เขาหลวงนครศรีฯ ป่าในอุดมคติ



หากคิดว่าป่าที่เราเดินตามอุทยานต่างๆ ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เพียบพร้อมคือป่าในความคิดแล้ว แต่ไม่ใช่สำหรับที่นี่ "เขาหลวงนครศรีธรรมราช" เป็นป่าดิบฝน ทางภาคใต้ของบ้านเรา ที่นับว่ามีความอุดมสมบูรณ์มาก ทั้งต้นไม้ หมอก สายฝนและสายน้ำที่เป็นแหล่งต้นน้ำหลายสายอีกด้วย
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

เรามาทริปนี้ในช่วงวันหยุดยาวของวันแม่ ใช้ระยะเวลาในการเดินป่า 4 วัน 3 คืน ใช้เส้นทางน้ำตกวังลุง - ห้วยน้ำเย็น - หินสองเกลอ - ยอด 1650 - หนานระฟ้า และกลับลงสู่น้ำตกอ้ายเขียว ในเส้นทางการเดินแบบเป็นวงกลม ไม่ได้ใช้ทางกลับเป็นทางเดิม

การเตรียมตัว

- มีประสบการณ์การการเดินป่ามาบ้าง และดูแลตัวเองได้
- สภาพทางค่อนข้างโหด รก ทึบ ไม่ชัดเจนเหมือนเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติที่อื่นๆ บางช่วงต้อง มุด รอด หรือคลานในสภาพเปียกแฉะ
- รองเท้าดอกลึก ที่ใส่ถนัด เพราะต้องใส่ลุยน้ำ ไต่หินที่เปียก และลุยโคลน หากรองเท้าที่ใส่มีโคลนอัดเต็มพื้นรองเท้าความสามารถในการยึดเกาะกับผิวดินแทบจะเป็นศูนย์
- ถุงกันทาก แบบผ้าดิบ ผ้าสังเคราะห์สีสดใส แบบตาถี่ (ไม่แนะนำถุงเท้าบอล)
- เรนโคฟเวอร์สำหรับคุมเป้กันเปียก
- อาหารแห้ง ของกินเล่นสำหรับกินส่วนตัวประทังหิว
- อุปกรณ์ทุกอย่างในเป้ แพคลงถุงพลาสติกกันเปียก
- ซอฟเฟล น้ำมันมวย หรือสารเคมีในชีวิตประจำวันต่างๆ ช่วยให้ทากหลุดเมื่อกำลังโดนกัด
- ยาเส้นสำหรับห้ามเลือด กรณีห้ามเลือดเมื่อโดนทากกัด
- ไม้เท้าช่วยในการพยุงตัว จะไม้เทรคกิ้ง หรือกิ่งไม้ข้างทางก็ตามสะดวก
- เปล จะแบบมีมุ้งหรือไม่มีก็ได้ (ไม่แนะนำให้นอนเต๊นท์)
- ฟลายชีท (จำเป็นมาก) สำหรับกันน้ำค้างหรือฝน จะขนาด 3x3, 3x4 เมตร หรือขนาดที่ต้องการ
- หากมีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เช่น กล้อง มือถือ แนะนำให้ซื้อกล่องใส่อาหาร SuperLock มาเพื่อจัดเก็บอุปกรณ์จากความชื้น


วันแรก
เราเดินจากน้ำตกวังลุงมาพักที่หนานหล้าฟ้า (เรียกชื่อผิดขออภัย) ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง ในวันแรกนี้ยังถือว่ายังสบายๆ แต่สำหรับคนที่พึ่งเริมเดินป่าคงมีเหนื่อยล้าบ้าง เส้นทางจะผ่านสวนของชาวบ้าน และเดินผ่านลำธาร แต่อาจได้รับการต้อนรับจาก "ทาก" ที่อยู่ในสวนผลไม้บ้าง และอาจะมีบ้างประปรายตามทาง ไม่เว้นแม้แต่กระทั่งแคมป์ก็อาจะพบเจอทากได้ สภาพอากาศชื้นปกติ มีฝนตกสลับบ้าง แต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหาในการพักแรมนัก สำหรับที่พักสำหรับป่าดิบแบบนี้การนอนเปลถือว่าสะดวกที่สุดครับ แต่ต้องมีฟลายชีทคลุมเปลจากฝนและน้ำค้าง ขนาดที่แนะนำก็จะเป็นฟลายชีทขนาด 2x3, 3x3 หรือ 3x4 เมตร ที่แคมป์นี้เราจะอยู่ใกล้ลำธาร สามารถอาบน้ำ แช่น้ำ ล้างจาน ทำอาหาร ก็มีน้ำให้ใช้อย่างไม่ขาดแคลน ขอบอกว่าน้ำในจุดนี้ไม่ได้ลึกจนเป็นอันตราย สามารถเล่นน้ำได้อย่างปลอดภัยครับ

วันที่ 2
ปลายทางคือห้วยน้ำเย็น ในทุกๆ วันในป่าเราจะเริ่มเก็บสัมภาระทุกอย่าง และพร้อมเดินประมาณ 10.00 น. การเดินในวันนี้จะเดินกันประมาณ 6 ชั่วโมง เดินตามลำธารบ้าง สลับเข้าป่าขึ้นเนินเล็กๆ และจะมีจุดกินข้าวเที่ยงที่แอ่งน้ำตกในป่า
ซึ่งแอ่งตรงนี้จะมีแอ่งน้ำที่ให้เราได้แช่น้ำ (ในคลิป นาทีที่ 2.39) หลังจากนั้นก็จะขึ้นสันเขายาวๆ ไปจนถึงแคมป์ที่ห้วยน้ำเย็น ถ้าเดินกันปกติคงถึงราวๆ 4-5 โมงเย็น
ที่แคมป์ห้วยน้ำเย็น ที่ราวๆ 1,290 เมตร เราจะอยู่ในสภาพกลางหมอกเป็นส่วนมาก พืชพรรณต้นไม้ก็จะถูกปกคลุมไปด้วยมอส ตะไคร่น้ำ อาจจะมีลมและความเปียกชื้น ตลอดจนความหนาวเย็นร่วมด้วย การตั้งแคมป์ในที่นี่อาจจะต้องดึงฟลายชีทให้ต่ำติดพื้น เพื่อไม่ให้ลมพัดเข้ามามากจนเกินไป ตลอดจนการที่เราได้ดื่มเครื่องดื่มร้อนๆ จะช่วยให้เราอบอุ่นขึ้น ใครมีกล้องเตรียมเก็บภาพสวยๆ ที่แคมป์นี้ได้ เพราะมองไปมุมไหนมีแต่ความเขียวขจี ด้วยละอองหยดน้ำที่จับตัวกับใบไม้ รากไม้ กิ่งก้านเถาวัลย์
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่