ไปลองขับ Xpander มาวันนี้ครับ เลยอยากรีวิวสั้นๆ (มีรูปและวีดีโอ)

กระทู้สนทนา
วันนี้ไปศูนย์มิตซูตรงมีนบุรีตอน 4 โมงเย็น เพราะอยากลองขับ Xpander หลังจาก
ที่ทราบอัตราเร่งและอัตราสิ้นเปลืองที่น่าพอใจจากเว็บดัง คิดว่าตัวรถคงจะพอเพียงกับ
ตัวผมอย่างแน่นอน เพราะผมขับรถไม่เร็ว

ความรู้สึกเมื่อเจอครั้งที่สอง จากครั้งก่อนที่ไปดูที่ Big motor sales
รู้สึกรถสวยขึ้น แต่เมื่อเข้ารถก็ยังรู้สึกแขยงๆ กับเบาะหนังอยู่ดี ไม่รู้ทำไม รู้สึกไม่ชอบ
เบาะหนังในรถรุ่นนี้เลย แต่กลับกันพอไปดูตัวเบาะผ้า ก็จะรู้สึกดีกับคุณภาพมากกว่า

พนักงานขายให้ผมนั่งในรถให้เขาก็เป็นคนขับรถพาไปอีกที่ก่อน แปลกดีเหมือนกัน
ผมก็เลยถือโอกาสลองนั่งเบาะสอง ความรู้สึกคือช่วงล่างเฟิร์มแน่น ปกติผมขับ
Camry ACV40 ดังนั้นการที่นั่งรถนุ่มๆ แล้วมานั่งรถเฟิร์มๆ ก็จะรู้สึกว่ารถช่วงล่างแข็งไป
แต่ก็รู้สึกว่ามันเฟิร์มและไม่โยนดี นับเป็นรถที่อยู่ในกลุ่มขับเร็วๆ แล้วดี การซับแรงกระแทกก็ดี
เหมือนเป็นรถราคาแพง แต่ไม่ใช่รถนุ่มที่นั่งแล้วสะบ้ายสะบาย

ผมนั่งในเบาะแถวสองก็ happy ดี ลองปรับแอร์บนเพดาน รู้สึกเสียงดังไปหน่อย
แต่ลมเป่าไม่ค่อยสะใจ ท่านั่งก็สบายดีมีที่วางแขนครบ ซึ่ง Sienta ทำแบบนี้ไม่ได้
เพราะประตูมีไว้เลื่อนถ้ามีที่เท้าแขนเดี๋ยวจะขัด องศาเบาะหลังโอเคพอประมาณ แต่
ไม่สามารถเอนได้แบบสุดๆ คือเอนได้สบายกว่าเบาะหลังรถเก๋ง แต่ไม่สามารถจะเอนนอนไปเลยได้

พอดีเบาะหลังไม่ได้ลองมา เพราะรถที่ลองเขาพับเบาะเก็บเรียบไปแล้ว เลยขี้เกียจ
ขอลอง ถ้ามีโอกาสได้ลองขับอีกก็อาจจะขอลองนั่งดูอีกที แต่เบาะเมื่อพับแล้วก็
ดูใหญ่โตดีมาก

ทัศนวิสัยรอบคันดูโปร่งสบายตาดีมาก แม้ว่าจะทำรถให้ดูบึกบึนแต่ก็ไม่จำเป็นต้องทำให้
หน้าต่างมันแคบอะไรมากมาย ความโปร่งโล่งตาเป็นสเน่ห์ของรถคันนี้เลย
(ขออภัยในคุณภาพวีดีโอที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ สงสัยเผลอถ่ายโดยใช้กล้องหน้าของโทรศัพท์)
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
การเร่งบนถนน พนักงานขายก็เหยียบเต็มที่ดี ประมาณว่าอารมณ์แบบเรากำลังเร่งรีบนิดๆ
ช่วงล่างดีใช้ได้ จัมพ์คอสะพานก็ดีไม่มีที่ติ แม้ดีไซน์ภายในจะไม่ล้ำอนาคต แต่ก็ดูสวยงาม
กำลังพอดีสำหรับผม การเก็บเสียงถือว่าทำได้ดี surprise ที่เคยทำ Lancer กับ Mirage ให้
เสียงดังมากขนาดนั้นมาได้ยังไง
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
จุดที่ดีงามมากของตัวรถก็คือแถวที่สาม ที่สามารถนั่งท่าแบบนี้ได้สบายๆ เลย
แต่ในความดีงาม กลับมีสิ่งที่ทำร้ายความดีงามนั้น นั่งก็คือตัวเหล็กของประตูบานท้าย
ที่เป็นเหล็กเปลือยๆ แถมยังไม่มีหลบเว้า ดันยื่นเข้ามาแทงที่หัวซึ่งเป็นจุดที่เป็นมุมเหลี่ยมของ
ตัวบานประตูพอดี ผลก็คือหัวกบาลโดนไอด้ามนี้แทงจนอยากจะบ้า ในช่วงเวลาที่เปิดตัว
พร้อมกัน เหมือนอยากจะให้เห็นว่า headroom ที่ดีแต่นั่งชันเข่าของ Terra กับ headroom
ที่ดีเช่นกันแต่มีเหล็กยันกบาล แต่ท่านั่ง perfect อันไหนมันจะดีกว่ากัน



จริงๆ เล่าของ Terra ไปตอนกระทู้ที่แล้วว่า ที่นั่งตอนสาม สามารถทำให้นั่งได้ดี
อย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งๆ ที่ต้องชันเข่า ซึ่งคนออกแบบคงวางองศาให้เบาะรองหลังดีจึง
ทำให้ท่านั่งกลายเป็นสบาย ในขณะที่ Ertiga ที่เขาว่านั่งได้ดี คือท่านั่งทำได้ดีจริง
แต่เบาะรองหลังตั้งชันมาก นั่นก็นั่งไม่สบายอีก บทสรุปคือ การจัดวางที่นั่งแบบแปลกๆ
ของ Terra กลับทำให้มันเป็น SUV ladder frame ที่นั่งได้ดีที่สุดแบบ surprise
(แต่โดนคนด่าทั้งเมืองไปแล้วหลังจากโดนพิธีกร driveautoblog คอมเม้นท์เรื่องการจัดวางแปลกๆ)




เห็นคมเหลี่ยมมุมไหมครับ มันทิ่มมาที่หัวตรงๆ เลย แต่เด็กและผู้หญิงคงจะไม่มา
ชนตรงนี้ อาจจะมีคนบอกว่า คันไหนๆ ก็เป็นแบบนี้ทั้งนั้นแหล่ะ แถวสามให้เด็กกับผู้หญิง
นั่งไปก็แล้วกัน แต่ไอที่เราเสียดายก็คือ ตัวที่นั่งและการจัดวางนี่มัน perfect แล้วนะ
ตัวผมนั่งได้สบายๆ สูง 174 ก็ถือว่าตัวไม่เล็กแต่ก็ยังนั่งได้ ทำไมมันต้องมาชนกับ
กรอบบานประตูด้วย มันเป็นความเสียดายมากกว่า



ตอนผมขับเองนั้น รู้สึกว่ารถมันเร่งปรู้ดปร้าดตอนที่กดเท้าลงไปทันที เหมือนรถจะแรงมาก
แต่ว่าหลังจากนั้น มันก็ค่อนข้างอืดพอควรทีเดียวล่ะ วิศวกรเขาเซ็ตมาให้รถดูกระฉับกระเฉง
ได้ผมรู้สึกว่าถ้า 30-40-50-60 ตรงนี้น่าจะอืดพอควร เนื่องจากผมขับ hybrid เป็นประจำ
ตรงนี้จะรู้สึกชัดอยู่ แต่ถ้าสมมติผมขับรถ 1500 สมัย Vios 2006 หรือขับ eco car เป็นประจำ
จะพูดว่า Xpander แรง ก็สามารถพูดได้นะ ที่ต้องชมคือการเก็บเสียง และพวงมาลัยน้ำหนักก็ใช้ได้
การตัดต่อเกียร์สมูธไร้ที่ติ ถ้าบอกว่าเป็น CVT ก็อาจจะเชื่อด้วยซ้ำ แต่อาจจะไม่เชื่อตรงที่มีแรงดึง
ซึ่ง CVT จะไม่มี

ผมได้ลองใช้ Cruise ด้วย แต่ไม่ค่อยประทับใจ หนึ่งคือ จอ MID ที่โชว์อัตราบริโภค
มีแต่แบบเฉลี่ย และใช้ L/km ซึ่งผมเกลียดมากตั้งแต่เคยใช้ BT50pro ละ คือเราต้อง convert
เลขในใจตลอดเวลาที่มอง ส่วนที่โชว์แบบ real time ก็ดันไม่มีตัวเลข มีแค่แถบสี ซึ่งก็ดูไม่
ออกอยู่ดีว่า ตอนนี้มันกำลังกินน้ำมันอยู่ที่ประมาณเท่าไหร่ ซึ่งเวลาผมใช้ครูซ ผมจะต้อง
ดูคู่กับอัตราสิ้นเปลืองไปด้วย จะได้ set ให้มันพอดีๆ เพื่อที่จะล็อคความเร็วพอประมาณที่สามารถ
ได้อัตราสิ้นเปลืองที่ดีไปด้วยตลอดทริป แต่ของ Xpander มันไม่ให้ผมทำอะไรแบบนั้นได้เลย
แล้ว Cruise จะมีไว้เพื่ออะไรสำหรับมุมมองการใช้งานของผมนะ

ส่วน font ผมไม่ชอบหน้าจอที่ไม่บิวท์อิน ข้อนี้ก็ไม่ปลื้ม ส่วนระบบ push start ผมเคยเห่อมันนะ
เมื่อก่อนจะซื้อรถถ้าไม่มีปุ่มนี้รู้สึกรับไม่ได้ แต่หลังจากใช้คันโน้นคันนี้ที่มีปุ่มมาเรื่อยๆ
เดี๋ยวนี้ผมกลับเฉยๆ ใช้กุญแจบิดก็คลาสสิคดี อาจจะเป็นคนบ้าเห่อ พอหายเห่อก็หายบ้า 555

ผมไม่ได้ถ่ายหน้าปัดสีของรุ่นท๊อปมา ซึ่งผมรู้สึกว่ามันดูมีสีสันดี แต่อาจจะดู 2D นิดๆ
คือถ้า 2D มากกว่านี้อีกหน่อย อาจจะคล้ายไมล์ปรินท์ของ Yaris ก่อนไมเนอร์แล้ว
ผมเลยขอให้เซลช่วยโชว์ไมล์ของตัวล่างให้ดูหน่อยตอนกลับมาที่ศูนย์ ปรากฎว่าก็ดูเรียบๆ
แต่ก็สวยดีแฮะ!


ผมก็ไม่รู้ทำไมถึงได้รู้สึกเหนี่ยวนำไปที่รุ่นล่างยังไงไม่รู้ คือส่วนตัวชอบสีตัดๆ สีดำของรุ่นล่างด้วย
และไม่ชอบตำแหน่งไฟตัดหมอกที่ดูเหมือนมีอะไรกลมๆ ติดอยู่ในปาก แต่พนักงานขายบอกว่า
ยอดจองนั้นเทไปที่ตัวท๊อปเลย และล็อตแรกที่จะนำเข้ามามี 2,600 คัน ซึ่งยอดจองก็คงจะล้นทะลัก
หลังจากงาน Big motor sales จนทำให้ผมนึกเล่นๆ ว่า จากการที่อินโดฮิตรุ่นนี้อย่างมากจนผลิตขาย
ไม่ทัน ทำให้โควต้าสำหรับส่งมาไทยมันน้อยนิด และถึงราคาตัวบนจะถีบตัวไปที่ 8 แสนห้า คนก็ยังตอบรับ
ตัวท็อปกันอยู่ดี ทำให้สงสัยว่า รุ่นนี้อาจจะเป็นรุ่นที่ Mitsubishi Thailand ฟันกำไรได้มากเป็นพิเศษ
และอาจจะหารถมาขายให้ลูกค้าไม่ทัน ลูกค้าอาจจะต้องแก่งแย่งรีบจองให้ทันด้วยซ้ำ
มันเพราะอะไร ?

ผมคิดว่า การที่มิตซูตั้งราคามาแรง ก็ไม่ใช่อะไร เป็นเพราะ volume ที่อินโดจะผลิตให้ได้ ก็อาจจะ
ไม่เยอะอยู่แล้ว ดังนั้นถ้าจะตั้งราคามาให้ถูก คนที่อยากซื้อก็จะมีมากกว่าปริมาณที่จะหารถมาได้
จึงต้องตั้งราคาให้สูงเพื่อให้ demand พอดีกับ supply

แต่กระนั้น ตอนนี้ก็ดูเหมือน supply ก็จะไม่พอ demand อยู่ดี มิตซูตอนนี้คงยิ้มแก้มปริกันหมด
ทั้งฝ่ายขายและฝ่ายบริหาร เสียดายที่รุ่นนี้ไม่ได้ผลิตที่ไทยแบบ Mobilio/BR-V ซึ่งถ้าจะพูดว่า
รุ่นไหนไทยผลิตรุ่นนั้นน่าใช้ที่สุด คงจะเอามาใช้กับ Xpander ไม่ได้

Xpander มันมีสเน่ห์ตรงที่การออกแบบที่ดี เพราะคนไทยส่วนใหญ่ไม่ชอบดีไซน์แบบรถแวนๆ
Xpander ดูมีเสน่ห์ทุกมุม ข้อนี้ Toyota Rush สู้ได้ ส่วนการขับขี่ก็ยิ่งทำให้ตัวรถดูมีเสน่ห์มากขึ้นไปอีก
อยากที่บอก คงไม่ใช่ทุกคนที่เคยขับรถเทอร์โบดีเซลหรือไฮบริดหรือรถเบนซินเครื่องแรงๆ มาเยอะแยะ
เพราะคนส่วนมากก็คือคนที่ขับ Eco car, City car 1500cc และก็ขับแบบปกติ ลูกค้ากลุ่มนี้เป็นกลุ่ม
ตลาดที่ใหญ่ที่สุด เมื่อได้มาขับ Xpander การ set up ที่ชาญฉลาดที่ทำให้รู้สึกว่ารถพุ่ง และการ
เก็บเสียงที่ดีแบบรถใหญ่ ทำให้ตัวรถดูมีคุณภาพสูง ตัวช่วงล่างและการบังคับควบคุมก็ set up
ให้ดูรถแน่น เฟิร์ม และควบคุมง่าย และตัวรถยังดูมีขนาดใหญ่คุ้ม กับการออกแบบที่ดูล้ำ ทั้งหมด
ทำให้รู้สึกว่าราคา 8 แสนห้าก็ยังคงไม่แพง

ในขณะที่คู่แข่ง เช่น BR-V, Mobilio ก็ยังเป็นรถที่มีกลิ่นอายของงานออกแบบที่ทะยิ้มๆ ทั้งคันอยู่
เพราะถูกแปลงมาจาก Brio ทำให้มันดูเป็นคนล่ะชั้นกับ Xpander ตัว Avanza ก็ดู look cheap ไป
คนไทยไม่ต้องการอะไรที่ดู cheap ส่วน Ertiga ชื่อชั้นของ Suzuki ยังห่างไกลมากจากคำว่ารถตลาดในไทย
Swift รุ่นที่แล้วคือออกแบบดีจริงๆ ถึงได้รับการยอมรับ ส่วน Ciaz ก็เป็นรถดี แต่ต้องค่อยๆ ขายไป เพราะ
แบรนด์ยังอ่อนแอมาก (ต้องโทษที่ Celerio ด้วย ที่ดันเจ๊ง)

ผู้ท้าชิงที่พอจะสู้ Xpander ได้ก็จะมีแต่แชมป์เก่าอย่าง Sienta ซึ่งอันที่จริง ถ้าไม่ได้นับประตูเลื่อน
ก็ไม่รู้จะเอาอะไรไปสู้ Xpander เหมือนกัน อย่างที่หนึ่งคือ คนไทยชอบรถที่ดูใหญ่กว่าคันที่ดูเล็กกว่า
สองคือ ระบบพับเบาะที่ยอดเยี่ยมไม่ใช่ปัจจัยหลักที่คนไทยจะเลือกรถ สามคือ คนไทยมองว่ามันคือ
เครื่อง 1500 เหมือนๆ กัน ไม่ได้ต้องการลงลึกว่าใครเร็วกว่ากี่วิ ประหยัดกว่ากันกี่ลิตร สี่ คนที่บ้าประตู
เลื่อนคือคนเฉพาะกลุ่ม แต่คนไทยส่วนใหญ่ยังไม่ได้ need หรือ want ว่ามันต้องเป็นประตูเลื่อน

ถ้าไม่มีขีดจำกัดเรื่องโควต้า ผมคิดว่า Xpander ดูมีภาษีดีที่จะโกยยอดขายมากทีเดียว
และอันที่จริง ทำไมมิตซูไทยไม่ลองเสนอที่จะผลิต Xpander ในประเทศบ้างล่ะ ขนาด Honda
ยังเบิ้ลผลิต Mobilio / BR-V ทั้งที่ไทยและอินโดเลย ถ้าผมเข้าใจไม่ผิดนะ ของ Mobilio น่าจะชัวร์
เพราะฝากระโปรงหน้าแก้มข้างปั้มขึ้นรูปคนล่ะทรงตั้งแต่ก่อนไมเนอร์แล้ว แต่ BR-V น่าจะทำมา
ทรงเดียวกันเลยไม่แน่ใจว่าทำทั้งคู่ หรือทำแค่ที่เดียวแล้วส่งให้อีกที่ แต่ตามหลักก็น่าจะทำทั้งคู่

ผมณภัทร หวังว่ารีวิวจะมีประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อยนะครับ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านครับ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่