"บางสิ่งต้องให้ไปเพื่อแลกมา จึงทำให้เกิดการเดินทางของชายหนุ่ม"
วันนี้ผมอยากจะเอาความทรงจำพร้อมความรู้สึกมาเก็บไว้มากกว่าการเขียนรีวิวซะส่วนใหญ่
เหตุผลต่างๆที่ทำให้ผมได้ตัดสินใจเดินทางครั้งนี้ก่อนอื่น ต้องขออธิบายที่มาที่ไปก่อนครับ โดยปกติชีวิตประจำวันส่วนใหญ่ของผมคือทำงาน จะอยู่แต่สถานที่ทำงานวันหนึ่งอย่างต่ำ10ชั่วโมง ยังไม่รวมการเดินทางเพื่อไปทำงานอีกด้วยรวมๆเกือบ15ชั่วโมง กว่าจะไปถึงที่ทำงานต้องผ่านด่านรถติด ทั้งไปและกลับ นี่แหละครับมันเป็นสิ่งที่ทำให้ความเหนื่อยของผมสะสม จนกลายเป็นความน่าเบื่อรถติดผู้คนเยอะแยะมากมาย ความวุ่นวายในแต่ละวัน.. สัปดาห์หนึ่งผมได้หยุดประมาณ1-2วัน ทำให้ความเหนื่อยล้าจากการทำงานในแต่ละสัปดาห์มันยังสะสมอยู่ รวมทั้งมลพิษในเมื่องกรุงที่เยอะมากๆ เมื่อมาถึงสัปดาห์นี้ผมได้วันหยุดติดกัน4วัน ไบค์เกอร์สายอารมณ์อย่างผมถ้ามีวันหยุดแบบนี้มาถึง มักจะมีการเดินทางตามมาเสมอ จึงตัดสินใจอยากไปพักผ่อนหย่อนใจ ไปเสพบรรยากาศบ้านๆชิลๆ แค่นี้ผมก็หายเหนื่อยแล้วครับ พอมาพูดถึงเรื่องระยะทาง580กิโลเมตร จากกรุงเทพ - เชียงคาน ก็ไม่สามารถทำลายสิ่งที่ผมต้องการได้ ผมตัดสินใจขับมอไซด์คู่ใจพร้อมคนทั้งรู้ใจซ้อนไปด้วย..

ไม่มีอะไรมากมายสไตล์ไบค์เกอร์สายอารมณ์

ออกเดินทางตอน3ทุ่มกว่าๆ ผมใช้เส้นทางสระบุรี ตรงไปเข้าเพรชบูรณ์

ที่นี่"เชียงคาน" ถึงอย่างปลอดภัยกับ13ชั่วโมง วันนี้ฝนตก..

ได้เช็คอินที่นี่เลยครับ บรรยากาศที่พักได้เสพความวินเทจเต็มๆครับ สำหรับผมที่พักคือ ยอดเยี่ยมเลยที่เดียวครับผมแนะนำครับพักที่นี่จะได้กลิ่นอายของความเป็นท้องถิ่นที่นั่นจริงๆเลยครับ คุ้ม ถูก สะอาด สวย คือที่นี่มีครบเลยครับสำหรับผมลองหาดูกันเอาเองนะครับ

เครื่องดื่มก็อร่อยๆ WIFI ฟรี ได้เสพบรรยากาศยาวๆเลย


ขับรถมาหลายกิโลสำหรับผมคือสิ่งนี่ครับ เสพบรรกาศ มีความสุขจริงๆครับ

ตอนเย็นๆมีถนนคนเดินครับ ให้ทิปพี่เขาไป100เล่นให้ผมฟังเพลินๆได้ทุกเพลง บรรยากาศดีๆสำหรับผมต้องคู่กับเบียร์เย็นๆ ช่างสดชื่นจริงๆ

พลาดไม่ได้คือ ปาท่องโก๋ยัดไส้ครับ

ตื่นเช้าๆเพื่อขึ้นไปดูหมอกที่ภูทอกแบบบ้านๆ

ระหว่างทางไป"ภูทอก"


บรรยากาศก็ประมาณนี้เลยครับ ถ่ายแบบบ้านๆผ่านโทรศัพท์มือถือเลย

ลงมาจากเขาก็ทันใส่บาตรตอนเช้าพอดี หลังจากนั้นก็หาร้านโจ๊กซะหน่อย

ริมโขงตอนเช้าๆ

ขอบคุณเมืองแห่งความทรงจำที่ทำให้ผมต้องบิด N-MAX คู่ใจไปสัมผัสมันด้วยตัวเองและคนรู้ใจ
เรื่องราว13ชั่วโมงระหว่างทางคงจะเป็นส่วนหนึ่งของความทรงจำดีๆของผมตลอดไป
#ขากลับเดี๋ยวมาเขียนต่อแบบบ้านๆตามอารมณ์ครับ
[CR] บิด N-MAX หนีรถติดไป "เลย"
วันนี้ผมอยากจะเอาความทรงจำพร้อมความรู้สึกมาเก็บไว้มากกว่าการเขียนรีวิวซะส่วนใหญ่
เหตุผลต่างๆที่ทำให้ผมได้ตัดสินใจเดินทางครั้งนี้ก่อนอื่น ต้องขออธิบายที่มาที่ไปก่อนครับ โดยปกติชีวิตประจำวันส่วนใหญ่ของผมคือทำงาน จะอยู่แต่สถานที่ทำงานวันหนึ่งอย่างต่ำ10ชั่วโมง ยังไม่รวมการเดินทางเพื่อไปทำงานอีกด้วยรวมๆเกือบ15ชั่วโมง กว่าจะไปถึงที่ทำงานต้องผ่านด่านรถติด ทั้งไปและกลับ นี่แหละครับมันเป็นสิ่งที่ทำให้ความเหนื่อยของผมสะสม จนกลายเป็นความน่าเบื่อรถติดผู้คนเยอะแยะมากมาย ความวุ่นวายในแต่ละวัน.. สัปดาห์หนึ่งผมได้หยุดประมาณ1-2วัน ทำให้ความเหนื่อยล้าจากการทำงานในแต่ละสัปดาห์มันยังสะสมอยู่ รวมทั้งมลพิษในเมื่องกรุงที่เยอะมากๆ เมื่อมาถึงสัปดาห์นี้ผมได้วันหยุดติดกัน4วัน ไบค์เกอร์สายอารมณ์อย่างผมถ้ามีวันหยุดแบบนี้มาถึง มักจะมีการเดินทางตามมาเสมอ จึงตัดสินใจอยากไปพักผ่อนหย่อนใจ ไปเสพบรรยากาศบ้านๆชิลๆ แค่นี้ผมก็หายเหนื่อยแล้วครับ พอมาพูดถึงเรื่องระยะทาง580กิโลเมตร จากกรุงเทพ - เชียงคาน ก็ไม่สามารถทำลายสิ่งที่ผมต้องการได้ ผมตัดสินใจขับมอไซด์คู่ใจพร้อมคนทั้งรู้ใจซ้อนไปด้วย..
ออกเดินทางตอน3ทุ่มกว่าๆ ผมใช้เส้นทางสระบุรี ตรงไปเข้าเพรชบูรณ์
ที่นี่"เชียงคาน" ถึงอย่างปลอดภัยกับ13ชั่วโมง วันนี้ฝนตก..
ได้เช็คอินที่นี่เลยครับ บรรยากาศที่พักได้เสพความวินเทจเต็มๆครับ สำหรับผมที่พักคือ ยอดเยี่ยมเลยที่เดียวครับผมแนะนำครับพักที่นี่จะได้กลิ่นอายของความเป็นท้องถิ่นที่นั่นจริงๆเลยครับ คุ้ม ถูก สะอาด สวย คือที่นี่มีครบเลยครับสำหรับผมลองหาดูกันเอาเองนะครับ
ตอนเย็นๆมีถนนคนเดินครับ ให้ทิปพี่เขาไป100เล่นให้ผมฟังเพลินๆได้ทุกเพลง บรรยากาศดีๆสำหรับผมต้องคู่กับเบียร์เย็นๆ ช่างสดชื่นจริงๆ
พลาดไม่ได้คือ ปาท่องโก๋ยัดไส้ครับ
ตื่นเช้าๆเพื่อขึ้นไปดูหมอกที่ภูทอกแบบบ้านๆ
ระหว่างทางไป"ภูทอก"
ริมโขงตอนเช้าๆ
ขอบคุณเมืองแห่งความทรงจำที่ทำให้ผมต้องบิด N-MAX คู่ใจไปสัมผัสมันด้วยตัวเองและคนรู้ใจ
เรื่องราว13ชั่วโมงระหว่างทางคงจะเป็นส่วนหนึ่งของความทรงจำดีๆของผมตลอดไป
#ขากลับเดี๋ยวมาเขียนต่อแบบบ้านๆตามอารมณ์ครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น