ตั้งใจจะตั้งกระทู้นี้มาตั้งนานแล้วแต่กลัวจะยาว เพราะจริงๆเรื่องมันยาวจริงๆนะคะ แต่ขออนุญาตสรุปให้สั้นๆเลยนะคะ
จขกท. ไม่ได้มีเจตนาดูหมิ่นบุพการีประการใดตรงกันข้ามเราสงสารและอยากดูแลให้เขาได้มีความสุขใจ และมีสุขภาพที่ดี
เหตุเกิดจาก
1. แม่เราเลิกกับพ่อเราตั้งแต่เรา 5-6 ขวบ
2. พ่อเลี้ยงรังเกียจเรา แต่แม่เรารักเขามาก
3. เราเคยอยู่กับแม่เรากับพ่อเลี้ยงเราในฐานะคนใช้ ลูกจ้าง แล้วแต่จะเรียก
4. เราไปเรียน กศน. พ่อเลี้ยงมองดูด้วยสายตารังเกียจเดียจฉันท์ เรากระเด็นออกนอกบ้านหารายได้พิเศษหารค่าห้องกับเพื่อนเรียนจบ ปวส. กู้เงินเรียนด้วย บางครั้งเงินไม่พอใช้โทรหาแม่ แต่พอได้ยินเสียงเรา วางสายทิ้งเลย
5. พ่อเลี้ยงสั่งให้น้องชายต่างพ่อมาบอกว่าอย่ามาเหยียบที่บ้าน
6. มีงานทำแล้วย้ายกลับมาอยู่กับแม่ เรียน ป.ตรีไปด้วย พ่อเลี้ยงไม่แสดงอาการรังเกียจแต่เราอยู่บ้านเดียวกันแทบไม่คุยกันเลย น่าจะประโยคเดียวคือเราจะถามเขาว่าจะกินอะไรเราจะออกไปซื้อข้าว เขาก็บอกมาว่าจะกินนู่นนี่ก็ว่าไป
7. แม่ทำงานหนักมาตลอดเพราะพ่อเลี้ยงเราไม่เอาอ่าว แต่ข้อดีของเขาคือไม่ต้องการใช้เงิน แค่เอาข้าวมาให้กินก็โอเคแล้ว ไม่ออกจากบ้าน ไม่กินเหล้าเมายา ไม่ติดการพนัน
8. งานที่แม่ทำเป็นโรงงานรองเท้าหนังขายส่ง จากที่เคยมีลูกน้องเยอะแยะตอนนี้เหลือ 1 คน เพราะฉะนั้นแม่ต้องทำเองแทบทั้งหมด
9. แม่สุขภาพย่ำแย่ นั่งงอเข่าทำงานทั้งวัน นิ้วหงิก ข้อเข่าเสีย น้ำหนักเกิน แม่อายุ 63
10. โรงงานที่ทำอยู่นี้รายได้ไม่พอใช้ มีแต่หนี้พอก เคยย้ายหนีหนี้มาแล้วประมาณ 1 ล้านบาท เจ้าหนี้ตามมาจิก มาด่าสาดเสียเทเสียใส่หน้าเราด้วย ตอนนี้คงจะมีก้อนใหม่ (คงจะเพราะแม่ไม่ยอมรับ)
11. ค่าเช่าบ้านทำรองเท้า 10000 บาท ค่าไฟ 5-6 พัน ค่าน้ำ 6-700 บาท เดี๋ยวนี้ได้เงินจ่ายค่าเช่าบ้านได้ตรงเวลาคือสวรรค์ ค่าไฟนี่ใกล้วันตัดไฟต้องวิ่งหยิบยืมคนนั้นคนนี้
10. เรามีน้องชายพ่อแม่เดียวกัน อายุ 37 ปีแล้ว อาศัยอยู่กับแม่เรา พ่วงด้วย เมีย 1 ลูกอายุ 13 และ ลูก 1 ขวบครึ่ง จะกินยังไม่พอ อยู่ฟรีมาต้องแต่เมียตั้งท้องลูกคนแรก ทะเลาะกันเรื่องหยิบยืมเงินกันเป็นช่วงๆ ระหว่างแม่ลูก น้องชายกับน้องสะใภ้ก็ทะเลาะกันเรื่องเงินเป็นช่วงๆ
11. เราเคยจ้างแม่ด้วยเงิน 1 แสนให้หยุดทำอาชีพนี้ ที่ต้องทำงานหนัก สุขภาพย่ำแย่ ทะเลาะกับพ่อเลี้ยงเรื่องไม่มีเงินซื้อข้าวกิน โดยเงินนี้แม่สามารถเอามาเปิดร้านขายอาหารตามสั่งเพราะแม่มีฝีมือในการทำอาหาร และสามารถขายเครื่องจักรอุปกรณ์ เครื่องหนัง และอื่นๆที่อยู่ในบ้านได้อีก แต่แม่ไม่เอา แต่เอาเงินแสนเราไปนะ เขาบอกว่าถ้าได้เงินแสนนี้ทุกอย่างจะดีขึ้นเพราะปัญหาคือไม่มีทุนหมุนเวียน ผ่านมา 10 ปีแล้วยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง มีแต่แย่ลง
12. เหตุผลที่แม่ไม่เลิกทำให้ตัวเองต้องตกอยู่ในสภาพทาส เงินไม่พอใช้จ่ายในครอบครัว เพียงเพราะ "สามียังไม่อยากเลิกกิจการ" "สามีกลัวเสียหน้าต่อเพื่อนฝูง" ตัวเองนอนตีพุงรอกินข้าว หาเรื่องจิกกัดกันเป็นช่วงๆ แช่งให้ไปตายบ้าง อะไรบ้าง
13. น้องชายเราที่เกิดจากพ่อเลี้ยงเรียนจบมีงานทำแล้วเงินเดือนประมาณ 13000-15000 มาได้ 1 ปี (เจ้าตัวกับแม่พูดไม่ตรงกันเลยไม่รู้ว่าเท่าไหร่ได้ยินมา 2 ตัวเลข) น้องคนนี้แม่รักมากประเคนให้ได้ทุกอย่าง เขาเคยอยากได้โทรศัพท์แพงขนาดไหน อยากได้มอไซค์ ก็วิ่งเต้นหาเงินมาทำให้ฝันเป็นจริง แน่นอนว่าเงินทุกบาททุกสตางค์จนจบตรีแม่ให้ แม้ทำงานแล้วแม่ก็ให้ได้เมื่อต้องการเงิน
14. น้องชายคนละพ่อนี้ไม่ได้เป็นเด็กเกเร ไม่เคยนอกลู่นอกทาง มีเงินเก็บเข้าธนาคารแบบฝากประจำเดือนละ 5000 บาท แต่แค่ไม่ให้แม่ ไม่ให้พ่อ แต่มีซื้อของมาให้กินเมื่อกลับบ้าน (จันทร์-พฤหัส ไปนอนบ้านแฟนใกล้ที่ทำงาน)
15. ทุกวันนี้แม่จะเอาแต่เงินจากเราอย่างเดียว โทรมามีแต่เรื่องเงินๆๆๆ เพื่อเอาไปซื้อของมาทำรองเท้าเอาไปส่งลูกค้า เงินไม่พอซื้อวัสดุทำรองเท้า
16. เราอยากให้แม่ได้เอาเงินไปใช้ซื้ออาหารกินให้อิ่ม ไม่อดอยาก อยากให้แม่มีเวลาดูแลตัวเอง ไม่ใช่ทำงานงกๆเป็นทาสแบบนี้
17. คนเราทำงานเพื่อเปลี่ยนมาเป็นเงินเพื่อซื้อปัจจัย 4 ในการดำรงชีวิต เราเสนอแม่ว่าตัดขั้นตอนทำรองเท้าที่ไม่มีกำไรไม่พอเลี้ยงปากท้องออกไป มารับเงินไปเลยอยู่บ้านเฉยๆก็แล้วกัน ให้ทั้งครอบครัวที่ประกอบไปด้วย แม่ พ่อเลี้ยง น้องชาย น้องสะใภ้ หลาน 2 คน และน้องชายต่างพ่อ ออกไปเช่าบ้านราคาถูกกว่านี้อยู่ด้วยกัน แม่กับพ่อเลี้ยงอยู่บ้านเลี้ยงหลายวัยขวบครึ่ง น้องสะใภ้ไปทำงาน สิ้นเดือนมาทุกคนนำเงินให้บุพการี แต่!!!!! มันยากมากไม่มีใครทำ โธ่ถัง!
18. เราแต่งงานแล้วมีสามีดี มีชีวิตสุขสบายทุกอย่าง เราอยากให้แม่มาอยู่กับเราแต่เราไม่ใช่ลูกรัก เขาไม่มาอยู่กับเราประกอบกับเขาอยากอยู่กับสามีเขาซึ่งอันนี้เราเข้าใจ แต่เราไม่สามารถรับสามีแม่มาอยู่กับเราได้ (พ่อเลี้ยงเรามีลูกชาย 1 คนกับภรรยาเก่าแก่กว่าเรา 2-3ปี) แฟนเราก็ไม่เอา จึงเป็นเหตุให้เรานำเสนอข้อที่ 17
19. หากเราให้เงินหมื่น แม่ก็หมดเงินหมื่นวิ่งไปซื้อของมาทำรองเท้าเพื่อไปส่งลูกค้า กำไรไม่มีเพราะข้าวของมันราคาขึ้นไปไหนถึงไหนแล้วแต่สินค้าบ้านนี้ไม่เคยขึ้นราคา เครื่องหนังเอย กาวเอย วัศดุต่างๆเอย ค่าแรงคนงานพวกเขายังเอาเพิ่มเลย คือแม่เราไม่สมควรอยู่วงการนี้แล้วจริงๆ ต้องเลิกสถานเดียว
20. เราใช้วิธีซื้อของเข้าบ้านให้แม่ ข้าวสารอาหารแห้ง ของกิน ไข่ เครื่องปรุงรส ข้าวของเครื่องใช้ทำความสะอาดบ้านเสื้อผ้า แชมพู สบู่ ยาสีฟัน etc แน่นอนว่าทุกคนในบ้านหลังนั้นร่วมกันกินร่วมกันใช้ของที่เราซื้อให้แม่ เพราะแม่เรายินดีแบ่งปัน เราพาแม่ไปกินข้าวนอกบ้านเดือนละครั้งแต่นางอิดออดไม่ค่อยอยากออกมากินเพราะจะเอาเงิน แม่แต่ทิปพนักงานที่ร้านอาหารแม่ยังเก็บเข้ากระเป๋าตัวเอง บอกว่าเขาเป็นคนอื่นให้แม่ดีกว่า
เราปวดหัวมากค่ะ แต่อันนี้ไม่สำคัญเท่าเราอยากให้แม่เราอยู่แบบสุขสบายไม่ต้องทำงานหนักสุขภาพย่ำแย่อายุเริ่มมากแล้ว เขาลำบากมาทั้งชีวิตสมควรถึงแก่เวลาที่เขาจะอยู่บ้านเฉยๆดูแลบ้านช่องทำอาหารรอลูกเต้าเมื่อลูกๆกลับมาจากที่ทำงาน
ใครมีไอเดียอะไรดีๆในการแก้ปัญหานี้บ้างคะถือว่าสงเคราะห์คนแก่นะคะ
ขอขอบคุณล่วงหน้าเลยค่ะ
ทำยังไงดีเมื่อแม่ไม่ให้ดูแลเพราะห่วงพ่อเลี้ยง
จขกท. ไม่ได้มีเจตนาดูหมิ่นบุพการีประการใดตรงกันข้ามเราสงสารและอยากดูแลให้เขาได้มีความสุขใจ และมีสุขภาพที่ดี
เหตุเกิดจาก
1. แม่เราเลิกกับพ่อเราตั้งแต่เรา 5-6 ขวบ
2. พ่อเลี้ยงรังเกียจเรา แต่แม่เรารักเขามาก
3. เราเคยอยู่กับแม่เรากับพ่อเลี้ยงเราในฐานะคนใช้ ลูกจ้าง แล้วแต่จะเรียก
4. เราไปเรียน กศน. พ่อเลี้ยงมองดูด้วยสายตารังเกียจเดียจฉันท์ เรากระเด็นออกนอกบ้านหารายได้พิเศษหารค่าห้องกับเพื่อนเรียนจบ ปวส. กู้เงินเรียนด้วย บางครั้งเงินไม่พอใช้โทรหาแม่ แต่พอได้ยินเสียงเรา วางสายทิ้งเลย
5. พ่อเลี้ยงสั่งให้น้องชายต่างพ่อมาบอกว่าอย่ามาเหยียบที่บ้าน
6. มีงานทำแล้วย้ายกลับมาอยู่กับแม่ เรียน ป.ตรีไปด้วย พ่อเลี้ยงไม่แสดงอาการรังเกียจแต่เราอยู่บ้านเดียวกันแทบไม่คุยกันเลย น่าจะประโยคเดียวคือเราจะถามเขาว่าจะกินอะไรเราจะออกไปซื้อข้าว เขาก็บอกมาว่าจะกินนู่นนี่ก็ว่าไป
7. แม่ทำงานหนักมาตลอดเพราะพ่อเลี้ยงเราไม่เอาอ่าว แต่ข้อดีของเขาคือไม่ต้องการใช้เงิน แค่เอาข้าวมาให้กินก็โอเคแล้ว ไม่ออกจากบ้าน ไม่กินเหล้าเมายา ไม่ติดการพนัน
8. งานที่แม่ทำเป็นโรงงานรองเท้าหนังขายส่ง จากที่เคยมีลูกน้องเยอะแยะตอนนี้เหลือ 1 คน เพราะฉะนั้นแม่ต้องทำเองแทบทั้งหมด
9. แม่สุขภาพย่ำแย่ นั่งงอเข่าทำงานทั้งวัน นิ้วหงิก ข้อเข่าเสีย น้ำหนักเกิน แม่อายุ 63
10. โรงงานที่ทำอยู่นี้รายได้ไม่พอใช้ มีแต่หนี้พอก เคยย้ายหนีหนี้มาแล้วประมาณ 1 ล้านบาท เจ้าหนี้ตามมาจิก มาด่าสาดเสียเทเสียใส่หน้าเราด้วย ตอนนี้คงจะมีก้อนใหม่ (คงจะเพราะแม่ไม่ยอมรับ)
11. ค่าเช่าบ้านทำรองเท้า 10000 บาท ค่าไฟ 5-6 พัน ค่าน้ำ 6-700 บาท เดี๋ยวนี้ได้เงินจ่ายค่าเช่าบ้านได้ตรงเวลาคือสวรรค์ ค่าไฟนี่ใกล้วันตัดไฟต้องวิ่งหยิบยืมคนนั้นคนนี้
10. เรามีน้องชายพ่อแม่เดียวกัน อายุ 37 ปีแล้ว อาศัยอยู่กับแม่เรา พ่วงด้วย เมีย 1 ลูกอายุ 13 และ ลูก 1 ขวบครึ่ง จะกินยังไม่พอ อยู่ฟรีมาต้องแต่เมียตั้งท้องลูกคนแรก ทะเลาะกันเรื่องหยิบยืมเงินกันเป็นช่วงๆ ระหว่างแม่ลูก น้องชายกับน้องสะใภ้ก็ทะเลาะกันเรื่องเงินเป็นช่วงๆ
11. เราเคยจ้างแม่ด้วยเงิน 1 แสนให้หยุดทำอาชีพนี้ ที่ต้องทำงานหนัก สุขภาพย่ำแย่ ทะเลาะกับพ่อเลี้ยงเรื่องไม่มีเงินซื้อข้าวกิน โดยเงินนี้แม่สามารถเอามาเปิดร้านขายอาหารตามสั่งเพราะแม่มีฝีมือในการทำอาหาร และสามารถขายเครื่องจักรอุปกรณ์ เครื่องหนัง และอื่นๆที่อยู่ในบ้านได้อีก แต่แม่ไม่เอา แต่เอาเงินแสนเราไปนะ เขาบอกว่าถ้าได้เงินแสนนี้ทุกอย่างจะดีขึ้นเพราะปัญหาคือไม่มีทุนหมุนเวียน ผ่านมา 10 ปีแล้วยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง มีแต่แย่ลง
12. เหตุผลที่แม่ไม่เลิกทำให้ตัวเองต้องตกอยู่ในสภาพทาส เงินไม่พอใช้จ่ายในครอบครัว เพียงเพราะ "สามียังไม่อยากเลิกกิจการ" "สามีกลัวเสียหน้าต่อเพื่อนฝูง" ตัวเองนอนตีพุงรอกินข้าว หาเรื่องจิกกัดกันเป็นช่วงๆ แช่งให้ไปตายบ้าง อะไรบ้าง
13. น้องชายเราที่เกิดจากพ่อเลี้ยงเรียนจบมีงานทำแล้วเงินเดือนประมาณ 13000-15000 มาได้ 1 ปี (เจ้าตัวกับแม่พูดไม่ตรงกันเลยไม่รู้ว่าเท่าไหร่ได้ยินมา 2 ตัวเลข) น้องคนนี้แม่รักมากประเคนให้ได้ทุกอย่าง เขาเคยอยากได้โทรศัพท์แพงขนาดไหน อยากได้มอไซค์ ก็วิ่งเต้นหาเงินมาทำให้ฝันเป็นจริง แน่นอนว่าเงินทุกบาททุกสตางค์จนจบตรีแม่ให้ แม้ทำงานแล้วแม่ก็ให้ได้เมื่อต้องการเงิน
14. น้องชายคนละพ่อนี้ไม่ได้เป็นเด็กเกเร ไม่เคยนอกลู่นอกทาง มีเงินเก็บเข้าธนาคารแบบฝากประจำเดือนละ 5000 บาท แต่แค่ไม่ให้แม่ ไม่ให้พ่อ แต่มีซื้อของมาให้กินเมื่อกลับบ้าน (จันทร์-พฤหัส ไปนอนบ้านแฟนใกล้ที่ทำงาน)
15. ทุกวันนี้แม่จะเอาแต่เงินจากเราอย่างเดียว โทรมามีแต่เรื่องเงินๆๆๆ เพื่อเอาไปซื้อของมาทำรองเท้าเอาไปส่งลูกค้า เงินไม่พอซื้อวัสดุทำรองเท้า
16. เราอยากให้แม่ได้เอาเงินไปใช้ซื้ออาหารกินให้อิ่ม ไม่อดอยาก อยากให้แม่มีเวลาดูแลตัวเอง ไม่ใช่ทำงานงกๆเป็นทาสแบบนี้
17. คนเราทำงานเพื่อเปลี่ยนมาเป็นเงินเพื่อซื้อปัจจัย 4 ในการดำรงชีวิต เราเสนอแม่ว่าตัดขั้นตอนทำรองเท้าที่ไม่มีกำไรไม่พอเลี้ยงปากท้องออกไป มารับเงินไปเลยอยู่บ้านเฉยๆก็แล้วกัน ให้ทั้งครอบครัวที่ประกอบไปด้วย แม่ พ่อเลี้ยง น้องชาย น้องสะใภ้ หลาน 2 คน และน้องชายต่างพ่อ ออกไปเช่าบ้านราคาถูกกว่านี้อยู่ด้วยกัน แม่กับพ่อเลี้ยงอยู่บ้านเลี้ยงหลายวัยขวบครึ่ง น้องสะใภ้ไปทำงาน สิ้นเดือนมาทุกคนนำเงินให้บุพการี แต่!!!!! มันยากมากไม่มีใครทำ โธ่ถัง!
18. เราแต่งงานแล้วมีสามีดี มีชีวิตสุขสบายทุกอย่าง เราอยากให้แม่มาอยู่กับเราแต่เราไม่ใช่ลูกรัก เขาไม่มาอยู่กับเราประกอบกับเขาอยากอยู่กับสามีเขาซึ่งอันนี้เราเข้าใจ แต่เราไม่สามารถรับสามีแม่มาอยู่กับเราได้ (พ่อเลี้ยงเรามีลูกชาย 1 คนกับภรรยาเก่าแก่กว่าเรา 2-3ปี) แฟนเราก็ไม่เอา จึงเป็นเหตุให้เรานำเสนอข้อที่ 17
19. หากเราให้เงินหมื่น แม่ก็หมดเงินหมื่นวิ่งไปซื้อของมาทำรองเท้าเพื่อไปส่งลูกค้า กำไรไม่มีเพราะข้าวของมันราคาขึ้นไปไหนถึงไหนแล้วแต่สินค้าบ้านนี้ไม่เคยขึ้นราคา เครื่องหนังเอย กาวเอย วัศดุต่างๆเอย ค่าแรงคนงานพวกเขายังเอาเพิ่มเลย คือแม่เราไม่สมควรอยู่วงการนี้แล้วจริงๆ ต้องเลิกสถานเดียว
20. เราใช้วิธีซื้อของเข้าบ้านให้แม่ ข้าวสารอาหารแห้ง ของกิน ไข่ เครื่องปรุงรส ข้าวของเครื่องใช้ทำความสะอาดบ้านเสื้อผ้า แชมพู สบู่ ยาสีฟัน etc แน่นอนว่าทุกคนในบ้านหลังนั้นร่วมกันกินร่วมกันใช้ของที่เราซื้อให้แม่ เพราะแม่เรายินดีแบ่งปัน เราพาแม่ไปกินข้าวนอกบ้านเดือนละครั้งแต่นางอิดออดไม่ค่อยอยากออกมากินเพราะจะเอาเงิน แม่แต่ทิปพนักงานที่ร้านอาหารแม่ยังเก็บเข้ากระเป๋าตัวเอง บอกว่าเขาเป็นคนอื่นให้แม่ดีกว่า
เราปวดหัวมากค่ะ แต่อันนี้ไม่สำคัญเท่าเราอยากให้แม่เราอยู่แบบสุขสบายไม่ต้องทำงานหนักสุขภาพย่ำแย่อายุเริ่มมากแล้ว เขาลำบากมาทั้งชีวิตสมควรถึงแก่เวลาที่เขาจะอยู่บ้านเฉยๆดูแลบ้านช่องทำอาหารรอลูกเต้าเมื่อลูกๆกลับมาจากที่ทำงาน
ใครมีไอเดียอะไรดีๆในการแก้ปัญหานี้บ้างคะถือว่าสงเคราะห์คนแก่นะคะ
ขอขอบคุณล่วงหน้าเลยค่ะ