ทุกคนคิดอย่างไรบ้างคะ
ส่วนตัวแล้วเราคิดว่า ขึ้นอยู่กับการเลี้ยงดูและปัจจัยต่างๆทางสังคมของคนนั้นๆมากกว่า ถึงแม้บางคนจะเป็น “ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น” จริงๆก็ตาม
เช่นเพื่อนของเราคนนี้ค่ะ เราเรียนโรงเรียนเดียวกันตั้งแต่อนุบาล จนถึงม.ต้น โรงเรียนเราเป็นโรงเรียนคริสต์ ค่อนข้างมีระดับอยู่บ้างค่ะ สภาพแวดล้อมทั่วๆไปถือว่าโอเค ทุกอย่างอยู่ในการควบคุมของคุณครูทั้งหมด ใครเดินอยู่นอกห้องเรียนระหว่างเวลาเรียนจะถูกเรียกมาคุยเลยค่ะ ห้ามพกโทรศัพท์มือถือ แม่แต่คุณครูเจอใครพกโทรศัพท์นอกโรงเรียนก็โดนยึดค่ะ(อันนี้เราว่ามันมากไป) ฟังดูแล้วพอจะนึกออกใช่ไหมคะว่าเข้มงวดประมาณไหน
พอเราเข้าม.ต้น เพื่อนๆสมัยประถมของเราก็ย้ายโรงเรียนกันหมด เหลือแต่เราคนเดียว เลยต้องหาเพื่อนใหม่ เลยมาสนิทกับเพื่อนคนนี้ค่ะ เป็นผู้หญิงหน้าตาดีมาก เธอจะออกแนวแก่นๆหน่อยค่ะ เป็นเหมือนคนเปิดโลกหลายๆอย่างให้เรา เพื่อนคนนี้ค่อนข้างเกเรเลยค่ะ จนพอช่วงม.3 เรากับเพื่อนคนนี้ตัดสินใจจะเข้าโรงเรียนประจำจังหวัดกัน เพื่อนเลยขอให้เราช่วยติวให้เค้า เราพยายามกันมากจนสุดท้ายเราทั้งคู่ก็ติดโรงเรียนนี้ค่ะ โรงเรียนนี้จะปล่อยนักเรียนมาก ไม่ว่าจะเข้าออก โดดเรียน มันง่ายไปหมด ยังไม่ทันจบม.4 เพื่อนเราท้องค่ะ ทุกคนน่าจะรู้มาบ้างว่าเค้าสนับสนุนให้เด็กที่ท้องก่อนวัยฯเรียนต่อได้ตามปกติ โรงเรียนเราก็สนับสนุนค่ะ แต่อาจาร์ยที่ปรึกษาไม่สนับสนุน ด่าว่าเพื่อนเราสารพัดว่าเพื่อนเราทำให้อาจาร์ยที่ปรึกษาต้องอับอาย และขอร้องให้เพื่อนเราลาออกจากโรงเรียน ช่วงนั้นเราเลยไดเไปเยี่ยมเพื่อนที่บ้านค่ะ ได้คุยกับครอบครัวเค้าหลายๆอย่าง ป๊ากับม๊าใจดีมากๆ แอดติจูดดีค่ะ แต่จากการคุยกับเค้า เราก็ได้รู้ว่า ป๊ากับม๊าเนี่ย หนีมาอยู่ด้วยกันตั้งแต่อายุ15 แล้วก็มีลูกด้วยกันตั้งแต่ตอนนั้นเลย แนวทางการเลี้ยงของครอบครัวเพื่อนเราจะปล่อยให้ลองผิดลองถูกกันเอง จะได้จำ เราก็เห็นด้วยกับการเลี้ยงดูแบบนี้ แต่คงไม่มีใครคิดว่าการให้ลองผิดลองถูกของเพื่อนเรา จะทำให้เพื่อนเราพลาดไปขนาดนี้ ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เราคิดมานานมากๆค่ะ ว่าสุดท้ายแล้ว ที่เพื่อนเราพลาดแบบนั้น เป็นเพราะลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นจริงๆหรอ ทั้งๆที่เราโตมาในสังคม(โรงเรียน)เดียวกันมาตลอด หรือเป็นเพราะการเลี้ยงดูของพ่อแม่กันแน่
ซึ่งตอนนี้เรากำลังจะจบมหาลัยฯแล้วค่ะ ส่วนเพื่อนเราเรียนปวช.จบแล้ว กำลังหางานทำ และมีเจ้าตัวน้อยเพิ่มอีกคนนึงค่ะ5555 มันทำให้เราอยากจะรู้ว่าปัจจัยสำคัญที่แท้จริงคืออะไรกันแน่ ครอบครัวคุณแม่วัยใส จะมีลูกเป็นคุณแม่วัยใสต่อๆกันไปจริงๆไหม รวมถึงในกรณีอื่นๆอย่างคุณพ่อคุณแม่เป็นหมอ ลูกก็จะเป็นหมอ หรือลูกจะฉลาดจริงๆไหม
ทางบ้านเราโปรไฟล์คุณพ่อคุณแม่ไม่ได้ดี แต่ท่านก็เลี้ยงดูเรามาให้ดีกว่าที่ท่านเป็นมาค่ะ
ทุกๆคนคิดเห็นหรือมีปสก.อย่างไรบ้างคะ?
ปล.แท็กผิดห้องขออภัยด้วยนะคะ
ทุกคนคืดเห็นอย่างไรกับคำว่า ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น คะ
ส่วนตัวแล้วเราคิดว่า ขึ้นอยู่กับการเลี้ยงดูและปัจจัยต่างๆทางสังคมของคนนั้นๆมากกว่า ถึงแม้บางคนจะเป็น “ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น” จริงๆก็ตาม
เช่นเพื่อนของเราคนนี้ค่ะ เราเรียนโรงเรียนเดียวกันตั้งแต่อนุบาล จนถึงม.ต้น โรงเรียนเราเป็นโรงเรียนคริสต์ ค่อนข้างมีระดับอยู่บ้างค่ะ สภาพแวดล้อมทั่วๆไปถือว่าโอเค ทุกอย่างอยู่ในการควบคุมของคุณครูทั้งหมด ใครเดินอยู่นอกห้องเรียนระหว่างเวลาเรียนจะถูกเรียกมาคุยเลยค่ะ ห้ามพกโทรศัพท์มือถือ แม่แต่คุณครูเจอใครพกโทรศัพท์นอกโรงเรียนก็โดนยึดค่ะ(อันนี้เราว่ามันมากไป) ฟังดูแล้วพอจะนึกออกใช่ไหมคะว่าเข้มงวดประมาณไหน
พอเราเข้าม.ต้น เพื่อนๆสมัยประถมของเราก็ย้ายโรงเรียนกันหมด เหลือแต่เราคนเดียว เลยต้องหาเพื่อนใหม่ เลยมาสนิทกับเพื่อนคนนี้ค่ะ เป็นผู้หญิงหน้าตาดีมาก เธอจะออกแนวแก่นๆหน่อยค่ะ เป็นเหมือนคนเปิดโลกหลายๆอย่างให้เรา เพื่อนคนนี้ค่อนข้างเกเรเลยค่ะ จนพอช่วงม.3 เรากับเพื่อนคนนี้ตัดสินใจจะเข้าโรงเรียนประจำจังหวัดกัน เพื่อนเลยขอให้เราช่วยติวให้เค้า เราพยายามกันมากจนสุดท้ายเราทั้งคู่ก็ติดโรงเรียนนี้ค่ะ โรงเรียนนี้จะปล่อยนักเรียนมาก ไม่ว่าจะเข้าออก โดดเรียน มันง่ายไปหมด ยังไม่ทันจบม.4 เพื่อนเราท้องค่ะ ทุกคนน่าจะรู้มาบ้างว่าเค้าสนับสนุนให้เด็กที่ท้องก่อนวัยฯเรียนต่อได้ตามปกติ โรงเรียนเราก็สนับสนุนค่ะ แต่อาจาร์ยที่ปรึกษาไม่สนับสนุน ด่าว่าเพื่อนเราสารพัดว่าเพื่อนเราทำให้อาจาร์ยที่ปรึกษาต้องอับอาย และขอร้องให้เพื่อนเราลาออกจากโรงเรียน ช่วงนั้นเราเลยไดเไปเยี่ยมเพื่อนที่บ้านค่ะ ได้คุยกับครอบครัวเค้าหลายๆอย่าง ป๊ากับม๊าใจดีมากๆ แอดติจูดดีค่ะ แต่จากการคุยกับเค้า เราก็ได้รู้ว่า ป๊ากับม๊าเนี่ย หนีมาอยู่ด้วยกันตั้งแต่อายุ15 แล้วก็มีลูกด้วยกันตั้งแต่ตอนนั้นเลย แนวทางการเลี้ยงของครอบครัวเพื่อนเราจะปล่อยให้ลองผิดลองถูกกันเอง จะได้จำ เราก็เห็นด้วยกับการเลี้ยงดูแบบนี้ แต่คงไม่มีใครคิดว่าการให้ลองผิดลองถูกของเพื่อนเรา จะทำให้เพื่อนเราพลาดไปขนาดนี้ ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เราคิดมานานมากๆค่ะ ว่าสุดท้ายแล้ว ที่เพื่อนเราพลาดแบบนั้น เป็นเพราะลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นจริงๆหรอ ทั้งๆที่เราโตมาในสังคม(โรงเรียน)เดียวกันมาตลอด หรือเป็นเพราะการเลี้ยงดูของพ่อแม่กันแน่
ซึ่งตอนนี้เรากำลังจะจบมหาลัยฯแล้วค่ะ ส่วนเพื่อนเราเรียนปวช.จบแล้ว กำลังหางานทำ และมีเจ้าตัวน้อยเพิ่มอีกคนนึงค่ะ5555 มันทำให้เราอยากจะรู้ว่าปัจจัยสำคัญที่แท้จริงคืออะไรกันแน่ ครอบครัวคุณแม่วัยใส จะมีลูกเป็นคุณแม่วัยใสต่อๆกันไปจริงๆไหม รวมถึงในกรณีอื่นๆอย่างคุณพ่อคุณแม่เป็นหมอ ลูกก็จะเป็นหมอ หรือลูกจะฉลาดจริงๆไหม
ทางบ้านเราโปรไฟล์คุณพ่อคุณแม่ไม่ได้ดี แต่ท่านก็เลี้ยงดูเรามาให้ดีกว่าที่ท่านเป็นมาค่ะ
ทุกๆคนคิดเห็นหรือมีปสก.อย่างไรบ้างคะ?
ปล.แท็กผิดห้องขออภัยด้วยนะคะ