าเราจะตื่นนอนพร้อมกัน อาบน้ำพร้อมกัน วันหยุดก็จะไปเที่ยว ไปดูหนังด้วยกัน ก่อนจะนอนเค้าก็จะดึงผมเจ้าไปกอด หอมแก้ม และนอนหนุนแขนเค้าทุกคืน ออกมาจากห้องจะไปทำงานเจ้าไปในลิฟย์ก็จะหอมแก้มซ้าย แก้มขวา และหน้าผากกันทุกวัน เราจะทำแบบนี้กันทุกวันเสมอต้นเสมอปลายมาก ตลอดระยะเวลาเกือบ 2 ปี ชีวิตช่วงนี้เป็นอะไรที่เฟอเฟ็คมากๆ

กลับมาถึงเรื่องงาน ต้องยอมรับจริงๆครับ ว่าหน้าที่ที่ผมรับผิดชอบ หน้างานงานจะหนักมาก วันนึงเดินรวมๆ 10-13 กิโล ผมก็ทนทำงานมาจนครบปี ปัญหาสุขภาพก็เกิดขึ้น ผมปวดเมื่อย ปวดหลังเรื้อรัง แต่ผมก็เคยบ่นๆให้เค้าฟังบ่อยๆว่าผมเหนื่อย ผมปวดหลังจนจะทนไม่ไหวแล้ว จนมาวันนึงผมก็คุยกันด้วยเหตุผล และก็ได้บทสรุปว่าผมจะลาออก เค้าก็ไม่ได้ว่าอะไร และผมก็เลยขอมาพักผ่อนที่บ้านนอกก่อนซักอาทิตย์ค่อยกลับไปหางานใหม่ จนกระทั่งวันที่ผมจะกลับลงไปหาเค้า เค้ากลับส่งไลน์มาบอกว่า “เราเลิกกันเถอะ” ผมนี่งง สมองเบลอไปหมด ผมก็พยายามถาม พยายามอ้อนวอนว่าอย่าพึ่งเลิกกัน เหตุผลที่เลิกเค้าบอกว่าเราสองคนเข้ากันไม่ได้ ผมนี่ร้องห่มร้องไห้อยู่วันสองวัน สมองมันคิดอะไรไม่ออก ผมก็ได้แต่คิดว่า ถ้าลงไปหาเค้า เจอหน้ากัน เค้าอาจจะใจอ่อนก็ได้ แต่สิ่งที่ผมคิดมันผิดครับ เค้าใจดำมาก ไม่ยอมมาเจอ ทักไลน์ไปก็ไม่ตอบ โทรศัพท์ก็ไม่รับ เอาเบอร์ไหนโทรไปเค้าก็บล็อค แม่เป็นห่วงจึงโทรมาหา ยิ่งผมเปิดประตูห้องเข้าไป เจอเสื้อผ้า เจอข้าวของเครื่องใช้ที่เราเคยใช้ด้วยกัน ในใจผมมันยิ่งเจ็บปวดทรมาน ร้องไห้ออกมาเสียงดังจนข้างห้องเค้าอาจจะตกใจ แม่จึงบอกให้น้องเขยที่อยู่ที่ระยองให้รีบมารับ กลัวผมจะคิดสั้น ผมจึงเก็บแค่เสื้อผ้า ข้าวของที่จำเป็นกลับมาบ้านนอก เหลือมอเตอร์ไซค์ทิ้งไว้ เพราะยังเอากลับมาไม่ได้ ในระหว่างนั้น แม่กับน้องสาวก็โทรขอร้องให้พี่เค้ามาคุย มาหาผมหน่อย แต่เค้าก็ไม่ยอมมา คำถามเกิดขึ้นในใจผมมากมาย คำถามที่หาคำตอบไม่ได้ ผมผิดอะไร ไม่มีโอกาสให้ผมแก้ตัวเลยหรอ ผมผิดอะไรนักหนา ผมนี่ร้องไห้อยู่เกือบ 2 อาทิตย์ ไม่ว่าเวลาไหนผมก็คิดถึงเค้าตลอดเวลา จนเวลาล่วงเลยไป แม่ พ่อ เลยพากันขับรถเพื่อที่จะลงไปขนเอารถมอเตอไซกลับมา พอไปถึงก็ขนรถขึ้นท้ายรถกระบะ แต่ก็ก้าวขาขึ้นรถยากเหลือเกิน จึงเอ่ยปากขอแม่ว่าขอผมอยู่ที่นี่ ให้พ่อแม่กลับไปก่อน แต่แม่ก็ไม่ยอม

“จะมาทนอยู่ทำไมละลูก เค้าไม่รักไม่แคร์เราแล้ว กลับบ้านไปกับแม่นี่แหละ”

“ผมอยากจะเจอหน้าเค้าอีกซักครั้งครับแม่ ขอผมอยู่ต่อนะ” แต่แม่ก็ไม่ยอม สุดท้ายเลยค้องยอมกลับ

เพราะเค้าบล็อคเบอร์ บล็อกไลน์ ปิดช่องทางการติดต่อผมทุกทาง ผมทรมานมากเหลือเกินเพื่อนๆพี่ๆครับ ตอนนี้ผมพอจะมีแรงใจขึ้นมาบ้าง มีพ่อแม่คอยให้กำลังใจ เพื่อนก็คอยปลอบใจ ผมยังไม่รู้เลยว่าชีวิตผมจะเดินต่อไปยังไง ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ผมจึงจะลืมเค้า ต้องใช้เวลานานแค่ไหน มันเจ็บปวด มันทรมานเหลือเกิน ผมคงไม่กล้าที่จะมีความรักอีกแล้ว เรื่องราวของผมก็มีอยู่เท่านี้ครับ

ขอโทษนะครับที่เอาเรื่องราวของเราสองคนมาลงเขียน ผมรู้ว่าพี่ชอบเข้ามาอ่าน Pantip ถ้าพี่อ่านเจอ ขอให้พี่รู้ไว้ว่า “ผมรักพี่มาก ผมจะรอพี่เสมอ ไม่น่านานแค่ไหน ผมจะรอวันที่พี่หายโกรธ หายเกลียดผม ผมรักพี่ตุ๊นะ”

ผมอาจจะเขียนวกไปวนมา ต้องขอโทษทุกคนด้วยนะครับ ผมเรียบเรียงไม่ค่อยเก่ง นึกอะไรออกก็พิมพ์เลย ขอบคุณที่สละเวลามาอ่านนะครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่