
หลังจาก ขุนพันธ์ ภาคแรกฉายไปเมื่อ 2 ปีที่แล้ว มาปีนี้หนังปล่อยภาค 2 ออกมาให้คนดูดูกัน โดยได้นักแสดงสมทบอย่าง เป้ อารักษ์ และผู้พันเบิร์ด มาร่วมแสดง บวกกับสองสาวสวยอย่าง ก้อยรัชวิน และ แม็กกี้ อาภา ทำให้หนังดูมีความน่าสนใจมากขึ้น ในภาคแรกหนังทำออกมาได้ค่อนข้างสนุกแอ็คชั่นมันส์ และอาคมแปลกๆ ดูเจ๋งดี แต่เนื้อเรื่องก็ยังมีจุดติดๆ ขัดๆ ส่วนในภาคนี้ก็มีข้อดีข้อเสียเช่นกัน

ภาคนี้เล่าเรื่องต่อเนื่องมา ในยุคที่กฎหมายอ่อนแอ คนชั่วครองเมือง ทุกพื้นที่ภาคกลางถูกครอบครองด้วยอิทธิพลแห่งเสือฝ้ายและเสือใบที่ลือกันว่า ทั้งแกร่ง ทั้งเดือด และอาคมแรงกล้าที่สุดจนไม่เคยมี “ตำรวจ” คนไหนเฉียดใกล้แม้แต่ปลายเล็บ ขณะนั้น “ขุนพันธ์” ถูกบีบให้พักราชการ คงไม่มีที่ไหนที่จะเหมาะกับเขาเท่าการแฝงตัวเป็นหนึ่งในโจรเชิ้ตดำของ “เสือฝ้าย” และ “เสือใบ” เพื่อปราบปรามเหล่าร้ายเหล่านี้ให้หมดสิ้น

หนังยังคงความมันส์ในด้านฉากแอ็คชั่นได้ดี เปิดมาก็ไล่ล่ากันตั้งแต่ฉากแรกเลยทีเดียว CG ที่เคยอ่อนมากเมื่อภาคที่แล้ว ภาคนี้ถูกปรับให้ดีขึ้นกว่าเดิมเยอะมาก ตัวละครมีหลายตัวให้คนดูเลือกชอบ ความเท่ของเสือแต่ละคน ค่อนข้างออกแบบมาให้ดูมีมิติ และมีน้ำหนักเพียงพอให้ไม่เป็นแค่ตัวประกอบ ถึงแม้บางตัวละครจะบทบาทน้อยไปหน่อยก็ตาม

บทหนังยังคงเน้นไปที่เรื่องของการใช้อาคมปราบเหล่าร้าย แต่น้อยลงกว่าภาคแรกเยอะ โดยหนังเน้นไปที่ความเป็นชุมเสือ และเรื่องของการให้สัตย์ปฏิญาณตนของฝั่งเสือและฝั่งตำรวจมากกว่าเรื่องอาคม ซึ่งหนังก็เล่าความเป็นชุมเสือในรูปแบบของเสือที่มีคุณธรรมได้ดีทีเดียว ทำให้ตัวละครที่เหมือนจะเป็นผู้ร้าย ดูไม่น่าจะถูกเกลียดจากคนดูเลยแม้แต่น้อย

จุดด้อยของหนังก็ยังเป็นเรื่องของบทหนังเหมือนเดิม คือบทหนังค่อนข้างจะอ่อนและไม่ค่อยมีประเด็นอะไรที่น่าสนใจสักเท่าไหร่ ขุนพันธ์ ที่เป็นตัวเองก็ยังไม่ได้ถูกเน้นมากนัก อาจจะเพราะหนังกระจายความสำคัญไปให้ตัวละครอื่นๆ ด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องราวของ เสือฝ้าย ที่ถูกเน้นหนักเหลือเกิน จนกลายเป็นว่าหนังทำให้เรารู้จักที่มาที่ไปและตัวตนของเสือฝ้ายมากกว่าพระเอกอย่าง ขุนพันธ์ซะอีก ส่วนเรื่องของอาคมก็มีบทแปลกๆ ที่จู่ๆ คนที่ไม่เคยมีอาคม ก็กลายเป็นคนมีอาคมได้แค่การทำอะไรง่ายๆ บางอย่าง มันก็เลยดูขัดแย้ง

หนังมีการหักมุมเล็กน้อย แต่ไม่ถึงกับเหวอ เพราะพอจะเดาได้ตั้งแต่กลางเรื่องแล้ว เพียงแต่ว่า ประเด็นการหักมุมที่ใส่เข้ามาก็ไม่ได้ถูกยกมาเป็นประเด็นหลัก เลยกลายเป็นว่าหนังมีประเด็นให้เล่นเยอะเกินไป จนทำให้ตอนจบมันจบแบบห้วนๆ ทุกประเด็น เหมือนพยายามจะจบแต่จบได้ไม่ดีเท่าไหร่ แต่ก็พอจะดูได้อย่างเพลินๆ ตั้งแต่ต้นจนจบ

หนังไม่ได้ถือว่าเป็นหนังที่แย่ เพราะดูค่อนข้างสนุกและมันส์พอตัว เพียงแต่หนังจับจุดโฟกัสของเนื้อหาได้ยังไม่ลงตัวเท่าไหร่ เลยทำให้มันดูจบแบบขัดๆ แต่คิดว่ามีภาค 3 แน่ๆ เพราะฉากจบมีสัญญาณบอกไว้ ก็ต้องลองไปดูกันครับ
ฝากเพจเล็กๆ ด้วยนะครับ >>>
https://www.facebook.com/DooNangGunMai/
[SR] [#Review] #ขุนพันธ์ 2 : หนังดูสนุกขึ้น ตัวละครเยอะขึ้น แต่เนื้อเรื่องก็ยังอ่อนอยู่เหมือนเดิม
ฝากเพจเล็กๆ ด้วยนะครับ >>> https://www.facebook.com/DooNangGunMai/
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้
ข้อมูลเพิ่มเติม